รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 30 ผู้จัดการเสิ่นทำไมถึงเชื่อคนพูดจาเลอะเทอะนี้ ได้
บทที่ 30 ผู้จัดการเสิ่นทำไมถึงเชื่อคนพูดจาเลอะเทอะนี้ ได้
“คุณเฉิน” ฉินหลั่งจำได้แล้ว ผู้ชายคนนี้เขาเคยเจอ ในงานเลี้ยงที่โข่งลิ่งเสียน จัดเลี้ยงตัวเองมาก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าโรงแรมนี้ จะเป็นโรงแรมที่บ้านของเขาเปิด
“มิบังอาจครับ ท่านเรียกผมว่าวันเชียนก็ได้ครับ” เสื่ นวันเชียนเอ่ยออกมาอย่างปลื้มปีติ
ฉินหลั่งเป็นคนง่ายๆ สบายๆ สุดท้ายเขาก็ยังเรียก เสิ่นวันเชียนว่าคุณเสิ่น
“คุณชายใหญ่ทำไมถึงว่างมาที่นี่ได้ครับ” เสิ่นวัน เชียนโค้งคำนับพลางเอ่ยถาม
“อ้อ ผมออกมาเที่ยวกับเพื่อนครับ ไม่อยากกลับไป ก็เลยพักอยู่ที่นี่เสียเลย” ฉินหลั่งเอ่ยยิ้มๆ
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เองเหรอครับ” เสิ่นวั่นเชียนพยัก หน้า หันไปถามพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ “ห้องของ คุณชายท่านนี้จองเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์เอ่ย ด้วยเสียงสั่นเครือ เธอจะไปคิดได้อย่างไรว่า หนุ่มน้อยที่ แต่งตัวมอซอตรงหน้านี้ กลับทำให้เสิ่นวันเชียนเกรงอก เกรงใจได้ขนาดนี้ เมื่อครู่พนักงานทั้งหมดรวมทั้งเธอเอง ยังมีท่าทาไม่แยแสฉินหลั่งอยู่เลย ถ้าหากผู้จัดการเสิ่นจะ เอาเรื่องขึ้นมา ตำแหน่งการงานของตนคงจะหลุดลอยไป แน่
“ห้องของคุณชายท่านนี้ก็คือห้องเตียงใหญ่ที่ใช้ห้องรวมบนชั้นสามค่ะ”
“อะไรนะ ห้องนั้นเป็นห้องที่แย่ที่สุดของโรงแรม พวกคุณกล้าดียังไงให้คุณชายพักที่นั่น” เสิ่นวันเชียนถาม อย่างโมโหจัด จะว่าไปแล้ว โรงแรมนี้เป็นของคุณชาย ใหญ่ คุณชายใหญ่มาที่นี่ถือว่าให้เกียรติมาก แต่พวกเขา กลับเปิดห้องที่แย่ที่สุดให้คุณชายใหญ่ นี่ไม่ใช่ว่ากำลังหา เรื่องเดือดร้อนให้เขาหรอกหรือ
“คุณเด่น คุณอย่าไปโทษพวกเขาเลย เป็นเพื่อนผม เองที่เป็นคนเปิดห้องให้ผม” ฉินหลั่งเห็นท่าทาง โมโหโทโสของเสิ่นวันเชียน ก็เป็นห่วงกลัวว่าพนักงานจะ พลอยเดือดร้อนไปด้วย ในเมื่อนี่ไม่ใช่ความผิดของพวก เขา
“อ้อคุณชายใหญ่เพื่อนของท่านนี้ก็ช่างแล้งน้ำใจ จริงๆ” เส้นวันเชียนพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “เอาอย่างนี้ ตอนนี้ผมจะเปลี่ยนห้องที่หรูหราดีที่สุดให้ท่าน”
ไม่เป็นไร คืนนี้ผมพักที่ห้องนั้นก็ได้ คุณวางใจ เถอะ ความหวังดีของคุณผมเข้าใจ” ฉินหลั่งเอ่ยพลางตบ ที่ไหล่ของเสิ่นวันเชียน
“เช่นนั้นก็ต้องลำบากคุณชายแล้วนะครับ!”
ฉินหลั่งพูดมาขนาดนี้แล้ว เสิ่นวันเชียนก็ไม่กล้า ขัดใจเขา ได้แต่ทำตามใจเขา
“เอาละ คุณไปทำงานเถอะ ตอนนี้ผมขอกลับก่อน” ฉินหลังพูดจบ ก็เดินไปทางห้องของตน
เวลานี้เอง สายตาของพนักงานคนอื่นๆ ต่างก็มอง ฉินหลังด้วยความเคารพ พวกเขายังดึงเอารอยยิ้มที่สดใสที่สุดของตนเองออกมา ส่งให้ต่อหน้าฉินหลั่ง ทำให้ฉิน หลังมองด้วยท่าทางที่ยังตั้งตัวไม่ติด ยิ้มบางๆ ให้พวกเขา เดินกลับไปห้องของตัวเอง
พอล้มตัวลงนอนบนเตียง ครู่เดียวก็มีคนเข็นอาหาร ว่าง และ ไวน์อย่างดีมาเต็มคันรถ ไม่นานก็มีพนักงาน ทำความสะอาดเข้ามา ทำความสะอาดห้องของฉินหลั่ง อยากสะอาดสะอ้านทุกซอกทุกมุม สุดท้ายก็ยังส่งสาว สวยหุ่นดีเหมือนนางแบบมาอยู่เป็นเพื่อนฉินหลั่งอีกด้วย ฉินหลั่งไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรเลย
“เสิ่นวันเชียนคนนี้นี่นะ” รอจนทุกอย่างสงบลงแล้ว ฉินหลั่งยิ้มอย่างขมขื่นเอ่ยพลางถอนหายใจ
แย่แล้ว ฉินหลั่งมองนาฬิกาอย่างตื่นตกใจเวลา ผ่านล่วงเลยมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามา ที่โรงแรม
เดิมฉินหลั่งลังเลว่าจะบอกความจริงกับสังเส่นเอ๋ อดีหรือไม่ ตอนนี้ทุกอย่างสายไปแล้ว
หากว่าจางเชื้อคิดจะจัดการสังเส่นเอ๋อจริงๆ ตอนนี้ ทั้งสองคนกำลังเข้าได้เข้าเข็มกันอยู่แล้ว!
โอ้ย ช่างมันแล้ว ต่อให้ตนเองไปบอก สังเส่นเอ๋อก็ คงไม่เชื่อ ถึงเวลา สังเส่นเอ๋อก็มิวายจะดูถูกเยาะเย้ย คิดว่า จะเอาเปรียบเธอ
คิดถึงท่าทีของสังเส่นเอ๋อที่มีต่อตนเอง ในใจฉิน หลังก็ไม่รู้สึกเสียดายอย่างเมื่อครู่แล้ว
เขานอนบนเตียง หลับตาเตรียมตัวนอน ขณะ เดียวกันนั้นเองที่ระเบียงทางเดินด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้นเป็นเสียงกระแทกประตูก่อนจากนั้นก็มีเสียงเร่งฝีเท้าตาม
มา
“คุณไปให้พ้นจากฉันนะ!” ที่ระเบียงทางเดินสังเสน เอ๋อที่อยู่ภายใต้ผ้าขนหนูสีขาวผืนนั้นสั่นเทา ไหล่ขาวนวล และสองขาเรียวโผล่ออกมาด้านนอกให้เห็น เท้าก็ไม่ได้ สวมรองเท้าจ้องมองจางเชื้อที่ไล่ตามออกมาด้วยความ โกรธเกรี้ยว
“เส้นเอ๋อ รีบตามผมเข้าไป คุณดูสิคุณแต่งตัวแบบนี้ ถ้าผู้ชายคนอื่นมาเห็นเข้า ไม่ใช้ให้เขาล่วงเกินเอาได้เห รอ” จางเชื้อเองก็ไม่ต่างอะไรกับสังเส่นเอ๋อ ทั้งตัวมีแต่ กางเกงในสีแดงตัวเดียว ชั้นเนื้อที่รอบเอวค่อยๆ สั่น กระเพื่อม
“ฮี ไอ้คนหลอกลวงอย่างจางเชื้อ ครั้งก่อนที่บ้าน ฉันเกิดเรื่องก็ไม่ใช่แกที่เป็นคนช่วยใช่มั้ย” สั่งเส้นเอ๋อยิ้ม เยาะมองจางเชื้อ
“อะไรกัน เส้นเอ๋อ คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ถ้าไม่ใช้บ้านผมช่วยคุณแล้วจะยังเป็นใครได้อีก คุณบอกสิ ว่าใช่มั้ย” จางเชื้อยิ้มอย่างเขินๆ ครั้งนี้รู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว
“ตอนนี้คุณยังจะเสแสร้งกับฉันอีกเหรอ” โทรศัพท์ ในมือสังเส่นเอ๋อแกว่งไปมา “เมื่อครู่พ่อของฉันโทรมา เมื่อ เย็นนี้พ่อฉันไปเยี่ยมคารวะพ่อของคุณ และก็ถามเรื่องนี้ แล้ว พ่อของคุณเป็นคนพูดเองว่าไม่ใช่ความช่วยเหลือ ของคุณ! หลายวันมานี้ คุณหลอกฉันมาตลอด!”
เมื่อครู่พอเข้าไปในห้องจางเชื้อก็เริ่มทำปฏิบัติการ พูดจาหว่านล้อมสารพัด จุดประสงค์ก็คือจะให้เธอขึ้นเตียง
สุดท้ายสังเส่นเอ๋อก็ตัดสินใจที่จะทำให้เขาพอใจ
ในเมื่อเรื่องนี้วันหนึ่งก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว อาบน้ำเสร็จก็ นอนบนเตียงจางเชื้อถอดเสื้อผ้าแล้ว ปืนขึ้นมาบนเตียง แต่ว่าในตอนนั้นเอง พ่อของเส้นเอ๋อโทรมาพอดี สังเส่นเอ๋ อลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ คิดไม่ถึงว่าจะมาได้ยินข่าวแบบนี้ มองจางเชื้อที่มองเธออย่างเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม สังเส้นเอ๋
อก็รู้สึกขยะแขยงอย่างที่สุด ดังนั้นรีบวิ่งออกมาอย่างไม่
คิดชีวิต!
“พ่อคุณ….ไปพบพ่อผมแล้วเหรอ” จางเชื้อมึนงง ใน ใจก็รู้สึกเจ็บปวด เมื่อครู่ในห้อง อีกเพียงนิดเดียวเขากับสัง เส้นเอ๋อก็จะได้ขึ้นสวรรค์กันแล้ว ทำไมทางพ่อของเขานั้น ต้องมาเปิดเผยอะไรตอนนี้ด้วย นี่ไม่ใช่กำลังหยอกล้อเขา เล่นอยู่เหรอ
“เส้นเอ๋อ คุณฟังผมก่อน แม้ว่า ” ตอนนี้จางเชื้อ คิดแค่เพียงจะโน้มน้าวให้สังเส่นเอ๋อสงบอารมณ์ลง ไปถึง เตียง เขาเดินไปข้างหน้าจับแขนสังเส่นเอ๋อ
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน คนน่าขยะแขยงอย่างแก!” ตอนนี้สังเส่นเอ๋อมองจางเชื้อด้วยความรังเกียจเป็นพิเศษ เห็นเขาแล้วเธออยากจะอ้วก ไม่ต้องพูดถึงเข้ามาแตะต้อง ตัวเธอเลย
สังเส่นเอ๋อสะบัดแขนหลุดจากมือจางเชื่อ คงเพราะ ออกแรงมากเกินไป ไม่ทันระวัง ไปโดนรูปปั้นนกอินทรี สยายปีกบินที่อยู่ข้าง เสียงดัง ปีง” รูปปั้นนกอินทรีตก กระแทกพื้นแตก
สังเส่นเอ๋อไม่ได้สนใจ ยังคงทะเลาะอยู่กับจางเชื่อ ที่อยู่ตรงหน้า
“รูปปั้นนกอินทรีนี่คุณเป็นคนทำแตกใช่มั้ย” ตอนนี้ เอง ผู้ชายกลางคนคนหนึ่งร่างกายสูงใหญ่ เดินเข้ามา มอง ไปที่รูปปั้นบนพื้นด้วยความเสียใจและโกรธ
“ผู้จัดการเสิ่น…” พนักงานที่อยู่โดยรอบโรงแรมต่าง พากันก้มหน้าก้มตา เอ่ยอย่างนอบน้อม
“ใช่ ฉันทำแล้วจะทำไม” สังเส่นเอ๋อที่ตอนนี้กำลัง โกรธจนหน้ามืด เอ่ยออกมา
“ดี คุณผู้หญิงท่านนี้ ในเมื่อคุณยอมรับแล้ว เช่นนั้น ก็ขอเชิญให้คุณไปจ่ายค่าเสียหายแก่ทางโรงแรมของพวก เราด้วยครับ” สังเส่นเอ๋อเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ชดใช้ก็ชดใช้สิ ดูสภาพคุณสิ ไม่ใช่แค่รูปปันอัน หนึ่งเหรอ แค่ของชิ้นเล็กๆ แค่นี้ ยังจะเปิดโรงแรมอะไรอีก จริงๆ เลย” สังเส่นเอ๋อที่กำลังโกรธไม่ว่าใครก็เข้าหน้าไม่ ติด
“คุณผู้หญิงพูดถูก พวกเราคงไม่ร่ำรวยล้นฟ้า เหมือนอย่างคุณ” สีหน้าของเล่นวันเชียนมีความดูถูกเยาะ เย้ย “อย่างนั้นตอนนี้ขอให้คุณผู้หญิงช่วยไปจ่ายค่าเสีย หายเถอะครับ รูปปั้นนี้เป็นผลงานที่สร้างโดย มิเชลศิษย์ หลานของแกสตัน ในปี 1986 ปีก่อนผมไปประมูลมาจาก บริษัทประมูลคริสตี้ของแอตแลนตาสหรัฐอเมริกา เป็นเงิน ทั้งหมดเจ็ดล้านเจ็ดแสนหกหมื่นหยวน!”
“อะไรนะ!” สังเส่นเอ๋อคิดว่าตัวเองหูฝาดไป มองเสี่ นวันเชียนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เสิ่นวันเชียนก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรกับสังเส่นเอ๋ ออีก ให้คนนำเอกสารการประมูลส่งให้สังเส่นเอ๋อดูโดยตรง
เวลานี้เองสังเส่นเอ๋อพูดอะไรไม่ออก
เจ็ดล้านเจ็ดแสนหกหมื่นหยวน นี่มันเท่ากับรายได้ ทั้งปีของครอบครัวเธอเลยทีเดียวนะ !
“คุณพี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจ…สังเส่นเอ๋อกังวลใจ
ร่างกายอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว มือที่ใบเสร็จทั้งสองข้าง
สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว
“เมื่อครู่คุณยังพูดอย่างไม่แยแสอยู่เลยนะครับ” เสี่ นวันเชียนพูดเยาะเย้ยขึ้นว่า “คุณอย่าคิดว่าผมจะไม่ให้คุณ ชดใช้เจ็ดล้านเจ็ดแสนหกหมื่นหยวน คุณต้องชดใช้ผม ทั้งหมดไม่ให้ขาดแม้แต่เหรียญเดียว ตอนนี้รีบโทรไปหาที่ บ้านเถอะครับ!”
ในใจของสังเส่นเอ๋อกระตุกวูบ ใบเสร็จในมือร่วง หล่นลง ขาทั้งสองข้างก็ยิ่งสั่นขึ้น ราวกับว่าแค่ลมพัดก็ ทำให้เธอล้มพับลงกับพื้นแล้ว
เรื่องนี้หากให้พ่อรู้เข้า คงต้องตีเธอตายแน่ นึกถึง ใบหน้าโหดเหี้ยมของผู้เป็นพ่อ สังเส่นเอ๋อก็รู้สึกหวาดผวา เป็นพิเศษ
“เส่นเอ๋อ เกิดอะไรนี่มัน” เวลานี้โจวซินและหวงเก อก็วิ่งมาที่ข้างกายสังเส่นเอ๋อแล้ว เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
สังเส่นเอ๋อเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเขาฟัง ตอนนี้ น้ำตาไหลออกมาแล้ว “ทำอย่างไรดีล่ะ ถ้าพ่อฉันรู้ เขาต้อง ตีฉันตายแน่”
“คุณพี่คะ คุณอย่าให้ฉันต้องชดใช้เลยนะคะได้มั้ย ฉันทำงานใช้หนี้ให้พวกคุณได้ ต้องคืนให้คุณครบทุกบาททุกสตางค์ อีกอย่างบ้านคุณต้องการพี่เลี้ยงเด็กมั้ย ฉันไป ได้นะคะ แม้ว่าฉันจะทำไมเป็น แต่ฉันสามารถเรียนรู้ได้…..” สังเส่นเอ้อเอ่ยพลางมองเสิ่นวันเชียนด้วยน้ำตานองหน้า
ครั้งนี้เพื่อปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อแม่รู้ สังเส่นเอ๋อ ยอมทำได้ทุกอย่าง หากไปในที่ลับตาคน แล้วเสิ่นวันเชียน ให้เธอปรนนิบัติเขา สังเส่นเอ๋อก็คงตกลง
“คุณผู้หญิง คุณอย่าพยายามคิดหาวิธีที่มันเป็นไป ไม่ได้เลย รีบโทรหาพ่อแม่ของคุณเถอะ!” เสิ่นวันเชียนเป็น นักธุรกิจ แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าสังเส่นเอ๋อน่าสงสาร แต่เงิน ก้อนนี้ก็ต้องเอากลับคืนมาให้ได้
สังเส่นเอ๋อสิ้นหวังแล้วจริงๆ ความรู้สึกโทษตัวเอง สำนึกผิด กังวล หวาดกลัวสับสนวุ่นวายอยู่ภายในใจ
“คุณเสิ่น” เวลานี้เอง ฉินหลั่งค่อยๆ เดินเข้ามา เรื่อง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขาได้ยินทั้งหมด
“คุณชายใหญ่…” เสิ่นวันเชียนเตรียมจะเอ่ยปาก เรียกชื่อฉินหลั่ง แต่ถูกสายตาของฉินหลั่งห้ามเอาไว้
“คุณเสิ่น ผมคิดว่า รูปปั้นนี้แตกก็ดี” ฉินหลั่งยิ้ม พลางเอ่ยกับเสิ่นวันเชียน
ประโยคนี้ของฉินหลั่ง ทำให้ผู้คนที่ห้อมล้อมอยู่นี้ ต่างพากันประหลาดใจไม่น้อย
รูปปั้นราคาเจ็ดล้านเจ็ดแสนหกหมื่นนะ คุณกลับ บอกว่าแตกก็ดี นี่คุณพูดพล่ามอะไรอยู่ นี้ไม่ใช่ปากหาเรื่อง หรือ
“นี่หมายความว่าอย่างไรครับ ช่วยอธิบายให้ผม เข้าใจหน่อย” เสื้อวันเชียนเอ่ยอย่างนอบน้อม ในใจเขาเต็มไปด้วยความสงสัย คุณชายใหญ่หมายความว่า อย่างไรกันแน่
“ผมถามคุณ โรงแรมของคุณมีลูกค้าต่างชาติหรือ ลูกค้าในประเทศมากกว่ากัน” ฉินหลังถาม
“แน่นอนว่าเป็นคนในประเทศมากกว่าครับ” เสื่นวัน เชียนคิดแล้วตอบ
“อย่างนั้นก็ถูกแล้ว ลูกค้าหลักรายได้ส่วนใหญ่มา จากคนในประเทศ แต่คุณกลับไปซื้อรูปปั้นนี้มาจากอเมริกา ด้วยราคาสูงลิบ คุณรู้หรือไม่ ตอนนี้ประเทศของเรากำลัง ทำสงครามการค้ากับอเมริกา
สงคราม หากประชาชนรู้ว่าในโรงแรมของคุณมีรูป ปั้นนี้อยู่ เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะต่อต้านโรงแรมพวก คุณ หากเป็นข่าวขึ้นมา มูลค่าความเสียหายที่จะเกิดกับ โรงแรมของพวกคุณอาจจะไม่ใช่แค่เจ็ดล้านเจ็ดแสนหก หมื่นนะ! ดังนั้นผมจึงบอกว่า รูปปั้นนี้แตกไปก็ดีแล้ว!”
คนอื่นได้ยินความคิดของฉินหลั่ง ต่างก็อดไม่ได้ที่ จะยิ้ม โยงไปถึงสงครามการค้าโน่นได้ คำพูดแบบนี้แม้แต่ เด็กสามขวบยังหลอกไม่ได้เลย นายยังกล้าเอามาหลอกผู้ จัดการเสิ่น
ตอนที่สังเส่นเอ๋อเห็นฉินหลังนั้น ในใจก็เกิดความ รู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย แต่ตอนนี้ ในใจเธอกลับรู้สึกขมขื่น ตัวเองยังคิดหวังว่าคนอย่างฉินหลั่งจะมาช่วยอะไรได้อีก เหรอ ช่างโง่เหลือเกิน เขาก็เป็นแค่คนโง่ที่ไม่มีความรู้ไม่มี สมองอะไร พอพูดอย่างนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้ตนเองรู้สึก อับอาย!
“โอ้ พ่อหนุ่มคนนี้พูดถูก ผมสะเพร่าเอง” ตอนที่ทุก คนต่างมองหัวเราะเยาะฉินหลั่ง เซินวันเชียนยิ้มพลางเอ่ย อย่างอ่อนน้อม