รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 209 ถึงเวลากำหนดความสัมพันธ์แล้ว
บทที่ 209 ถึงเวลากำหนดความสัมพันธ์แล้ว
“อ้อ พวกนายยังมีคนไม่อยากจะยอมรับผิดอยู่ นะ!” หลินจูเหล่มองหม่าหยางกับเถียนซิง ยิ้มพร้อมกับ พูดว่า “ดูเหมือนว่าพวกเขาสองคนจะเป็นหัวโจกซะด้วย สิ ในเมื่อพวกเขาไม่อยากยอมรับล่ะก็ ฉันว่าพวกเราก็ไม่ ได้มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว แต่ว่าผลที่ตามมาของ พวกนายคืออะไร พวกเราก็คงจะยุ่งด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ ฉินหลั่ง พวกเราไปกันเถอะ!”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น หลินจูก็ดึงมือฉินหลั่งกับผู้โย วเตรียมจะออกไปข้างนอก
ทันใดนั้นก็มีเสียงของผู้คนดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ของพวกเขา
“คุณฉิน อย่าไปนะ”
“คนสวยทั้งสองคนอย่าไปนะ!”
“ให้โอกาสพวกเราครั้งหนึ่งเถอะ”
หลินจูยิ้มอย่างพึงพอใจให้ฉินหลั่งกับผู้โยว แล้ว ก็หันหน้ามา พร้อมกับจงใจทำสีหน้าขมขื่น “แต่ว่าพวก เขาไม่ยอมคุกเข่า แล้วนายคิดว่าพวกเราจะเห็นความ จริงใจของพวกนายได้ยังไงกัน?”
ทุกคนมองไปที่เถียนซิงและหม่าหยาง บางคนก็ เริ่มกระซิบกระซาบ
“คุณชายหม่า คุกเข่าเถอะครับ”
“อย่าลากทุกคนเข้ามาด้วยเลย คุกเข่าเถอะ”
“ถ้าไม่คุกเข่าก็ไม่ดีกับคุณเหมือนกันนะ”
หม่าหยางบ่นอุบอิบอยู่กับตัวเอง ส่วนเถียนซิงถึง แม้ว่าเธอจะกลัว แต่ว่ารู้สึกว่าเธอมีคุณชายหม่าเป็นที่พึ่ง พิง ให้เธอคุกเข่าให้ฉินหลั่งกับผู้โยวงั้นเหรอ? เธอจะทน ได้ยังไงกัน?
เธอลุกขึ้นแล้วก็ตะโกนออกมาเสียงดัง “ให้ฉัน คุกเข่าให้ไอ้พวกขี้แพ้นี่ ไม่มีทางหรอก พวกมันต้องถูก ฉันเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าตลอดไป พวกมันอยู่ต่อหน้าฉัน ไม่ใช่แม้แต่ตดด้วย…”
“เพียะ!”
เถียนซิงกำลังตะคอกอยู่ ทันใดนั้นหม่าหยางก็ลุก ขึ้นยืน มื้อทั้งสองข้างตบลงไปบนหน้าของเถียนชิง เมื่อ ก็้เขากำลังลังเลอยู่ว่าควรจะคุกเข่าหรือไม่ดี แต่พอได้ ยินเถียนซิงพูดสิ่งที่จะยั่วให้ฉินหลั่งโกรธได้ ถ้าเกิดว่า ฉินหลั่งให้พนักงานข้าราชการในมณฑลเจ้อเจียงมา จัดการบริษัทของครอบครัวเขา เพราะว่าเขามีคำสัญญา จากท่านผู้นำแล้ว ทีนี้บริษัทของครอบครัวเขาก็อาจจะ เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่จากเรื่องนี้!
เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากเลย เขาตบหน้าเถียนซิง ให้เธอหุบปาก!
“คุณชายหม่า….” เถียนซิงเอามือกุมหน้าของตัว เอง เธอไม่มองหน้าหม่าหยางอยากไม่อยากจะเชื่อ
หม่าหยางไม่ได้พูดอะไร เขาถอนหายใจออกมา อย่าแรง แล้วก็คุกเข่าลงกับพื้น หม่าหยางกัมหน้าลง ใบหน้าแดงแจ๋ รู้สึกอัปยศเป็นอย่างมาก!
ตอนนี้ทั้งสถานที่นั้นมีเพียงแค่เถียนชิงเท่านั้นที่ ยังไม่คุกเข่า ก่อนหน้านี้เพราะว่าทุกคนกลัวคุณชายหม่า ก็เลยไม่มีใครกล้าว่าอะไรเธอ ตอนนี้คุณชายหม่าก็ยอม คุกเข่าแล้ว คนอื่นๆก็ไม่สนใจเถียนซิงอีกต่อไปแล้ว แต่ละคนต่างพากันตะโกนด่ากันออกมาเสียงดัง
“เถียนซิง คุกเข่า!”
“คุกเข่าสิ ยัยผู้หญิงซวย”
“อยากทำให้พวกเราเดือดร้อนรียังไง?”
ผู้ชายที่คุกเข่าอยู่ข้างๆเถียนซิงนั้น แอบผลักเข่า ของเธอ เถียนซิงรักษาสมดุลไม่ได้ ก็เลยล้มลงคุกเข่าที่ พื้นดัง “ผลัก”
“อึม ไม่เลว ไม่เลว!” หลินจูยิ้มอย่างภูมิใจ
ฉินหลั่งกับผู้โยวมองหน้ากัน แล้วก็พากันยิ้ม อย่างขมขื่น พวกเขาคิดเหมือนกันว่า หลินจูคนนี้นี่ สามารถจัดการคนได้อยู่หมัดเลยนะ
“พวกเราก้าวไปด้านหน้า!” หลินจู ฉินหลั่งและผู้ โยวเดินเข้าไปด้านหน้า นั่งลงบนเก้าอี้อย่างวางท่า
หลินจูพูดกับฉินหลั่งว่า “โอเค ฉันจัดสถานที่ให้ นายละ ก่อนหน้านี้พวกเขาด่าฉันกับผู้โยว ตอนนี้นาย ต้องทำเพื่อพวกเรา ดูหน่อยซิว่านายจะจัดการเรื่องหมาๆ แบบนี้ยังไง!”
ฉินหลั่งมองผู้โยว เมื่อเห็นว่าไม่มีความขุ่นเคือง บนใบหน้าของเธอเลย ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าคนพวกนี้ได้ รับบทลงโทษพอแล้ว”
ฉินหลั่งยิ้มจางๆแล้วก็มองหน้าหลินจู พร้อมกับ พูดเสียงเบาว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเราก็คือ ศักดิ์ศรี เธอให้พวกเขาคุกเข่าให้เรา สำหรับพวกเขา แล้ว มันรุนแรงกว่าตบตีพวกเขาอีกหลายเท่า ฉันว่า ปล่อยพวกเขาไปได้แล้วแหละ?”
เดิมที่หลินจูตื่นเต้นที่จะได้ฟังสิ่งที่ฉินหลั่งคิดว่า เป็นความคิดที่ดี แต่พอได้ยินว่าเขาอยากจะปล่อยคน พวกนี้ไปแบบนี้ ก็ถลึงตาใส่ฉินหลั่ง แล้วก็ด่าว่า “นายนั่น แหละที่ควรจะโดนดี!”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปทางอื่นด้วยความ โกรธ ไม่สนใจฉินหลั่งอีก
ฉินหลั่งมองหน้าเถียนซิง เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า เธอ มองลงไป แล้วพูดว่า “เถียนซิง เธอเผาไดอารี่ที่ฉัน รักที่สุดไป และเมื่อกี้คนอื่นๆก็ได้รับการยั่วยุจากเธอและ หม่าหยาง ถึงได้โจมตีพวกเราด้วยคำพูด อยากจะไล่ พวกเราออกไป เพื่อนร่วมชั้นเก่าของเธอนี่ช่าง “ดี” จริงๆ เลยนะ”
หลังจากพูดจบ ทันใดนั้นก็มีเสียงดัง “เพรยะ เพี ยะ เพียะ เพียะ” ดังขึ้นสี่ครั้ง ใบหน้าของเถียนซิงหันไป ทางซ้ายและขวา เกือบจะเป็นลมจู่ๆเธอก็โดนตบซ้าย ตบขวาถึงสี่ครั้ง
เถียนซิงกุมใบหน้าที่โดนตบจนเจ็บปวดของตัว เอง แล้วก็มองหน้าฉินหลั่งอย่างเย็นชา แต่ว่าเธอก็ไม่ กล้าพูดอะไร เธอกลัวว่าถ้าเกิดว่าเธอด่าฉินหลั่งอีกครั้ง ฝ่ามือของหม่าหยางหรือคนอื่นๆจะตบลงบนหน้าของตัว
เองก่อน ฉินหลั่งพูด “สองครั้งนั้นฉันตบแทนผู้โยว ต่อไป ถ้าเกิดว่าดูถูกเธออีกล่ะก็ ให้ระวังหน้าตัวเองไว้ให้ดีๆนะ
ฉินหลั่งเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณชายหม่า คุณชายหม่าใจสั่น กัมหน้าลง หวังเพียงให้ฉินหลั่งเดิน ผ่านตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เขากำลังเพ้อฝันอยู่นั้น ตรงหน้าก็มองเห็น เงาดำๆ คุณชายหม่ารีบหดตัวทันที จู่ๆก็รู้สึกแสบจมูก เขาโดนฉินหลั่งต่อยไปที่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นแล้วก็คว่ำลง ไปที่พื้น
คุณชายหม่ามึนงงอยู่ไปชั่วขณะ เมื่อสติกลับคืน มา ก็มีกำเดาไหลออกมาจากจมูกของเขาแล้ว
ฉินหลั่งกลับไปหาหลินจูแล้ว
หลินจูปรบมือพลางหัวเราะ: “ทั้งสองคนที่สุด ยอด! ไอ้ขี้แพ้ ทำได้ดีจริง!”
ฉินหลั่งพูดกลั้วหัวเราะ: “ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเราไปกันเถอะ”
ฉินหลั่งถือกระเป๋าของผู้โยวเดินออกไปด้านนอก พร้อมกับหลินจูและผู้โยว คนทั้งโถงรีบคุกเข่าลงเพื่อที่ จะเปิดทางให้ฉันหลั่งพาพวกเขาเดิน เพื่อให้ทั้งสามเดิน ออกไป
หลินจูกลับมาที่รถเข็นอาหารอีกครั้ง ฉินหลังกับฝู้ โยวบอกลาเธอ ก่อนทั้งสองจะเรียกรถแท็กซี่ เมื่อกลับ ถึงโรงเรียนแล้วฉินหลั่งก็ไปส่งผู้โยวที่หน้าหอพักหญิง
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานพิธีนั้น ผู้โยวรู้สึก ซาบซึ้งในตัวฉินหลั่งมากๆจึงเอ่ยพูดขึ้น: “วันนี้ขอบคุณ นายมากๆเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะ ต้องเจอกับอะไรบ้าง”
ฉินหลั่งยิ้ม: “ถ้าอยากจะขอบคุณก็ขอบคุณหลินจู เถอะ อีกอย่าง เธอกับฉันก็เป็นเพื่อนนักเรียนกันมาตั้ง หลายปียังจะมาขอบคุณฉันอีก นี่เธอเห็นฉันเป็นคนอื่น คนไกลหรืออย่างไร?”
ผู้โยวหน้าแดงเรื่อ ค่อยๆก้มหน้าลง พูดเสียงแผ่ว เบา : “ฉันไม่ได้บอกว่านายเป็นคนอื่นไกลเสียหน่อย”
พูดจบ ใบหน้าของเธอก็ยิ่งแดงขึ้น รีบบอกลา ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นหอไป
ฉินหลั่งชะงักเล็กน้อย ส่ายหน้าก่อนจะหันตัวกลับ ไปที่หอพักของตัวเอง
ในเวลานี้เองหยูหมิงก็กำลังอยู่ที่บ้านของตน นอนอ่านไดอารี่ของจงยู่อยู่บนเตียง หลายวันนี้เขาได้ทำพล็อตเรื่องแนวเสียดสีตามในไดอารี่และใช้พล็อต เป็นการทำให้ความสัมพันธ์กับหลงหลิงคืบหน้าขึ้นอย่าง รวดเร็ว
โดยอาศัยที่หยูหมิงรู้จักหญิงสาวมานาน เขาจึงรู้ ถึงความสัมพันธ์ที่แน่ชัดของหลงหลิง
หยูหมิงอ่านไดอารี่ ที่เตรียมที่จะทำพล็อต นั่นก็ คือตอนที่จงยู่ก็อยู่ที่โรงเรียนถูกพวกเจิ้งเย่นรังแกจาก นั้นก็ถูกพาตัวไปที่แก๊งชิงหลง!
หยูหมิงอ่านเรื่องราวนั้นเสร็จจงยู่กับฉินหลั่งจะ ต้องคบกันเป็นแน่แท้ เขารู้สึกว่าตัวของเขากับหลงหลี งก็ควรที่จะมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนบ้าง เมื่อปิดไดอารี่ลง แล้ว หยูหมิงก็แสยะยิ้มขึ้นก่อนจะพูด: “คุณหลงหลิง พรุ่งนี้ฉันจะสารภาพรักกับเธอ อย่างไรเสียเธอก็อย่าได้ ปฏิเสธฉันเลยนะ”
วันต่อมา หลงหลิงไปถึงหน้าโรงเรียนแต่เช้าตรู่ หยูหมิงบอกเธอว่าอยากจะพาเธอไปเดินเล่นที่ทะเลสาบ ตะวันตก
หลงหลิงดีใจมาก หลายวันมานี้ หยูหมิงเอาแต่ หมกมุ่นอยู่กับชีวิตของพวกคนชั้นต่ำ เธอกับหยูหมิงผ่าน อะไรมาด้วยกันเยอะแยะ อย่างการที่หลงหลิงอยู่ที่โรง อาหารแล้วถูกรังแก หยูหมิงก็ตามไปเอาขวดไวน์ฟาด อีกฝ่าย ท้ายสุดเขาก็นั่งคุกเข่าลงกับพื้น และเก็บกวาด ให้เรียบรร้อย เขาบริจาคเงินให้แก่สภากาชาดกว่า 130,000หยวน ไม่มีใครเชื่อ ท้ายสุดหยูหมิงจึงบริจาค ไปอีก1,000,000หยวน ทุกคนต่างก็ตกใจไปตามๆกัน..
หลงหลิงจะไปคิดได้ยังไงว่าทั้งหมดนั้นหยูหมิง เอามาจากไดอารี่แล้วก็บอกให้ทุกคนร่วมมือกันแสดงขึ้น มา
แต่หลงหลิงกลับรู้สึกว่า เมื่อเธอได้อยู่กับหยูหมิง นั้นแม้แต่บรรยากาศรอบตัวก็อบอุ่นขึ้นมา
“หลงหลิน ฉันมาแล้ว!” หยูหมิงที่แต่งตัวเหมือน ไอ้ขี้แพ้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของหลงหลิง หน้าผากของ เขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
“นายบอกว่านายเป็นลูกพี่ลูกน้องของตระกูล หลินอาน แต่ต้องใช้ชีวิตตกต่ำแบบนี้ ไม่เหนื่อยเหรอ?” หลงหลิงมองดูใบหน้าชุ่มเหงื่อของหยูหมิง ในใจเจ็บ ปวดสงสาร เธอหยิบทิชชูออกมาเช็ดเหงื่อให้หยูหมิง
หลังจากสิบกว่าวันมาแล้วนี้ หลงหลิงก็ไม่ได้มี ท่าที่ระมัดระวังเป็นพิเศษเหมือนก่อนหน้า
“เหนื่อยสิ แต่มีเธอคอยเช็ดเหงื่อให้แบบนี้ ถึงจะ เหนื่อยยังไง มันก็คุ้ม!” หยูหมิงมองหลงหลิงพลางพูด กลั้วยิ้ม
หลงหลิงใบหน้าแดงเรื่อ ช่วยหยูหมิงเช็ดเหงื่อ นั้น เริ่มแรกเดิมที่หัวใจก็หวานฉ่ำ แต่ต่อจากนั้นก็เศ้า หมอง เธอควบคุมตัวเองไม่ให้คิดไปเรื่อยเปื่อย คุณชาย หยูเป็นคู่หมั้นของน้องสาวเธอแล้วเธอจะมาเช็ดเหงื่อให้ แบบนี้ได้อย่างไร
หยูหมิงจอดจักรยานเสร็จ ก็พูดกับหลงหลิง: “ไป กันเถอะ เราเรียกรถไปเที่ยวทะเลสาบตะวันตกกันเถอะ”
หยูหมิงกับหลงหลิงเรียกรถแท็กซี่มาถึงจุดชมวิว ของทะเลสาบตะวันตก ด้วยเพราะเอเชี่ยนเกมส์ นักท่อง เที่ยวที่มาที่นี่จึงมากกว่าปกติ
หยูหมิงเดินเล่นอยู่กับหลงหลิงที่ทะเลสาบตะวัน ตก ความงามของทะเลสาบตะวันตกนั้นเป็นหนึ่งไม่เกิน ใคร โดยไม่รู้ตัว เวลาก็ผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน
หยูหมิงให้หลงหลิงนั่งรออยู่ที่เนินหิน ส่วนเขาก็ ไปซื้ออาหาร
หยูหมิงเดินห่างออกไปแล้ว แต่เขาไม่ได้ไปที่ ร้านอาหาร กลับเข้าไปซุ่มอยู่ที่พุ่มป่า
ฉาวหนิงมารออยู่ที่นี่นานแล้ว นอกจากเขาก็ยังมี หญิงสาวสามคนที่เยาะเย้ยเขาก่อนหน้านี้ที่”สือจืออีห ยู”ของมหาวิทยาลัยเจียงหนาน
เมื่อหญิงสาวทั้งสามเจอหยูหมิงเข้า ก็รีบกัมหัว ลงทันที: “คุณชายหยู ขอโทษด้วยค่ะ”ครั้งก่อนเราผิด ไปแล้ว” “ขอประทานอภัย”.
“เอาหล่ะๆช่างเถอะ!”หยูหมิงบอกพลางสายมือ หันไปถามฉาวหนิง: “นายบอกพวกหล่อนชัดเจนแล้วใช่ มั้ย?”
“เรียบร้อยแล้วครับ”ฉาวหนิงกล่าวอย่างสุภาพ
“งั้นก็ดี!” หยูหมิงมองไปยังทั้งสามก่อนจะพูด “อีกครู่ก็ให้ทำตามที่คุณชายฉาวได้มอบหมายพวกเธอ เอาไว้ ไม่ต้องสนใจฉันที่อยู่กับคุณหลงเข้าใจมั้ย?”
“คะ ค่ะ ..” ทั้งสามรับคำด้วยความหวาดกลัว
“โอเคงั้นพวกเธอก็ไปได้แล้ว!”หยูหมิงพูดจบ ทั้ง สามก็เดินตรงไปหาหลงหลิงที่อยู่ข้างทะเลสาบ
หลงหลิงกำลังทอดมองไปยังเงาสะท้อนของ ทะเลสาบ จู่ๆก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงดังมาจากด้านหลัง: “หลงหลิง!”
หลงหลิงหันหลังกลับมามอง ก่อนหน้าที่หยูหมิง จะมาหาตนที่โรงเรียน ครั้งนั้นมีหญิงสาวสามคนชอบมา หาเรื่องว่าหยูหมิงพูดจาส่อเสียด แต่พวกหล่อนก็ไม่ ถึงใจ ตรงกันข้ามยังคับข้องใจกับคุณชายหยูมากยิ่งขึ้น และสามคนที่กำลังเดินมาหาเธอนั้นก็คือพวกหล่อนสาม คนนั้นเอง
“พวกเธอทำอะไรหนะ?” หลงหลิงถามขึ้นด้วยใจ ที่ตื่นตระหนก
“ฉันเห็นเธอกับไอ้ยาจกนั่นอยู่ด้วยกัน! เธอนี่มัน หน้าไม่อายเสียจริง”หญิงอวบที่รับบทเป็นเจิ้งเย่นเริ่มพูด ขึ้นก่อน
จากนั้นก็เหมือนกับที่มหาวิทยาลัยจีนหลิง ทั้ง สามหาข้ออ้างและผลักหลงหลิงลงในน้ำ แน่นอนหล่ะ ครั้งนี้เธอไม่ได้กดหลงหลิงลงไปใน น้ำ ทั้งสามได้แต่ยืน หัวเราะเยาะอยู่ที่ข้างฝั่ง
“หลงหลิง!”หยูหมิงตะโกนขึ้นเสียงดัง รีบบึ่งตรง ไปหาหลงหลิงถึงใน น้ำ ก่อนจะช่วยหลงหลิงขึ้นมา จาก นั้นก็หันไล่หญิงสาวอีกสามคน
เหตุการณ์ทั้งหมดเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยจีนหลิง
ไม่นานต่อจากนั้น ก็มีรถสองสามคันจอดอยู่ข้าง ทาง มีชายใส่สูทเดินออกมาจากรถคันสีดำ เขามาพร้อม กับลูกน้องอีกหลายคน เจ้านายอยากที่จะสั่งสอนหลง หลิง แต่หยูหมิงดันอยู่ข้างตัวของหลงหลิงไม่ห่างเลย
ลูกน้องสิบหว่าคนนั้นเริ่มเข้ามาทำร้ายหยูหมิง ห ยูหมิงกอดหลงหลิงเอาไว้ เพื่อที่จะไม่ให้เธอได้รับบาด เจ็บแม้เพียงเล็กน้อย
“อย่านะ!” หลงหลิงคำรามขึ้นเสียงดัง เธออยาก ที่จะปกป้องหยูหมิงแต่เธอกลับถูกหยูหมิงกอดรัดเอาไว้ เสียแน่นจนเธอไม่อาจจะขยับตัวได้
“วางใจเถอะ ฉันจะไม่ให้เธอต้องบาดเจ็บแม้เพียง ปลายก้อย” หยูหมิงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของหลงหลิง คราบเลือดจากปากของชายหนุ่มหยดลงที่ใบหน้าของ หลงหลิง หลงหลิงเริ่มร้องไห้ เธอร้องออกมาอย่าง ขมขึ่น: “อย่าทำเขานะ อย่าทำร้ายเขาเลย…
ในขณะที่หลงหลิงกำลังสิ้นหวังอยู่นั้น ก็มี เฮลิคอปเตอร์บินมา จากนั้นก็มีคนกระโดดลงมา8คน จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็จัดการคนที่รายล้อมหยูหมิงไป เสียสิ้น
“คุณชายใหญ่ เป็นอย่างไรบ้างครับ?”หนึ่งในนั้น ตรงเข้ามาถามหยูหมิง
“หลงหลิง เธอไม่เป็นอะไร….ก็ดีแล้วหล่ะ” หยูหมิงพูดออกมาเท่านั้นก็คอพับลง หมดสติไป
“คุณชายหยู! คุณชายหยู!” หลงหลิงกอดศีรษะ ของหยูหมิง ร่ำร้องตะโกน น้ำตาหยดย้อยลงมาจากตา ทั้งสองข้างอีกครั้ง