รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 188 เสียงหัวเราะในหอประชุม
บทที่ 188 เสียงหัวเราะในหอประชุม
ผู้โยวพาฉินหลั่งมาส่งที่หน้าหอพักสาขาชีววิทยา ฉินหลั่งหาห้องพักของตัวเองเจออย่างรวดเร็ว เมื่อรูม เมทอีกสามคนเห็นฉินหลั่งเดินเข้ามา พวกเขาคิดว่าฉิน หลั่งเข้ามาผิดห้อง ต่อมาพวกเขาโทรไปถามอาจารย์ที่ ปรึกษาเพื่อยืนยันว่าฉินหลั่งเป็นนักศึกษาที่เข้ามาใหม่ ถึงยอมให้ฉินหลั่งเข้ามาปูเตียงและวางของ
รมเมททั้งสามคนประหลาดใจกับเรื่องที่ฉินหลั่ง สามารถโอนย้ายผลการเรียนเป็นอย่างมาก ฉินหลังจึง โกหกไปว่าครอบครัวของเขายากจน ประเทศมีแผน พิเศษกับคนแบบพวกเขา ดังนั้นเขาจึงได้โอนย้ายผล การเรียน
รูมเมททั้งสามคนมองเสื้อผ้าที่สั่งตามร้านค้า ออนไลน์บนตัวของฉันหลัง เมื่อถามเขาก็ได้รู้ว่าตอนปิด เทอมฤดูร้อนเขาไปขายแพนเค้กจีน รูมเมททั้งสาม เห็นใจเขาแล้วบอกว่าหลังจากนี้ถ้ามีเรื่องลำบากอะไร สามารถบอกพวกเขาได้ ฉินหลั่งซาบซึ้งใจมาก แต่เมื่อ คิดว่าเขาโกหกรูมเมททั้งสามคนก็รู้สึกเกรงใจขึ้นมา
วันนี้นอนที่หอพักก่อนละกัน
วันต่อมา ฉินหลั่งไปเรียนพร้อมกับรูมเมท อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกเขาไปคุยในห้องทำงาน สิ่งที่ ทำให้ฉินหลั่งคาดไม่ถึงก็คือ อาจารย์ไม่รู้ภูมิหลังและ ฐานะของเขาแม้แต่น้อย อาจารย์คิดว่าเขาเป็นนักเรียนที่ ขาดแคลน แล้วโอนย้ายผลการเรียนมาที่นี่เพราะกระทรวงการศึกษา
อาจารย์ให้ฉินหลั่งมาแนะนำตัวที่หน้าชั้นเรียน ตอนนี้ถือว่าฉินหลั่งเป็นนักศึกษาสาขาชีววิทยาของมหา วิทยาเจียงหนานแล้ว
นักศึกษาที่นั่งอยู่คิดว่าการที่เขาโอนย้ายผลการ เรียนได้เพราะเขาเป็นลูกคนรวย แต่เมื่อพวกเขาเห็น เสื้อผ้าที่ฉินหลั่งใส่ก็พากันไม่ให้ความสนใจ บางคนก็ หัวเราะเยาะกับเพื่อนข้างๆ กับการแต่งตัวของฉินหลั่ง
ฉินหลั่งไม่สนใจความคิดของคนอื่น เขาเรียน เสร็จหนึ่งคาบก็ออกมาจากห้อง เขาจะไปหาดูว่าหลงหลิ งอยู่ห้องไหน
ในขณะเดียวกันในห้องเรียนของสาขาวิชาดนตรี อาจารย์ที่ปรึกษาก็กำลังพานักศึกษาใหม่มาแนะนำเช่น กัน
เมื่อเห็นนักเรียนคนนี้สวมเสื้อสายเดี่ยวกับ กระโปรงที่คล้ายกับผ้าชีฟองสีชมพู ทำให้เห็นขาอัน เรียวงาม ผมของเธอดำเงาสลวย ดวงตาของเธอแวววาว เหมือนสระน้ำที่อยู่ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
“นักศึกษาทุกคน นี่คือหลงหลิงนักศึกษาที่เพิ่ง ย้ายมาในห้องของพวกเรา ต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนร่วม ชั้นเรียน ทุกคนช่วยดูแลเพื่อนใหม่ด้วย” อาจารย์ที่สวม แว่นกรอบทองพูดขึ้น
“ครับ พวกเราจะดูแลหลงหลิงอย่างดี” นักศึกษา ชายที่ดูซุกซนสองสามคนพูดขึ้นเสียงดัง
ส่วนคนอื่นก็เอาแต่พูดพึ่มพำ
“นี่คือคุณหนูตระกูลหลงนะ อยู่ในห้าตระกูลใหญ่ ของหลินอานเชียวนะ ได้ยินมาว่าประธานหลงกำลังหาคู่ ให้หลงหลิงด้วย”
“ใช่ คุณหลงมาอยู่ห้องเดียวกับพวกเรา อยู่ใกล้ ได้ก่อน ถ้าได้ใจของคุณหลงแล้วได้เข้าไปอยู่ในตระกูล หลง สบายไปร้อยปีเลยล่ะ”
“พวกนายอย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย ไม่หยิบ กระจกมาส่องดูบ้าง เราน่าอับอายขนาดนี้ คุณหลงฐานะ ดีขนาดนั้นจะมาชอบพวกเรา อย่ามาตลกหน่อยเลย”
“โธ่ ฉันว่าคนที่เหมาะกับคุณหลงทั้งมหาวิทยาลัย ก็มีแต่คุณชายฉาวแล้วล่ะ”
หลงหลิงแนะนำตัวเองแล้วเข้าไปนั่งที่ของตัว เอง ทันใดนั้นก็มีนักศึกษาชายมาล้อมเธอเอาไว้ พวกเขา รู้ดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ไม่มีใครกล้านั่งใกล้หลง หลิง พวกเขาคิดว่าเพียงแค่ได้เห็นตัวเป็นๆของเธอก็ เป็นความสุขและความโชคดีแล้ว
ฉินหลั่งตามหาหลงหลิงทีละห้อง ในที่สุดเขาก็ หาห้องของเธอเจอ
“คุณหลง…” ฉินหลั่งเห็นหลงหลิง แต่เธอนั่ง เงียบๆ อยู่ตรงที่นั่งของตัวเอง เขาเดินเข้าไปหาเธออย่า งกล้าๆ กลัวๆ
“นายทำอะไรน่ะ” ทันใดนั้นก็มีนักศึกษาชายลุก ขึ้นมายืนขวางเขาเอาไว้
สายตาของฉินหลั่งกำลังจับจ้องไปที่หลงหลิง เธอหันมามองเขาอย่างนิ่งๆ สายตาที่มองมาแฝงไปด้วย ความรังเกียจ เพราะว่าเธอได้บอกฉินหลั่งไปไม่รู้กี่ครั้ง ต่อกี่ครั้งแล้วว่าอย่าคิดว่าเธอเป็นจงยู่ แต่ฉินหลั่งไม่ฟัง เธอจึงโกรธเขา
แต่วันนี้สภาพของฉินหลั่งดูไม่ค่อยได้ ถ้าไปหา หลงหลิงด้วยสภาพนี้จะทำให้เธอโกรธเปล่าๆ
สุดท้ายฉินหลั่งจึงมองหลงหลิงแล้วเดินกลับ
ห้องไป
นักศึกษาชายในห้องอดไม่ได้ที่จะมองการแต่งตัว ของฉินหลั่ง พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อของฉินหลั่งมา ก่อน จึงคิดว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายซื่อๆ จนๆ จึงหัวเราะเยาะ กับการกระทำของฉินหลั่งเมื่อครู่
ฉินหลั่งพิมพ์ตารางเรียนของหลงหลิงออกมา จากเว็บไซต์ เขาตัดสินใจว่าเมื่อมีเวลาว่างจะไปหาเธอ หาโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับเธอ ขอแค่เขามุ่งมั่นทำ ต่อไป หลงหลิงจะประทับใจในตัวเขาแน่ๆ
เขามองหลงหลิงมาสามวันติดต่อกัน เห็นเธอนั่ง เรียนและจดอย่างตั้งใจ แม้ว่านักศึกษาชายคนอื่นๆ จะ ชอบหลงหลิง แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงอยู่ห่างๆ ทำให้ ฉินหลั่งพอใจเป็นอย่างมาก
วันที่สี่ เมื่อฉินหลั่งเรียนเสร็จก็ไปที่ห้องของหลงหลิง เขาเห็นผู้ชายที่ดูมีมาดยืนอยู่ข้างหลงหลิง ฉาว หนิงผู้ชายที่เจอตอนเปิดเทอมคนนั้น
ฉินหลั่งยืนดูพวกเขาอยู่ที่หน้าประตู เมื่อจะได้ยิน พวกเขาคุยกันเรื่องดนตรี
“เพลงพื้นบ้านเป็นวิธีร้องเพลงของชาวบ้าน ตอน ร้องเพลงก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับทักษะดนตรีสัก เท่าไร ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับธรรมชาติเป็นหลัก เพลงที่ผมชอบมากๆ คือเพลงเฉิงตูของจ้าวเหล่ย เพลง Miss Dong ของซ่งตงเหย่ก็ไม่เลวนะ” ฉาวหนิงพูดแล้ว ยิ้มออกมา
หลงหลิงมีแววตาชื่นชม “นายรู้เยอะจังเลย ฉัน เทียบนายไม่ติด”
ฉาวหนิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณหลงชม เกินไปแล้ว ผมกำลังเรียนรู้อยู่ ผมเพิ่งเห็นว่าความสนใจ ของเราคล้ายกัน ถ้าคุณไม่ว่าอะไรเรามาคุยกันบ่อยๆ ผมว่ามันเป็นประโยชน์กับเราทั้งคู่นะครับ”
หลงหลิงยิ้มหวาน เธอตอบตกลงเบาๆ จากนั้นก็ คุยเรื่องอื่นๆ กับฉาวหนิงต่อ
สายตาของเธอปะทะเข้ากับฉินหลั่งที่ยืนอยู่หน้า ประตู แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ละสายตาไปทางอื่นแล้วคุย กับฉาวหนิงต่อ โดยไม่สนใจฉินหลั่ง
ฉินหลังใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขามีลางสังหรณ์
ไม่ดี ชายหนุ่มกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ โดยที่
เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
ฉาวหนิงสังเกตเห็นว่าฉันหลังกำลังมองอยู่ เขา จึงมองมาทางประตู เมื่อเห็นว่าฉันหลั่งกำลังมองหลง หลิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ตอนแรกเขาก็ ตกใจแต่สุดท้ายจึงหัวเราะออกมา โดยไม่ได้สนใจฉิน หลัง แค่คนที่ไม่มีอะไรดีเท่านั้นเอง การชอบผู้หญิงสวย เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่มันก็แค่ความชื่นชมและการเพ้อ ฝันเท่านั้น
ฉินหลั่งอยากจะพุ่งเข้าไปแล้วพาหลงหลิงออก มา แต่เขารู้ดีว่าการทำเช่นนั้นจะยิ่งทำให้หลงหลิง เกลียดเขา เขาได้เพียงอดกลั้นเอาไว้
เขามองหลงหลิงกับฉาวหนิงที่ยิ่งคุยถูกคอกัน เหมือนหัวใจของเขาถูกมีดปักเอาไว้ เขากำหมัดทุบลง ไปที่ประตูแล้ววิ่งกลับไปในห้อง
“เป็นอะไรไปฉินหลั่ง” เมื่อเห็นสภาพหดหู่ของ ฉินหลั่ง รูมเมทที่ชื่อจางฉีจึงถามขึ้น ได้อยู่กับรูมเมทมาส องสามวัน ทำให้ฉินหลั่งรู้ว่ารูมเมทของเขาก็ไม่ค่อยมี เงินเหมือนกัน
“ไม่มีอะไร” ฉินหลั่งเอนตัวลงบนเตียง จิตใจของ เขาสับสนวุ่นวายไป ในหัวของเขามีแต่ภาพหลงหลิงกับ ฉาวหนิง
“ไม่มีก็แปลกแล้ว นี่ ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัยกำลัง จะจัดงานรับน้องใหม่ นายลงชื่อหรือยัง ถ้าสนใจก็ไป ลองดูสิ” จางฉีเอ่ยขึ้น เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่จัดการ งานนี้ งานรับน้องใหม่เปิดให้ลงชื่อแล้ว สมาชิกในชมรม นักศึกษาต่างก็พากันหานักศึกษาใหม่ไปเข้าร่วม
ไม่สนอะ” ฉินหลั่งเอ่ยขึ้น
“งานรับน้องใหม่มีสาวสวยเพียบเลยนะ ขนาดคน จนๆ อย่างเรายังหาสาวๆ จากงานนี้ได้เลย” จางฉียักคิ้ว ให้ฉันหลั่ง
“สาวสวย” ฉินหลั่งกลอกตาไปมา ไม่รู้ว่าหลง หลิงจะมางานนี้หรือเปล่า เขาจึงถามขึ้นว่า “นายมีราย ชื่อไหม ให้ฉันดูหน่อยสิ”
จางฉีเอารายการการแสดงในงานรับน้องใหม่ให้ ฉินหลั่งดู เขารับมาและใช้นิ้วมือไล่รายชื่อดู เขาเจอชื่อ ของหลงหลิง
“เพลงรูดี ผู้แสดง ฉาวหนิง หลงหลิง ต่งอี้ จาง เสี่ยวซาน (ยังขาดผู้แสดงอีก 1 คน) ”
เมื่อเห็นชื่อของหลงหลิงกับฉาวหนิง ฉินหลั่งก็ รู้สึกปวดใจ แต่นี่คือโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับหลงหลิง ฉินหลั่งต้องคว้ามันเอาไว้ เขาชี้ในกระดาษแล้วพูดกับ จางฉีว่า “สมัครให้ฉันหน่อย ฉันจะไปงานนี้”
“โห ไอ้หมอนี่จะเกินไปหน่อยแล้ว พอได้ยินว่ามี สาวสวยก็ตกลงไว้กว่าจรวดเลยนะ” จางฉีเอ่ยขึ้น แล้ว เขียนชื่อฉินหลั่งลงในใบรายชื่อ
วันต่อมา ฉินหลั่งได้รับการแจ้งจากจางฉีว่าตอน บ่ายพอกินข้าวเสร็จให้ไปที่หอประชุมมหาวิทยาลัย ไป ฝึกซ้อมที่นั่น ฉินหลั่งมีความสุขมาก เขารีบกินข้าวให้ เสร็จ ยังไม่ทันบ่ายโมง เขาก็มาถึงในหอประชุม บางที นักศึกษาในหอประชุมอาจจะไปกินข้าวหรือพักผ่อนทำให้คนในหอประชุมน้อยมาก
ฉินหลั่งรู้สึกง่วงเล็กน้อย เขาหาที่นั่งแล้วฟุบหลับ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ฉินหลั่งตื่นขึ้นมาเพราะ เสียงเพลง เขาขยี้ตาแล้วมองไป ตอนนี้ในหอประชุมมี นักศึกษามาซ้อมกันประมาณสองถึงสามร้อยคน บางคน อยู่บนเวที บางคนนั่งอยู่ตรงที่นั่ง ผู้รับผิดชอบแต่ละ รายการต่างก็กำลังพูดรายละเอียดของการแสดง ผู้กำ กับใช้ไมค์ในการพูดกำกับด้านอุปกรณ์ประกอบฉากและ แสงสี
เมื่อได้ยินผู้กำกับพูดว่า “คนที่อยู่บนเวทีหลีกก่อน ให้หลงหลิงกับฉาวหนิงซ้อมก่อน พวกเธอหลบไปก่อน ให้ฉาวหนิงเช็กไมค์ก่อน…”
ในทุกๆ วันการซ้อมจะมีลำดับและขั้นตอน โดย ปกติแล้วคนที่มาก่อนจะได้ซ้อมก่อน ฉาวหนิงกับหลง หลิงเพิ่งมาเมื่อสิบนาที ถ้าเรียงลำดับแล้วต้องรออีกสอง ชั่วโมงถึงจะถึงคิวพวกเขา แต่ตระกูลของพวกเขามี อำนาจมาก ฉาวหนิงคือทายาทของตระกูลที่มีชื่อเสียง ในหลินอานเป็นหนึ่งในเดือนของมหาวิทยาลัย และ เรียกได้ว่าเขาเป็นจุดสนใจของงานรับน้องใหม่ด้วย ไม่ ต้องพูดถึงหลงหลิงที่อยู่ในห้าอันดับตระกูลของหลิน อาน พวกเขายังต้องมาพูดถึงจุดนี้อีกเหรอ
เมื่อคนอื่นได้ยินว่าต้องหลีกให้หลงหลิงกับฉาว หนิง ตอนแรกก็มีท่าทีไม่พอใจ แต่ก็ต้องทำ พวกเขาเว้น ที่กลางเวทีให้พวกเขา
ฉาวหนิงกับหลงหลิงนั่งอยู่ที่แถวแรกของที่นั่ง พวกเขากำลังคุยกันเรื่องรายละเอียดของการแสดง เมื่อ เห็นว่าที่บนเวทีว่างแล้ว ฉาวหนิงวางโค้กลงแล้วเชิญให้ หลงหลิงขึ้นไปซ้อมกับเขาบนเวที
เมื่อเห็นฉาวหนิงกับหลงหลิงเดินขึ้นเวทีอย่าง สง่าผ่าเผย ฉินหลังจึงลุกขึ้นแล้วเดินมาตามทางเดิน ระหว่างที่นั่ง เมื่อเดินมาถึงแถวแรกของที่นั่ง เสียงร้อง เพลงของหลงหลิงดังมาจากบนเวทีฉินหลั่งนั่งมอง หลงลิงตรงที่นั่งที่หลงหลิงนั่งเมื่อครู่
“โลกที่เต็มไปด้วยดอกไม้อยู่แห่งไหนกัน”
“ถ้ามันมีอยู่จริง ฉันจะต้องไปหาแน่นอน”
“ฉันอยากอยู่ตรงนั้น ตรงจุดสูงสุดของยอดเขาที่ ตั้งตระหง่าน”
“ไม่สนแม้มันจะเป็นหน้าผาสูงชัน”
หลงหลิงร้องท่อนของตัวเอง เสียงของเธอทำให้ คนเคลิบเคลิ้ม เพราะมากๆ หลงหลิงหยุดร้องแล้วมอง ไปยังฉาวหนิง
“ใช้แรงที่มีเพื่ออยู่และรัก ไม่กลัวแม้ต้องสละชีพ”
“ไม่วอนขอให้คนอื่นพึงพอใจ ขอแค่ต้องมีคุณค่า ในตนเอง”
ฉาวหนิงก็ร้องเพราะเช่นกัน ซึ่งไม่เข้ากับรูปร่าง ผอมสูงของเขาเอาเสียเลย มีความแข็งแกร่งเหมือนผู้ชาย ขนาดคนที่ไม่รู้ด้านดนตรีอย่างฉินหลังยังรู้เลยว่า เพราะ ทักษะการร้องและการแสดงของเขาดีมาก หญิง สาวที่อยู่บนและล่างเวทีต่างพากันมองเขาอย่างชื่นชม ราวกับมองดาราไอดอลอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันไม่เคยเลือก…” ฉาวหนิงร้องอยู่ แต่เมื่อถึง ท่อนสุดท้ายเขากลับเรอออกมา
ทุกคนต่างพากันอึ้ง เสียงของฉาวหนิงประหลาด มาก บางคนเกือบจะขำออกมา แต่เมื่อเห็นว่าคนอื่นไม่ กล้าขอ ก็กลั้นขำจนหน้าแดงฉาวหนิงไม่กล้ามองหลง หลิง เพราะกลัวว่าจะทำให้เธอไม่ประทับใจ แต่ยังดีที่คน อื่นไม่ขำ เขากำลังจะเตรียมร้องท่อนต่อไป
“ฮ่า ฮ่า” ทันใดนั้น ฉินหลั่งก็หัวเราะออกมาอย่าง อดไม่ได้ อย่างแรกเพราะว่าท่าทางของเขาไม่ตลกมาก อย่างที่สองเพราะเขามีความสุขที่ฉาวหนิงเสียหน้าต่อ หน้าของหลงหลิง เขาจึงหัวเราะออกมา