ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 141-2 ฟางผิงลูกค้ารายใหญ่ (2)
ตอนที่ 141 ฟางผิงลูกค้ารายใหญ่ (2)
ตาเฒ่าหลี่ถอนหายใจว่า “ฉันว่าเธอคงอยากได้ แต่ทำใจซื้อไม่ได้ ถามไปน่าจะถามเสียเปล่า อาวุธดีๆ ราคาต้องแพงอยู่แล้ว เธออยากได้แบบแข็งแรงอีก นั่นหมายความว่าน้ำหนักต้องมาก แต่ดาบเล่มนี้ถือว่าเบาอย่างยิ่ง แค่สามสิบสองจินเอง บางครั้งหนักเกือบร้อยจินยังมีด้วยซ้ำ! แม้จะทำด้วยโลหะผสมระดับ F ได้ แต่ตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสามล้วนใช้โลหะผสมระดับ F ทั้งนั้น หากเธอไม่ทำอาวุธระดับสูงกว่านี้ จะสู้คมของอาวุธพวกเขาได้ยังไง ลองคิดดู เธอฟันฉับเดียวตัดอาวุธคนอื่นขาด กระทั่งคนถืออาวุธยังสามารถขาดเป็นสองท่อนไปด้วย หรืออยากจะเหนื่อยแทบเป็นแทบตายหั่นกว่าครึ่งวันจนใบมีดบิ่นล่ะ?”
ฟางผิงยิ้มอย่างขื่นขมว่า “ระดับ D คงตัดอาวุธโลหะผสมระดับ F ไม่ได้สินะครับ?”
“ขอแค่เธอมีความได้เปรียบเรื่องปราณ เรียนเคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยอาวุธสักหน่อย ฟันขาดในดาบเดียว ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเช่นกัน!”
“แพงเกินไปแล้ว…”
“วันนี้ตาแก่อย่างฉันถูกชะตาเธอ ฉันจะรับผิดชอบเอง สามร้อยคะแนนพอ ที่เหลือฉันจะควักให้เอง!”
ตาเฒ่าหลี่เผยสีหน้าเยือกเย็น “อัจฉริยะอย่างเธอ ควรใช้อาวุธแบบนี้ คะแนนไม่พอไม่เป็นไร สามารถใช้ของติดตัวของเธอมัดจำไว้ได้ ฉันจะรับผิดชอบกับมหาวิทยาลัยเอง!”
ฟางผิงมองเขาอย่างลังเลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “อาจารย์ ผมคือหลานที่พลัดพรากจากคุณไปหลายปีเหรอครับ?”
“แค่กๆ…”
“พูดเหลวไหลอะไรกัน!” ตาเฒ่าหลี่ทำหน้าหมดคำพูด
“งั้นคุณก็กำลังแหย่ผมเล่น?”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย ฉันจำเป็นต้องแหย่นายเล่นหรือไง? จะเปลี่ยนไม่เปลี่ยน ไม่เปลี่ยนงั้นพอแค่นี้…”
ฟางผิงครุ่นคิด ก่อนจะหยิบดาบเล่มใหญ่ธรรมดาระดับ F กริชสองเล่มและสนับมือระดับ D ออกมา
“อาจารย์ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมเพิ่งใช้สี่สิบคะแนนแลกดาบเล่มนี้มา สนับมือใช้ไปสิบคะแนน กริชสองเล่มนี้อย่างน้อยคงแลกที่นี่ได้สี่สิบคะแนน ทั้งหมดเก้าสิบคะแนน ผมใช้อีกหกสิบคะแนน คุณว่า…”
“ไปไกลๆ เลย!”
ตาเฒ่าหลี่ปะทุปราณทั่วทั้งร่างขึ้นมา กดดันฟางผิงจนต้องรีบถอยไปด้านหลัง
ชายชราโทสะสุมหัว ให้ตายเถอะ เล่นตลกอะไรกัน!
อาวุธสามร้อยกว่าคะแนน เขาควักออกมาแค่หกสิบคะแนน?
คิดว่าเป็นผักในตลาดหรือยังไง!
ฟางผิงถอยหลัง พลางประท้วงว่า “อาจารย์ ผมไม่มีคะแนนเยอะขนาดนั้นจริงๆ หกสิบคะแนนนี้ ผมพยายามเก็บใช้สอยอย่างประหยัด! ไม่ได้งั้นหกสิบเอ็ด…”
“จะไปไม่ไป?” ตาเฒ่าหลี่โมโหอย่างยิ่ง
ทั้งสองคนเสียงดังกันไม่น้อย ดึงดูดสายตาคนจำนวนมาก
ฟางผิงยิ้มสู้ว่า “อาจารย์ อย่าโกรธสิครับ ไม่งั้นเอางี้ ผมเพิ่มอีกยี่สิบคะแนน เป็นแปดสิบเอ็ดคะแนน รวมกับของมูลค่าเก้าสิบคะแนน เป็นหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเอ็ดคะแนน! คุณคิดดู นอกจากผมแล้ว ยังจะมีกี่คนที่แลกเปลี่ยนของชิ้นนี้อีก? ขั้นหนึ่งขั้นสองคงแลกไม่ไหว ขั้นสามเห็นว่าใกล้จะขั้นสี่แล้ว คงไม่ใช่เจ้านี้เหมือนกัน หากผมเดาไม่ผิด เจ้าของชิ้นนี้น่าจะอยู่ในคลังสินค้ามานานแล้ว ทางมหาวิทยาลัยกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันแลกเปลี่ยน ผมไม่มีอาวุธที่เหมาะมือ พ่ายแพ้ในการแข่งขันของมหาวิทยาลัยขึ้นมาจะทำยังไง? อีกอย่างผมก็ไม่ได้ตระหนี่ขี้เหนียว…”
ตาเฒ่าหลี่ถลึงตามองเขาไปที เวลานี้ค่อยเก็บปราณดั่งเดิม แค่นเสียงในลำคอว่า “อาวุธเก่าของเธอพวกนี้ ราคาสูงขนาดนั้นที่ไหนกัน ของมือสองรวมกันแล้ว เต็มที่ห้าสิบคะแนนเท่านั้น เธอเพิ่มอีกสองร้อยคะแนน ฉันยอมขาดทุนหน่อย โปะให้นาย…”
ฟางผิงหันขวับเตรียมจะออกไป ซื้อไม่ไหว งั้นไม่ต้องซื้อละกัน!
“หนึ่งร้อยแปดสิบคะแนน!”
“ให้ตาย ยังไม่ยอมอ่อนให้ฉันอีก? หนึ่งร้อยหกสิบคะแนน ไม่ซื้อก็แล้วไป พลาดราคานี้ คงไม่มีร้านไหนอีกแล้ว เธอออกไปถามดู อาวุธโลหะผสมระดับ D ไม่ว่าจะซื้อร้านขายอาวุธที่ไหน ต้องเสียสามแสนต่อหนึ่งจินทั้งนั้น นี่ยังไม่รวมค่าทำอีก!”
ฟางผิงชะงักฝีเท้า ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนหันกลับมาว่า “อาจารย์ ไม่ใช้คะแนน ใช้เงินสดสี่ล้านห้าแสนแทนได้หรือเปล่าครับ?”
“หื้ม?”
ตาเฒ่าหลี่มองเขาอย่างแปลกใจอยู่บ้าง เด็กนี้จะใช้เงิน ไม่ใช้คะแนนอย่างนั้นเหรอ?
เงินสดสี่ล้านห้าแสน สามารถแลกเป็นหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน
แต่นักศึกษาหลายคน มีคะแนนไม่มีเงิน ก็ไม่คิดจะเอาคะแนนแลกเปลี่ยนเป็นเงิน เพราะใช้คะแนนซื้อจะคุ้มค่ากว่า
แสดงว่าเด็กนี้มีเงินงั้นสินะ?
ครั้งก่อนซื้อยาบำรุงไปขายจำนวนมาก?
แม้จะลังเลอยู่บ้าง ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดแล้วยังเอ่ยไปว่า “หากเธอจะทำอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้เหมือนกัน”
ใช้เงินซื้อ ราคาไม่ใช่น้อยๆ แม้ฟางผิงจะเล่นแง่แอบลดเงินไปอีกสามแสน แต่เงินสี่ล้านห้าแสนเพียงพอที่จะเป็นราคาทุนแล้วเหมือนกัน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ฟางผิงมัดจำอาวุธในมือให้อีก
คำนวณดูแล้ว จุดแลกเปลี่ยนไม่ขาดทุน ทั้งยังทำกำไรได้จำนวนหนึ่ง
ฟางผิงปวดใจอยู่บ้าง แต่เขาคิดว่าตัวเองไม่เสียเปรียบเหมือนกัน แม้จะเสียเงินไปมาก แต่หากซื้อข้างนอก อาวุธโลหะผสมระดับ D นั้นราคาสูงมากจริงๆ
อย่างน้อย คราวหลังไม่ใช้แล้วค่อยขายทิ้ง!
ของสิ่งนี้ ขอแค่ไม่พัง ราคามือสองคงไม่ต่ำเช่นกัน
นอกจากนี้ฟางผิงยังรู้อะไรขึ้นมาอีกอย่าง จุดแลกเปลี่ยนสามารถต่อรองราคาได้ ครั้งหน้าต้องระวังดีๆ แล้ว!
เสียเงินสี่ล้านห้าแสนแล้ว มอบอาวุธทั้งหมดให้ เหลือแค่รองเท้าบูททหารติดตัว ฟางผิงก็ได้ดาบเฟิ่งจุ่ยมาอยู่ในมือ
ลูบคลำอยู่พักหนึ่ง ก่อนฟางผิงจะพึมพำว่า “อาวุธราคาเกือบสิบล้าน…นับวันฉันยิ่งฟุ่มเฟือยขึ้นเรื่อยๆ!”
ครั้งก่อนใช้สี่สิบคะแนนแลกเปลี่ยนรองเท้าคู่หนึ่ง เขาก็คิดว่าสุรุ่ยสุร่ายมากแล้ว
ตอนนี้เสียไปเกือบสิบล้าน…แน่นอนว่าในความเป็นจริงไม่ได้เยอะขนาดนั้น ฟางผิงแค่คำนวณมูลค่าแลกเปลี่ยนทั้งหมดเท่านั้น
ของสิ่งนี้ซื้อข้างนอก คงไม่ต่างจากนี้มากเช่นกัน
เขากำลังบ่นอุบอิบ ตาเฒ่าหลี่ก็บ่นเช่นกัน “ครั้งนี้ขาดทุนจริงๆ นี่เพราะเห็นว่าคราวหลังเธอยังจะทำคะแนนได้มากกว่านี้หรอก ไม่งั้นเอาราคานี้มาซื้อดาบเฟิ่งจุ่ยคงเป็นได้แค่ฝันเท่านั้น!”
ฟางผิงไม่สนใจเขา พ่อค้าหน้าเลือดชัดๆ!
ถอนหายใจแล้ว ฟางผิงส่ายหัวว่า “อาจารย์ แลกยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาห้าสิบเม็ดให้ผมที…”
ตาเฒ่าหลี่แทบสำลัก เจ้าเด็กนี้เป็นบ้าหรือไง?
ยาบำรุงเลือดและปราณห้าสิบเม็ด หนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน ราคาเท่ากับเงินสี่ล้านห้าแสนเมื่อกี้พอดี ฟางผิงแลกเปลี่ยนแล้วขายออกไป มากสุดก็ได้ราคานี้เท่าเดิม
นี่ไม่ใช่ทำเรื่องที่เกินความจำเป็นหรอกเหรอ?
“เจ้าเด็กนี้ เธอ…”
“อาจารย์ ผมใช้ในการฝึกวิชา!”
“ไม่ได้ใช้เยอะขนาดนั้นอยู่ดี…”
“ผมกินเม็ดหนึ่งทิ้งเม็ดหนึ่ง บ้านรวย เป็นเด็กเอาแต่ใจ…” ฟางผิงเบะปาก
“เจ้าเด็กนี่!”
ตาเฒ่าหลี่หมดคำจะพูดจริงๆ แต่ยังคงแลกเปลี่ยนยาบำรุงห้าสิบเม็ดให้ฟางผิง
รอจนแลกเปลี่ยนยาบำรุงเสร็จแล้ว ดูสิบเอ็ดคะแนนที่เหลือของตัวเอง ทั้งเงินหนึ่งล้านห้าแสนที่แจ้งเตือนในมือถือ ฟางผิงก็ถอนหายใจยาวเหยียด
ครั้งนี้จะใช้เงินหมดเร็วเกินไปแล้ว!
ดีที่แลกเปลี่ยนยาบำรุง จึงเพิ่มค่าทรัพย์สินให้ตัวเองขึ้นมาอีกห้าแสนในชั่วพริบตา
รอยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาหนึ่งร้อยเม็ดขายออกไปแล้ว น่าจะได้ค่าทรัพย์สินเพิ่มกว่าหนึ่งล้านหยวน
คำนวณดูแล้ว ไม่ถือว่าเสียเปรียบเช่นกัน อย่างน้อยค่าทรัพย์สินก็ขึ้นมาเยอะอยู่บ้าง
ครั้งหน้ามาแลกของที่จุดแลกเปลี่ยน ทางที่ดีที่สุดต้องใช้เงินสดแลก คะแนนที่หาได้ใช้ซื้อยาบำรุงแทน
ฟางผิงลูบดาบเฟิ่งจุ่ยในมืออีกครั้ง ไม่ได้รีบร้อนออกไป แต่แยกดาบออกเป็นสามส่วน
ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนหันมาเอ่ยว่า “อาจารย์ ผมเสียเงินไปเยอะขนาดนี้ ไม่มีกระทั่งกล่องหีบห่ออะไรให้เลยเหรอครับ?”
“เจ้าเด็กนี่ จะซื้อขายเก่งเกินไปแล้ว…”
ตาเฒ่าหลี่หมดคำจะพูด แต่ยังคงให้คนไปเอากล่องไม้ส่งให้ฟางผิง
ฟางผิงเอาดาบเฟิ่งจุ่ยที่แยกชิ้นส่วนใส่ลงไปในกล่อง มองตัวเองที่ไม่มีอาวุธยาวติดตัวแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง สาวเท้าอย่างหนักแน่นจากไป
เขาไปแล้ว ตาเฒ่าหลี่ค่อยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ครั้งหน้าต้องแนะนำสินค้าให้เจ้าเด็กนี่สักหน่อยแล้ว!”
เด็กใหม่ที่ร่ำรวยเงินทองอย่างฟางผิงมีไม่มาก
แม้จะเป็นพวกฟู่ชางติ่งที่ครอบครัวมีเงิน แต่ไม่ได้หมายความว่าฟู่ชางติ่งจะใช้เงินตามใจชอบซื้ออาวุธชิ้นหนึ่งกว่าสิบล้านหยวนได้
“แต่หลอมกระดูกได้ไวจริงๆ ใกล้จะเข้าขั้นหนึ่งสูงสุดแล้ว หากเด็กนี้ไม่ตาย คราวหลังน่าจะเป็นลูกค้าประจำของฉันแล้ว…”
ตาเฒ่าหลี่หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าดีใจเพราะทำการขายสำเร็จ หรือมีความสุขเพราะคิดว่าหลังจากนี้จะมีคนให้โฆษณาขายสินค้าแล้ว
———————-