ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 123 รวบรวมข้อมูล (1)
ตอนที่ 123 รวบรวมข้อมูล (1)
การเลือกหัวหน้าชั้นแทบไม่เหนือความคาดหมายอะไร เสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ฟางผิงอัดจ้าวเหล่ยคนที่ทุกคนรู้ทั่วกันว่าหลอมกระดูกได้เยอะที่สุดและเป็นอันดับหนึ่งในชั้นจนหน้าบวมเป็นหัวหมู สี่สิบแปดคนที่เหลือต่างไม่มีใครคัดค้านผลตัดสิน
ตอนนี้จ้าวเหล่ยยังคงนอนแกล้งตายอยู่ที่พื้น
ไม่แกล้งตายคงไม่ได้ อับอายขายขี้หน้าเกินไป!
เขาแทบไม่ทันได้โต้กลับ ก็ถูกฟางผิงอัดจนหน้าบวมเป็นหัวหมู แม้ฟางผิงจะโจมตีโดยที่ไม่ทันตั้งตัว แต่นั่นถือว่าเป็นความสามารถของฟางผิงเช่นกัน
อันที่จริงมีหลายคนมองออกว่าจ้าวเหล่ยแกล้งสลบ
แต่ติดที่จ้าวเหล่ยไม่ใช่คนที่จะรังแกได้ง่ายๆ ถังเฟิงอาจารย์ของเขายังอยู่ที่นี่ ทุกคนจึงไม่อาจหัวเราะอย่างไม่เกรงใจได้
ฟางผิงกลับไม่สนใจว่าถังเฟิงอยู่ที่นี่ สุดท้ายยังใช้คำพูดของถังเฟิงมาแดกดันเขาเล็กน้อย
เขาไม่พอใจถังเฟิงอยู่บ้างเหมือนกัน
ตอนที่แบ่งสาขา อาจารย์คนนี้เคยขุดหลุมเขาครั้งหนึ่ง ปล่อยให้เขาเลือกหลู่เฟิ่งโหรวแล้วค่อยมาเตือนว่าเสี่ยงที่จะตายสูง
แน่นอนว่าตอนนี้ฟางผิงรู้แล้ว ลูกศิษย์พวกนั้นของหลู่เฟิ่งโหรวรนหาที่ตายเอง แทบไม่เกี่ยวข้องกับหลู่เฟิ่งโหรวเลย
ฟางผิงที่ใจกว้าง จึงไม่ลืมที่จะใช้โอกาสเล็กๆ นี้เอาคืนสักหน่อย
แต่ถังเฟิงเป็นคนอนุญาตให้เขาแลกเปลี่ยนความรู้ ฟางผิงก็ไม่คิดจะเอาจริงเอาจังกับจ้าวเหล่ย
ความจริงสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาจารย์ของตัวเองเหมือนจะมองถังเฟิงขัดหูขัดตา จึงจงใจหาเรื่องศิษย์เขาแทน
มีหลู่เฟิ่งโหรวหนุนหลัง ฟางผิงถึงได้ใจกล้าแบบนี้
ถังเฟิงไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น ชำเลืองมองฟางผิง แทบจะมองข้ามจ้าวเหล่ยไป
เอ่ยอย่างรวดเร็ว “งั้นจากนี้ฟางผิงคือหัวหน้าชั้น คนอื่นๆ เห็นต่างหรือไม่?”
ไม่มีใครคัดค้าน
“ดี หัวหน้าถูกเลือกแล้ว กลับไป…กลับไปแล้วให้จ้าวเหล่ยมาเอาตารางรวมตัวฝึกที่ฉัน”
ฟางผิงพูดออกมาแล้ว เรื่องวิ่งเต้นจะมอบให้จ้าวเหล่ยทำแทน
ถังเฟิงไม่คิดจะบิดพลิ้วคำพูดแทนลูกศิษย์ตัวเอง สู้คนอื่นไม่ได้ กระตุ้นลูกศิษย์คนนี้ของเขาก็ดีเหมือนกัน
ความหยิ่งทระนงของจ้าวเหล่ย เขามองเห็นอยู่ในสายตาเช่นกัน
ความทะเยอทะยานจะว่ามากก็ไม่ใช่ จะว่าน้อยก็ไม่ถือว่าน้อย จ้าวเหล่ยไม่ค่อยชอบฟางผิงเท่าไหร่ แต่ไม่ได้จงใจจะหาเรื่องเหมือนกัน อันที่จริงยังแสดงให้เห็นว่าเขาถูกอบรมมาดีไม่น้อย
ครั้งนี้ให้เขาได้รับบทเรียนไป ครั้งหน้าคงจะดีขึ้นแล้ว
บางครั้งคำที่อาจารย์พูด ลูกศิษย์อาจจะไม่ฟังเสมอไป แต่ถูกฟางผิงซ้อมยับขายหน้าต่อทุกคนแบบนี้ คงได้รับบทเรียนครั้งใหญ่แล้ว
แน่นอนว่าหากยังไม่เปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าเรื่องจิตใจคงไม่ผ่าน ถังเฟิงไม่คิดจะให้ความสำคัญกับเขาเกินไปเช่นกัน
ไม่สนใจว่าจ้าวเหล่ยจะตอบรับหรือไม่ ถังเฟิงพูดต่อว่า “การรวมตัวฝึกซ้อมเริ่มต้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ คงไม่อาจรบกวนคลาสเรียนปกติของทุกคน หลักๆ จะรวมตัวตอนกลางคืนและสุดสัปดาห์ จะพูดรายละเอียดวันพรุ่งนี้อีกที ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายได้”
พวกนักศึกษาพากันแยกย้ายออกไป มีหลายคนยังนิ่งอยู่กับที่ อยากเห็นว่าจ้าวเหล่ยจะแสดงละครต่อไปหรือเปล่า?
ปรากฏว่าจ้าวเหล่ยไม่คิดจะเล่นต่อ ถังเฟิงประกาศแยกย้ายแล้วก็รีบลุกขึ้นมาทันที
เช็ดเลือดกำเดาและน้ำตาบนใบหน้าแล้ว จ้าวเหล่ยค่อยเงยมองฟางผิง กัดฟันว่า “ครั้งนี้ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ แต่คอยดูต่อไปเถอะ ชีวิตในมหาวิทยาลัยเพิ่งจะเริ่มต้น!”
ฟางผิงเบะปาก เอ่ยอย่างไม่แยแส “ขอแค่พ่อนายไม่มาหาเรื่องฉันตัวต่อตัว ฉันรอนายได้ทุกเมื่อ”
“ยั่วยุฉันให้น้อยๆ หน่อย พ่อฉันไม่ได้ไร้ยางอายขนาดนั้น!”
จ้าวเหล่ยแค่นเสียงขึ้นจมูก การกระทำนี้กลับเป็นปัญหา!
จมูกเขายังเจ็บอยู่เลย
จ้าวเหล่ยใบหน้ากระตุก ก่อนน้ำตาจะไหลบ่าออกมาอีกครั้ง
“ร้องไห้อีกแล้ว ชอบทำให้รู้สึกว่ากำลังรังแกเพื่อนตัวน้อยอยู่เรื่อยเลย”
ฟางผิงถอนหายใจ เดินจากไปไม่ยั่วโมโหเขาอีก
เขาบอกว่าไม่ยั่วโมโหแล้ว จ้าวเหล่ยกลับถูกยั่วโมโหจนแทบจะบ้าคลั่งอยู่บ้าง ใครร้องไห้กัน?
ถ้านายไม่ต่อยจมูกฉัน น้ำตาจะไหลได้ยังไง?
—
ตึกฝึกซ้อมใหญ่
ฟู่ชางติ่งหัวเราะจนปวดท้อง คว้าไหล่ฟางผิงว่า “นายนี่มันโหดจริงๆ หน้าเขาบวมกว่าฉันครั้งก่อนตั้งเยอะ คงไม่หายในหนึ่งอาทิตย์แน่ๆ”
“ฉันแค่ทำเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ใหญ่กว่านี้”
ฟางผิงเอ่ยอย่างจนใจ “หมอนี่มักคิดว่าครั้งก่อนตัวเองแพ้เพราะไม่ทันระวัง ดังนั้นจึงแค้นอยู่เรื่อยมา ครั้งนี้ให้เขาได้สัมผัสถึงความรู้สึกหมดหวัง เขาคงไม่คิดคับข้องใจขนาดนั้นแล้ว”
เขาพูดความจริงเสียทีเดียว คนอย่างจ้าวเหล่ย ต้องเอาชนะเขาอย่างไร้ข้อกังขาถึงจะยอม
เรื่องครั้งก่อนเห็นได้ชัดว่าจ้าวเหล่ยไม่ยอมรับเท่าไหร่
ความไม่ยินยอมจึงเกิดเป็นคับแค้นใจ เรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
ตอนนี้หากฟางผิงไม่จัดการเขาสักหน่อย กลับจะกลายเป็นปัญหาไม่น้อย
ระหว่างที่พูด ฟางผิงยังหันมามองข้างหลัง ตะโกนดังลั่นว่า “เข้าคลาสฝึกพิเศษแล้ว คงมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้มากมาย มีแค้นควรจะชำระ ใครพูดไม่ดีลับหลังฉัน ฉันกระจ่างใจดี ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย อัดก่อนค่อยว่ากัน…”
“สารเลว!”
หยางเสี่ยวม่านที่อยู่ด้านหลังด่าออกมา นายไม่พูดชื่อเจาะจงซะเลยล่ะ จำเป็นต้องชี้ต้นหม่อนด่าต้นไหว[1]หรือไง?
เฉินอวิ๋นซีรีบดึงเธอไว้ คลาสฝึกพิเศษต้องมีวิชาต่อสู้ในสถานการณ์จริงอยู่แล้ว อย่าหาเรื่องหมอนั่นเลย เดี๋ยวก็ถูกอัดจริงๆ หรอก!
หยางเสี่ยวม่านไม่เต็มใจนัก ทำปากขมุบขมิบไม่พูดอะไรอีก
ฟู่ชางติ่งยกนิ้วโป้งให้ฟางผิง กระซิบว่า “ใช้ได้ วิธีนี้เยี่ยมจริงๆ แผนสร้างความเกลียดชังให้เธอจนแปรเปลี่ยนเป็นความรัก? ครั้งหน้าฉันจะลองดู ผู้หญิงล่ะน้า เป็นแบบนี้กันหมด บางทีอาจสำเร็จจริงๆ ก็ได้”
“ไสหัวไปไกลๆ เลย!”
ฟางผิงก่นด่า นายมันคิดเชื่อมโยงไปเรื่อยจริงๆ!
ประชันฝีปากกับฟู่ชางติ่งอยู่สักพัก ก่อนฟางผิงจะเห็นหลู่เฟิ่งโหรวย่างฝีเท้าอย่างช้าๆ อยู่ข้างหน้า เขาจึงรีบตามเข้าไป
—
“ขอบคุณนะครับอาจารย์”
ฟางผิงเดินเข้าไปขอบคุณทันที หกสิบคะแนนครั้งนี้แทบจะได้มาฟรีๆ
นี่เป็นสิทธิพิเศษที่หลู่เฟิ่งโหรวมอบให้เขา ไม่งั้นถังเฟิงคงไม่ตัดสินใจออกมาแบบนี้หรอก
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน นายเป็นคนแย่งชิงมาเอง”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่คิดจะเอาความดีความชอบ เดินเอ่ยไปพลาง “ยิ่งทรัพยากรนายมีเยอะเท่าไหร่ จะก้าวหน้าเร็วขึ้นเท่านั้น บางทีอาจตายไวเหมือนกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน”
พูดประโยคนี้แล้ว หลู่เฟิ่งโหรวค่อยพูดต่อว่า “แต่ฉวยโอกาสนี้คว้าทรัพยากรและคะแนนให้มากหน่อย ยังจำเป็นต้องใช้แลกยาบำรุงเพื่อพัฒนาความสามารถ”
“หื้ม?”
ฟางผิงเผยสีหน้างุนงง ก่อนหน้านี้หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้พูดแบบนี้ เธอเคยบอกเป็นนัยว่า ลูกศิษย์ของเธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้
หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อาจจะพ่ายแพ้ในการแข่งขัน หากพ่ายแพ้ เรื่องทรัพยากรคงตึงเครียดขึ้นมาแล้ว ถึงเวลานั้นคิดจะพัฒนาความสามารถล้วนเป็นเรื่องยาก”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะแพ้?”
ฟางผิงยังคงยากจะเชื่ออยู่บ้าง เพิ่งจะตั้งคลาสฝึกพิเศษขึ้นมากลับคิดเรื่องพ่ายแพ้แล้ว?
“ฉันก็เพิ่งรู้มาไม่นาน ช่วงนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันอยู่บ่อยครั้ง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ตกสู่ความยากลำบาก ร้อนใจจนต้องแย่งชิงทรัพยากร”
“เหตุไม่คาดฝัน?”
“ใช่ เรื่องนี้พวกนายอาจจะรู้ไม่นานหลังจากนี้ สรุปคือตอนนี้ทุกคนต่างรีบที่จะเพิ่มพูนความสามารถ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ร่วมมือกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่มากกว่าเดิม ครั้งนี้คงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด พอพวกนักศึกษาทะลวงขั้นหนึ่งก็อาจจะให้พวกเขารับภารกิจเลย อาจเป็นหรือตายในภารกิจ แต่ไม่ใช่เพื่อการฝึกฝนเพียงอย่างเดียว! เลือกคนที่ดีที่สุดออกมา ด้านหนึ่งเพื่อชนะการแข่งขัน ช่วงชิงทรัพยากรมา ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เพื่อรับมือกับภัยร้าย”
———————
[1]ชี้ต้นหม่อนด่าต้นไหว อุปมาว่าเหน็บแนมทางอ้อม