รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่ 82
บทที่ 82 เขาก็แค่คนทำงานในหมู่บ้านเท่านั้นเอง
“นี่สายตาของแกเป็นอะไรไป?เผิงเมิ่งเป็นคน มาบอกรักกับแกเอง แกยังเต๊ะท่าอยู่อีก คนขี้แพ้ก็คง ยากจนเคยชินแล้วสิ พอได้โอกาสดีขนาดนี้ยังไม่คว้ามัน ไว้อีกเหรอ? แกนี่มันช่างโง่ดักดานจริง…เพื่อเข้าข้าง เผิงเมิ่ง กุซ่าพูดกับฉินหลั่งอย่างดุดัน
ฉินหลั่งถึงกับหมดคำพูด เขาตอบตกลงก็ไม่ได้ ไม่ตกลงก็ไม่ได้อีก
“ฉันขอเหตุผล” เผิงเมิ่งบีบบังคับอารมณ์ที่หมด หวังอยู่ในใจนั้น แต่ยังคงทำสีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มไว้ให้ ตอนที่พูดออกมา
“ฉันมีแฟนแล้วสิ” ฉินหลั่งยักไหล่พูดออกไป
ตรงๆ ไม่ว่าเพิ่งเพิ่งจะจริงใจหรือไม่ แต่ตนเองก็ไม่มีวันจะ เล่นเป็นเพื่อนอยู่ดี เมื่อได้ยินเหตุผลนี้แล้ว ในใจของเผิ่งเมิ่งเหมือน
มีความรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ปัญหา ที่เกิดขึ้นมาจากตนเอง และก็สามารถเห็นถึงผู้ชายที่มี ความรับผิดชอบของฉินหลัง นี่เป็นผู้ชายในแบบที่เธอ ชื่นชมอย่างแท้จริง
“มีแฟนแล้วยังไง ฉันสามารถลงแข่งกับเธอได้ อย่างยุติธรรม หรือว่าคุณกับฉันเรามาคบกันสักพักหนึ่ง ก็จะรู้สึกได้ว่าฉันเหมาะสมมากกว่าแฟนของคุณตั้งเยอะ” แววตาของเผิงเมิ่งทอประกายขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่จำเป็น ฉันชอบเธอมาก ฉันเคยพูดแล้วว่าจะ ปกป้องเธอไปทั้งชีวิต” สมองของฉินหลั่งมีแต่ใบหน้า ของจงยู่ปรากฏขึ้นมา เขาถึงกลับยิ้มออกมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นรอยยิ้มของฉินหลั่ง เผิงเมิ่งถึงกับตกใจ ทันที เธอเห็นเต็มสองตาว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่มาจากหัวใจ อย่างแท้จริง
“ฉันอยากจะเห็นหน้าแฟนของคุณ จะดูสักหน่อย ว่าเธอจะสวยขนาดไหน ถึงได้ทำให้คุณหลงรักจนหัวปัก หัวป่าได้ขนาดนี้” เผิงเมิ่งยิ้มให้เล็กน้อย ในใจของเธอ กลับรู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาเล็กน้อย
“ตอนนี้เธอกำลังทำงานอยู่ ไม่ได้อยู่ใน มหาวิทยาลัย”
เวลานั้นเอง โทรศัพท์ของฉินหลั่งก็ดังขึ้นมา จงยู่ โทรศัพท์เข้ามาหาพอดี
“จงยู่ ทำไมเหรอ… เอ่อ นี่คุณฝึกเสร็จแล้วก็ โทรศัพท์มาหาผมเหรอ… มันดีมากเลยแหละ คุณฝึก เรียนไปพร้อมกับอาจารย์ไป ต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แน่… อึม เดี๋ยวตอนบ่ายผมจะไปรับคุณตรงเวลานะ บ้ายบาย พูดจบ ฉินหลั่งก็ตัดสายทิ้งทันที
ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทางที่มีความสุขของฉินหลั่งที่ โทรศัพท์เมื่อครู่นี้ เผิงเมิ่งอิจฉาผู้หญิงคนนั้นมาก
“ดูเหมือนว่าพวกคุณจะรักกันมาก” เผิงเมิ่งยิ้มให้ แต่ในใจมีแต่ความอิจฉาริษยา “แต่อย่านึกว่าฉันจดยกคุณให้กับมันนะ สำหรับฉันแล้ว มันก็แค่อาศัยจังหวะรู้จัก คุณก่อนเท่านั้นเอง ต่อไปคุณจะอยู่กับใครก็ตาม มันก็ไม่ แน่เสมอไป”
“เมื่อครู่ฉันก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ว่าฉันจะ ดูและเธอไปทั้งชีวิต ถ้าคุณว่างมากไม่มีอะไรทำจริงๆ กรุณาอยู่ให้ไกลจากฉันซะ” ฉินหลั่งพูดอย่างไม่เกรงใจ
“คุณด่าฉันเหรอ? แต่ไม่เป็นไร ต่อไปคุณก็ต้องมา ชดเชยให้ฉันอยู่ดี” เผิงเมิ่งไม่มีท่าทีโกรธแม้แต่น้อย เธอ ยิ้มออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ แต่ในใจกลับกระตุกขึ้นมา
“คุณนี่” ฉินหลั่งไม่เคยไม่ไม่เคยเจอผู้หญิง แบบเผิงเมิ่งมาก่อนเลย ด่าเธอก็แล้วก็ไม่มีท่าทีโกรธ เคือง ทำราวกับว่าชนะตนเองไปได้ซะงั้น มันทำให้ฉิน หลั่งรู้สึกว่าเธอเหมือนกับดอกสำลี เหมือนว่าสามารถ ทำลายพละกำลังของตนเองไปได้อย่างง่ายดาย มัน ทำให้เขารู้สึกหายใจติดขัดจนไม่มีเรี่ยวแรง
“ทำยังไงคุณถึงปล่อยผมไป?” ฉินหลั่งหมดคำ พูดเลยเอาแต่จ้องเผิงเมิ่งเอาไว้
“นี่คุณกำลังขอร้องฉันอยู่เหรอ?” เผิงเมิ่งพูด อย่างได้ใจ ยิ่งได้เห็นความโกรธแค้นที่แสดงออกมาบน สีหน้านั้น ดวงตาของเธอกะพริบไปมา แถมยิ้มให้ด้วย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เพทุบาย “อยากให้ฉันปล่อยคุณไปเหรอ? ได้สิ แต่ว่าคุณต้องตกลงกับฉันเรื่องหนึ่งก่อน”
“เรื่องอะไร?” ฉินหลังต้องการจัดการเผิงเมิ่งให้ ได้อย่างรวดเร็ว
“สามวันหลังจากนี้ต้องไปงานเลี้ยงกับฉัน ใน ฐานะแฟนของฉัน” เผิงเมิ่งจ้องตาฉินหลั่งตอนพูด “คุณ วางใจได้เลย เพราะมันก็แค่สร้างเรื่องเท่านั้นแหละ แต่ คุณไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ตอนอยู่ในงานเลี้ยงได้”
ได้ ฉันตกลง” ฉินหลั่งพยักหน้าให้
“คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าคุณชื่ออะไรกันแน่?”
“ฉินหลัง”
เผิงเมิ่งรีบขอเบอร์โทรศัพท์ของฉินหลั่งไว้ทันที
“งั้นเดี๋ยวเจอกันในวันงาน เจอกันที่หน้าประตู มหาวิทยาลัยก็พอแล้ว” เผิงเมิ่งยืนตัวตรง พร้อมทั้งมอง มาที่ฉินหลั่งพร้อมทั้งยิ้มเล็กน้อยแถมจับมือกันด้วย ฉิน หลั่งพูดขอตัวลาก่อน จากนั้นก็หันตัวเดินออกไป
ยิ่งเมื่อเห็นด้านหลังของฉินหลั่งที่เดินไปแล้ว เผิงเมิ่งก้มศีรษะเล็กน้อย พร้อมทั้งยิ้มโง่ๆ ให้ เธอรู้สึกว่า เหมือนสัญญาเรื่องหนึ่งกับฉินหลั่งไว้ เลยรู้สึกดีใจอยู่ใน ใจเป็นเอามาก
“เฝิงเมิ่ง ฉันคิดว่าแกชอบผู้ชายคนขี้แพ้คนนั้นซะ อีก ยังดีที่แกมาคิดได้เอาตอนท้าย” เมื่อได้ยินเผิงเมิ่ง พูดออกมาตอนท้ายว่าอยากให้ฉันหลั่งปลอมเป็นแฟน เท่านั้นเอง กุซ่าถึงได้ถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย
“ฉันชอบเขาขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ” เผิงเมิ่งนึกถึง ใบหน้าของฉินหลั่ง จนปรากฏรอยยิ้มที่มีความสุขตอนที่ พูดออกมา
“ห้า? เมื่อครู่แกไม่ได้ตอบตกลงกับเขาแล้วนี่ ขอ แค่เขายอมปลอมตัวมาเป็นแฟน…กู่ซ่าทำหน้าตื่นตกใจ
“ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นเขาจะไปร่วมงานกับฉันได้ ไหม?” เผิงเมิ่งยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ เธอบ่นพึมพำ “มาคบ กับฉันสักพัก เดี๋ยวเขาก็จะรู้ได้เองว่าฉันนี่แหละเป็นคนที่ เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา”
“แกนี่มัน ไม่รู้ว่าเขามีอะไรดี” คู่ซ่าพูดออกมา อย่างหมดความอดทน “เราไปกันเถอะ”
เผิงเมิ่งเดินไปกับกุซ่า แต่เท้าของเผิงเพิ่งรู้สึก เจ็บแปลบขึ้นมา แล้วคิดได้ว่าก่อนหน้าฉินหลั่งนั่งคุกเข่า ลงแล้วทำท่าทางนวดเท้าให้ตนเองอย่างแผ่วเบา ใบหน้าของเผิงเมิ่งยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
สามวันที่ผ่านมานี้ นอกจากจงยู่จะเข้าเรียนแล้ว ยังมีการฝึกที่บริษัทช่างเมิ่งมิวสิค จำกัด อารมณ์ของเธอ นั้นสงบลงได้ และยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ถูกทำร้ายขึ้น มาอีก ฉินหลั่งก็ค่อยๆ วางใจได้
วันนี้ ฉินหลังก็พาจงยู่มาส่งที่บริษัทช่างเมิ่งมิวสิค จำกัด เมื่อกลับมาที่มหาวิทยาลัยจีนหลิง ยิ่งเมื่อได้รับ โทรศัพท์จากเผิงเมิ่ง เพื่อให้เขารีบมาที่หน้าประตู มหาวิทยาลัยในตอนนี้เลย
หลังจากวางสายแล้ว ฉินหลั่งก็รีบมาที่บริเวณ ด้านหน้าประตูมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว เผิงเมิ่งขับรถบี เอ็มดับเบิลยูมาหา แล้วก็กวักมือเรียกฉินหลั่ง
“แกก็ไม่แต่งตัวให้มันดีกว่านี้หน่อย วันนี้แกก็รู้อยู่เต็มอกว่าคนที่เข้าไปร่วมงานเป็นใครกันไหม? ถ้าไป แบบนี้ คงทำให้พวกเขาหัวเราะกันตายไปข้างหนึ่ง?” คนนั่งข้างคนขับกู่ซามองไปที่ฉินหลั่ง ถึงกลับลูบหน้า ผากปาดเหงื่อแบบหมดคำพูด
“งั้นฉันก็ไม่ไปแล้วกัน…”ฉินหลั่งก็ไม่ได้สนใจ คำพูดของกุซ่าเลย เพราะเขาเองก็ไม่ได้เอาเลี้ยงงาน เลี้ยงมาใส่ใจสักเท่าไหร่ ไม่ให้เขาไปก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ใจ เขาต้องการอยู่พอดี
“ไม่เป็นไร แต่งตัวแบบนี้หล่อมากแล้วแหละ ขึ้น รถสิ” เผิงเมิ่งได้แต่ยิ้มหน้าบานให้
ฉินหลั่งนั่งอยู่เบาะหลัง เผิงเมิ่งสตาร์ทรถ แล้ว เห็นว่าเผิงเมิ่งจอดรถลงบริเวณรอบๆ ชุยเต่าหัวถึง ฉิน หลั่งถึงกับหมดความอดทน “ทำไมไม่ขับรถไปต่อล่ะ?”
“งานเลี้ยงวันนี้จัดในหมู่บ้านนี้แหละ” เผิงเมิ่งพูด
หวานหยดย้อย “พวกคุณลงรถเถอะเดี๋ยวฉันจะจอดรถ
สักเดี๋ยว”
ฉินหลั่งกับกู่ซาก้าวเท้าลงจากรถ ฉินหลั่งมองไป ที่หมู่บ้าน ในใจก็คิดว่ายังดีที่จงยู่ไปฝึกซ้อมอยู่ที่บริษัท ถ้าให้จงยู่มาเห็นเข้า มันคงดูไม่ดีสักเท่าไหร่ ตอนนี้เขา ต้องรีบจัดการเรื่องงานเลี้ยงนี้ให้เสร็จสิ้นโดยไว เพื่อจะ ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเผิงเมิ่ง
“เชอะ ดูสายตาเกจิ คงไม่เคยมาหมู่บ้านที่ดี ขนาดนี้ละมั้ง?” เมื่อเห็นว่าฉันหลั่งกำลังยืนเอ๋ออยู่ กู่ซา ได้แต่หัวเราะในลำคอ
ฉินหลังมองไปที่กุซ่าอยู่แวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูด อะไรต่อ
วันนี้กาซาแต่งตัวสวยงามเป็นอย่างมาก มันสวย กว่าครั้งที่แล้วที่ฉินหลั่งมาเจอกับเธอเสียอีก
เวลานี้เอง เผิงเมิ่งก็จอดรถเสร็จแล้ว พลันเดิน เข้าตามหลังมา ฉินหลั่งก็เพิ่งจะเห็นว่า วันนี้เผิงเมิ่งก็ แต่งตัวอย่างสะสวย
กระโปรงยาวสีเขียวอ่อน ด้านบนยังใส่หมวกสาน สไตล์ยุโรป หมวกสานใบนั้นยังผูกโบสีม่วงเข้มเอาไว้ มันช่างทำให้ใบหน้ารูปไข่ของเผิงเมิ่งเห็นชัด เธอสวม รองเท้าแตะตาข่าย ทั้งตัวดูสง่างามและเพรียวระหง ก็ เหมือนกับนางเอกสาวในภาพวาดของฮายาโอะ มิยา ซากิที่หลุดออกมาเช่นนั้น
ฉินหลั่งถึงกลับหลุดภวังค์ไปอยู่พักหนึ่ง
“ไปเถอะ” เมื่อเห็นฉินหลั่งยืนงงอยู่ เผิงเมิ่งยิ้มให้ เล็กน้อย เธอเดินเข้าไปหาด้านข้างของฉินหลั่งแล้วพูด ขึ้นมาว่า
ทั้งสามคนเดินไปยังด้านหน้าประตูของหมู่บ้าน
ประตูหมู่บ้านปิดเอาไว้ เผิงเม่งที่ไม่มีคีย์การ์ดเลย ทำให้พวกเธอเข้าไปไม่ได้ นานอยู่พอควร ก็ไม่มีคนเดิน ออกมา เผิงเมิ่งกับกูซ่าเลยร้อนรน
เหอะ งั้นฉันก็ต้องเปิดนะสิ ไม่มีวิธีอื่น ตอนนี้ก็ ต้องให้เขาเป็นคนเปิดเอง เขาเอาคีย์การ์ดมาไว้ตรงตัว สแกนบัตร เสียงดัง “ติ้ง” ประตูก็เปิดออก
“ทำไมคุณถึงมีคีย์การ์ดประตูนี้ได้ล่ะ?” เผิงเมิ่ง เบิกตาโตจ้องมองฉินหลั่ง หรือว่าฉันหลั่งเป็นลูกบ้าน ที่พักอาศัยในชุ่ยเต่าหัวถึง? ที่นี่มันเป็นหมู่บ้านที่หรูหรา ที่สุดในเมืองจีนหลิงเลยนะ?
“เหอะ…” ไม่คิดเลยว่าเผิงเมิ่งจะแสดงอาการออก ได้มากขนาดนี้ ฉินหลั่งรู้สึกเสียใจขึ้นมา ตอนนี้ได้แต่ พยักหน้ายอมรับ “ความจริงแล้วฉันพักอยู่ที่นี่”
“ย์” ฉินหลั่งเพิ่งพูดจบ กุซ่าตะคอกใส่เสียงดัง “ฉินหลั่งเอ๋ยฉินหลั่ง คำพูดพวกนี้แกยังกล้าพูดออกมา จากปากของแกได้ แกมีบ้านอยู่ที่นี่เหรอ? แกคิดว่าฉัน เป็นเด็กสามขวบหรือไง? บ้านที่ถูกที่สุดของชัยเต่าหัว ถึง ราคาแตะถึงสี่ล้านกว่า แกมีเงินมากมายก่ายกอง ขนาดนั้นเชียว?”
ฉินหลังขมวดคิ้วตอนที่มองไปทางกุซ่า
“แกคงยังไม่รู้ว่า วันนั้นหลังจากแกไปแล้ว ฉันกับ เผิงเมิ่งตั้งใจไปที่ห้องของแกแล้วไปหาเพื่อนในห้อง ของแกถามเรื่องของแกมา” กู้ซายิ้มให้ฉินหลั่งราวกับว่า มองฉินหลั่งได้ทะลุปรุโปร่ง “ค่าเทอมก็อาศัยทุนการ ศึกษาของรัฐบาลกับทุนการศึกษาคนยากจนของ มหาวิทยาลัย ส่วนค่าใช้จ่ายรายวันก็ได้มาจากการหา งานเล็กๆ น้อยๆ ทำ เสื้อผ้าก็มาจากกองเสื้อผ้าที่วางขาย ตามพื้น โทรศัพท์มือถือก็เป็นยี่ห้อเสี่ยวหมี่มีอสองอีก ต่างหาก…”
(กู่ซากับเผิงเมิ่งก็ช่างซวยซ้ำซวยซ้อนซะจริงๆ ไปได้ยินเรื่องประวัติลับๆ ความเป็นมาของฉินหลั่งมาส่วนเรื่องดีๆ ของฉินหลั่งก็ไม่ยินมาบ้างเลย)
“นี่แกนี่มันช่างสุดยอดเสียจริง แกพูดออกมาว่า แกคลุกคลีดีโมงอยู่ในมหาวิทยาลัยแบบนี้ ตอนนี้มาบอก กับพวกเรา ว่าแกก็พักอยู่ที่ชุ่ยเต่าหัวถึง? เชอะ แกคงนึก ว่าคงหลอกพวกเราได้ หรือว่าแกไม่มีสมองกันแน่?” กู่ ซาพูดอย่างไม่มีความเกรงใจสักนิด
ฉินหลั่งกลืนน้ำลายลงคอ กุซ่าพูดออกมาล้วน เป็นจริง แต่ว่าตนเองก็ไม่ได้พูดโกหกนี่ เขามีวิลล่าอยู่ที่ ชุ่ยเต่าหัวถึงจริงๆ อีกอย่างวิลล่าที่แพงหูฉีหลังนั้นที่อยู่ ด้านในหมู่บ้านเป็นของเขาเอง
“ซาซา” เผิงเมิ่งดึงกู่เอาไว้ คำพูดของเธอนั้น ช่างเสียดสีจริงๆ “บางทีเขาอาจจะพูดความจริงก็ได้”
ในใจของเผิงเมิ่งยังกอดความหวังเอาไว้อยู่ ว่า ฉินหลั่งไม่ได้หลอกลวงเธอ
“จริงเหรอ? เผิงเมิ่ง อย่าโง่เลย ฉันคิดว่าเขาคง ทำงานกระจอกงอกง่อยอยู่ในหมู่บ้านนี่แหละ ถึงได้มีคีย์ การ์ดประตูเข้าได้” กุซ่าได้แต่หัวเราะไม่เลิก เธอชี้ไปที่ ประตูห้องทำงานป้อมยาม แล้วมองไปที่ฉินหลั่ง “แก กล้าไปตรงนั้นแล้วถามไหม ว่าแกเป็นลูกบ้านที่นี่ พวก เขาต้องรู้จักแกแน่!”
ฉินหลั่งหมดคำพูด เขากับกุซ่า เผิงเมิ่งก็ไม่ได้มี ความสัมพันธ์ใดๆ อยู่ดีๆ จะไปหาเรื่องใส่ตัวทำไม
การที่เป็นไปตามนี้มันก็ดีมากแล้ว เมื่อจะได้หลีก เลี่ยงที่ทำให้พวกเธอรู้ความจริงว่าตนเองนั้นเป็นคนมีเงิน แล้วจะเกิดอยากเปลี่ยนใจหันมาหาตนเองแทน เขา ย่นคิ้วเข้าหากัน แล้วมองแล้วมองอีก ก็ไม่ได้แสดงความ รู้สึกใดๆ ออกมา
“เห็นหรือยัง คนคนนี้มีแต่พูดเรื่องโกหก…” กู่ซา รู้สึกว่าพูดดักทางคำโกหกของฉินหลั่งได้ เลยได้แต่ยิ้ม ให้เผิงเมิ่งอย่างพอใจ เผิงเมิ่งทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆ แถมได้แต่ปลอบใจตนเอง ฉินหลั่งก็แค่พูดปดเป็นบางที มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
“อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกกำลังคิดวางแผนอะไร อยู่ แกอยากจะหลอกให้เผิงเมิ่งรู้สึกดีกับแกแน่ๆ เพื่อจะ ได้จีบเธอให้อยู่หมัด แล้วก็อยากเข้ามาอยู่ในบ้านของ เธอ เพื่อจะได้มีชีวิตได้ดีขึ้น?” แววตาของกู่ซาทำเหมือน ว่ามองฉินหลั่งได้อย่างทะลุปรุโปร่ง “เชอะ ฉันยังไม่ได้ บอกแกเรื่องหนึ่ง มีฉันอยู่ สิ่งที่แกต้องการอย่าได้คิด”
“ซาซา ไม่ต้องพูดแล้ว….” เผิงเมิ่งรู้สึกว่ากู่ซาเร่ม พูดเกินเลยไปใหญ่แล้ว เพราะเธอรู้สึกว่าฉินหลั่งไม่ใช่ คนแบบนั้น
“ฉินหลั่ง คุณอย่าเก็บมาใส่ใจ ซาซาแค่เป็นห่วง ฉันเท่านั้นเอง” เผิงเมิงพูดกับฉินหลั่งอย่างเก้อเขิน “เรา เดินเข้าไปด้านในกัน พวกเขาก็มากันแล้ว..”
เผิงเมิ่งแทรกกลางระหว่างฉินหลั่งกับกุซ่า ทั้ง สามคนเดินเข้าไปด้านในของหมู่บ้าน