รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 7 ให้ไปกับเขาหนึ่งคืน
บทที่ 7 ให้ไปกับเขาหนึ่งคืน
หยินห้าวกับยินถึงพูดอย่างตื่นเต้นออกมา พร้อมกันว่า “พูดได้ดี” ภายในไลฟ์สด ต่างก็มีแต่เสียงชื่นชม
“หนุ่มหล่อ : นี่สิถึงจะเป็นความใจกว้างที่มหา เศรษฐีควรมี”
“ฉันทำธุรกิจกับแจ็คหม่า : พูดได้ดีจริงๆ แค่ ดูก็รู้ว่าเป็นคนที่มีเรื่องราว
“ไก่อ่อนในบาร์ : กดไลค์ ดีกว่าบางคนที่คิด ว่าตัวเองเป็นมหาเศรษฐีมากโขเลย พ่อซิงเฉิน ตอนนี้บอกได้หรือยัง ครอบครัวเราทำธุรกิจอะไร กันแน่
ตอนนั้นเอง เกาหยวนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จามา ตั้งนานแล้ว
ข้อความของระบบปรากฏขึ้นในแถบ ข้อความอีกครั้ง
“วันหนึ่งก็คือหนึ่งวันออกจากการไลฟ์สด” เกาหยวนหนีไปแล้ว ด้านในเหลือแต่เสียง เยาะเย้ยของผู้คน
“เจียซิน ซิงเฉินที่อยู่ในไลฟ์สดเป็นใครกันแน่ เหรอ” ในหน้าจอไลฟ์สด มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้า มา สองมือวางอยู่บนไหล่ของจางเจียซิน
ผู้หญิงคนนี้ผมยาว คางแหลม แต่งหน้าอ่อนๆ แต่สวยมาก ตอนโผล่ออกมาในหน้าจอไลฟ์สด ก็ ไม่มีอาการเขินอายเลยสักนิด เพียงแค่สองตาที่ จ้องมาทางกล้อง ก็ทำให้ใจของคนที่กำลังดูไลฟ์ สดกระตุกวูบทันที
“ทุกคนคะ นี่คือเพื่อนร่วมหอของฉันเส้เหวินจี้ งคนสวย ช่วยกดติดตามฉันสักนิด แล้วฉันจะให้ เลขวีแชทของเธอกับพวกคุณนะคะ” จางเจียซิน ลากมือของเส้เหวินจึ้ง แล้วพูดเสียงหวานกับหน้า
จอ
เมื่อครู่เส้เหวินจึ้งก็กำลังดูจางเจียซินไลฟ์สด พอเห็นซิงเฉินส่งเรือรบอวกาศให้เธอสิบเอ็ดอัน เธอก็เริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว เรือรบอวกาศสิบเอ็ดอันก็ เท่ากับเงินห้าหมื่นห้าเลยนะ แน่นอนว่าเธอต้อง สนใจมหาเศรษฐีแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าซิงเฉินเป็น เพื่อนของจางเจียซิน เส้เหวินจึ้งก็เตรียมตัวจะ ทำความรู้จักไว้สักหน่อย
“เจียซิน เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ ว่าซิง เฉินเป็นใครกันแน่” เส้เหวินจึ้งลากเก้าอี้เข้ามา แล้วนั่งอยู่หน้ากล้อง มองดูกล้องอย่างสง่า ผ่าเผย อยากให้ซิงเฉินที่อยู่ในไลฟ์สดเห็นเธอชัดๆ
“ฉันไม่รู้จริงๆนะ พี่ซิงเฉินเพิ่งเข้ามาดูฉันวันนี้ เอง” จางเจียซินส่ายหน้า จากนั้นก็หันไปมองที่
กล้อง
“พี่ซิงเฉินคะ พี่ยังอยู่ไหม”
“อยู่” ซิงเฉินพูดขึ้น
เส้เหวินจึ้งดีอกดีใจ ตื่นเต้นมาก เลยแย่งซีน ทันที “พี่ซิงเฉินคะ เมื่อกี้พี่หล่อมากเลย ส่งเรือรบ อวกาศให้เจียซินทีเดียวตั้งสิบเอ็ดอัน หล่อสุดๆ ไปเลย ที่จริงฉันก็เตรียมจะเปิดไลฟ์สดเหมือน กัน ถ้าถึงตอนนั้นพี่มาดูฉันไลฟ์สดด้วยได้ไหม คะ”
“ฉินหลั่ง ไม่ต้องดูแล้ว เส้เหวินจึงยัยนี่แค่ เห็นคนมีเงินหน่อยก็วิ่งเข้าใส่ ช่างหน้าไม่อาย จริงๆ” หยินห้าวเห็นฉินหลั่งนอนดูมือถืออยู่บน เตียง แน่นอนว่าต้องดูไลฟ์สดของจางเจียซินอยู่ ก็เลยพูดเตือนขึ้นมาด้วยความหวังดี
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจเขา สองตายังคงจ้องหน้า จอโทรศัพท์อยู่
“เหวินจึ้ง”
จางเจียซินเรียกเส้เหวินจึ้งคำหนึ่งอย่างไม่ ค่อยพอใจ ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเลยว่าเธอเตรียมจะเปิดไลฟ์สด ถึงแม้ว่าเธอจะเปิดไลฟ์สด แล้วมาแย่งผู้ชมอย่างออกหน้าในไลฟ์ของฉัน แบบนี้ได้ยังไงกัน
เส้เหวินจึงเมินเฉยต่อคำพูดของจางเจียซิน แล้วพูดกับกล้องว่า “พี่ซิงเฉินคะ จนถึงตอนนี้ฉัน ก็ยังโสดอยู่ ไม่เจอคนที่เหมาะสมสักที จู่ๆฉันก็ รู้สึกว่าถูกชะตากับพี่มาก ถ้าเป็นไปได้ พวกเรา มาทำความรู้จักกันหน่อย…
ขณะกำลังพูด เส้เหวินจิ้งที่ทำสีหน้าเขินอาย ก็ค่อนข้างประทับใจคนเหมือนกัน
ซิงเฉินเริ่มพูดขึ้น “เธอยังโสดเหรอ”
เส้เหวินจึงชะงักไปครู่หนึ่ง ตัวเองสวยขนาดนี้ ถ้ายังโสดก็คงไม่ปกติเท่าไหร่ แต่เพื่อทำให้ซิง เฉินประทับใจ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการ พัฒนาขั้นต่อไป ยังไงก็ต้องยืนยันคำนี้
ครั้งแรกยังไงก็ต้องดึงดูดผู้ชายมากกว่าอยู่ แล้ว
“อืม อีกอย่างฉันก็ยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน เลยนะ” เส้เหวินจึ้งพูดออกมาอย่างเขินอาย
“เหวินจึ้ง เธอไม่ใช่เพิ่งเลิกกับฉินหลั่ง แล้ว ตอนนี้กำลังคบกับจูจี้เหวินเหรอ” จางเจียซินมอง ดูเส้เหวินจึ้งแล้วถามกลับไปคำหนึ่ง
จางเจียซินเข้าใจนิสัยหน้าซื่อใจคดของเส้เห วินจึ้งดี เวลาปกติเธอไม่เคยคิดถือสา แต่ตอนนี้ ซิงเฉินเป็นคนที่ส่งของขวัญมูลค่าห้าหมื่นห้าให้ เธอ เธอจะยอมให้ซิงเฉินโดนหลอกได้อย่างไร
“หา …” เส้เหวินจึ้งก็คิดไม่ถึงว่าจางเจียซินจะ เปิดโปงเธอ ก็เลยเลิ่กลั่กไปชั่วขณะ แล้วยิ้มตาม เท่านั้น
“ที่จริง…ฉันกับจูจี้เหวินก็แค่.เพื่อนสนิท เท่านั้น ส่วนฉินหลั่ง ฉันก็แค่เห็นว่าเขาจน ก็เลย มักจะไปช่วยเขาทำการทดลอง เพื่อเสริมสร้าง การเรียนรู้ ส่วนเรื่องที่ฉันคบกับเขา…ก็เพื่อนร่วม ชั้นเข้าใจผิดไปกันเอง….”
ท่ามกลางความลังเลในที่สุดเส้เหวินจึ้งก็แต่ง เรื่องขึ้นมาได้จนจบ เพื่อแสดงให้ซิงเฉินเห็นว่า เธอยัง “บริสุทธิ์ผุดผ่อง” ก็เลยพยายามอย่างเต็ม ที่
“พี่ซิงเฉินคะ ถ้าอยากรู้จักเส้เหวินจึ้งพี่เพิ่ม ฉัน….จางเจียซินพูดได้แค่ครึ่งเดียว ระบบก็ แจ้งเตือนขึ้นว่า “ซิงเฉินได้ออกจากไลฟ์สดแล้ว”
จางเจียซินกับเส้เหวินจึ้งต่างก็สลดใจทันที
ฉินหลั่งกดปิดมือถือvivo นอนตะแคงอยู่บน เตียง มองไปที่ผนังอย่างว่างเปล่า ในสมองของ เขาไม่ได้คิดเรื่องของขวัญราคาหลักหมื่นที่ส่งออกไปเลยแม้แต่น้อย แต่กำลังย้อนคิด ถึงภาพ ของเส้เหวินจึ้งเมื่อครูนี้
ยังไงเขากับเส้เหวินจึงก็คบกันมาหนึ่งปี แต่ คำพูดหลังจากนั้นของเส้เหวินจึ้ง ก็ยังเหมือนดั่ง สว่านไฟฟ้า ที่ทิ่มแทงลงบนใจเขาอีกครั้ง
ที่แท้ความรู้สึกช่วงหนึ่งปีที่เธอมีต่อตัวเอง ก็ กลายเป็นสิ่งที่เธอเรียกว่าการช่วยเหลือ นักศึกษายากจนได้!
หี่หี ในใจของฉินหลั่งปรากฏรอยยิ้มขมขื่น
ขึ้น
เส้เหวินจึงชอบเงินขนาดนี้ ถ้าเธอรู้ว่าตัวเอง เป็นมหาเศรษฐี แล้วย้อนคิดถึงสิ่งเหล่านั้นที่เธอ พูดในห้องเรียนตอนเช้า เธอจะแสดงสีหน้าแบบ ไหนออกมากันนะ
เมื่อจบคาบเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกฉินหลั่ง ก็กลับไปที่หอพัก เพิ่งกินข้าวเสร็จและเตรียมตัว จะนอนพักสักหน่อย หวงเกอเพิ่งจะกลับมา พอ เปิดประตู ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าอิดโรย “เกิดเรื่อง แล้ว !”
“เกิดอะไรขึ้น คุณะกีฬาของพวกนายมีแมลง เม่าแบบไหนโผล่ออกมาอีกหรือไง” หยินห้าวพูด จบ ก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
“เกิดเรื่องกับสังเส่นเอ่อ” หวงเกอนั่งลง มองดูทั้งสามคนที่เหลืออย่างหดหู
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ฉินหลั่งรู้ดีว่าเรื่องนี้จะ ต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่อย่างนั้นสีหน้าของหวงเกอ คงไม่ย่ำแย่ขนาดนี้
“เมื่อวานตอนที่สังเส่นเอ๋อออกไป เธอตบ หน้าผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ พวกนายเดาสิว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” หวงเกอถามเองตอบเอง “เขาคือหม่าเก่อ ทายาทเจ้าของบริษัทเทียนซี กรุ๊ป”
“พระเจ้า บริษัทเทียนซีกรุ๊ป !”
หยินห้าวตกตะลึงทันที ยืนขึ้นมาพูดเสียงดัง ว่า “บริษัทเทียนซีกรุ๊ปไม่ว่ายังไงก็ถือว่าเป็นท็อป สิบของเมืองจีนหลิงอยู่แล้วใช่ไหม ร้านค้าปลีก เทียนซีที่มีอยู่เต็มท้องถนนต่างก็อยู่ในเครือของ พวกเขาทั้งนั้น และนั่นยังเป็นแค่หนึ่งในธุรกิจที่ อยู่ในเครือของพวกเขาเท่านั้น สังเส่นเอ๋อคนนี้ก็ ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ ทำไมถึงไปตบเขาได้นะ หมดกัน หมดกัน”
ฉินหลั่งเหลือบมองหยินห้าวที่พูดพึมพำไม่รู้ จบอยู่บนหัวเตียงที่หนึ่ง หยินห้าวหุบปากอย่าง รู้ตัว ฉินหลั่งหันไปมองหวงเกออีกครั้ง “บ้านของ สังเส่นเอ๋อเองมีอิทธิพลมากเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ไม่มีวิธีช่วยเลยหรือไง”
ฉินหลั่งมองว่ายังไงบ้านของสังเส่นเอ๋่อก็เปิด บัญชีที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ยังไงก็คงมีความ สามารถอยู่บ้าง
“บ้านของสังเส่นเอ่อก็เปิดบริษัทเหมือนกัน ชื่อว่าบริษัท Dragon Cargo แต่เทียบอะไรกับ บริษัทเทียนซีกรุ๊ปไม่ได้หรอก” หวงเกอพูดพร้อม ขมวดคิ้ว
“อีกอย่างฉันได้ยินโจวซินบอกกับฉันว่า วันนี้ ที่บริษัทของบ้านสังเส่นเอ๋อ ก็ทยอยได้รับ จดหมายยกเลิกสัญญาจากคู่ค้าแล้ว พ่อของสัง เส่นเอ๋อกังวลแทบตายอยู่แล้ว” หวงเกอสอดนิ้ว ประสานกัน เท้าที่วางอยู่บนพื้นสั่นไม่หยุด
“จะต้องเป็นฝีมือของบริษัทเทียนซีกรุ๊ปแน่ ฉันเคยอ่านข้อมูลของบริษัทเทียนซีกรุ๊ปบน อินเทอร์เน็ต ท่านประธานใหญ่หม่าวั่นถัง หรือก็ คือพ่อแท้ๆของหม่าเก๋อ มีข่าวด้านลบไม่น้อยเลย อีกทั้งวิธีการที่ใช้ในการจัดการกับบางสิ่งนั้นโหด เหี้ยมมาก” ยินถึงมองดูหวงเกอ แล้วหันไปมอง ฉินหลั่ง สีหน้าเคร่งเครียด
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของหวงเกอก็ดังขึ้น คน ที่โทรมาก็คือโจวซิน หวงเกอกดรับโทรศัพท์ด้วย สีหน้าหนักใจ
“อึม ฉันจะรีบไปเดี่ยวนี้ อึม แค่นี้นะ บ๊ายบาย”พอพูดจบ หวงเกอก็กดวางสาย
“ส่งเส่นเอ่อได้รับสายจากพ่อของเธอแล้ว เป็นฝีมือของหม่าฮั่นถังจริงๆ เขาก็ยอมเผยการ์ด แล้ว ขอแค่คืนนี้สังเส่นเอ่อไปอยู่กับเขาคืนหนึ่ง ระหว่างนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามไปยุ่ง แล้ว เรื่องนี้ก็จะถือว่าแล้วกันไป ไม่อย่างนั้น หม่าวั่นถัง ก็จะทำให้บ้านของสังเส่นเอ่อล้มละลาย !”
“เมื่อวานฉันก็ว่าสายตาที่หม่าเก๋อมองสังเส่น เอ่อมันไม่ปกติ ไปอยู่กับเขาคืนหนึ่ง สังเส่นเอ๋อ คงถูกเขาย่ำยีตายแน่ ให้ตายเถอะ พ่อลูกคู่นี้มัน เลวไร้ยางอายจริงๆ” หยินห้าวด่าออกมาอย่าง เกรี้ยวกราด
พวกหวงเกอเองก็เข้าใจดี ไปอยู่กับหม่าเก๋อ คืนหนึ่งสำหรับสังเส่นเอ๋อแล้วมีความหมายว่า อะไร
“เลิกพูดเถอะ ตอนนี้พวกเรารีบไปที่หอพัก ของโจวซินก่อน เดี่ยวค่อยช่วยออกความเห็นกับ สังเส่นเอ๋อ” หวงเกอลุกขึ้นยืนทันที ทั้งสี่คนออก จากหอพักพร้อมกัน ล็อกประตูเสร็จก็ออกไป ข้างนอกทันที
ลงบัญที่แม่บ้านคุมหอก่อน แล้วหวงเกอก็พา พวกฉินหลั่ง ก้าวยาวๆไปที่ชั้นสาม แล้วผลัก ประตูหอพักของพวกสังเส่นเอ่อออก
อย่าเห็นว่าพวกสังเล่นเอ๋อตอนอยู่ข้างนอก แต่งตัวประชันกันน่ารักเสียขนาดนั้น แต่สภาพ ตอนอยู่หอพักกลับไม่อาจบรรยายได้ นอกจาก บนเตียงของโจวซินที่พับผ้าห่มแล้ว อีกสามเตียง ที่เหลือ ผ้าห่มทุกผืนต่างก็มีรูปลักษณ์ต่างกันไป
โจวซินกับเหวินเหวินเหวินและเป้ยเป้ย นั่งอยู่ ข้างตัวสังเส่นเอ๋อ สีหน้าวิตกกังวล สังเส่นเอ๋อก อดเข่านั่งอยู่บนเตียง ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“เป็นยังไงบ้าง” พอหวงเกอเข้ามาในห้อง ก็ ถามโจวซินทันที
โจวซินยืนขึ้นมา ลากหวงเกอกับคนที่เหลือ ออกไปหน้าประตู หันไปมองสังเส่นเอ๋อทีหนึ่ง อย่างสลดใจ ก้มหน้าก้มตาพูดกับพวกหวงเก อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พ่อของเส้นเอ๋อรู้ว่าเธอ ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น ก็โทรมาด่าเธอยกใหญ่ เธอร้องไห้มาสามชั่วโมงแล้ว คุณพ่อเธอพูดใน โทรศัพท์ว่า ถ้าแก้ไขอะไรไม่ได้จริงๆ ก็ให้เส่นเอ๋ อไปอยู่กับหม่าเก๋อคืนหนึ่ง”
“พระเจ้า นี่มันพ่ออะไรกัน” หยินห้าวอดที่จะ คัดค้านไม่ได้
“ฉันเดาว่าพ่อของเขาคงพูดเพราะอารมณ์ โกรธ เพราะไม่ว่ายังไงก็มีคู่ค้าถึงเจ็ดแปดราย ที่มาขอยกเลิกสัญญา ไม่ว่าเป็นใครก็คงโมโหพ่อของเธอแอบโทรมาหาฉัน ให้ฉันคอยปลอบ เส่นเอ๋อ เขาจะลองหาความช่วยเหลือก่อน ดูว่า จะพอช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้หรือเปล่า” พอพูดจบ โจวซินก็พาพวกหวงเกอเข้าไปหาสังเส่นเอ๋อ
“เส่นเอ๋อ หยุดร้องเถอะ ถ้าบ้านของหม่าลั่น ถังทำอะไรที่มันเกินไป พวกเราก็แจ้งตำรวจจับ เขาสิ !” หวงเกอขมวดคิ้วแล้วพูดปลอบใจออกไป คำหนึ่ง
หยินห้าวล้วงโทรศัพท์ออกมาทันที ท่าทาง กระตือรือร้นมาก “แจ้งตำรวจเหรอ ฉันจะรีบ โทร110เดี๋ยวนี้เลย”
“อย่าแจ้งนะ”
ตอนนี้สังเส่นเอ่อเงยหน้าเล็กๆที่ซุกอยู่ที่หัว เข่าขึ้นมา ตาใสๆสองข้างบวมแดงจากการ ร้องไห้ ตอนนี้เธอไม่มีความเย่อหยิ่งในแบบเมื่อ วานแล้ว เพราะยังไงพวกหยินห้าวก็ทำเพราะเป็น ห่วงเธอ
สังเส่นเอ๋อใช้กระดาษทิชชูที่ชุยเหวินเหวิน ส่งมาให้เช็ดน้ำมูก พูดออกมาพร้อมน้ำตาว่า “เรื่องนี้แจ้งตำรวจไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก แจ้ง
ไปแล้ว จะยิ่งทำให้เรื่องวุ่นวายเข้าไปอีก”
ยังไงสังเส่นเอ่อก็เป็นลูกสาวของบ้านคนรวย ก็เคยเห็นและได้ยินมาบ้าง ถึงวิธีการที่พ่อและเจ้านายคนอื่นๆใช้จัดการกับเรื่องแบบนี้
การแจ้งตำรวจอาจจะยิ่งเป็นการยั่วโมโห หม่าวั่นถัง ถ้าทำให้เขาโกรธเต็มที่ จากอำนาจ และความสามารถของเขา สถานการณ์ก็อาจจะ แย่กว่าตอนนี้อีกเป็นร้อยเท่า !
“ตามหาคนช่วยก่อนแล้วกัน ถ้าสามารถ ติดต่อกับคนเบื้องบนได้ เรื่องนี้ยังมีโอกาสแก้ไข อยู่ ฉันโทรไปถามพ่อฉันก่อนแล้วกัน” หวงเกอ พูดจบ ก็ยืนขึ้นล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วออกไป คุยอีกทาง
“ฉันก็จะลองถามดูนะ” โจวซิน ชุยเหวินเหวิน เจี่ยงเป้ยเป้ยต่างก็ตอบรับเป็นเสียงเดียว
ในใจพวกเขาต่างก็รู้ดี ด้วยชื่อเสียงของที่ บ้านตัวเอง อยากจะหยุดยั้งประธานของหม่าวั่น ถังบริษัทเทียนซีกรุ๊ป ไม่ใช่แค่ความหวังริบหรี่ แต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยต่างหาก!
“วางใจเถอะ บ้านของพวกเธอจะปลอดภัยใน ไม่ช้า” ตอนนั้นเอง ฉินหลั่งก็พูดขึ้น