ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 140-2 กลับไปรับรางวัลที่มหาวิทยาลัย (2)
ตอนที่ 140 กลับไปรับรางวัลที่มหาวิทยาลัย (2)
“นายไม่รู้ แต่ฉันรู้!” ฟู่ชางติ่งยิ้มหน้าบาน “ภารกิจสุดท้าย จ้าวเหล่ยร้อนใจแทบตาย อยากให้ภารกิจสำเร็จ ไล่ตามคนได้แล้ว ผลปรากฏว่าตอนล้อมจับกุมกลับปล่อยคนหนีไปได้! ดูสีหน้าของพวกเขา นายก็น่าจะเดาผลออกแล้ว”
ฟางผิงเอ่ยอย่างขบขัน “ข่าวสารนายว่องไวจริงๆ”
“แน่อยู่แล้ว ทีมหนึ่งมีคนตั้งมากมาย จะปิดเป็นความลับได้ยังไงกัน กระทั่งทางนาย หากไม่ใช่ว่าพวกนายแบ่งทีมกัน ฉันคงจะรู้อย่างทะลุปรุโปร่งเช่นกัน…”
ฟู่ชางติ่งบอกฟางผิงอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขารู้ข้อมูลของทีมฟางผิงเหมือนกัน
ในความเป็นจริง ทางฟางผิงก็มีคนคอยสืบข้อมูลอยู่
ระหว่างที่พูดคุยกัน ทีมสุดท้ายซึ่งเป็นทีมของหยางเสี่ยวม่านได้พาลูกทีมเดินเข้ามา
ฟู่ชางติ่งทักทายด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม “หยางเสี่ยวม่าน ได้ยินว่าเธอจะไล่ตามฉันให้ทัน ได้คะแนนเท่าไหร่ล่ะ?”
“ผีที่ไหนจะตามนายทัน!”
หยางเสี่ยวม่านก่นด่า ไม่ได้เศร้าซึมเหมือนเฉินอวิ๋นซี หรือไม่ยอมรับความจริงเหมือนจ้าวเหล่ย เธอพึมพำว่า “หนึ่งร้อยสามสิบแปดคะแนน นายล่ะ?”
“หนึ่งร้อยสามสิบแปดคะแนน ทำได้ดีนี่! ฉันได้หนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน ดูท่าเธอคงหมดหวังแล้ว”
“อย่าได้ใจไปหน่อยเลย!”
หยางเสี่ยวม่านแค่นเสียง ก่อนจะสาวเท้าไปหาเฉินอวิ๋นซี พยายามปลอบใจเธอ
การแบ่งทีมครั้งนี้ ทีมของเฉินอวิ๋นซีทำผลงานได้แย่ที่สุด
แม้ว่าทางจ้าวเหล่ยจะมีคนตาย แต่อย่างน้อยก็ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยม พวกสมาชิกต่างเชื่อฟังกันดี
ส่วนทีมของเฉินอวิ๋นซีนั้นยุ่งวุ่นวายไปหมด เรื่องนี้รู้กันแทบทุกคน
—
ตอนที่ทุกคนจับกลุ่มคุยกัน พวกอาจารย์ก็ทยอยเดินเข้ามา
หวงจิ่งอยู่ในนี้เหมือนกัน
เมื่อเข้าประตูมา หวงจิ่งพลันเอ่ยอย่างเยือกเย็น “เงียบ!”
ทุกคนเงียบลงในชั่วพริบตา
หวงจิ่งกวาดสายตามองไปรอบๆ ยังไม่พูดถึงคนอื่น แต่เอ่ยกับจ้าวเหล่ยเป็นคนแรก “จ้าวเหล่ย เพราะความมุทะลุของเธอ ทำให้ลู่คุนเฉียงต้องสละชีวิตระหว่างภารกิจ ครั้งนี้รางวัลทั้งหมดของนายต้องถูกหักสามสิบเปอร์เซ็นต์ เพื่อชดเชยให้กับครอบครัวของลู่คุนเฉียง นายจะคัดค้านอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ”
จ้าวเหล่ยส่ายหัว
“สมาชิกคนอื่น หักสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการชดเชย!”
ทีมของจ้าวเหล่ย บางคนไม่ยิมยอม บางคนก็นิ่งเงียบ
จากผลรางวัลครั้งนี้ของพวกเขา ไม่ได้อันดับแรกจะได้ประมาณสามร้อยห้าสิบคะแนน
จ้าวเหล่ยถูกหักสามสิบเปอร์เซ็นต์ รวมกับคนอื่นอีกสิบเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยต้องถูกหักประมาณหกสิบคะแนน
แม้จะมีคนคิดว่า นี่เป็นความรับผิดชอบของอาจารย์ที่ไม่ช่วยเหลือ แต่คำพูดนี้ไม่มีใครกล้าพูด ทั้งไม่อาจพูดออกมาได้
อาจารย์ไม่ได้บอกว่าจะช่วยเหลือพวกเขาตลอดเวลา ก่อนออกเดินทางได้เตือนแล้ว พวกอาจารย์ไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง อาจจะมีคนตายในภารกิจ
หวงจิ่งไม่สนใจว่าพวกเขาจะพอใจหรือไม่พอใจ เอ่ยต่อว่า “ครั้งนี้ฉันคิดว่าทุกคนคงได้รับประสบการณ์และอะไรกลับมาไม่น้อย มีเพื่อนนักศึกษาบางคนต้องสละชีวิตระหว่างภารกิจ นี่ไม่ใช่กรณีศึกษา แต่ผู้ฝึกยุทธ์ล้วนเป็นอย่างนี้ ดิ้นรนอยู่บนรอยต่อของความเป็นความตาย บางคนอาจจะไม่พอใจ ทำไมอาจารย์ถึงไม่ช่วยพวกเรา? ฉันไม่อยากอธิบายอะไร หากเธอเอาแต่คิดว่ามีคนสามารถช่วยเธอได้ตลอดเวลาการฝึก นั่นคงผิดแล้ว! ฉันคงไม่พูดมากแล้ว ครั้งนี้ทีมที่ได้อันดับหนึ่งคือทีมของฟางผิง สะสมคะแนนได้หนึ่งร้อยแปดสิบหกคะแนน มหาวิทยาลัยให้รางวัลหนึ่งร้อยแปดสิบหกคะแนน อยู่อันดับหนึ่งได้อีกหนึ่งร้อยสิบสองคะแนน รวมทั้งหมดเป็นสี่ร้อยแปดสิบสี่คะแนน อันดับสองทีมของจ้าวเหล่ย สะสมได้หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าคะแนน รวมทั้งหมดสามร้อยห้าสิบแปดคะแนน อันดับสามทีมของฟู่ชางติ่ง สะสมได้หนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน รวมทั้งหมดสามร้อยคะแนน อันดับสี่ทีมของหยางเสี่ยวม่าน สะสมได้หนึ่งร้อยสามสิบแปดคะแนน รวมทั้งหมดสองร้อยเจ็ดสิบหกคะแนน อันดับห้าทีมของเฉินอวิ๋นซี รวมทั้งหมดหนึ่งร้อยคะแนน!”
เมื่อคะแนนของทุกทีมออกมา หลายคนถึงกับนั่งไม่ติดที่ ระยะห่างจะเยอะเกินไปแล้ว!
ทีมฟางผิงที่ได้อันดับหนึ่ง รวมแล้วเกือบจะได้ห้าร้อยคะแนน!
ส่วนทีมของเฉินอวิ๋นซีที่รั้งท้ายได้แค่หนึ่งร้อยคะแนนเท่านั้น
ทีมของฟางผิง หลายคนดีอกดีใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขล้น
แม้ครั้งนี้ฟางผิงจะได้ส่วนแบ่งคะแนนมากที่สุด แต่พวกเขาก็ได้กันไปไม่น้อยเหมือนกัน ต่อให้น้อยกว่านี้ คงแย่ไม่เท่าพวกเฉินอวิ๋นซีอยู่ดี
“เอาล่ะ เรื่องแบ่งคะแนนรายบุคคล อีกเดี๋ยวพวกเธอไปตรวจสอบเองละกัน”
หวงจิ่งเอ่ยตัดบทสนทนาของทุกคน เอ่ยอีกครั้งว่า “ครั้งนี้บางคนทำผลงานได้ดี บางคนทำได้แย่ ฉันคงไม่บอกชื่อเจาะจงแล้ว วันนี้ทุกคนสามารถพักผ่อนได้หนึ่งวัน พรุ่งนี้คลาสฝึกพิเศษจะแบ่งทีมใหม่อีกครั้ง ทีมพร้อมรบสิบคน ทีมสำรองอีกสามสิบเก้าคน ฉันคิดว่าหลายคนน่าจะเดาได้แล้ว ตัวเองจะถูกจัดไปอยู่ทีมไหน มีเรื่องพูดแค่นี้แหละ พวกเธอสรุปส่วนได้ส่วนเสียของเดือนนี้เองแล้วกัน!”
พูดจบ หวงจิ่งยังคงทำเหมือนปกติ มาอย่างรวดเร็วแล้วก็จากไปแทบไม่เห็นฝุ่น
—
หวงจิ่งไปแล้ว ทุกคนพากันทยอยไปหาอาจารย์ประจำทีม ตรวจสอบคะแนนผลงานของตัวเอง
ฟางผิงตรวจสอบแล้ว พบว่าเขาได้ทั้งหมดสามสิบเปอร์เซ็นต์ หนึ่งร้อยสี่สิบห้าคะแนน!
ถังซงถิงสิบแปดเปอร์เซ็นต์ จ้าวเสวี่ยเหมยสิบหกเปอร์เซ็นต์ จ้าวชิงสิบสองเปอร์เซ็นต์…
หกคนที่เหลือ ทั้งหมดแบ่งจากยี่สิบสี่เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยแล้วทุกคนได้ประมาณสี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แม้จะเป็นแบบนี้ก็ไม่มีใครคิดว่าไม่เหมาะสม
ต่อให้จะได้สี่เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงได้เกือบยี่สิบคะแนนอยู่ดี
นอกจากคะแนน พวกเขายังมีรางวัลอย่างอื่นอีก ยาบำรุงต่างๆ เงินสด ยาหลอมกระดูก และอาวุธโลหะผสม
ทั้งทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง จึงได้รางวัลไปค่อนข้างเยอะ
รวมกับตอนแรกมหาวิทยาลัยให้ของพวกนั้นมูลค่าประมาณสามสิบคะแนน แม้จะได้รางวัลน้อยที่สุด พอคำนวณดูแล้ว ก็ได้เกือบหกสิบคะแนน
ส่วนทีมอื่นๆ แม้จะเป็นทีมของจ้าวเหล่ยเอง ยังนับว่าไม่ได้รางวัลมากมายนัก
นอกจากจะถูกหักสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ยังได้รับบาดเจ็บแทบทุกคน การรักษาบาดแผลนั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อยเลยทีเดียว
—
ฟางผิงไม่ได้คุยอะไรกับคนอื่นมากมาย ไม่นาน เขาก็ไปรับคะแนนของตัวเองที่ฝ่ายบริการ
รอจนคะแนนมาถึงมือแล้ว คะแนนของฟางผิงจึงแตะถึงหนึ่งร้อยหกสิบเอ็ดคะแนน!
หากยึดจากคะแนนเดิม เขาคงจะเกินสองร้อยคะแนนแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ฟางผิงใช้สี่สิบคะแนนแลกเปลี่ยนเป็นดาบโลหะผสม พอเอาคะแนนมารวมจึงได้ไม่เยอะเท่าไหร่
ตอนนี้ฟางผิงมียาบำรุงในมือมากกว่า
ยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาห้าสิบเม็ด ยาหลอมกระดูกขั้นหนึ่งห้าเม็ด ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งแปดเม็ด ยาฟื้นฟูหนึ่งขวด ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นสองสองเม็ด
นอกจากนี้ยังมีดาบโลหะผสมระดับ E หนึ่งเล่ม รองเท้าบูททหารโลหะผสม กริชโลหะผสมสองเล่ม รวมทั้งสนับมือระดับ D หนึ่งอัน
ส่วนเงินสด ตอนที่แบ่งรางวัล ฟางผิงไม่ขอรับ ก็ยังแตะหกล้านอยู่ดี
แค่การรับคะแนนครั้งนี้ เพิ่มค่าทรัพย์สินให้ฟางผิงถึงสองล้านเก้าแสนหยวน
ตอนที่ได้รับส่วนแบ่งยาและอาวุธ ก็เพิ่มค่าทรัพย์สินให้ฟางผิงอีกเกือบสี่ล้านหยวน
ในเดือนนี้ฟางผิงได้รับค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่าเจ็ดล้านหยวน
แน่นอนว่า ใช้ไปเยอะจนน่าตกใจเช่นกัน
ทรัพย์สิน : 12,080,000
ปราณ : 300 แคล (308 แคล)
จิตใจ : 257 เฮิรตซ์ (269 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 55 ชิ้น (90%) , 1 ชิ้น (45%) , 150 ชิ้น (30%)
ก่อนที่ยังไม่ได้ทำภารกิจ ค่าทรัพย์สินของฟางผิงแตะสิบล้านไปแล้ว เดือนนี้หาได้กว่าเจ็ดล้าน หากรวมทั้งหมดคงเป็นสิบเจ็ดล้าน
แต่หนึ่งเดือนนี้ ฟางผิงใช้ไปประมาณห้าล้านหยวน นอกจากสิ้นเปลืองจากการหลอมกระดูกแล้ว ที่เหลือยังใช้ไประหว่างการต่อสู้
“คงจะต้องวางแผนใช้ตามความเหมาะสมสักหน่อย”
มองดูตัวเลขข้างหน้าแล้ว ฟางผิงตัดสินใจว่าครั้งนี้ต้องใช้ค่าทรัพย์สินเพิ่มความสามารถให้ตัวเอง
ระยะเวลานี้ทุกคนต่างมีเวลาในการเพิ่มความสามารถให้ตัวเอง หากเขาอัปเกรดความสามารถขึ้นอีก คงไม่เตะตาจนเกินไป
ค่าทรัพย์สินจะปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ได้ ใช้แลกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความสามารถของตัวเองจะเหมาะสมกว่า
———————-