ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 160-2 ผู้ฝึกยุทธ์เป็นแบบนี้อยู่แล้ว (2)
ตอนที่ 160 ผู้ฝึกยุทธ์เป็นแบบนี้อยู่แล้ว (2)
เมื่อก่อนฟางผิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ตอนนี้กลับกระจ่างแจ้งแล้ว พึ่งใครไม่สู้พึ่งตัวเอง
หากตัวเองไม่มีความสามารถกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้ งั้นก็เป็นคนธรรมดาไปเสีย
กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว ไม่คิดไขว่คว้าทุกโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองแข็งแกร่งได้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น พวกยาบำรุงที่ฟางผิงใช้ในตอนนี้ สามารถนำทรัพยากรที่ทำให้เขาก้าวหน้ามาได้มากยิ่งขึ้น รอเขาแข็งแกร่งกว่านี้ก็จะได้รับทรัพยากรที่มากกว่าเดิม
วันที่สิบเอ็ดฟางผิงไม่ได้ฝึกวิชาอีก แต่เดินเล่นเป็นเพื่อนพวกฟางหยวนใกล้ๆ มหาวิทยาลัยแทน ทั้งตอนนี้ฟางผิงยังมีชื่อเสียงเล็กน้อยแล้วเช่นกัน
ออกจากประตูมหาวิทยาลัย คาดไม่ถึงว่าจะมีคนจำฟางผิงได้ ตะโกนเสียงดังว่า “หัวหน้าทีมเซี่ยงไฮ้” ทั้งยังมีคนไม่น้อยไล่ตามเขา
ชั่ววินาทีนั้นฟางผิงถึงกับเคลิบเคลิ้มอยู่บ้าง
ชื่อเสียง….คนส่วนใหญ่ล้วนสลัดคำนี้ไม่พ้น
การแข่งแลกเปลี่ยนที่ดุเดือด กระตุ้นให้วัยรุ่นส่วนหนึ่งต่อสู้บากบั่นเพื่อกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน
ทั้งทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไปบางส่วน อยากเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ประเภทสู้รบจริง
—
วันที่ 12 มกราคม
ฟางผิงไม่ได้ไปชมการแข่งขันชั้นสองในนามผู้เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ไปนั่งกับฟางหยวนที่เวทีด้านล่างแทน
การแข่งขันรอบนี้เป็นศึกระหว่างทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย
ทางพันธมิตรมหาวิทยาลัยต่อสู้ส่งไป๋อิ่นและเฉินเจียเซิงสองคนที่อยู่ทีมหลักลงสนาม อีกสามคนเป็นสมาชิกทีมสำรอง ในนั้นยังมีหวังไหวจิ่นจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ตงอู๋
ด้านพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย…
นึกไม่ถึงว่าจะมีแค่ไช่ชิ่งไห่ที่อยู่ทีมหลักลงสนาม!
ปรมาจารย์ของทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยที่นั่งบนชั้นสองใช้หางตามองฟางผิง มีความคิดที่อยากจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ
หลายคนที่เมื่อวานดูเหมือนบาดแผลไม่ร้ายแรง รวมทั้งเว่ยปิน กลับถูกฟางผิงโจมตีจนเลือดออกในอวัยวะภายใน ตอนนี้ไม่อาจลงสนามได้!
มีเพียงไช่ชิ่งไห่ที่แม้จะได้รับบาดเจ็บที่ขา แต่ผ่านการรักษามาหนึ่งวัน อาการจึงนับว่าดีขึ้นมา
ฟางผิงลงมือหนักกับสมาชิกทีมหลักของพวกเขาแทบทุกคน!
หลิวหวาหรงที่เป็นผู้บรรยายก็ประกาศอย่างเสียดายเช่นกัน “เมื่อวานสมาชิกทีมหลักของพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยได้รับบาดเจ็บหนัก เลือดออกอวัยวะภายใน ไม่สามารถร่วมการแข่งขันได้ วันนี้สมาชิกทีมหลักมีเพียงไช่ชิ่งไห่ แต่แม้จะเป็นสมาชิกทีมสำรอง ผมคิดว่าอัจฉริยะพวกนี้คงทำให้พวกเราได้รับชมการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและดุเดือดได้อยู่ดี…”
ฟางผิงที่นั่งอยู่ด้านล่างไม่กล้ามองไปบนชั้นสอง สายตาพวกนั้นน่ากลัวเกินไป!
ฟางผิงรู้สึกไม่ยุติธรรม นี่เกี่ยวอะไรกับฉันกัน?
คนของพวกนายไม่ยอมเอ่ยปากยอมแพ้ ฝืนรับกระบวนเคล็ดไม้ตายของฉันเอง
ไม่ถูกโจมตีตายถือว่าแข็งแกร่งแล้ว ความสามารถของเขาในตอนนี้จะฟันขั้นสองให้ตายในสามดาบถือว่าไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน
—
การแข่งขันวันที่สิบสอง เดิมทีทุกคนยังคิดว่าคงไม่ยอดเยี่ยมเท่าเมื่อวาน
บางทีอาจจะไม่ระเบิดพลังเท่าเมื่อวาน แต่ถือว่าโหดเหี้ยมกว่า!
โหดเหี้ยมอย่างแท้จริง
การแข่งขันครั้งนี้ใครเป็นฝ่ายแพ้ ใครบอกลาการแข่งขันก่อน ฝ่ายนั้นก็จะถูกจัดอยู่ในอันดับสี่
ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่จำเป็นต้องเสียทรัพยากรให้ใคร แต่หากทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยรักษาอันดับสามไว้ไม่ได้ต้องถูกยกเลิกทรัพยากรบางส่วน!
ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย ไช่ชิ่งไห่เป็นคนแรกที่ลงสนามในรอบนี้
ไช่ชิ่งไห่แทบไม่สนใจชีวิตตัวเอง ออกสามกระบวนท่าโจมตีสมาชิกทีมสำรองของพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จนกระดูกอกแตกเสียหาย ล้มลงกับเวทีไม่รู้เป็นหรือตาย!
ไป๋อิ่นที่ขึ้นเวทีเป็นคนที่สองร้อนใจขึ้นมาเช่นกัน
ไป๋อิ่นฝีมือไม่อ่อนด้อย หลังจากขึ้นเวทีก็ต่อสู้สุดชีวิตกับไช่ชิ่งไห่ สุดท้ายทั้งสองฝ่ายจึงบาดเจ็บหนักตามๆ กัน!
ไป๋อิ่นถูกไช่ชิ่งไห่เตะกระดูกขาจนน่องหัก ด้านไป๋อิ่นก็ฟันดาบโดนท้องของไช่ชิ่งไห่ แทบจะเปิดท้องของเขาให้เห็นอวัยวะภายใน!
—
ชั่ววินาทีนั้นฟางผิงรีบปิดตาของฟางหยวน
ทั่วทั้งสนามตกสู่ความเงียบทันที
พวกปรมาจารย์ที่นั่งชั้นสองไม่ปริปากพูดอะไร พวกผู้หญิงที่เป็นผู้ชมบางส่วนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา
บางคนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมต้องสู้สุดชีวิตเช่นนี้ อันดับสามอันดับสี่แตกต่างกันมากหรือไง?
เฉินเสวี่ยเยี่ยนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกอยู่บ้าง “ทรัพยากรของผู้ฝึกยุทธ์ในประเทศจีนมีอย่างจำกัด มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้บ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากขนาดนี้ ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรไม่ใช่น้อยๆ! ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งไหน ต่างมีทรัพยากรไม่เพียงพอ เงินทองก็ไม่พอใช้เช่นกัน! ต้องทำยังไงล่ะ? ผู้ฝึกยุทธ์ต้องแย่งชิง! ต้องไขว่คว้ากันเอาเอง! การแข่งขันแลกเปลี่ยนทั่วประเทศเป็นการแข่งขันแย่งชิงทรัพยากรเช่นกัน เพื่อตัวเอง เพื่อมหาวิทยาลัย เพื่ออนาคตของรุ่นน้อง…บางทีอาจจะโหดเหี้ยม แต่นี่คือสิ่งที่พวกเราเป็นคนเลือก ทุกคนต่างพยายามอย่างหนัก พยายามถึงจะไม่เสียใจในภายหลัง!”
“ทุกคนไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อมาเสวยสุข สิ่งที่พวกเขาทำทั้งหมดล้วนมาจากความบากบั่นของตัวเอง มาจากการต่อสู้ของพวกบรรพบุรุษ แม้ว่าพวกคุณจะเรียกพวกเขาว่าทายาทผู้ฝึกยุทธ์ แต่พ่อแม่ของพวกเขาก็หลั่งเลือดในสนามรบเช่นกัน! พวกเขาเองต่างพยายามอย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไม่ต่างกัน! นักศึกษาไช่ชิ่งไห่ พ่อของเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้า แต่ตอนนี้ไม่มีใครคิดจะออมมือให้เขาด้วยเหตุผลที่พ่อเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้า นักศึกษาไป๋อิ่น มีลุงที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่คนหนึ่งเช่นกัน ทว่ายังคงต่อสู้เพื่ออนาคตข้างหน้า…บางคนขยันและอดทนสู้พวกเขาไม่ได้ สุดท้ายกลับโบ้ยความผิดว่าร่ำรวยสู้พวกเขาไม่ได้ ช่างน่าขำจริงๆ! คนธรรมดาไม่มีทางเชิดหน้าชูตาอย่างนั้นเหรอ? ฟางผิงจากเซี่ยงไฮ้ ฐานะทางบ้านไม่ได้มั่งคั่ง พ่อแม่ล้วนเป็นคนธรรมดาชนชั้นแรงงาน แต่นักศึกษาฟางผิงยังคงอาศัยความพยายามของตัวเอง เดินมาจนถึงวันนี้ เป็นหัวหน้าทีมนำทัพของเซี่ยงไฮ้ แสดงความเกรงขามของเซี่ยงไฮ้ให้เป็นที่ประจักษ์…”
คำพูดของเฉินเสวี่ยเยี่ยนทำให้ทั้งสนามตกสู่ความเงียบงันอีกครั้ง
การแข่งขันครั้งต่อมา ไม่ได้เกิดเพราะว่าได้รับผลกระทบอะไรจากคำพูดของเธอ
ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยใช้เทคนิคต่อสู้แบบเอาชีวิตเข้าแลก ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายสามคนต้องบาดเจ็บหนักเพื่อแลกกับการผลาญพลังปราณของเฉินเจียเซิง
เฉินเจียเซิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเหมือนกัน สุดท้ายเพราะปราณหมดเกลี้ยงจึงจำเป็นต้องลงจากสนามไป
ท้ายที่สุด ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายจากทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย ต้องแขนหักข้างหนึ่งแลกกับความพ่ายแพ้ของผู้เข้าแข่งขันคนที่สี่จากทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้
ชนะหรือแพ้ ตกอยู่ในสภาวะที่ต้องตัดสินในคนที่ห้าอีกครั้ง
ผู้ฝึกยุทธ์จากทีมพันธมิตรแขนหักไปหนึ่งข้าง ทว่ายังคงเผยความน่าเกรงขาม ไม่มีความหวาดกลัวจากอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อย
ผู้ฝึกยุทธ์คนสุดท้ายของทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่ยี่หระต่อความตายเช่นกัน ขึ้นเวทีแล้วก็สู้สุดชีวิต!
ใครแพ้ คนนั้นถูกคัดออก!
ฟางหยวนไม่รู้ว่าตัวเองหลับตาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หลบอยู่ตรงอกของฟางผิง กระซิบว่า “พี่ ผู้ฝึกยุทธ์ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?”
“เมื่อก่อนอาจไม่ใช่แบบนี้…แต่หลังจากนี้น่าจะเป็นแบบนี้กันหมดแล้ว”
ฟางผิงพูดงึมงำ เมื่อก่อนมีพวกผู้กล้ายอดฝีมือคอยคุ้มครองทุกคน แบกโลกแทนพวกเขาทุกคน
แต่หลังจากนี้ล่ะ?
ในอนาคต ใครก็พูดได้ไม่เต็มปาก
—
การต่อสู้รอบสุดท้าย ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยเป็นฝ่ายแพ้ ผู้ฝึกยุทธ์ที่แขนหักเศร้าโศกเสียใจ หลั่งน้ำตานองหน้าอย่างข่มกลั้นไม่ไหว
พวกเขาแพ้แล้ว!
หากบาดเจ็บพวกเขาคงไม่เสียน้ำตา แต่นี่แพ้แล้ว สิ่งที่สูญเสียคือทรัพยากรสามส่วนในอนาคตปีหน้าของแปดมหาวิทยาลัย ทรัพยากรที่สามารถบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสามสิบคนเป็นอย่างต่ำ! หรือจะพูดว่าเพียงพอให้บ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่อีกสองสามคน
หลายครั้งที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางคนหนึ่งมีความสามารถเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในสงครามเล็กๆ ได้
ปรมาจารย์จากทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยคนหนึ่งลงไปบนเวทีด้วยตัวเอง
ประคองเด็กหนุ่มที่นอนบนพื้นขึ้น เอ่ยด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มว่า “เพียงพอแล้ว พวกเธอทำได้ดีมากแล้ว ยอดเยี่ยมจริงๆ! ประกาศศักดาให้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ของพวกเรา แสดงความเกรงขามของผู้ฝึกยุทธ์!”
“ผู้ฝึกยุทธ์เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
“ผู้ฝึกยุทธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ไม่หวาดกลัวสงคราม ไม่ครั่นคร้ามการต่อสู้ ทุกครั้งล้วนลงสนามรบด้วยใจที่ไม่เกรงกลัวต่อความตาย!”
เสียงของปรมาจารย์ดังก้องกังวาน!
น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ชั่ววินาทีนั้นฟางผิงคล้ายสัมผัสถึงความน่ายำเกรงของนักรบที่ถือทวนนั่งบนอาชาหุ้มเกราะ!
มีคนไม่เข้าใจไม่เป็นไร
มีคนไม่รับรู้ไม่เป็นไร
สงครามของสิ่งมีชีวิตใต้ดินนั้น มีทางหนีที่ไหนกัน!
ในวันนี้รุ่นลูกหลานสามารถแสดงฝีมือ กล้าสู้รบ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในสงคราม นี่ก็เพียงพอแล้ว!
เสียทรัพยากรไปไม่เป็นไร ตาแก่แบบพวกเขาสามารถช่วงชิงและไล่ล่าให้ได้ แต่กลับไม่อาจทิ้งจิตวิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์ไปได้
อย่างมากก็เข้าไปในถ้ำใต้ดินอีกสักครั้ง ใครไม่กล้าสู้รบกัน!
“ผู้ฝึกยุทธ์…”
เวลานี้ผู้ชมทั้งห้าพันคน ราวกับรับรู้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าซับซ้อนขึ้นมาอีกครั้ง
แม้จะไม่พูดอย่างกระจ่างชัด แต่ทุกคนเหมือนจะเดาอะไรออก นี่ถึงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์งั้นเหรอ?
วัยรุ่นจำนวนมากที่นั่งข้างหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ฮึกเหิมขึ้นมาเช่นกัน!
เสียงของปรมาจารย์เฒ่าราวกับดังก้องกังวานอยู่ในหู
“ผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ไม่หวาดกลัวสงคราม ไม่ครั่นคร้ามการต่อสู้”
——————