รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 205 ไปพิธีเปิดกับฉัน
บทที่ 205 ไปพิธีเปิดกับฉัน
“หลงหลิง ไม่ต้องตื่นตระหนกไป ฉันมาแล้ว” หยู หมิงกระโจนลงน้ำลงไปทันที เขาฝึกเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ เด็กๆ อยู่ในน้ำนั้นเขายังมีความยืดหยุ่นมากกว่าอยู่บน บกซะอีก ไม่ยังงั้นเขาก็คงไม่ให้ฉาวหนิงสร้างละครฉาก นี้ขึ้นมาโดยเฉพาะหรอก หยูหมิงคว้ามือของหลงหลิงไว้ แล้วก็ว่ายจนมาถึงฝั่ง หลงหลิงเผลิกลืนน้ำลงไป ก็โค้ง ตัวลงแล้วก็สำลักออกมา
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” หยูหมิงถามอย่างใส่ใจ
ตอนนี้หลงหลิงนอกจากตัวเปียกแล้ว ก็ไม่ได้มี ปัญหาอื่นๆอะไรร้ายแรง เธอพยักหน้าให้หยูหมิง “ฉัน สบายดี ขอบคุณนะ คุณชายหยู ถ้าเกิดว่าไม่ใช่คุณ ฉันก็ %3D คงจะ…”
“ห้ามพูดอะไรไร้สาระ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หยูห มิงยิ้มพร้อมกับพูด
มองไปที่ใบหน้าที่ถูกล้างเครื่องสำอางออกของ หลงหลิง บวกกับรูปร่างที่งดงามของเธอที่เห็นได้ชัด หลังจากตัวเปียก มือของหยูหมิงที่พยุงหลงหลิงอยู่นั้น ช่างอยากจะอุ้มเธอไปที่อ่างอาบน้ำของโรงแรมจริงๆ อาบน้ำด้วยกันเหมือนกับคู่รัก เขาใช้ฟันกัดริมฝีปากล่าง ของตัวเอง ถึงได้สามารถระงับความคิดที่ชั่วร้ายในใจ ของตัวเองได้
หยูหมิงมาส่งหลงหลิงที่หอพักหญิง หลังจากที่หลงหลิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็มาที่ริมทะเลสาบ เทียมกับหยูหมิงอีกครั้ง
“ผมบอกแล้วว่าคุณไม่ต้องมาแล้วก็ได้” หยูหมิง พูดอย่างเป็นห่วง หลงหลิงค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับ พูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็ถือว่าฉันอาบน้ำเย็นแค่นั้นเอง อาหารเย็นหมดแล้ว พวกเรารีบกินกันเถอะ”
หยูหมิงกับหลงหลิงเปิดกล่องข้าวออก อาหาร ทะเลมันเย็นแล้วจริงๆด้วย
พอคิดว่าเมื่อกี้คุณชายหยูยอมเสี่ยงชีวิตของตัว เองเพื่อช่วยชีวิตเธอ หลงหลิงก็รู้สึกว่าหยูหมิง ผู้ชายคน
นี้ช่างเป็นฮีโร่แล้วก็มีความรับผิดชอบจริงๆ เธอใช้ ตะเกียบคีบอาหารทะเลเข้าปาก ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึง ความซาบซึ้งใจจากอดีตที่ผ่านมานานได้เข้ามาปกคลุม ทั่วทั้งร่างกายของเธอ ในหัวของหลงหลิงปรากฏภาพ ร่างของคนๆหนึ่งที่ค่อนข้างคลุมเครือ
เธอตกลงไปในน้ำ แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งพุ่งลงมา โดยที่ไม่ได้ห่วงชีวิตของตัวเองเลย พยายามช่วยชีวิต เธออย่างสุดชีวิต ตะโกนเรียกเธอ แต่ว่าเธอมองเห็น หน้าผู้ชายคนนั้นไม่ชัด
คงเป็นคุณชายหยู เมื่อกี้เขาก็ช่วยฉันแบบนั้น แหละ!” หลงหลิงคิดอยู่ภายในใจ โดยที่ไม่รู้ตัว ก็มีน้ำตา ไหลออกมาจากดวงตาของเธอสองทาง หยดลงไปใน กล่องข้าว
“หลงหลิง เป็นอะไรไป?” หยูหมิงถามออกมาด้วยใจที่เต็มไปด้วยความสุข
“คุณชายหยู คุณเป็นถึงคุณชายของตระกูลอันดับ หนึ่งในหลินอานนี้ เมื่อกี้คุณถึงเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อช่วย ฉันด้วย ฉันซึ้งใจมาก” หลงหลิงมองหยูหมิงทั้งน้ำตา
“เพราะว่าคุณเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชาย ผมก็ต้อง ปกป้องคุณเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ต่อให้…ต่อให้ต้องเสีย ชีวิตเพราะเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรน่าเสียดายนะ” หยูหมิง พูดออกมาอย่าง “สบายๆ” เขารู้ดีว่าเวลาแบบนี้ถ้าเกิดว่า เปิดเผยความรู้สึกมากเกินไป กลัวว่าตัวเองจะปล่อยไก่ ดูจากลักษณะท่าทางของหลงหลิง เธอน่าจะมีความรู้สึก ดีกับเขามากขึ้นบ้างแล้ว ผ่านไปอีกไม่กี่วัน ทำตามขั้น ตอน ไม่นานก็คงสามารถคว้าหลงหลิงมาได้
“อ้อ ขอบคุณนะ ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมากจริงๆ” หลงหลิงยิ้มพร้อมกับพูด ในใจคิดว่าคุณชายหยูสมกับ เป็นคุณชายของครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เหมือนกับ ผู้ชายธรรมดาๆคนอื่นๆ น้องสาวเธอสามารถแต่งงานกับ คนแบบนี้ คือความโชคดีของเธอ
หลงหลิงกับคุณชายหยูนั่งกินอาหารทะเลด้วย กันที่ริมทะเลสาบจนเสร็จ หลงหลิงแค่รู้สึกว่าอาหาร ทะเลมื้อนี้มันอร่อยมากเป็นพิเศษ ดีกว่าอาหารอันโอซะ ใดๆที่เธอเคยกิน
เธอไปส่งหยูหมิงที่นอกประตูมหาลัย หยูหมิง สแกนจักรยาน และเตรียมจะกลับ
“คุณชายหมู วันนี้ขอบคุณมากนะที่เลี้ยงอาหารทะเลฉัน ฉันพึ่งค้นพบว่าฉันชอบกินมากเป็นพิเศษเลย” หลงหลิงยิ้มแล้วก็พูดขึ้นมา หยูหมิงกล่าวอย่างภาค ภูมิใจว่า “ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว เดี๋ยวต่อไปผมจะมามหาลัย พวกคุณบ่อยๆ แล้วก็เลี้ยงอาหารทะเลคุณ คุณอยากให้ ผมมาไหม?” หลงหลิงหน้าแดง รู้สึกว่าจะพูดว่าอยาก หรือไม่อยากก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก เธอค่อยๆ เหม่อลอย ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอะไรดี
“ฮ่าๆๆๆ ผมล้อเล่นเฉยๆ ไม่ว่าคุณจะอยากหรือไม่ อยาก แต่ผมก็จะมาอยู่ดี ขอแค่คุณไม่รังเกียจไอ้ขี้แพ้ แบบผมก็พอแล้ว!” หยูหมิงพูดอย่างเปิดเผยพร้อมกับคลี่ ยิ้ม
หลงหลิงเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นว่าภายใต้แสง อาทิตย์นั้น ก็เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของหยูหมิงนั้นมี ความสบายๆเป็นอิสระ เธออดไม่ได้ที่จะใจเต้น แล้วก็พูด ออกไปประโยคหนึ่งว่า “ฉันไม่รังเกียจคุณหรอก” หลัง จากพูดจบ เธอก็รู้สึกประหลาดใจในตัวเอง รีบก้มหน้าลง เขินอายจนไม่รู้ว่าต้องทำท่าทางยังไงดี
“บ้ายบาย!ผมไปแล้วนะ” ก็ได้ยินเสียงของหยูห มิงไกลไปเรื่อยๆ หลงหลิงก็เงยหน้าขึ้นมา หยูหมิงได้ ปั่นจักรยานออกไปอย่างสบายๆแล้ว หลงหลิงก็คลี่ยิ้ม ออกมาอย่างไม่รู้ตัว
หยูหมิงที่กำลังปั่นจักรยานอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียง สัญญาณในหูฟังว่า “คุณหลงหลิงหันหลังกลับไปแล้ว” หยูหมิงก็จอดรถ แล้วก็จอดจักรยานคันนั้นไว้ข้างถนน
และในทันใดนั้น ก็มีรถเบนซ์คันหนึ่งมาจอดข้างๆเขา ประตูรถเปิดออก หยูหมิงก็เดินขึ้นไป หม่าหยาง กำลังนั่งยิ้มอยู่บนรถ
“ฉันหยูหมิงเคยปั่นจักรยานตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แถมยังโดนคนด่าว่าไอ้ขี้แพ้อีก! คิดแล้วมันโมโห” หยูห มิงบ่นพึมพำ บนรถนั้นมีหญิงสาวอยู่คนหนึ่ง เธอรีบเข้า มาช่วยถอดเสื้อผ้าไอ้ขี้แพ้ออกให้หยูหมิงทันที
“คุณชายหยู เมื่อกี้ขอโทษด้วยนะครับ ผู้หญิง สามคนนั้นด่าเกินไปหน่อย” ตอนนี้เองฉาวหนิงเองก็วิ่ง มาถึงข้างรถ แล้วก็พูดกับหยูหมิง
“ช่างเถอะ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากจะจีบ หลงหลิงล่ะก็ ถ้าเกิดว่าใครกล้าพูดกับฉันเหมือนสามคน นั้นล่ะก็ ฉันจะยึดบ้านพวกมันซะ” หยูหมิงพูดด้วยความ โกรธ
หญิงสาวคนนั้นช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หยูหมิง เรียบร้อยแล้ว หยูหมิงนั่งอยู่บนเบาะ หม่าหยางยิ้มแล้วก็ พูดกับเขาว่า “คุณชายหยู ดูจากสีหน้าของคุณหลงแล้ว เธอน่าจะเริ่มตกหลุมรักคุณแล้วนะ”
“อืม พวกนายบอกว่าหลงหลิงตีบยาก ตอนเริ่ม
แรกฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าหลังจากผ่าน
เหตุการณ์เมื่อตอนเช้ามา ฉันก็พบว่าที่จริงแล้วมันง่ายจะ
ตาย” หยูหมิงพูดอย่างภาคภูมิใจ หม่าหยางนั่งยิ้มอยู่ข้างๆ แต่ในใจกลับพูดว่า “ถ้า เกิดว่าไม่มีไดอารี่เล่มนั้น นายก็คงเหมือนฉันนั่นแหละ แม้แต่ข้าวมื้อเดียวก็ยังไม่ทันได้กิน ก็โดนคุณหลงหลิงปฏิเสธมาแล้ว”
“ดูจากผลวันนี้แล้ว ไม่น่าจะผ่านไปเกินครึ่งเดือน คุณชายหยูต้องได้หลงหลิงมาแน่นอน” หม่าหยางยิ้ม พร้อมกับพูด
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่พอฉันนึกถึงเรื่อง พวกนั้นที่อยู่ในไดอารี่ ฉันก็ปวดหัวแล้ว ฉันล่ะไม่เข้าใจ ไอ้ ฉินหลั่งที่อยู่ในไดอารี่เล่มนั้นจริงๆเลยว่ามันเป็นไอ้ ขี้แพ้ขนาดไหนกันแน่ ถึงได้ทำเรื่องมหัศจรรย์อะไรได้ ขนาดนั้น” หยูหมิงบ่น
“คุณแค่ต้องอดทนหน่อย ยังไงก็เพื่อให้ได้มาซึ่ง สาวงามไม่ใช่เหรอ” หม่าหยางยิ้มพร้อมกับพูด
หยูหมิงถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรง แล้วก็ ครุ่นคิดพลางพูดว่า “ทั้งหมดก็เพื่อหลงหลัง ขอแค่ฉัน ได้คุณหลงหลิงมา จะทำอย่างไรก็ถือว่าคุ้มค่า”
ผ่านไปหลายวัน ฉินหลั่งอยากจะตามหาเถียนซิง เพื่อเอาไดอารี่คืน แต่ว่าไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนกัน เขาเองก็ ไปหาหลงหลิงสองครั้ง แต่ว่าหลงหลิงเมินเขา ฉินหลั่ง รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ได้แต่มองเธออย่างเงียบๆอยู่ ข้างๆ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาดีใจก็คือ เหมือนกับว่าฉาว หนิงจะไม่ค่อยมาหาหลงหลิงแล้ว
ฉินหลั่งก็สบายใจขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ทุ่มเท พลังงานให้กับวิชาการ ทุกๆวันช่างผ่านไปอย่างอุดม สมบูรณ์มาก
เอเชียนเกมส์ในหลินอานมาถึงกำหนดแล้วหลายวันมานี้ในเมืองหลินอาน คณะผู้แทนกีฬาจาก ประเทศต่างๆเดินทางมาถึงที่นี่ สถานีโทรทัศน์แพร่ภาพ ข่าวการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ในเมืองหลินอานก็ได้ เริ่มมีการควบคุมต่างๆ โดยเฉพาะในวันเปิดพิธี การ ควบคุมเป็นไปอย่างเข้มงวด ไม่ใช่เพียงแค่บางจำนวน เท่านั้น แต่ว่าตำรวจจราจรทุกนายถูกส่งไปอำนวยความ สะดวกบนท้องถนน
ตอนบ่ายวันนั้นฉินหลั่งกำลังอ่านหนังสืออยู่ใน ห้องสมุด จู่ๆก็มีคนมาตบไหล่ของตัวเอง ฉินหลั่งเงย หน้าขึ้นมอง ก็พบว่าผู้โยวยืนยิ้มกว้างและมองตัวเองอยู่ ฉินหลั่งติดเชื้อรอยยิ้มที่สดใสของเธอ ก็คลียิ้มตามมา
“วันนี้เธอต้องไปงานพิธีเปิดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึง ยังมีเวลามาหาฉันได้อีกล่ะ?” ฉินหลั่งเอ่ยปากถาม “ใช่ ตอนนี้ฉันต้องไปศูนย์กีฬาโอลิมปิกแล้วนาย
พอจะมีเวลา ไปกับฉันไหม?” ผู้โยวพูด
“เอ่อ…เธอไปทำงาน ฉันไปที่นั่นคนเดียวต้องเบื่อ มากแน่ๆ ฉันว่าฉันไม่น่าไปดีกว่า .. .” ฉินหลั่งนึกถึงตอน ที่ออกมาจากศูนย์กีฬาโอลิมปิกเมื่อครั้งที่แล้ว ตอนนี้กิน ข้าวอยู่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าผู้โยวจะคิดอะไรกับเขาช่วงนี้ ก็เลยตั้งใจรักษาระยะห่างกับเธอหน่อย
“ฉันคิดว่านี่เป็นสิ่งที่มีความหมายมากในชีวิตของ ฉัน ก็เลยอยากให้คนสนิทไปเป็นเพื่อน ตอนนี้พ่อ แม่ก็ อยู่ที่บ้านเก่ากันหมด ถ้าเกิดว่านายไม่ไปเป็นเพื่อนฉัน ฉันต้องรู้สึกโดดเดี่ยวมาก…”ระหว่างที่ผู้โยวพูดอยู่นั้น สายตาของเธอก็ดูคับข้องใจอย่างมาก
ฉินหลั่งเห็นท่าทางผิดหวังของเธอ ก็อดไม่ได้ที่ จะใจอ่อน เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “โอเค ฉันไปกับเธอ เอง ไปดูการแสดงพิธีเปิดก็ดีเหมือนกัน”
ผู้โยวรู้สึกดีใจ เธอหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ฉัน น่ะเป็นแค่อาสาสมัครเล็กๆ ไม่ได้มีตัวหรอก ไปที่สนาม กีฬา ก็ทำได้แค่ยืนอยู่หน้าประตูเท่านั้น ถ้าเกิดว่านาย อยากดูการแสดงล่ะก็ น่าจะมองไม่เห็นหรอกนะ ฉันให้ โอกาสนายกลับใจอีกครั้ง ยังอยากจะไปกับฉันอยู่ไหม?”
ฉินหลั่งฟังเธอล้อเล่นกับเขาอย่างไม่ทันคิด ก็อด ไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนงง ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ต่อ ผู้โยวเห็นท่าทางของฉินหลั่ง ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ออกมาเบาๆ
“ฉันว่าหน้าตานายก็ออกจะดูฉลาด แต่ทำไมปาก ถึงได้ดูโง่ขนาดนั้นล่ะ? แม้แต่พูดกับผู้หญิงยังทำไม่ได้ หรอก ไม่แปลกใจว่าทำไมยังโสดจนถึงตอนนี้ สมควร ตายจริงๆ!” หลังจากพูดจบ จู่ๆฝู้โยวก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แก้มเธอก็มีสีแดงระเรื่อบางๆ “โอเค พวกเรารีบไปกัน เถอะ ไปถึงที่นั่นแล้วยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะมาก เลย”
หลังจากพูดจบ ผู้โยวก็ดึงฉินหลั่งเดินออกมาจาก ห้องสมุด เรียกรถด้านหน้ามหาลัย แล้วก็ไปที่ศูนย์กีฬา โอลิมปิกทันที
บนรถแท็กซี่ ผู้โยวกับฉินหลั่งก็คุยเกี่ยวกับงานเลี้ยงต้อนรับก่อนหน้านี้ เรื่องที่ฉินหลั่งบริจาคเงินกว่า 1.5 ล้านยูโรให้กับมหาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้ ผู้โยวก็เคย ถามฉินหลั่งมาแล้ว แต่ว่าฉันหลั่งโกหกเธอว่า สาววัย กลางที่เจอในโรงแรมKempinski คนนั้นเห็นว่าเขาน่า สงสาร ก็เลยให้เงินเขามาเยอะขนาดนี้ เขารู้สึกไม่ สบายใจ ก็เลยบริจาคเงินให้มหาลัยไป ผู้โยวก็เชื่อเขา
“นายก็คิดได้เนอะ ถ้าเกิดว่าเอาเงินมาให้ฉัน
1.5ล้านยูโรล่ะก็ ฉันต้องเอาให้พ่อแม่ฉันแน่นอน หลัง จากนั้นก็ซื้อห้องสักห้องหนึ่ง แล้วก็กินค่าเช่าไป ชีวิต แบบนั้นไม่รู้ว่ามันจะดีขนาดไหนกัน” พอลงจากรถ ผู้โย วกับฉินหลั่งก็เดินไปที่ศูนย์กีฬาด้วย แล้วก็พูดคุยกันไป ด้วย
ทั้งสองคนมาถึงจัตุรัสรอบสนามกีฬาอย่างรวดเร็ว ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 2-3ชั่วโมงกว่าจะถึงงานพิธี เปิด ที่จัตุรัสนั้นมีคนเยอะมาก ชูธงแต่ละประเทศ บาง ส่วนก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนบางส่วนก็ได้เดินเข้า สนามแล้ว
รถขายอาหารจอดอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของ จัตุรัส คนจำนวนมากก็ล้อมรอบอยู่หน้ารถอาหาร
ฉินหลั่ง ใน เขาจำได้ว่านั้นคือรถอาหารของหลินจู
ก็พูดกับผู้โยวว่า “ผู้โยวอยู่นั่น พวกเราไปดูกันเถอะ!” ฉินหลั่งกับผู้โยวเบียดเข้าไปในกลุ่มคน แล้วก็ เห็นหลินจูที่กำลังทำแพนเค้กอยู่ในรถอาหาร ฉันเห็น
เธอกำลังกลับด้านแพนเค้กบนกระทะด้วยพลั่ว ปากก็
ร้องตะโกนว่า “แพนเค้กธัญพืชที่ทั้งหอมและกรอบ แพนเค้กสไตล์จีนแท้ๆเลยค่า….”
บนรถขายอาหารยังมีผู้ชายผอมๆอยู่อีกคนหนึ่ง เขาทำงานที่ฉินหลั่งเคยทำมาก่อน ซื้อขายเครื่องดื่ม และขนม
“หลินจู ! ” ฉินหลั่งเรียกเธออย่างตื่นเต้นและดีใจ
พอได้ยินเสียงฉินหลั่ง หลินจูก็ตัวสั่นทันที เธอ เงยหน้าขึ้นมองฉินหลั่ง แล้วก็คลี่ยิ้มออกมาทันที “ไอ้ข้ แพ้ นายนั่นเอง!”
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ฉินหลั่งถามอย่างดีใจ
หลินจูยิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้เป็นพิธีเปิดเอเชียน เกมส์ คนมาที่นี่ตั้งเยอะตั้งแยะ ฉันก็ต้องมาแน่นอนอยู่ แล้วสิ ตอนนี้ฉันขายได้ 2-3พันแล้วนะ!”
ผู้โยวสีหน้ามืดมน กระซิบบอกกับฉินหลั่งว่า
“พวกนายคุยกันไปนะฉันไปทำงานก่อน เดี๋ยวนายมาหา
ฉันที่ทางเข้าE-2นะ ถ้าเกิดว่าไม่มีเวลาก็ไม่ต้องมาก็ได้”
หลังจากพูดจบ ผู้โยวก็ยิ้มจางๆ แล้วก็เดินออกไป
“อุ้ย เพื่อนเก่านายโกรธแล้ว ยังไม่ไปง้ออีกล่ะ!” หลินจูส่งแพนเค้กให้ลูกค้า แล้วก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วก็ พูดกับเขา
“เธออย่าพูดอะไรมั่วๆน่ะ พวกเราก็แค่เพื่อนกัน…” ฉินหลั่งพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ ระหว่างที่พูดนั้น ก็เดิน เข้าไปในรถขายอาหาร แล้วก็ช่วยหลินจูขายของไปด้วย คุยกับเธอไปด้วย
ท่ามกลางผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆรถขายอาหารนั้น ต่างก็มีผู้คนจากหลากหลายประเทศ พวกเขาก็รู้ว่าตัว เองอยู่ที่ต่างประเทศ ตอนที่ซื้อของนั้น ส่วนใหญ่ก็ใช้ ภาษาอังกฤษ บางส่วนก็ใช้ภาษาจีนที่ค่อนข้างจะย่ำแย่
“Sayamahusatupakejtisumint-rasa”mauŭ เอง ก็มีชายไว้เคราคนหนึ่งสวมหมวกสีขาวเดินไปหน้า รถขายอาหาร แล้วก็พูดกับฉินหลั่ง