รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 132
บทที่ 132 การตื่นขึ้นมาของอาส้วย
อาสวยเหมือนไม่ได้ยินคำสั่งของเหลียงฮุย เขา ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับตัว เขาจำได้ ว่าฉินหลั่งเป็น เพื่อนของเขา เป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวของเขา เขาจะฆ่าเพื่อนของตนเองได้ยังไง
“นายกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ฟังคำสั่งของ ฉัน อาหารที่นายกิน ชุดที่นายใส่ล้วนแต่เป็นของฉัน ทุก เดือนฉันให้เงินนายสองพันหยวน ทำไมถึงไม่ทำตามคำ สั่งของฉัน” อาศัยไม่ทำตามคำสั่งของเหลียงฮุย ทำให้ เขาเหมือนคนบ้า เดิมทีเขาก็ไม่เคยมองว่าอาสัวยเป็นคน ตอนนี้อาส่วยขัดคำสั่งของเขา ทำให้เขาขายหน้ามาก เหลียงฮุยทุบตีศีรษะของอาสัวยอย่างแรงอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็เตะอาสวยจนล้มลงบนพื้น
“ไอ้เฮงซวย ในสายตาของฉัน นายก็แค่หมาตัว หนึ่งเข้าใจไหม ฉันเลี้ยงนายให้นายกัดคน ถ้านายฟังคำ สั่งฉัน ฉันก็จะทั้งนายเหมือนทิ้งขยะให้นายกลายเป็น หมาจรจัดไร้บ้าน ..”เหลียงฮุยเหยียบศีรษะของอาสัวย แล้วพูดอย่างโมโห
อาสวยไม่โต้กลับ เขาแค่ขยับตัวหนีเล็กน้อย เหลี ยงฮุยเป็นผู้มีพระคุณของเขา เขาทำอย่างนี้กับตนเองก็ สมควรแล้ว
“เสี่ยวฝ่าน ลุกขึ้นมาสู้กลับ นายไม่ใช่สุนัขของเขา นายเป็นคน ไม่มีใครทำแบบนี้กับนายได้ ลุกขึ้นมา “ฉินหล้างยืนอยู่ตรงข้ามอาส้วย แล้วตะโกนพูดกับอา ส้วย พอเห็นอาสวยถูกเหยียบอยู่บนพื้น ฉินหลั่งรู้สึก ปวเใจมาก เขารู้ว่าต้องให้อาศัยฟื้นขึ้นมาด้วยตัวเอง เขาถึงจะสามารถหลุดออกจากการควบคุมของเหลียง ฮุยได้ ถึงได้ตาสว่าง ว่าเหลียงฮุยไม่เคยคิดว่าเขาเป็น คนเลยสักครั้ง
ตอนที่ได้ยินคำพูดของฉินหลั่ง อาสัวยลืมตาตื่น แล้วมองไปทางฉินหลั่ง ภายในใจรู้สึกได้ถึงความห่วงใย จากเพื่อนอีกครั้ง
“แต่ว่า …. เขาเป็นเจ้านายของฉัน เป็นเขา…. ที่ช่วย ชีวิตฉันไว้ ฉันจะทำร้ายเขาไม่ได้…”อาส้วยที่ถูกเหยียบ อยู่บนพื้นตอบกลับอย่างลุ่มหลงงมงาย
“ไม่ เสี่ยวฝ่าน เขาช่วยนายไว้ แต่นายได้ ตอบแทนบุญคุณให้เขาไปหมดแล้ว บนโลกใบนี้ไม่มีใคร เป็นเจ้านายนายได้อีกแล้ว ตอนนี้เขาดูถูกเหยียดหยาม นาย ทำร้ายนาย นายควรจะลุกขึ้นมาต่อต้าน เสี่ยวฝ่าน ลุกขึ้นมา.”ฉินหลั่งตะโกนออกมา เขาหวังว่าอาสัวยจะ ฟังความหมายของเขาออกว่าเขาหมายความว่าอะไร
“บนโลกใบนี้ ไม่มีใครเป็นเจ้านาย.”อาส้วย พิมพ์คำพูดของฉินหลังซ้ำๆ ตอนนี้เขารู้สึกสับสนมาก “ปั๊ก” เหลียงฮุยเตะไปที่ท้ายทอยของอาส้วย
เหมือนศีรษะของอาส้วยเป็นลูกบอล “ดีมาก หมาอย่าง
นายยังรู้จักกับมันด้วยสินะ นายกล้าคิดหักหลังฉัน ก็ว่า
อยู่ว่าทำไมนายถึงไม่ยอมลงมือสักที”
“หมาอย่างนาย แต่ละวันกินดื่มของฉัน ในตอนนี้ นายยังไปสนิทกับศัตรูของฉันอีก แล้วฉันจะเลี้ยงหมา อย่างนายไว้ทำไมอีก”เหลียงฮุยเตะไปที่หน้าท้องของ อาสวยจนอาสัวยร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“เจ้านายครับ ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้คิดจะหักหลัง คุณ…”อาสัวยพูดอย่างซื่อตรง หลังจากที่อยู่กับเหลียง ฮุย เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะหักหลังเลยสักครั้ง
“เสี่ยวฝ่าน ลุกขึ้นมา…”ฉินหลั่งตะโกนบอกอย่าง เป็นห่วง
“หน้ากากของฉันนายก็ไม่ต้องใส่แล้ว ไอ้น่า เกลียด” เหลียงฮุยตะโกนด่า ก่อนจะเตะหน้ากากของอา ส้วยทิ้ง เขาต้องการจะเตะหน้ากากให้แตก ให้ใบหน้าที่ แสนน่าเกลียดของเขาหลุดออกมาต่อหน้าทุกคน แต่อา ส้วยใช้มือกั้นไว้ เหลียงฮุยเตะอยู่หลายครั้ง ตอนนี้ หน้ากากเหมือนชีวิตของเขา เขาพยายามปกป้อง หน้ากากไว้สุดชีวิต
เหลียงฮุยไม่รู้เลย ว่าที่อาสวยยอมติดตามเขา แบบนี้ เพราะหน้ากากที่เขาให้อาส้วยใบนี้ เพราะ หน้ากากใบนี้สามารถปกปิดใบหน้าที่น่าเกลียดของเขา ไว้ได้ ทำให้เขาไม่ถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม และใช้ ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ถ้าเหลียงฮุยเตะหน้ากากแตกไปจริงๆ คงจะเกิด ผลลัพธ์ที่เขาคาดไม่ถึงขึ้นแน่ๆ
“ไอ้น่าเกลียด ยังจำคำพูดของนาย ตอนที่ฉันช่วยชีวิตนายไว้ได้ไหม นายบอกว่าจากนี้ไปจะเชื่อฟังคำพูด ของฉันทุกอย่าง ตอนนี้ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ฆ่ามัน ซะ หรือไม่ก็เอาหน้ากากของฉันคืนมา”เหลียงฮุยมอง ออก ขอแค่ยังมีหน้ากากนี้อยู่ อาสวยก็จะเป็นหุ่นเชิดที่ อยู่ในการควบคุมของเขาไปตลอด
“อย่าเอาแต่นอนเหมือนหมาตายอยู่บนพื้น ลุกขึ้น มาเดี๋ยวนี้”เหลียงฮุยกระชากเส้นผมของอาสัวย แล้วดึง ขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะวางมีดไว้บนมืออาสัวยอีกครั้ง ก่อน จะผลักอาสวยไปข้างหน้า ให้เดินเข้าไปหาฉินหลั่งทีละ ก้าวจนระยะห่างเหลืออยู่แค่ห้าเมตร เขาก็ผลักอาสัวย ไปข้างหน้า “จัดการมันซะ”
มีดสั้นในมือของอาสัวยสั่นเครือ แววตาที่มองฉิน หลั่งเริ่มระริก ในตอนนี้ เขาสับสนมาก ว่าเขาจะเลือก หน้ากาก หรือว่าเลือกเพื่อนดี อย่างแรกเขาให้ความ สำคัญราวชีวิต ส่วนอย่างหลัง อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ความหมายของการมีชีวิต
“เสี่ยวฝ่าน หรือว่านายยังมองไม่ออกอีก ว่าเหลี ยงฮุยเป็นคนยังไง อย่าตกอยู่ในการควบคุมของเขาอีก เลย ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงแม้นายจะยังมีชีวิตอยู่ นายก็ ไม่รู้สึกมีความสุขหรอก” ฉินหลั่งยังคงพยายามเกลี้ย กล่อมอาส้วย หวังว่าเขาจะรีบได้สติคิดได้
ในเวลานี้อาศัยไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ในสมอง ของเขากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ไอ้น่าเกลียด ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น นายก็ ถอดหน้ากากออกมา ให้ใบหน้าที่แสนน่าเกลียดของแกโผล่ออกมาให้คนดูได้ดู ได้หัวเราะเยาะนาย ไม่มีใคร ยอมเข้าใกล้นาย ไม่มีใครกล้ารับนายเข้าทำงาน นายจะ ถูกคนทั้งสังคมทอดทั้ง ไม่มีใครคิดจะสงสารนาย”ใน ขณะเดียวกันเหลียงฮุยก็ตะโกนพูดไปด้วย
อาศัยหลับตาลง ในสมองเขาปรากฏภาพ เหตุการณ์ตอนที่ถูกคนอื่นด่าว่า หัวเราะเยาะ หยาม เหยียดเขาสารพัด
“ที่พวกเราไม่เล่นกับนาย เพราะนายมันน่า เกลียด” กลุ่มเด็กน้อยไถลสเกตบอร์ดจากไปจนเหลือ แค่อาสวยคนเดียวที่ยืนมองพวกเขาจากไปช้าๆ
“ไม่ต้องมอง ระวังคืนนี้จะเก็บเอาไปฝันร้ายนะ”มี แม่คนหนึ่งปิดตาลูกของตัวเอง แล้วรีบเดินหนีไป
“กลับไปเถอะ ถึงแม้พวกเราจะหาคนอยู่ แต่ หน้าตาของนายส่งผลกระทบกับงาน รีบไปซะ อย่ามา ให้พวกเราเห็นอีก”ตรงหน้าร้านล้างรถ มีชายชราผลักอา ส้วยตกน้ำ จนอาส้วยตัวเปียก เขาค่อยๆเดินขึ้นมาจากน้ำ แล้วก้มหน้าเดินหน้าต่อไป
“น่าเกลียดมากเลย…”
“เขาไม่ควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
อาสัวยได้ยินเสียงหัวเราะเยาะดังอยู่รอบตัว พวก เขาหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทั้งบ้าคลั่งและโอหัง
สวัสดีอาส้วยหลับตาลง เขารู้สึกทรมานมาก เขารู้สึกเหมือนแก้วหูจะแตก สมองแทบจะระเบิดออกเป็น เสี่ยงๆ เขาปวดหัวมาก หมดแรงที่จะพูดหรือขยับตัว
“อ๊าก…”ทันใดนั้นเอง อาสวยก็คำรามออกมาอย่าง บ้าคลั่ง ก่อนจะลืมตาที่แดงก่ำขึ้นมา มีดสั้นในมือของเขา ถูกยกขึ้นมา แล้วพุ่งตัวเข้าหาฉินหลั่ง ก่อนจะง้างมีดขึ้น มาเพื่อจะแทงออกไป
“แทงมันซะ ฆ่ามันให้ตายก็ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉัน กับคุณชายคางประกันตัวนายออกมาเอง”พอเห็นว่าอา ส้วยเตรียมจะฆ่าฉินหลั่ง เหลียงฮุยก็ตื่นเต้นมาก ทำให้ น้ำเสียงที่เขาพูดกับอาส่วยดีขึ้น เขาพยายามสั่งการอา ส้วย ให้จัดการขั้นตอนสุดท้าย
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่พวกคางตี้เองก็ตื่นเต้น เหมือนกัน สายตาของพวกเขาดูเหมือนจะรอคอยกับ เหตุการณ์ตรงหน้ามาก พร้อมกับตะโกนบอกอาสัวยใน ใจ “ฆ่ามันซะฆ่ามันซะ”
แต่การกระทำของอาสัวยกลับหยุดชะงักลง เขา จ้องมองใบหน้าของฉินหลัง ดวงตาของเขายังคงแดง ก่ำอย่างดุร้าย แต่ความสับสนวุ่นวายในสมอง กลับ เหมือนหยุดนิ่งไป
ฉินหลั่งจ้องหน้าอาสวย นิ่ง ถ้าอาสวยแทงเข้ามา จริงๆ เขามั่นใจว่าตัวเองหลบพ้น แต่ถ้าหลบไม่พัน ก็มี แต่ต้องตายเท่านั้น แต่ฉินหลั่งก็ยอมเสี่ยงอันตราย ที่เขา มั่นใจถึงขนาดนี้ เป็นเพราะคำว่าเพื่อนคำเดียวง่ายๆ
ถ้าไม่มั่นใจในตัวอีกฝ่าย แล้วจะเรียกว่าเพื่อนได้ยังไงกัน
เขาเชื่อว่าอาสัยจะเลือกเส้นทางที่ถูกต้องได้ และนี่ก็เป็นโอกาสที่จะทำให้อาสัวยหลุดจากการบงการ ของเหลียงฮุยได้ เขาจะต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้
“อ๊าก…”ในตอนนี้เอง เหรินห้าวก็พุ่งตัวเข้าหาอา ส้วย พอเห็นอาสวยใช้มีดชี้มาทางฉินหลั่ง เหรินห้าวร้อน ใจมาก เขารอโอกาส เพื่อจะเข้ามาชนอาสัวยออกไป ให้ ฉินหลั่งได้ตั้งตัวแต่เขาเป็นแค่นักศึกษา แล้วยังได้รับ บาดเจ็บด้วย จึงถูกอาสัวยผลักออกไปอย่างง่ายดาย
“พี่คะ อย่าขยับสิคะ เป็นยังไงบ้าง”เหรินซินรีบวิ่ง มาหยุดข้างกายเหรินห้าว แล้วกอดเหรินห้าวไว้ ก่อนจะ ร้องไห้สะอึกสะอื้น
อาศัยมองไปทางเหรินห้าว เพราะเขาไม่เข้าใจ การกระทำของอีกฝ่าย
“คนประหลาด ไอ้คุณชายคางย้าบออะไรนั่น ฉัน เป็นคนทำร้ายมันเอง มีอะไรก็มาลงที่ฉัน ปล่อยเพื่อนๆ ฉันไป”เหรินห้าวตะโกนพูดไปทางอาส้วย
“ฉันด้วย ปล่อยเพื่อนของฉันไป ฉันจะตัวต่อตัว กับนายเอง” ในเวลานี้ ยินถึงเองก็ตะโกนออกมาเหมือน กัน เขาถูกหวางเหยาประคองไว้ ถ้าเขาไม่ตกอยู่ใน สภาพแบบนี้คงจะวิ่งไปช่วยฉินหลั่งตั้งนานแล้ว
“เพื่อนอย่างนั้นเหรอ…”อาสวยพูดพึมพำในใจ ใน สมองเขานึกถึงภาพความทรงจำในวันนั้น ตอนที่เขากับ ฉินหลั่งอยู่ด้วยกัน
“อาศัย ชื่อจริงนายชื่อว่าอะไรเหรอ”
“ฉันชื่อจางเสี่ยวฝาน”
“เป็นชื่อที่ดี ตอนนี้นายก็คือเพื่อนของแล้ว จากนี้
ไปเรามาเล่นด้วยกันนะ”
“เพื่อนเหรอ”
“ใช่ เพื่อน หรือจะเรียกเพื่อนสนิทก็ได้”
“จากนี้ไป ถ้าเหลียงฮุยให้นายมาฆ่าฉัน นายจะ ฆ่าฉันไหม”
“ไม่ ฉันไม่ฆ่าเพื่อนของตัวเอง และฉันก็ไม่ยอม ให้เพื่อนของฉันโดนรังแกด้วย” คำพูดที่ตนเองพูดใน ตอนนั้นผุดขึ้นมาในสมอง อาสวยเริ่มโมโหตนเอง นี่เขา กำลังทำอะไรอยู่กันแน่…
“ฆ่ามันสิ ไอ้น่าเกลียด ไม่อย่างนั้นฉันจะเอา หน้ากากของฉันคืน แล้วนายจะต้องถูกคนอื่นหัวเราะ เยาะ…”เหลียงฮุยยังคงตะโกนสั่งไม่หยุด แต่เขาตะโกน ได้แค่ครึ่งเดียว ก็ถูกขัดขึ้นมาซะก่อน
“อ๊าก..” อาสวยคำรามออกมา เขายกมีดสั้นขึ้นมา
แล้วปาออกไปรวดเร็วราวสายฟ้า เพียงแค่ว่ามันไม่ได้
พุ่งไปทางฉินหลั่ง แต่กลับพุ่งไปทางเหลียงฮุยที่อยู่ด้าน
หลัง “ไอ้น่าเกลียด นี่นาย..”เหลียงฮุยมองหน้าอาสัวย อย่างไม่อยากจะเชื่อเขาไม่มีทางคาดฝัน ว่าอาสัวยจะ พุ่งมีดมาทางตนเอง ในสายตาของเขา อาสัวยเป็นแค่สุนัขที่เชื่อฟังคำสั่งของเขา จะกล้าพุ่งมีดมาทางเขาได้ ยังไงกัน
“อัก” เหลียงฮุยส่งเสียงอย่างเจ็บปวด เพราะอา ส้วยใช้แรงในการแทงมีดค่อนข้างมาก พออาสัวยปล่อย มือลง บนหน้าท้องของเหลียงฮุยจึงมีมีดปักอยู่หนึ่งด้าม
เหลียงฮุยใช้มือจับด้ามมีดไว้ แต่เลือดสีแดงสดก็ ยังไหลออกมาตามซอกนิ้ว เขาอยากอยู่ให้ห่างจากอา ส้วย แต่กลับทรุดตัวลงบนพื้นอย่างหมดแรง พวกคางที่ ต่างก็ตกใจจนถอยห่างออกไปด้านข้าง
“คุณชายคางครับ รีบ.. รีบพาผมไปโรง พยาบาล”เหลียงฮุยหันไปพูดขอร้องคาง แต่ปาก ของเขาก็มีเลือดไหลออกมาเหมือนกัน มันไหลลงมาถึง คาง ก่อนจะย้อมจนคอเสื้อกลายเป็นสีแดง เหลียงฮุยยัง ไม่ทันพูดจบ เขาก็สลบเหมือดไปบนพื้น ไม่ได้สติไป แล้ว เห็นแต่เลือดที่ยังไหลออกมาจากทั้งปากและหน้า ท้องของเขาไม่หยุด