รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 197 ที่แท้คุณก็อยู่นี่เอง
บทที่ 197 ที่แท้คุณก็อยู่นี่เอง
“ใช่ ฉันกับต่งอี้เรียกให้เขาขยับตัวตลอด แต่เขา กลับไม่ได้ยิน ช่วง2นาทีสุดท้าย เขายืนอยู่ตรงนั้นราวกับ ท่อนไม้”จางเสี่ยวซานยืนกอดอกพลางมองฉินหลั่ง และ พูดอย่างเหยียดหยาม
ฉินหลั่งไม่พูดไม่จา เขาเพียงหาม้านั่งข้างๆหลง หลิง และนั่งลง ในใจพลางคิด : “ตอนนั้นฉันเห็นหลง หลิงกับฉาวหนิงสบตากับอย่างลึกซึ้ง ก็นิ่งชะงักไป แต่ ไม่ได้อยากทำให้การแสดงวุ่นวาย พวกคุณจะว่าอะไรผม ก็ได้ แต่ผมไม่อาจให้คนอื่นมาจูบหลงหลิงได้”
“จริงสิ พวกเธอคิดว่าเวทีในวันนี้นั้นมันสุดยอดไป เลยใช่ไหม ? “หลีซีเห็นฉินหลั่งนิ่งเงียบก็ไม่สนเขา จาก นั้นมองไปยังเวทีเหล็ก และพูดอย่างภูมิใจ
“ใช่ เวทีนี่แข็งแรงกว่าปีที่แล้วเยอะเลย เหมือน สำหรับนักร้องมืออาชีพ อีกทั้งเสียง แสงไฟ เสื้อผ้าก็ดี มากๆ พวกนี้คงจ่ายไปไม่น้อยเลยใช่ไหม ? “ฉาวหนิง พวกเขาที่นั่งกันอยู่ตรงนี้ ล้วนเป็นนักแสดงที่ทำการ แสดงเสร็จแล้ว หลังจากพวกเขาทำการแสดงเสร็จเมื่อ ครู่ ก็รู้สึกว่าเวทีนี้สุดยอดมาก
“ใช่ จ่ายไปเท่าไหร่เนี่ย ? ”
“หลีซี นายเป็นผู้กำกับการแสดงหนิ เงินล้วนเอา มาจากฝ่ายการเงิน นายต้องรู้แน่นอน รีบบอกพวกเราเร็ว สิ”
นักแสดงสองคนถามอย่างสนใจ
“ฮ่าๆ พวกเธอมีวาสนานะเนี่ย เวทีที่ฉันเช่ามาเป็น เวทีที่ใช้ในงานHappy Carnival ของเมืองหลินอานปีที่ แล้ว คืนหนึ่งตั้ง4แสน อีกทั้งวงดนตรีนี้ก็เป็นวงติด อันดับ1ใน10ของเมืองหลินอาน ช่างแต่งหน้าที่มาแต่ง ให้พวกเธอก็เคยแต่งให้ซ่งจู่อิงด้วย ! “หลีซีเชิดหน้าพูด อย่างภาคภูมิใจ
“โห มิน่าล่ะ ถึงแม้งานเลี้ยงของเราไม่อาจเทียบ กับ” ทัวร์จีนสุขสันต์”ของCCTV แต่ฉันกล้ารับประกันว่า งานของเราอลังการที่สุด ในมหาลัยของหลินอาน”
“หลีซี ตกลงจ่ายไปเท่าไหร่ นายบอกมาสิ อยาก ให้เราร้อนใจมากรึยังไง ? “สาวผมหางม้าถามอย่างร้อน
ใจ
“1,250,000บาท ! “หลีซี
พูด”1ล้าน”และ”2แสน”เสียงลาก : “พองานจบแล้ว จะ จ่ายให้คนที่เข้าร่วมการแสดงของแต่ละห้อง คนละ500บาท ให้พวกเธอเอาไปหาอะไรกินเอง”
“แม่เจ้า ยอดไปเลย ! ”
“เงิน1,250,000บาทเยอะมากเลย ปีนี้สหภาพ นักศึกษาได้บริษัทไหนมาสนับสนุนเหรอ ? สถิติสูงสุด ของปีที่แล้วแค่5แสนเอง ทำไมปีนี้เยอะขนาดนี้ ? ”
“ใช่ ไม่เคยได้ยิน พวกเธอรู้ไหม ?”
นักศึกษารอบๆทั้งดีใจและสงสัย พวกเขาถามกัน ไปมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าบริษัทไหนใจป้า สนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับขนาดนี้
“นี่ พวกเธอต้องขอบคุณฉาวหนิงแล้วล่ะ พ่อของ ฉาวหนิงเป็นคนช่วยเงินสนับสนุน ! “หลีซีพูด
ครั้งก่อนหลังจากที่เธอไปฝ่ายการเงินกับฉาว หนิง ฉาวหนิงบอกว่าจะไปปรึกษากับพ่อดู วันถัดมาตอน ที่หลีซีไปขอเงินจากฝ่ายการเงิน ฝ่ายการเงินกลับให้ เงินเธอย่างง่ายๆ และยังบอกอีกมีว่าเงินเพียงพอ งาน เลี้ยงต้องใช้เงินเท่าไหร่ก็เอาไปเลย นี่ก็ชัดเจนแล้วว่า ฉาวหนิงเป็นคนไปขอ ให้พ่อเขาสนับสนุนทางมหาลัย
คนอื่นๆเมื่อได้ยินว่าครอบครัวฉาวหนิง เป็นคน ช่วยเงินสนับสนุน ต่างพากันชื่นชมฉาวหนิง และยิ่ง ยกย่องฉาวหนิงเข้าไปอีก
“ที่แท้ก็เป็นครอบครัวฉาวหนิงที่สนับสนุนเหรอ เนี่ย ฉันถึงบอกไงว่าทายาทเศรษฐีที่ใจป้าที่สุด ใน มหาวิทยาลัยเจียงหนานของเราก็คือฉาวหนิง”
“ฉาวหนิงสุดยอดไปเลย ! เงิน1,250,000นี้ สำหรับครอบครัวฉาวหนิงแล้วเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ วันหนึ่ง ครอบครัวฉาวหนิงหาเงิน1,250,000นี้ได้ตั้งไม่รู้เท่า ไหร่”
เมื่อได้ยินคนอื่นๆต่างสรรเสริญตน ฉาวหนิงก็ รู้สึกพึงพอใจมาก และพูดอย่างเรียบๆ : “ผมเป็นผู้ร่วม งานเลี้ยงนี่เหมือนกัน ออกเงินสนับสนุนเล็กๆน้อยๆก็เป็น เรื่องที่สมควร อีกทั้งนี้ก็เป็นครั้งแรก ที่ผมขึ้นเวทีร้องเพลงด้วยกันกับหลงหลิง ผมอยากให้มีเวทีและอุปกรณ์ ดีๆ”
หลงหลิงเมื่อได้ยินว่าที่เขาสนับสนุนงานเลี้ยงก็ เพื่อตนเช่นกัน ใจก็โอนอ่อนอย่างช่วยไม่ได้
ขณะเดียวกันหลีซีก็รับโทรศัพท์และวางไปจาก นั้นเขาก็พูดกับฉาวหนิงอย่างดีอกดีใจ : “ฉาวหนิง อธิการบดีมหาลัยได้ตกลงกันว่ารายการที่เป็นที่ยอมรับ มากที่สุด3รายการ ของช่วงท้ายงานเลี้ยงจะได้รับการ ชมเชย และอันดับที่1จะมีผู้สนับสนุนงานเลี้ยงในครั้งนี้ เป็นคนมอบรางวัล ! ”
“ผู้สนับสนุนงานเลี้ยงอะไรอีก พูดว่าพ่อของฉาว หนิงก็จบแล้วไหม”สาวร่าเริงคนหนึ่งพูดขึ้น
“ฉันว่าอับดับที่1ของงานเลี้ยงครั้งนี้ เป็นรายการ ของฉาวหนิงแน่นอน ตอนเขาขึ้นเวที คนด้านล่างต่าง คึกคักเจี๊ยวจ้าว รายการอื่นเทียบเขาไม่ติดสัก รายการ ! “หลีซีพูด
“แบบนี้ดีมากๆ”ฉาวหนิงพูดเรียบๆ เขามองหลง หลิงพลางคิด หากพ่อมอบรางวัลให้ตนและหลงหลิง นั่นดีสุดๆไปเลย เพราะจะได้แนะนำหลงหลิงให้พ่อได้ รู้จัก แบบนี้ต่อไปหากจะจีบหลงหลิงก็จะค่อนข้างง่าย
“ผู้สนับสนุนต้องขึ้นมอบรางวัลบนเวทีงั้นเห รอ ? “ฉินหลั่งพีมพำเบาๆ งั้นตัวเองก็ต้องขึ้นเวทีหนะสิ ไม่ได้ ถ้าขึ้นมอบรางวัลล่ะก็ เรื่องเงิน1.5ล้านยูโรต้องถึง หูโข่งลิ่งเสียนแน่ๆ แบบนั้นไม่เป็นผลดีต่อพ่อแม่มากๆ
ฉินหลั่งด่าทอในใจ ตนกำชับเรื่องที่เขาบริจาค เงินไว้แล้วแท้ๆ ผู้ช่วยมหาลัยนี้สมองกลวงรึยังไง ?
อีกด้านหนึ่ง ณ เคเอฟซี หลงเย็นรออยู่ที่นี่มา ชั่วโมงกว่าแล้ว ฉินหลังก็ยังไม่มา
หลงเย็นรอไม่ไหวแล้ว เธอจะโทรถามพี่สาวว่า มันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมาคิดว่า ตอนนี้พี่สาวคงกำลัง ทำการแสดงอยู่ จึงไม่ไปรบกวนเธอดีกว่า
หลงเย็นถอนหายใจอย่างหดหู และเตรียมจะ เรียกรถไปมหาวิทยาลัยเจียงหนานเอง เธอโบกมืออยู่ ข้างทางนานมาก แต่ก็เรียกแท็กซี่ไม่ได้สักคัน หลงเย็น จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเรียกรถผ่านแอปในมือถือ
และในขณะนั้นเอง ก็มีรถหวู่หลิงสีเทาขับมา ข้างๆหลงเย็น หลังจากมีเสียงดัง”ซ่า”ประตูรถก็เปิดออก
หลงเย็นตกใจมาก เห็นเพียงชายสวมหน้ากาก ร่างกำยำสองคนออกมาจากรถ และคว้าข้อมือหลงเย็น มืออีกข้างก็ปิดปากหลงเย็นไว้แล้วลากเธอเข้าไปในรถ และประตูก็ปิดลงเสียงดัง”ซ่า”ได้ยินหลงเย็นร้องเสียง แหลมออกมาจากรถ แต่ก็เงียบไป รถหวู่หลิงก็ขับออก ไปอย่างเร็ว
ในขณะที่ฉินหลั่งทำตัวไม่ถูก การแสดงรายการ สุดท้ายของงานเลี้ยงได้จบลงไปแล้ว พิธีกรบนเวทีพูด ออกมาเสียงดัง : “นักศึกษาทั้งหลาย งานเลี้ยงในค่ำคืน นี้ยอดเยี่ยมมาก ฉันได้ยินเสียงปรบมือ เสียงโห่ร้องของ พวกคุณดังสนั่น พวกเราได้เลือกรายการที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุด3รายการ จากเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้อง ของพวกคุณ ประกอบไปด้วยละครสั้น ( ครอบครัวของ เรา ) การร้องและเต้น ( up town funk ) และการร้อง และเต้น ( รูดี้ ) ลำดับต่อไปเรามามอบรางวัลให้พวก เขากัน”
ด้านล่างเวทีปรบมือดังสนั่น
และเริ่มทำการมอบรางวัล ผู้มอบรางวัลให้แก่ อันดับที่3คือ เลขาธิการของมหาวิทยาลัยเจียงหนาน ผู้ มอบให้อันดับที่2คืออธิการบดีชุยข่าย
ผู้ชมด้านล่างเวทิ้งนงงเล็กน้อย อธิการบดีชุยข่าย เป็นบุคคลสำคัญที่สุดในมหาลัย แต่เขากลับมอบรางวัล ให้แก่คนที่ได้อันดับที่2 งั้นคนที่มอบให้อันดับ1คือใคร กัน? หรือทางมหาลัยจะเชิญบุคคลลึกลับมา ?
ฉินหลั่งนั่งครุ่นคิดอยู่ด้านหลังเวที เขาตัดสินใจ
แอบย่องออกไป ยังไงซะตนก็เป็นแค่ผู้เต้นธรรมดาๆ ไม่มีความสำคัญอะไร ส่วนที่อีกสักครู่ไม่มีคนมอบรางวัล เขาไม่ได้คิดไว้
ฉินหลั่งกำลังแอบย่องออกไป ก็ได้ยินพิธีกรเรียก นักแสดงรายการพวกเขาขึ้นไปบนเวทีพอดี
“ฉินหลั่ง มาสิ จะมอบรางวัลแล้ว นายจะไป ไหน ! “จางเสี่ยวซานคว้าฉินหลั่งไว้ และต่งอี้ทั้งสองดัน ฉินหลั่งขึ้นเวที
เมื่อผู้ชมล่างเวทีเห็นหลงหลิงกับฉาวหนิงขึ้นเวที เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“นี่คือผู้ที่ได้อันดับที่1ของเราในค่ำคืนนี้ ( ร
ดี้ » ! ลำดับต่อไปเราขอเชิญตัวแทนออกมาพูดถึงความ รู้สึกในค่ำคืนนี้ ฉันว่าเรามาสัมภาษณ์ผู้ที่ได้รับความนิยม สูงสุด ฉาวหนิงกันเถอะค่ะ” พิธีกรยื่นไมค์ให้ฉาวหนิง
พวกผู้ชมรุ่นน้องพากันตะโกนคำขวัญของพวก เธอกันกึกก้อง : “ฉาวหนิงฉาวหนิง มีคุณมันดี จริงๆ ! “ตะโกนสามรอบถึงจะหยุด
“ขอบคุณการให้ความสนับสนุนของทุกคนครับ ผมดีใจมากที่ได้รับรางวัลที่1ของงานเลี้ยง แต่รายการ ของพวกเราในคืนนี้ยังคงมีจุดไม่ดีอยู่บ้าง เช่นนักแสดง ท่านหนึ่งของเรา ไม่รู้เพราะสาเหตุใด จู่ๆถึงหยุดเต้นไป ในช่วงสุดท้าย นี่จึงส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ในการแสดง ของพวกเรา”ฉาวหนิงอยากใช้โอกาสนี้ลดคุณค่าของฉิน หลั่งลง
หน้าจอรอบๆฉายฉากตอนที่พวกเขาทำการแสดง
ด้วย จึงเห็นฉินหลั่งได้อย่างชัดเจนว่าเขายืนแน่นิ่งอยู่ บนเวที
ผู้ชมล่างเวทีเห็นอย่างชัดเจนว่าฉาวหนิงพูดถึง คือใคร จึงเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที
“หมอนั่นทำลายการแสดงนี่ เขาไม่สมควรได้รับ รางวัล ! ”
“ใช่ ก่อนหน้านี้เขาก็ผลักฉาวหนิง คนคนนี้ต่ำ
ทรามสุดๆ”
“คนแบบนี้ตั้งใจทำร้ายฉาวหนิง เขาอยากทำลายการแสดงนี่ ! ”
มีผู้หญิงหัวรุนแรงคนหนึ่งดึงมือฉินหลั่ง : “ไอ้ หมอนี่ ลงมานะ แกไม่คู่ควรที่จะยืนกับฉาวหนิงและคุณ
หลง”
ผู้ชมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน :
“ลงมา ! ลงมา ! ลงมา !”
ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะโกรธ ตนทำผิดพลาดขณะ ทำการแสดง แต่ถึงอย่างนั้นมันเกินไปรึเปล่า ที่ผู้คน นับ2-3พันคนต่างพุ่งเป้ามาที่ตนเพียงคนเดียว แต่ถึงแม้ เขาจะหยิบไมค์มาพูดแก้ต่างให้ตัวเองในตอนนี้ คนพวก นี้ก็ยังคงไม่อภัยให้เขาอยู่ดี ฉินหลั่งยืนอยู่ที่เดิม คิด เพียงอยากรีบลงไปเร็วๆ
“เอาล่ะ ทุกคนอย่าโทษเขาเพียงคนเดียว ผมใน ฐานะที่เป็นคนรับผิดชอบการแสดงนี้ แต่ไม่ได้ดูแลเขา ผมก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ”ฉาวหนิงพูดอย่างยิ้มๆ แต่ หัวเราะเยาะในใจ
ล่างเวทีก็มีเสียงยกย่องดังขึ้นทันที
“ไม่เกี่ยวกับคุณฉาวหนิง”
“ฉาวหนิงแบกรับเกินไปแล้ว ถึงแม้คนคนนั้นจะ อยู่ในการแสดงรายการอื่น ก็คงเป็นแบบนั้น”
“ฉาวหนิงเป็นทายาทเศรษฐี แถมยังใจกว้างอีก เหนือกว่าหมอนั่นตั้งไม่รู้กี่เท่า”
พิธีกรยิ้มพลางพูดกับผู้ชมล่างเวที : “ทุกคนเงียบ หน่อย ลำดับต่อไปเรามามอบรางวัลกัน ทุกคนคงสงสัย ว่าแขกผู้มีเกียรติคือใครใช่ไหม ? เขาคือผู้สนับสนุนงาน เลี้ยงต้อนรับของเราในค่ำคืนนี้คุณฉิน ฉินหลั่ง ! ”
พิธีกรพูดเสร็จตัวเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ชื่อนี้ เหมือนเคยพูดมาก่อน ใช่แล้ว เป็นนักแสดงของรายการ นี้ เธอหันไปมองฉินหลั่งด้วยสีหน้าสงสัย
“ใคร..”เมื่อได้ยินชื่อฉินหลั่ง ฉาวหนิงก็ชะงักไป พ่อของตนเป็นสปอนเซอร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเป็นฉิน หลั่ง ?
เดี๋ยวนะ ทำไมฉินหลั่งชื่อนี้ถึงค้นๆนัก ฉาวหนิงม องฉินหลั่ง เห็นเขายืนอยู่ที่เดิมอย่างสงบ เขาก็หัวเราะ ในใจ ถึงไม่ใช่พ่อของตน ก็ไม่มีทางเป็นไอ้ขี้แพ้คนนี้แน่ ผู้สนับสนุนคงมีชื่อและนามสกุลเหมือนเขา
คนอื่นๆก็ตกใจเช่นกัน ทำไมสปอนเซอร์ถึงไม่ใช่ พ่อของฉาวหนิงล่ะ? พวกเขาก็คิดเหมือนฉาวหนิง ที่ว่า ผู้สนับสนุนคงชื่อและนามสกุลเหมือนฉินหลั่ง
พิธีกรไม่เห็นคุณฉินหลั่งเดินออกมา เลยพูดอีก
รอบ : “เชิญคุณฉินหลั่งขึ้นมามอบรางวัลค่ะ” แต่ก็ยังไม่เห็นใคร ฉินหลังยืนบนเวที ในใจขัด แย้งไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองควรยืนเฉยๆหรือเดินออกไปดี
“ฉินหลั่ง ไปมอบรางวัล รีบไปมอบรางวัลให้เรา สิ ! “จางเสี่ยวซานพูดหยอกล้อฉินหลั่งเบาๆ
“นายนี่โชคดีจริงๆนะเนี่ย ตั้งชื่อเหมือนเขาเป๊ะ เลย เขาสนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับ ส่วนนายล่ะทำ อะไร ? “ต่งอี้พูดเย้ยหยันเสียงเบาๆ
ในขณะนั้นเองอธิการบดีชุยข่าย เดินถือใบ ประกาศนียบัตรขึ้นมาบนเวที และเดินมาหาฉินหลั่ง พลางพูด : “คุณฉิน เราหาคุณอยู่ตั้งนาน ที่แท้คุณก็อยู่ นี่เอง ขออภัยที่เสียมารยาท การแสดงของคุณได้รับ รางวัลที่1 ยินดีด้วยนะครับ ใบประกาศนียบัตรผมเอามา เรียบร้อยแล้ว เชิญคุณมอบรางวัลให้ทีมของคุณครับ”