รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 189 ล้มฉันให้ได้ก่อน
บทที่ 189 ล้มฉันให้ได้ก่อน
ขณะนั้นในห้องประชุมเงียบสงัด เสียงหัวเราะ ของฉินหลั่งดังและเข้ามาในหูเต็มๆ
ฉาวหนิงจ้องฉินหลั่งเขม็ง สายตาของเขาเต็มไป ด้วยความโกรธ ชายหนุ่มลอบมองหลงหลิง แววตาของ
หญิงสาวมีแววขบขันเล็กน้อย ทำให้ฉาวหนิงยิ่งโกรธ
เข้าไปใหญ่
“เฮ้ย แกขำอะไร” เมื่อผู้กำกับที่เป็นนักศึกษาเห็น ว่าฉินหลั่งไม่มีมารยาท จึงรีบวิ่งเข้าไปกลางเวที เขาพูด เสียงดังผ่านไมค์แล้วชี้มายังฉินหลัง
“ผมไม่ได้ขำอะไร” ฉินหลั่งเห็นหลงหลิงมองอยู่ จึงไม่อยากทำให้เธอคิดว่าเขาไม่มีมารยาท
“โกหก เห็นๆ อยู่ว่าแกขำที่ฉาวหนิงเรอออกมา เมื่อกี้ ยังไม่ยอมรับอีก!” ผู้กำกับชี้ฉินหลั่งแล้วพูดเสียง
ดัง
“รู้แล้วยังมาถามอีก นายก็คิดว่ามันน่าขำเหมือน กันใช่ไหมล่ะ” ฉินหลังพูด ผู้กำกับหน้าร้อนผ่าว เขาเห็น ฉาวหนิงมองเขาอย่างไม่พอใจ เขากลัวจนคอหดและ กระวนกระวาย
“ถ้าแกหัวเราะอีก แกก็ออกไปเลยนะ” ฉาวหนิงม องฉินหลั่งแล้วพูดด้วยความหงุดหงิด
เมื่อได้ยินเสียงของฉาวหนิง ความโกรธภายในใจ ก็พลุ่งพล่าน ฉาวหนิงมาจีบผู้หญิงของเขา แถมยังมาพูดอย่างนี้กับเขาอีก หน้าไม่อายจริงๆ ฉันหลังจึงพูด ด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ปากก็ปากของฉันฉันจะ ขำตอนไหนก็ได้ นายมาห้ามฉันได้เหรอ”
ปกติแล้วถึงแม้ว่าฉินหลั่งจะโกรธ แต่เขาจะไม่ พูดจากระแหนะกระแหนคนอื่น ความโกรธในใจทำให้ เขาไม่สามารถพูดดีกับฉาวหนิงได้
“ไอ้หมอนี่มันเป็นใคร บ้าไปแล้วเหรอ อยู่สาขา ไหนอะ ทำไมอวดดีจัง”
“แค่คนจนๆ กล้ามาอวดดีกับฉาวหนิง ไม่เจียมตัว เอาซะเลย”
“ดูเสื้อที่มันใส่สิ เหมือนเสื้อที่ขายตามแผงข้าง ถนนอย่างไรอย่างนั้น มันก็แค่ขยะที่อยู่ต่อหน้าฉาวหนิง กล้ามาพูดแบบนี้กับฉาวหนิง ถ้าฉาวหนิงโกรธขึ้นมา ครอบครัวมันเละแน่!”
“เหอะ แกก็คอยดูละกันว่าฉันจะห้ามแกได้หรือ เปล่า!” ฉาวหนิงแสยะยิ้มแล้วเรียกคนที่อยู่หลังเวที “ฝ่ายรักษาความปลอดภัยออกมาหน่อย พาไม่ออกไป ที!”
“ครับคุณชายฉาว ไอ้หมอนี่มันขวางหูขวางตาผม อยู่นานแล้วครับ เดี๋ยวพวกเราจะไล่มันออกไปเองครับ!” หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยพูดกับฉาวหนิง แล้วพา ลูกน้องสองคนเดินเข้าไปหาฉินหลั่ง
“เดี๋ยวก่อน ฉาวหนิงนายมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออกไป” ฉินหลั่งถามฉาวหนิงที่อยู่บนเวที
“เหอะ ฉันจะไล่แกทำไมต้อง…เขาเอาแต่ใจและ อวดดีมาจนเคยชิน ตอนแรกเขาจะพูดว่า ฉันจะไล่แก ทำไมต้องมีสิทธิ์อะไร แต่จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าหลงหลิง ยืนอยู่ข้างๆ เขากลัวว่าเธอจะรู้สึกไม่ดีต่อเขา จึงพูดออก ไปใหม่ว่า “นายไม่ได้เป็นคนที่ร่วมซ้อม นายมาเกะกะ ตอนที่พวกเราซ้อม เพราะฉะนั้นพวกเราให้นายออกไป มันผิดตรงไหนเหรอ”
“ใครบอกว่าฉันไม่ใช่คนที่ร่วมซ้อม” ฉินหลั่งย้อน ถาม “ฉันชื่อฉินหลั่ง ฉันมีรายชื่ออยู่ในใบรายชื่อ ไม่เชื่อ นายก็ไปดูสิ!”
“โกหก ฉันดูรายชื่อมาแล้ว ทำไมฉันจะจำไม่ได้ว่า ไม่มีชื่อของคนอย่างนาย” ผู้กำกับพูดแทรกขึ้นมา
“จริงเหรอ” ฉาวหนิงหันไปหาผู้กำกับแล้วเอียง คอ ผู้กำกับรีบเอารายชื่อผู้แสดงมาหาชื่อของฉินหลั่ง ไม่นายสีหน้าของผู้กำกับก็เปลี่ยนไป เขาพึมพำขึ้นมา เบาๆ ว่า “ซวย” จากนั้นก็มองฉาวหนิงด้วยหน้าตาสลด “มีชื่อของเขาจริงๆ ครับ อีกทั้งเขายังเป็นคนที่แสดงกับ คุณด้วย”
“อะไรนะ!” ฉาวหนิงแย่งรายชื่อมาจากมือผู้กำกับ เขาเห็นชื่อของฉินหลั่งจริงๆ ชายหนุ่มมองไปยังฉินหลั่ง ด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าฉินหลั่งยิ้มแล้วมองเขา มันยิ่งทำให้โกรธเข้าไปใหญ่
“นายมีชื่ออยู่ในรายชื่อ แต่ฉันขอประกาศในตอนนี้ว่านายออกไปเถอะ ฉันไม่ต้องการให้นายมาร่วมแสดง กับฉัน!”
“นายจะไล่ฉันไป ฉันก็ต้องไปอย่างนั้นเหรอ นาย เป็นใครไม่ทราบ ฉันจะบอกความจริงให้นะ ที่ฉันลงชื่อ ในการแสดงนี้ ไม่ใช่เพราะนายแต่เพื่อหลงหลิงต่าง หาก” ฉินหลั่งเอ่ยขึ้น
“หลงหลิงก็ไม่ต้องการแกเหมือนกัน ออกไปซะ” ฉาวหนิงพูดออกมาตรงๆ พูดจบเขาก็หันไปมองหลง หลิง หญิงสาวกำลังมองฉินหลั่งด้วยแววตาเป็นกังวล เขารู้สึกตกใจ เขาดูออกว่าแววตาที่หลงหลิงมองฉินหลั่ง เหมือนเธอรู้จักกับฉินหลั่ง มันทำให้เขานึกถึงแววตาที่ ฉินหลั่งมองหลงหลิงเมื่อวาน อย่าบอกนะว่าพวกเขาเคย คบกันมาก่อน
“หลงหลิง คุณอยากให้มันร่วมแสดงด้วยไหม” ฉาวหนิงถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ฉินหลั่งมองหลงหลิง เขารู้สึกกลัวอยู่ในใจว่า หลงหลิงจะให้เขาออกไป ทั้งสองสบตากัน แววตาของ หลงหลิงเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ หงุดหงิด รังเกียจ และเบื่อหน่าย แต่แววตาของฉินหลั่งกลับมีเพียงแค่ ความแน่วแน่ไม่ย่อท้อ เขาจับที่วางแขนบนเก้าอี้เอาไว้ แน่น
“ฉันไม่รู้” หลงหลิงหลบตาแล้วพูดอย่างสับสน “นายตัดสินใจเถอะ” ฉาวหนิงมองฉินหลั่งอีกครั้ง ฉินหลั่งเป็นขวากหนามในสายตาของเขา ทำให้เขาเจ็บใจมาก เพราะเขา รู้สึกว่าการที่หลงหลิงไม่ปฏิเสธออกไปตรงๆ ก็ทำให้เขา แพ้แล้ว
“ได้ ในเมื่อนายมาแล้ว ฉันจะให้โอกาสนายสัก ครั้ง ครั้งนี้พวกเราแสดงแพลงรูดี้ เป็นเพลงทำให้รู้สึกมี พลัง คนที่มาเต้นในเพลงนี้ต้องไม่ใช่คนที่เหยาะแหยะ ต้องเป็นคนที่เข้มแข็งมีพลังถึงจะร่วมเต้นในเพลงนี้ได้”
ฉินหลั่งมองฉาวหนิงนิ่งๆ รอดูว่าเขาจะทำอะไร
“ฉันจะทดสอบนาย นายขึ้นมาสิ ถ้านายทำให้ฉัน ล้มได้ ฉันก็จะให้นายร่วมแสดง นายกล้าขึ้นมาไหมล่ะ” ฉาวหนิงแสยะยิ้ม
เมื่อฉาวหนิงพูดจบ ทุกคนต่างพากันมองฉินหลั่ง แล้วแสยะยิ้มราวกับคิดว่าฉันหลังจะไม่กล้าขึ้นมาบนเวที อย่างไรอย่างนั้น
“กล้าขึ้นไหมล่ะ”
“กลัวหัวหดแล้ว”
“เมื่อกี้กล้ามากไม่ใช่เหรอ ทำไมกล้าแล้วล่ะ”
ฉินหลังค่อยๆ ลุกขึ้นมา แล้วเดินไปอีกทาง
คนอื่นต่างพากันคิดว่าเขาจะเดินออกไปจึงพากัน พูดประชด “หมาผู้น่าสงสาร ไม่มีปัญญายังจะกล้ามาหา เรื่องฉาวหนิง ไม่เจียมตัว คนจนเดินออกไปอย่างน่า สลด
แต่ทว่าฉันหลังกลับไม่ได้เดินออกไป เพราะว่า บันไดที่ใช้ขึ้นเวทีมีสองทาง เขาจึงเดินมาขึ้นบันไดอีก ข้าง ฉินหลั่งเดินขึ้นบันไดมาบนเวที
ทุกคนพากันอึ้งและคิดว่าไอ้หมอนี่บ้าไปแล้ว ไม่ เจียมตัวเอาเสียเลย ฉินหลั่งก้าวเข้าไปหาฉาวหนิง ผู้กำ กับถือไมค์แล้วเดินเข้ามาอย่างหงุดหงิด เขาเดินมา ขวางฉินหลั่งแล้วพูดเสียงดังผ่านไมค์ “ไอ้คนจน ไม่ได้ มีชื่อเสียงอะไรในมหาวิทยาลัย ยังกล้ามาหาเรื่อง คุณชายฉาว ฉันเป็นผู้กำกับหลัก นายออกไปเดี๋ยวนี้เลย พวกเราไม่ต้องการนาย”
ฉินหลั่งใช้แรงผลักไหล่ของผู้กำกับจนล้มลงไป กับพื้น กลุ่มนักศึกษาที่เป็นผู้กำกับต่างพากันกรูเข้ามา แล้วช่วยประคองเพื่อนของตัวเองขึ้นมา พวกเขาจะเข้า มาทำร้ายฉินหลั่ง แต่โดนฉาวหนิงห้ามไว้เสียก่อน
เมื่ออยู่ต่อหน้าของหลงหลิง ฉาวหนิงต้อง วางมาด ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะสั่งสอนฉินหลั่งด้วยความ โกรธให้เข็ด
ผู้กำกับพูดด้วยความอับอายและความหงุดหงิด “นายไม่รู้หรอกว่าปีก่อนฉาวหนิงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา เยาวชนแห่งชาติ ได้รองชนะเลิศอันดับสองในการแข่ง เทควันโดด้วยมั้ง การที่เขาให้นายออกไปก็ถือว่าไว้หน้า นายแล้ว นายไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เดี๋ยวจะโดนชัดจนฟันหลุด”
ผู้กำกับคนนี้อยากประจบฉาวหนิงจึงพูดออกไป แบบนั้น แต่เมื่อคนอื่นได้ฟังจึงรู้ว่าฉาวหนิงเก่งด้านเท ควันโด จึงรู้ถึงเจตนาของฉาวหนิง ทดสอบฉินหลั่งเป็นเรื่องโกหก ส่วนการที่จะจัดการฉินหลังน่ะเรื่องจริง พวก เขาทำเหมือนจะได้ดูอะไรสนุกๆ อย่างไรอย่างนั้น
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจว่าผู้กำกับจะพูดอะไร เขายัง คงก้าวเข้าไปหาฉาวหนิง
หลงหลิงมองเขาแล้วเดินเข้าไปพูดเบาเบาว่า “นายกลับไปเถอะ ทำแบบนี้มันไม่คุ้ม..
หลงหลิงไม่อยากให้ทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะเธอ เมื่อกี้ได้ยินว่าฉาวหนิงเก่งด้านเทควันโด เธอกังวลว่าฉิน หลังจะโดนซัดจนไม่เหลือชิ้นดี
ไม่เป็นไรหรอก คุณหลีกไปเถอะ ผมแค่จะ ทดสอบเขา ไม่ให้เขาเป็นอะไรหรอก” ฉาวหนิงที่อยู่ข้าง หลังหลงหลิงพูดขึ้น เขาคิดว่าตัวเองต้องชนะอย่าง แน่นอน
ฉาวหนิงหันไปส่งสายตาให้คนข้างๆ ทำให้คน พวกนั้นดึงหลงหลิงมายืนข้างๆ
“เตรียมตัวดีหรือยัง ไอ้เด็กน้อย” ฉาวหนิงถามขึ้น “จะซัดก็ซัดมาเลย พูดไร้สาระทำไม” ฉินหลั่งเอ่ย
ขึ้น
“ปากเสีย!” ฉาวหนิงด่าออกมา เขาซัดหมัดออก ไปหาฉินหลั่ง ไม่เสียแรงที่ฉาวหนิงคือรองชนะเลิศ อันดับสองในกีฬาเยาวชน หมัดของเขาว่องไว ฉินหลั่ง รีบถอยหลังหลบไปด้านข้าง แต่ทว่าหมัดของฉาวหนิง รวดเร็วเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหมัดจะไม่โดนหน้าของ ฉินหลั่ง แต่ก็กระแทกโดนคอของฉินหลั่ง ฉินหลั่งรู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก
“ร.” คนที่อยู่ทั้งบนและล่างเวทีพากันส่งเสียง เชียร์
“ไอ้คนจนโดนคุณชายฉาวต่อยแล้ว”
“ถ้าคุณชายฉาวหมัดหนักอีกสักหน่อย แล้ว กระแทกลงบนหัวของมัน ฉันรับรองไอ้คนจนนั่นต้องลง ไปกองอยู่ที่พื้นแน่นอน”
“ฉันคิดว่าที่มันกล้าขึ้นไป เพราะต่อสู้เป็น ที่ไหน ได้คงจะเป็นแค่กระสอบทรายให้เขาซ้อมแล้วล่ะมั้ง”
หลงหลิงเห็นว่าฉันหลั่งโดนต่อย เธอ กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก เธอประสานมือเอาไว้ แน่นแล้วมองไปที่ทั้งสองคนอย่างกระวนกระวายใจ
ฉาวหนิงก้าวเข้าไปชิดฉินหลั่ง เขาเอาข้อศอก ขวาดันอกของฉินหลั่งแล้วส่งเสียงอืออกมา ฉินหลั่ง หายใจไม่ออก ฉาวหนิงเอาไหล่ของเขาชนกับอกของ ฉินหลั่ง ฉินหลั่งไม่สามารถต้านแรงได้ เขาเดินถอยหลัง จนเกือบจะล้ม
“เด็กน้อย ดูเหมือนว่าแกจะไม่แข็งแรงเลยนะ แก เป็นคู่เต้นของพวกเราไม่ได้หรอก ออกไปซะเถอะ” ฉาว หนิงแสยะยิ้ม
ฉินหลั่งมองหลงหลิง แววตาของเธอนิ่ง ราวกับ ว่าเขาจะยอมแพ้กับสิ่งนี้ ฉินหลังหงุดหงิดใจขึ้นมา หลงหลิงคิดว่าเขาจะแพ้ ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา เขา ตะโกนใส่ฉาวหนิงว่า “นี่มันยังไม่ถึงไหน นายอย่ามา ดูถูกคนอื่น!”
พูดพลางฉินหลั่งก็พุ่งเข้าไปหาฉาวหนิง
ฉาวหนิงไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดในการจัดการฉิน หลัง เขาแค่สั่งสอนฉินหลั่งนิดหน่อยเท่านั้น เพราะกลัว ว่าหลงหลิงจะรู้สึกไม่ดีต่อเขา จึงยอมปล่อยฉินหลั่งไป แต่คิดไม่ถึงว่าไอ้คนจนนี่จะไม่เห็นถึงความหวังดีของ เขาถึงพุ่งเข้ามาหาเขาแบบนี้ ฉาวหนิงแสยะยิ้ม นี่สิสิ่งที่ เขาอยากทำ คุณหลงจะโทษผมไม่ได้นะ ไอ้โง่นี่มันมา หาเรื่องผมเอง งั้นผมจะให้มันลิ้มรสความทุกข์ทรมานสัก หน่อย
ฉาวหนิงหลบหมัดของฉินหลั่งได้อย่าง คล่องแคล่ว เมื่อเห็นว่าฉินหลั่งตั้งตัวไม่ทันเขาจึงใช้เท้า ถีบไปที่เอวของฉินหลั่ง ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวจึงล้มลง บนพื้น ฉาวหนิงส่งเสียงออกมา ขณะเดียวกันเขาก็ กระโดดแล้วใช้เข่ากระแทกไปที่ตัวของฉินหลั่ง
“อย่า!” หลงหลิงตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง เมื่อ ฉาวหนิงเห็นสีหน้าหวาดกลัวของหลงหลิง เขารีบชะงัก การกระทำของตัวเอง แล้วถีบไปที่หลังของฉินหลั่ง อย่างแรง เขาก้มลงมองฉินหลั่งอย่างดูถูก “ถ้านายอยาก เป็นคู่เต้นของพวกเรา ชาติหน้าเถอะนะ”
พูดจบ เขาก็เดินไปหาหลงหลิง
ฉินหลั่งโดนถีบจนเจ็บไปทั้งตัว เมื่อได้ยินคำพูดสกปรกๆ ของฉาวหนิงและการที่เขาต้องมาอับอายต่อ
หน้าหลงหลิง เขารู้สึกผิดและหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขารีบลุกขึ้นมาโดยไม่สนความเจ็บปวดแล้วมองไปที่ แผ่นหลังของฉาวหนิง จากนั้นจึงใช้หมัดกระแทกไปที่ หัวของฉาวหนิง
ฉาวหนิงได้ยินเสียงเตือนของคนอื่นจึงรีบหลบ แต่ช้าไปเพียงนิดเดียว หมัดของฉินหลั่งเฉียดผ่านหูเขา ไป ฉาวหนิงลูบหูของตัวเอง เขารู้ว่าหูเป็นแผลแล้ว ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา เขาคิดในใจว่าครั้งนี้ต้อง จัดการฉินหลั่งให้เข็ด “นายคงไม่อยากมีชีวิตอยู่จริงๆ สินะ!”