รวยชั่วข้ามคืน?! - บทที่196 เกือบโดนฉินหลั่งทำลายยับไปแล้ว
บทที่196 เกือบโดนฉินหลั่งทำลายยับไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผู้อำนวยการหลิวไม่ประกาศ อะไรออกมา ในมหาลัยไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ฉินหลั่ง บริจาคเงินแม้แต่น้อย ในสายตาเพื่อนนักเรียนฉินหลั่ง ยังคงเป็นยาจกคนนั้นอยู่
พอมีเวลาว่างเขาก็จะไปฝึกซ้อมการแสดงกับ หลงหลิงพวกเขา แต่จากเรื่องต่างๆที่ผ่านมา หลงหลิง ยิ่งเย็นชาต่อฉินหลั่งเข้าไปอีก
เพียงชั่วพริบตาก็ถึงวันงานเลี้ยงต้อนรับ
ณ จัตุรัสหยวนเย่วมหาวิทยาลัยเจียงหนาน ตอน เช้าเริ่มมีการจัดตั้งเวทีเหล็ก เมื่อพระอาทิตย์ตกยามเย็น เวทีเหล็กส่องแสงไฟสีฟ้าขึ้นมาอย่างสงบๆ เมื่อความ มืดยามค่ำคืนมาถึงงานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้น
ตอนบ่ายฉินหลั่งนอนหลับเต็มอิ่ม ขณะนี้ตื่นแล้ว ล้างหน้าล้างตาแต่งตัวและรีบไปยังเวที
เขามายังบริเวณเตรียมนักแสดงหลังเวที และ เปลี่ยนเป็นชุดการแสดง หลงหลิงกับฉาวหนิงยังไม่มา ฉินหลั่งเห็นนักเรียน2-3คนที่สวมชุดสูททันสมัย กำลัง รักษาความสงบเรียบร้อยของงานจางฉีรูมเมทของตนก็ อยู่ด้วย
ฉินหลั่งคิดถึงการแสดงของตนที่ต้องกระโดด โลดเต้นอยู่บนเวที โทรศัพท์อาจตกบนเวทีได้ จึงไปหา จางฉีและเอาโทรศัพท์ให้เขา เมื่อตนแสดงเสร็จแล้วค่อยมาเอาคืน
ตอนนี้นักแสดงทั้งหลายต่างเตรียมความพร้อม กันอยู่ จางเสี่ยวซานเพื่อนร่วมการแสดงของฉินหลั่ง กำลังโมโหมาก เมื่อครู่ตอนที่เธอไปกินข้าวนอกมหาลัย กับเพื่อน ทำที่คาดผม อุปกรณ์สำคัญในการแสดงตก อยู่ที่ร้านข้าว
จางเสี่ยวซานคิด เวทีกับร้านข้าวห่างกันมาก ไป แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาเจอไหม กำลังสับสนในใจว่าควรไป หรือไม่ไปหาดี
ทันใดนั้น เธอเห็นหันไปมองฉินหลั่ง คิดอะไรบาง อย่าง หมอนี่แขนขายาว ต้องวิ่งเร็วแน่ๆ ให้เขาไปดูให้ดี กว่า
“ฉินหลั่ง ฉันลืมที่คาดผมอุปกรณ์ในการแสดงไว้ ที่เซียงหมั่นโล้นอกมหาลัย นายไปเอามาให้ฉันหน่อย ได้ไหม ? “จางเสี่ยวซานเดินไปหาฉินหลั่ง พลางพูด อย่างร้อนรน
“เธอไปเองเถอะ ตอนนี้ยังเหลืออีก1ชั่วโมงกว่า ถึงจะเริ่มการแสดง ทันอยู่แล้ว”ฉินหลังพูด จางเสี่ยว ซานคิดว่าเขาโง่รึไง มีสิทธิ์อะไรมาให้เขาไปหาของที่ เธอทำหาย
“โถ่ ถ้าฉันมีเวลาฉันจะให้นายไปทำไมละ อีก เดี๋ยวฉันยังต้องช่วยหลงหลิงใส่ชุดอีก ฉันไปแล้วใครจะ ช่วยหลงหลิงล่ะ หรือนายจะให้ฉาวหนิงช่วยหลงหลิง ใส่ ? “จางเสี่ยวซานพูด เธอรู้ว่าฉันหลั่งแอบชอบหลงหลิง เลยใช้หลงหลิงมากระตุ้นเขา
“จริงเหรอ ? “ฉินหลั่งถาม
“นายไม่ไปใช่ไหม โอเค ฉันไปเอง แล้วให้ฉาว หนิงช่วยหลงหลิงใส่เสื้อผ้า”จางเสี่ยวซานเห็นฉินหลั่ง ติดกับแล้ว จึงพูดเสแสร้งไป
“โอเค ฉันจะไปช่วยหาให้ เธออยู่ที่นี่แหละ”ฉิน หลั่งรีบยืนขึ้น เมื่อนึกภาพว่าฉาวหนิงใส่เสื้อผ้าให้หลง หลิง ฉินหลั่งก็กลัวขึ้นมาเขาหันไปพูดกับจางเสี่ยวซาน แล้วรีบวิ่งไปยังเซียงหมั่นโล่นอกมหาลัย
“เหอะ ไอ้ขี้แพ้ นายนี่รักหลงหลิงซะจริงๆ”จาง เสี่ยวซานพูดยิ้มๆ พลางนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบายๆ
ขณะนั้นเอง ฉาวหนิงและหลงหลิงเดินตามกันมา ติดๆ พวกเขาแต่งหน้าและแต่งตัวเสร็จแล้ว
“ฉินหลังยังไม่มาเหรอ ? “ฉาวหนิงขมวดคิ้วถาม
จางเสี่ยวซานพยักหน้าพลางพูด : “อืม ฉาวหนิง หมอนี่ไม่ให้ความสำคัญกับงานเลี้ยงเอาซะเลย” ฉาวหนิงพูด : “หมอนี่ไม่ควรปล่อยไก่บนเวทีจะดี
กว่า”
ในขณะนั้นโทรศัพท์ของหลงหลิงดังขึ้น เป็นน้อง หลงเย็นโทรมา หลงหลิงจึงรับสาย
“ฮัลโหล พี่ คืนนี้พวกพี่มีงานต้อนรับปีใหม่ใช่ไหม ฉันอยากไปดู”เสียงหวานๆของหลงเย็นดังออกมา
“งั้นแกเรียกรถมาเองสิ การแสดงของพี่ยังไม่ถึงแกมาคงดูทัน”หลงหลิงพูด
“ตอนนี้มืดแล้ว ฉันไปคนเดียวกลัวนะ งั้นพี่ให้.. ให้ฉันหลั่งมารับฉันเป็นไง เขาอยู่ฉันถึงจะสบายใจ”หลง เย็นพูดอย่างอายๆ
“แต่ว่า…”หลงหลิงอยากบอกน้องสาวว่าฉินหลั่งก็ มีการแสดงเหมือนกัน แต่เธอรู้ที่น้องสาวให้ฉินหลั่งไป รับเธอ ที่จริงเพราะอยากเจอฉินหลั่ง เมื่อคิดว่าการแสดง อยู่รายการหลังๆ ต่อให้ฉันหลั่งไปรับน้องสาวคงทัน จึง พูดไป : “โอเค พี่ให้เขาไปรับแกเดี๋ยวนี้แหละ ….”
“ขอบคุณนะพี่ ตอนนี้ฉันกำลังเดินไปเคเอฟซี พี่ ให้เขาโทรหาฉันนะ…”หลงเย็นพูดจบก็วางสายไป
หลงหลิงพยักหน้า เธอหาเบอร์ของฉินหลั่งเจอ บนตารางเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ในงาน จากนั้นกด หมายเลขและกำลังจะโทรไป และคิดว่าครั้งนี้ที่ตนโทร หาเขา คงไม่ทำให้เขาคิดว่าตนมีความรู้สึกดีๆกับเขา หรอกมั้ง ?
หลงหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่โทรหา เขา แต่ส่งข้อความไปแทน ว่าให้ฉินหลั่งไปรับน้องสาว ตน
เวลา2ทุ่ม ล่างเวทีมีผู้คนนั่งอยู่อย่างหนาแน่น ล้วนเป็นนักเรียนใหม่ของมหาวิทยาลัยเจียงหนาน รอบๆ ยังมีนักเรียนปี2ปี3ยืนเป็นวงอยู่2-3วง หลังจากไฟส่อง สว่างพร่างพราว ม่านงานเลี้ยงต้อนรับเปิดเริ่มงานอย่าง เป็นทางการ ! รายการการแสดงต่างๆพากันแสดง เสียงปรบมือและเสียงร้องเรียกด้านล่างเวทีดังกึกก้อง
กว่าฉินหลั่งจะหาที่คาดผมที่จางเสี่ยวซานทำ
หายนั้นไม่ง่ายเลย ในที่สุดเขาก็กลับมาถึงหลังเวที จาง เสี่ยวซานเข้าไปขอบคุณ แล้วเอาที่คาดผมของตนมา ฉินหลั่งมองหลงหลิง ที่กำลังนั่งดูการแสดง
อย่างใจจดใจจ่อ แล้วพูดกับจางเสี่ยวซานเบาๆ : “เธอใส่
เสื้อผ้าให้หลงหลิงใช่ไหม ?”
จางเสี่ยวซานลูบจมูก พลางพูด : “ไม่ต้องห่วง ฉันเอง ฉาวหนิงไม่ได้แตะต้องหลงหลิงแม้แต่ปลาย ก้อย”
ฉินหลั่งโล่งใจ คิดว่าที่ไปช่วยเอาที่คาดผมให้จาง เสี่ยวซาน เหนื่อยก็เหนื่อยแหละ แต่คุ้ม
ฉินหลังค่อยๆเดินไปนั่งข้างๆหลงหลิง หลงหลิง เห็นฉินหลั่งเดินมา จึงคิดว่าเขาไปตั้งนานคงรับน้องสาว
มาแล้วแน่ๆ จึงถามขึ้น : “พามาแล้วเหรอ ? ”
หลายวันมานี้หลงหลิงไม่ค่อยได้พูดกับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่าที่ หลงหลิงถามว่าพามารียังคือที่คาดผมของจางเสี่ยวซาน จึงพยักหน้าพลางพูด : “พามาแล้ว”
“โอเค”หลงหลิงพูดอย่างเย็นชา ใกล้ถึงการ แสดงของเธอแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนที่จะเจอหลงเย็น
ได้ยินพิธีกรบนเวทีพูดเสียงดัง : “รายการต่อไป เป็นรายการที่พวกคุณรอคอยมากที่สุด ( รดี้ ) ผู้แสดง : ฉาวหนิง หลงหลิง ต่งอี้ จางเสี่ยวซาน และฉินหลั่ง….”
พิธีกรบอกรายการแสดงเสร็จ ก็มีเสียงเชียร์จากผู้ ชมด้านล่างเวที ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างส่งเสียงกัน อย่างดีใจ ในสายตาสาวๆทั้งหลาย ฉาวหนิงคือเจ้าชาย รูปงาม ส่วนสำหรับหนุ่มๆหลงหลิงคือเทพธิดา คู่ที่ เหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยกแบบนี้ คนอื่นๆจะไม่รอคอย ได้ยังไง
ฉาวหนิงพวกเขายังไม่ทันขึ้นเวที ล่างเวทีก็คึกคัก กันใหญ่ซะแล้ว
หนุ่มๆเรียกเสียงดัง”หลงหลิง หลงหลิง หลง หลิง”
สาวๆก็ไม่น้อยหน้า : “ฉาวหนิง ฉาวหนิง ฉาว หนิง….”
ฉาวหนิงพวกเขาเดินขึ้นเวทีมาจากด้านหลัง ผู้ชม ด้านล่างเวทีต่างพากันกระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้น สุดๆ
เมื่อแสงไฟดับลง ทั้งฮอลล์ก็เงียบลง ไม่มีเสียง
เล็ดลอดแม้แต่น้อย จากนั้นไฟค่อยๆสว่างขึ้น ดนตรีพลางบรรเลง ประกอบ เสียงร้องเพลงของหลงหลิงดังมาจากไกลๆ
“โลกที่เต็มไปด้วยดอกไม้อยู่ที่ไหนกันแน่
ถ้ามันมีอยู่จริงๆฉันไปหาแน่นอน
ฉันจะยืนบนยอดเขาที่ตั้งสูงตระหง่าน
ไม่แคร์ว่ามันเป็นหน้าผาที่สูงชันหรือไม่”
เสียงร้องของหลงหลิงหยุดลงจากนั้นฉาวหนิงก็ ร้องต่อ
“ใช้ชีวิตและรักอย่างเต็มที่ถึงแม้จะต้องตายอย่าง
อนาถ
ไม่ขอให้ใครพึงพอใจ เพียงแค่ทำเพื่อตัวเอง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับความหวัง ฉันไม่เคยคิดจะละทั้ง
แม้ในวันที่สิ้นหวัง”
พวกเขาทั้งสองผลัดกันร้องเพลงบนเวที ฉินหลั่ง ทำท่าวิ่ง กระโดด ลากๆดึงๆอยู่ด้านหลัง เพื่อสร้าง บรรยากาศให้เพลงนี้มีชีวิตชีวา
เพียงแค่การสบตากันอย่างลึกซึ้งขณะร้องเพลง ฉินหลั่งก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ปกติตอนซ้อมไม่ได้ รู้สึกแบบนี้ แต่ตอนนี้ภายใต้แสงไฟ เสียงดนตรีและผู้ชม อีกหลายพันคน ความรู้สึกแบบนี้ยิ่งชัดเจนขึ้น
ฉินหลั่งกำลังทำท่าทางอย่างแข็งที่อ
เพลงดำเนินมาถึงจุดสูงสุด หลงหลิงและฉาว หนิงร้องพร้อมกัน เสียงของทั้งสองเหมาะสมกันมาก
“วิ่งไปข้างหน้า เผชิญกับสายตาเย็นชาและเย้ย หยัน
จะรู้สึกถึงความกว้างใหญ่ของชีวิตได้อย่างไร หากไม่เคยทุกข์ทรมาน
โชคชะตาไม่ใช่สิ่งที่เราจะคุกเข่าขอร้องได้
ถึงแม้อ้อมกอดจะเต็มไปด้วยเลือด”
หลงหลิงและฉาวหนิงจับมือกัน และเดินไปตาม จังหวะเพลง ทำให้ผู้ชมด้านล่างเวทีต่างร้องเพลงเสียง ดังไปกับพวกเขา คน2-3พันคนร้องเพลงด้วยกัน มี อิทธิพลอย่างมาก เป็นฉากที่งดงาม
แต่ฉินหลั่งโฟกัสแค่การสบสายตาอย่างลึกซึ้ง ของหลงหลิงและฉาวหนิง อันที่จริงตอนนี้เขาควรรีบวิ่ง จากทางซ้ายของเวทีไปทางขวาแต่ฉินหลั่งกลับหยุด ชะงัก เขายืนมองพวกเขาทางด้านหลังหลงหลิง
ต่งอี้และจางเสี่ยวซานเรียกยังไง ฉินหลั่งก็ไม่ ได้ยิน
โชคดีที่ผู้ชมทั้งฮอลล์กำลังตกอยู่ในภวังค์ ใน เสียงร้องของหลงหลิงกับฉาวหนิง พวกเขาไม่ทัน สังเกตเห็นว่าบนเวทีมีนักเต้นคนหนึ่งยืนนิ่งไม่ขยับ
“จะไม่ยอมแพ้จนกระทั่งแก่ตัวลง”
เมื่อเพลงจบ หลงหลิงและฉาวหนิงกอดกัน มี เสียงปรบมือดังกึกก้องจากด้านล่างเวที และมีคนตะโกน ออกมาว่า”คบกัน คบกัน….”เสียงยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนทั้ง ฮอลล์ตะโกนพร้อมกัน : “คบกัน คบกัน”ดังกึกก้องไปทั้ง มหาลัย
ฉาวหนิงจับมือหลงหลิง พลางจ้องตาเธออย่าง รักใคร่สุดๆ ใจก็เต้นรัว แล้วค่อยๆขยับไปหาใบหน้าหลง หลิง หลงหลิงสับสนไปหมดท่ามกลางเสียงของผู้คน มากมายแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไง ใบหน้าของฉาวหนิงแนบชิดกับใบหน้าหลงหลิง
จู่ๆฉาวหนิงก็โดนผลักออก เขาเซไปเล็กน้อยจน
เกือบล้มลง เมื่อมองไปก็เห็นเป็นกำลังฉินหลั่งดึงหลง หลิง ผลักเขาแบบนี้ก็โมโหขึ้นทันที ผู้ชมล่างเวทีก็ไม่พอใจเช่นกัน ฉินหลั่งทำลาย
ฉากที่พวกเขารอเคย ผู้ชมส่งเสียงด่าทอฉินหลั่ง เสียง
ด่าทอดังไปบนเวทีอย่างกับคลื่นทะเล
“เห้ย ทำอะไรวะ ! ”
“ไอ้หมอนี่อยากตายรึไง”
“แย่งนางฟ้าของฉันเหรอวะ”
“ผลักเทพบุตรของฉัน ! อยากตายเหรอ”
“ทำไม่ทำแบบนี้เนี่ย”
“ไปกับผม ! “ฉินหลั่งไม่สนว่าคนที่อยู่ด้านล่างด่า ว่าเขายังไง เขาเพียงไม่อาจเห็นคนอื่นจูบหลงหลิง ฉิน หลั่งพูดเสร็จก็จูงหลงหลิงไปหลังเวที
“ให้ตายเถอะ แกตั้งใจสร้างความวุ่นวายใช่ ไหม ! “ผู้กำกับการแสดงหลีซี และนักแสดง2-3คนหลัง เวทีล้อมฉินหลั่งอยู่ในขณะเดียวกัน ฉาวหนิงก็ลงมาจาก เวทีเช่นกัน
“เรียกพวกเอกการกีฬามาให้ฉันหน่อย อัดมันให้ น่วม…”ฉาวหนิงพูดกับหลีซีอย่างเดือดดาล หลีซีตอบรับ กลับ และกำลังจะให้คนอื่นไปเรียกคนมา
“อย่าไป”จู่ๆหลงหลิงพูดขึ้น
“หลงหลิง เธอไม่ต้องปกป้องมัน”ฉาวหนิงพูด อย่างไม่พอใจ
หลงหลิงเหลือบมองฉินหลั่ง แล้วพูดกับฉาว หนิง : “ฉันไม่ได้ปกป้องเขา อีกทั้งเขาก็ไม่ได้ทำอะไร ผิด ทำไม่นายต้องไปเรียกคนมาต่อยเขาด้วย”
หลงหลิงพูดเช่นนี้ ฉาวหนิงก็เข้าใจทันที หลง หลิงหมายความว่า ที่ตนจะจูบเธอตอนอยู่บนเวที คือการ ล่วงเกินเธอ แต่ที่ฉินหลั่งทำไม่ผิด
พูดจบหลงหลิงก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้
ฉาวหนิงกรีดร้องในใจเดิมที่เขาจะอาศัยเสียง เรียกร้องของผู้ชม แล้วก้าวความสัมพันธ์กับหลงหลิงไป อีกขั้น คิดไม่ถึงว่าจะทำให้หลงหลิงโกรธ
“ฉาวหนิง ยังจะเรียกพวกเอกการกีฬาไหม ? “หลี
ซีถาม
ฉาวหนิงถลึงตาใส่เขา แล้วรีบเดินไปนั่งข้างหลง หลิง หลีซีตกใจกลัวจนคอหด และเดินไปข้างๆฉาวหนิง ดูว่าจะช่วยพูดโน้มน้าวหลงหลิงได้ไหม
“หลงหลิง ฉันผิดไปแล้ว เมื่อกี้บนเวที่ฉันตื่นเต้น เกินไป สมองโล่งไปหมด เลยทำเรื่องแบบนั้น เธอยก โทษให้ฉันได้ไหม ? “ฉาวหนิงพูดกับหลงหลิงอย่าง จริงจัง
หลงหลิงเห็นเขาพูดอย่างจริงใจ และคิดว่าตนก็ไม่ได้โดนเขาจูบจริงๆ เธอยังคงชื่นชมในฝีมือของฉาว หนิง ดังนั้นจึงพยักหน้า : “ครั้งนี้ช่างมันเถอะ จริงสิ การ แสดงบนเวทีของเราเมื่อกี้นี้ ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ผู้ ชมต่างชอบใจ”
“อิม นายไม่เห็นเหรอว่าทุกคนต่างร้องเพลงไป กับเรา”เมื่อเห็นว่าหลงหลิงยกโทษให้เขาแล้ว ฉาวหนิ งก็โล่งอก
“หลงหลิงฉาวหนิง การแสดงของพวกเธอหน่ะดี มาก แต่พวกเธอไม่เห็น ตอนที่พวกเธอร้องถึงจุดสูงสุด คนนามสกุลฉินยืนแน่นิ่งอยู่บนเวที ถ้าไม่ใช่เพราะความ ยอดเยี่ยมของการแสดงพวกเธอ การแสดงนี้คงโดน หมอนี่ทำลายยับไปแล้ว”หลีซีชี้ฉินหลั่งพลางพูด