รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 186 คิดถึงคนคนเดียวมาโดยตลอด
บทที่ 186 คิดถึงคนคนเดียวมาโดยตลอด
จ้าวหมิงหมิงได้ยินที่ฉันหลั่งพูด ถึงแม้ว่าน้ำเสียง จะเป็นแกมประชดประชัน แต่ทว่าสายตาของเขาแน่วแน่ มาก จ้าวหมิงหมิงจึงไม่พูดอะไรต่อ
ที่จริงแล้วจ้าวหมิงหมิงรู้ดี จากนิสัยของโข่งลิ่ง เสียนเขาไม่มีทางหักหลังคำสั่งของตระกูล แอบช่วยฉิน หลังเงียบๆ การที่เธออ้อนวอนโข่งลิ่งเสียน เพียงเพราะ ว่าต้องการให้เขารู้สึกถึงการที่เขาเป็นหนี้บุญคุณฉิน หลั่ง หลังจากนี้เมื่อฉินหลั่งต้องเจอเรื่องวุ่นวายและ ต้องการความช่วยเหลือจากโข่งลิ่งเสียนจริงๆ เขาจะได้ ไตร่ตรอง
“คุณโข่งลิ่งเสียน เราสองแม่ลูกของคุยอะไรกัน หน่อยนะคะ” จ้าวหมิงหมิงเอ่ยขึ้น
“อ้อ..” โข่งลิ่งเสียนลุกขึ้นแล้วเดินไปหน้าประตู แล้วหันกลับมา เขาพูดอย่างสุภาพ “ประธานจ้าว ทาง ตระกูลพูดมาแล้วว่าห้ามช่วยคุณชายแม้แต่นิดเดียว สิ่ง ที่คุณทำไว้ที่ภาคยุโรปใต้มันค่อนข้างโจ่งแจ้ง ต้อง ปิดปากคนที่เหลือให้หมด”
โข่งลิ่งเสียนทำงานในตระกูลฉินมาสามสิบปี เขา รู้ว่าประธานจ้าวฉลาดหลักแหลม เขากลัวว่าเมื่อประธาน มีเมตตาแล้วจะหูตาพร่ามัว แล้วใช้โอกาสตอนที่เขาออก ไป ยัดบัตรใส่มือฉินหลั่งหรืออาจจะให้ของมีค่ากับเขา เพื่อให้เขาได้ใช้ยามยากลำบาก ถ้าตระกูลฉินรู้เรื่องนี้ คนที่มีอำนาจในตระกูลคนอื่นๆ ต้องวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่แน่ๆ และมันจะไม่ดีต่อฉินหลังและจ้าวหมิงหมิง
“คุณโข่งลิ่งเสียนวางใจเถอะค่ะ ฉันรู้ดี” จ้าวห มิงหมิงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
เมื่อโข่งลิ่งเสียนเดินออกไป เธอหุบยิ้มแล้วพลิก ดูบัตรธนาคารHSBCในเคสมือถือ บัตรนั่นมีเงินสิบล้าน ยูโร สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เอามันออกมา
จ้าวหมิงหมิงกับฉินหลั่งอยู่ในห้อง กินข้าวไปคุย เรื่องในบ้านไป ทั้งคู่เก็บช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงแม้ จะคุยกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่กลับรู้สึกว่าอบอุ่นเป็น พิเศษ
ระหว่างทานข้าวจ้าวหมิงหมิงได้ยินว่าฉินหลั่งจะ อยู่ที่หลินอานพักหนึ่ง ไม่รีบกลับจีนหลิงจ้าวหมิงหมิงก ลัวว่าจะไปกินเวลาเรียนของฉินหลั่ง จึงบอกว่าจะส่งฉิน หลั่งไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ถึงทางตระกูลจะ ถาม จ้าวหมิงหมิงก็จะใช้ประเพณีที่ตระกูลสืบทอดกันมา คือ การศึกษามาเป็นอันดับแรก เพื่อโต้แย้งกับพวกเขา พวกเขาคงจะแย้งอะไรไม่ได้
ฉินหลังพูดกับจ้าวหมิงหมิงว่าให้เขาเรียนที่ มหาวิทยาลัยเจียงหนานน่ะดีแล้ว จ้าวหมิงหมิงได้ยินก็รู้ ว่าฉันหลั่งไม่ยอมไปมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงเพราะว่าเขา จะตามจีบจงยู่ จึงหัวเราะออกมา
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็ว ทั้งคู่ทานข้าวกัน เสร็จเรียบร้อย และจ้าวหมิงหมิงก็ต้องจากหลินอานไป แล้ว คนที่เป็นผู้รับผิดชอบภาคยุโรปใต้ การทำงานของเธอไม่ได้ต่างจากผู้นำประเทศเล็กๆ เลย
โข่งลิ่งเสียนเดินตามจ้าวหมิงหมิงกับฉินหลั่งออก จากโรงแรม ก่อนที่จะไปจ้าวหมิงหมิงพาฉินหลั่งไปเจอ หลี่ย่าวเวยและคนอื่นๆ ในห้องมีทั้งคนที่นั่งอยู่กับพื้น และคนที่กำลังยืนถือถ้วยซุป มีบางคนใช้มือหยิบกิน บาง คนยกของกินกรอกปาก
แต่ละคนมีของกินเลอะปากและเสื้อผ้าเต็มไป หมด โดยเฉพาะใต้คางที่มันไปหมด
ดูคนพวกนี้แล้วพาให้นึกถึงหมูที่อยู่ในเล้า จ้าวหมิงหมิงยืนกวาดตามองที่หน้าประตู แล้วก็ ไม่อยากมองอีก จึงเดินออกจากโรงแรม
พวกเขาเดินมาถึงหน้ารถบ้านเคลื่อนที่ยี่ห้อ Colani ที่มีมูลค่าถึงยี่สิบล้าน ฉินหลั่งหัวเราะแล้วพูดว่า “แม่ขับรถบ้านมาทำไม”
“เร็วๆ นี้แม่จะเปิดธุรกิจใหม่เกี่ยวกับรถบ้านที่ภาค ยุโรปใต้ แม่ต้องทำความคุ้นเคยกับมันสักหน่อย” จ้าวห มิงหมิงเอ่ยขึ้น แล้วหันไปพูดกับโข่งลิ่งเสียน “คุณโข่ง ลิ่งเสียน ฉันสายตาไม่ค่อยดี เดี๋ยวคุณขับรถให้ฉันหน่อย สิ”
ฉินหลั่งอึ้งไป เขารู้ว่าแม่สายตาดีมาก ทำไมแม่ ต้องโกหกโข่งสิ่งเสียนหรือแม่ขี้เกียจขับรถ
“ครับ” โข่งลิ่งเสียนตอบรับแล้วเดินขึ้นรถ
“รอเดี๋ยว” จ้าวหมิงหมิงรั้งโข่งลิ่งเสียนเอาไว้ เธอพูดอย่างเขินอายว่า “ฉันนอนในรถบ่อยๆ ฉันเลยไม่ค่อย ดูแลความสะอาด ข้างในรกมาก ฉันขอเข้าไปเก็บของ ก่อน จะได้ไม่ถูกคุณโข่งสิ่งเซียนหัวเราะเอา ”
พูดจบจ้าวหมิงหมิงยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปใน รถก่อน ถึงแม้จ้าวหมิงหมิงจะอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ตอน
วัยรุ่นเธอก็เป็นสาวงามในประเทศ ตอนนี้ความสวยก็ยัง
คงอยู่ ยิ้มเมื่อครู่ทำให้โข่งลิ่งเสียนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัว
เมื่อเห็นว่าฉันหลั่งกำลังมองตัวเองอยู่ โข่งลิ่ง เสียนจึงกระแอมออกมา เขาดูกระอักกระอ่วนมาก
ไม่นานจ้าวหมิงหมิงก็เดินลงมาจากรถบ้านพร้อม ถุงขยะ 4-5 ใบ ฉินหลังกับโข่งลิ่งเสียนเห็นดังนั้นจึงพา กันอึ้ง
โข่งลิ่งเสียนอึ้ง ประธานจ้าวดูเป็นคนเจ้าระเบียบ ใครจะคิดว่าสามารถสร้างขยะในรถเล็กๆ ได้มากขนาด นั้น
“หลั่งเอ๋อ แม่ต้องรีบไปละ ช่วยแม่เอาขยะนี้ไปทั้ง หน่อย แม่เก็บแบบรวมๆ ตอนลูกจะเอาไปทิ้งก็ช่วยดูให้ ละเอียดหน่อย ได้ยินมาว่าช่วงในหลินอานเริ่มแยกขยะ แล้ว ลูกโตขนาดนี้แล้ว อย่าให้โดนปรับเพราะเรื่องทิ้ง ขยะล่ะ” จ้าวหมิงหมิงพูดพลางส่งถุงขยะให้ฉินหลั่ง
“เราไปกันเถอะคุณโข่งลิ่งเสียน” จ้าวหมิงหมิง โบกมือลาฉินหลั่ง โดยมีโข่งลิ่งเสียนเป็นคนขับรถ
เมื่อรถขับไปจนลับตา ฉินหลังจึงน้ำขยะในถุงส์ ห้าใบไปยังจุดทิ้งขยะ เขามองถังขยะที่มีเครื่องหมาย “ขยะแห้ง ขยะเปียก ‘ ฉินหลั่งกะจะทิ้งขยะลงไปโดย อาศัยช่วงที่ไม่มีคน แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่แม่พูดก่อนจะไปว่า ให้เขาแยกขยะก่อนทิ้ง เขาจึงทิ้งความคิดที่จะโยนขยะ ทั้งไป
“เอ๊ะ นี่มันอะไรกัน” ฉินหลั่งวางถุงขยะห้าใบไว้ บนพื้น ถุงขยะสี่ใบมีแต่ขยะทั่วไป แต่ถุงขยะใบสุดท้าย เขารู้สึกว่ามันหนัก เขาจึงเปิดมันออก ข้างบนเป็น หนังสือพิมพ์แต่ข้างล่างคือธนบัตรเป็นปึกๆ แถมยัง ไม่ใช่เงินหยวน แต่เป็นเงินยูโร เงินในถุงขยะใบนี้อย่าง น้อยๆ ก็มีเงิน 1.5 ล้านยูโร ถ้าเป็นเงินหยวนก็ประมาณ 10.5 ล้าน
ฉินหลั่งอ้าปากค้าง เขาซาบซึ้งใจมาก เพราะแม่ อยากให้เขามีชีวิตที่ดี ถึงทำขนาดนี้
ขณะนั้นเอง ฉินหลั่งได้รับข้อความจากแม่ ถึง ขยะหรือยัง ทั้งแล้วก็รีบกลับไปพักผ่อน
ฉินหลั่งรู้ว่าแม่กลัวที่ตระกูลจะตรวจสอบมือถือ ของแม่ จึงระมัดระวังเป็นพิเศษ เขาตอบกลับไปว่า แยก ขยะเหนื่อยมาก แต่ดีที่แยกเสร็จแล้ว ผมกำลังจะกลับ แล้ว”
เมื่อเห็นข้อความที่ฉินหลั่งส่งมา จ้าวหมิงหมิงก็ โล่งอกแล้วยิ้มบางๆ ออกมา
ฉินหลั่งถือถุงขยะที่มีเงินยูโรอยู่ในนั้นกลับห้อง
เช่าของตัวเอง เขาไม่ได้เอาเงินไปฝากไว้ที่ธนาคาร ไม่ งั้นที่ตระกูลต้องจับได้แน่ เขาจึงเก็บเงินไว้ที่ลิ้นชักใต้ เตียงชั่วคราว
ผ่านไปได้สามวัน ฉินหลั่งได้รับข้อความจากแม่ แม่บอกว่าได้ลงทะเบียนให้เขาที่มหาวิทยาลัยเจียง หนานเรียบร้อยแล้ว รอให้เขาไปรายงานตัวตอนเปิด เทอม และแม่ยังส่งสาขาวิชา อาจารย์ที่ปรึกษารวมถึง หมายเลขหอพักมาให้ด้วย
ถึงแม้ทางตระกูลจะยอมให้ฉินหลังเรียนที่ มหาวิทยาลัยเจียงหนาน แต่ว่าฐานะของเขาก็เป็นได้แค่ ผู้ชายจนๆ ที่เลี้ยงชีพด้วยการขายแพนเค้กจีน ในเมื่อฉิน หลั่งไม่ยอมแพ้ที่จะตามจีบจงยู่ ทางตระกูลก็ไม่ยกเลิก ข้อห้ามที่มีต่อเขา
อีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมแล้ว สอง สามวันนี้ฉินหลั่งเตรียมที่จะบอกหลินจูเรื่องลาออก แต่ เมื่อเห็นหลินจูขายแพนเค้กจีนอย่างเหน็ดเหนื่อย เขาจึง ไม่กล้าพูดออกไป
วันนี้เขากับหลินจูมาตั้งร้านขายที่สวนอู่หยางทั้ง วัน เมื่อขับรถกลับมาที่ห้องเช่า ฉินหลั่งนั่งอยู่ในห้อง ของตัวเองอยู่นาน จากนั้นจึงเดินออกไปเคาะประตูห้อง ของหลินจู
“นายมาแล้วเหรอมานวดไหล่ให้ฉันหน่อย วันนี้ ทำแพนเค้กจีนไปอย่างน้อยๆ ก็ 150 อัน เหนื่อยแทบ แย่” หลินจูเอ่ยขึ้น หลายเดือนมานี้ เมื่อหลินจูกลับมา แล้วรู้สึกเหนื่อย เธอจะให้เขานวดให้เป็นประจำ
ฉินหลังให้หลินจูนั่งลง เขานวดให้เธอพลางพูด ขึ้นว่า “เอ่อ…อีกสามวันฉันจะต้องไปแล้ว”
ฉินหลั่งรับรู้ได้ถึงอาการสั่นที่ตัวของหลินจู
“นายจะกลับจีนหลิงแล้วเหรอ” หลินจูถามฉิน หลังโดยไม่ได้มองเขา
“เปล่า ฉันโอนย้ายผลการเรียนมาเรียนที่ มหาวิทยาลัยเจียงหนาน” ฉินหลั่งพูดด้วยน้ำเสียงราบ เรียบ
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย นายไปนะดีแล้ว ไม่จำเป็น ต้องบอกฉัน” หลินจูพูดจบก็หันมายิ้มให้ฉินหลั่งแล้วพูด ว่า “ฉันรู้ละ นายจะเอาเงินที่ทำงานใช่ไหมล่ะ นายอุ้งาน ตั้งเยอะ ฉันหักเงินนายไปหมดแล้ว!”
ฉินหลั่งคิดไม่ถึงว่าหลินจูจะไม่เศร้าแม้แต่น้อย เขารู้สึกหดหูเล็กน้อย แล้วพูดติดตลกออกไปว่า “ยัยเด็ก นี่ ฉันเหนื่อยมาสองเดือนเธอจะไม่ให้ฉันสักนิดเลยเห รอ ไม่กลัวฉันไปแจ้งกรมแรงงานให้ตำรวจมาจับเธอเห รอ”
หลินจูมองฉินหลั่งแล้วค่อยๆ หุบยิ้มลง เธอกัม หน้าลง ฉินหลั่งไม่เข้าใจ เขาแค่ล้อเธอเล่นเท่านั้น หลิน จูเป็นอะไรไป นิสัยของเธอเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรนิ
ฉินหลั่งยังไม่หายสงสัยก็เห็นไหล่ของหลินจูสั่น ระริก จากนั้นน้ำตาเม็ดใหญ่ก็หยดลงมาบนกางเกงของ เธอ
“เธอเป็นอะไรไป” ฉินหลั่งตกใจ เขากะจะเข้าไปดูเธอ
ไสหัวไปซะ!” หลินจูเงยหน้าขึ้น เธอร้องจน ดวงตาพร่าเลือนแล้วมองฉินหลั่งด้วยความหงุดหงิด ดู เหมือนเธอจะโกรธมาก
“ฉันพูดอะไรทำร้ายจิตใจเธอหรือเปล่า ขอโทษ นะหลินจู ฉันล้อเธอเกินไปหน่อย ฉันรู้ว่าเธอมีเรื่อง มากมายอยู่ในใจ เธอบอกฉันได้นะ” ฉินหลั่งเอ่ยขึ้น
หลินจูขบริมฝีปากล่างแล้วมองฉินหลั่งด้วยความ เกลียดชัง ครั้งนี้เธอเห็นแววตาจริงใจและเป็นห่วงที่ฉิน หลังมีต่อเธอจึงถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ในใจ ของฉันเอาแต่จำเรื่องที่เคยเจอใครคนหนึ่งตอนเด็กฉัน แค่จับของเล่นของเขา พอเขามาถึงเขาก็ว่าฉัน ฉันโกรธ จนร้องไห้แล้วดีเขา เขากดฉันลงกับพื้น เตะและต่อว่า ฉันแถมยังไล่ฉันออกจากบ้านของพวกเขา แล้วบอกว่า จะให้ตำรวจมาจับฉันด้วย เหมือนที่นายพูดเมื่อกี้.
เมื่อฉินหลั่งได้ยินเขาทั้งโกรธและปวดใจเขา วางมือบนไหล่ของหลินจู แล้วพูดปลอบว่า “ฉันแค่ล้อ เธอเล่น ที่เธอลืมเขาไม่ได้เพราะเธออยากแก้แค้นเขาใช่ ไหม เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอหาเขา หาเจอเมื่อไรฉันจะต่อย เขาสักยก”
ฉินหลั่งเพิ่งพูดจบ จู่ๆ หลินจูก็พูดขึ้นมาอย่าง เสียงดัง “นายต่อยเขาฉันจะต่อยนาย…” ฉินหลังอึ้งไป เขาพูดปนขำออกไปว่า “เธอบอกว่าเขาต่อยเธอแถมยัง ไล่เธอออกจากบ้านไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่า…เธอชอบ เขา?” หลินจูหน้าแดง แต่ยังมองฉินหลั่งอย่างงอนๆ “ฉันชอบเขา แล้วมันทำไม นายคิดว่าฉันด้อยค่ามากใช่ไหม ล่ะ หี..” ฉินหลังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เปล่า เรื่อง ระหว่างหญิงชายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาตั้งแต่ ไหนแต่ไร” หลินจูอึ้งแล้วมองไปยังฉินหลั่งอย่างงุนงง
“ในเมื่อเธอชอบเขาขนาดนั้นแล้วทำไมไม่ไปหา เขาล่ะ?” ฉินหลั่งถามขึ้น หลินจูทำตัวไม่ถูก เธอกัมหน้า แล้วพูดตะกุกตะกัก “เขาเป็นคนหล่อ แถมบ้านยังรวยอีก ฉันหน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้ แถมยังเป็นแค่คนขายแพน เค้กจีน ไม่คู่ควรกับเขาสักนิด”
ฉินหลั่งส่ายหัว “เธอดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว มีกฎ วางไว้เหรอว่าคนหน้าตาไม่ดีห้ามจีบคนหน้าตาดี คนจน ห้ามจีบคนรวย เธอปิดตายตัวเอง ถึงพวกเธอจะมีวาสนา ต่อกัน ก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เธอก็รู้ว่าฉันชอบคุณ หลงตระกูลหลง ฉันคิดว่าถ้าฉันยืนหยัดต่อไป ต้องจีบ คุณหลงได้แน่นอน ทำไมเธอถึงไม่เชื่อมั่นในตัวเองล่ะ?”
“เปล่า เขาเป็นลูกคนรวย ฉันเป็นแค่คนขายแพน เค้กจีน เขารูปร่างหน้าตาดี ส่วนฉันหน้าตาไม่ดี ฉันไม่ คู่ควรกับเขา”
“หลินจู เธอดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว เธอควรจะมอง อะไรกว้างๆ”
เธอถูกฉินหลั่งพูดจนจิตใจสับสนวุ่นวาย ตอนแรก เธอคิดในใจอย่างชัดเจนแล้วว่าเธอจะคิดถึงคนนั้นอยู่ใน ใจอย่างเงียบๆ แต่ฉินหลั่งกลับบอกให้เธอเผยความรู้สึก ออกไป เธอเอามือปิดหูตัวเองแล้วกรี๊ดออกมาเหมือนคน บ้า
“ออกไป ไอ้คนไม่เอาไหน ฉันเกลียดนายออก
ไป!” หลินจูพูดออกมาเสียงดังแล้วผลักฉินหลั่งออกไป