ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 164-2 โลกที่แท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์ (2)
ตอนที่ 164 โลกที่แท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์ (2)
“ไว้ค่อยว่ากันเถอะ เดิมทีการแข่งขันแลกเปลี่ยนก็ถูกให้ความความสำคัญเพราะเรื่องปัญหาของทรัพยากรอยู่แล้ว ในความเป็นจริงกลับเป็นการแข่งขันของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมาก”
ไป๋รั่วซีพูดโจมตีออกมา
การแข่งขันของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง หากไม่ใช่ว่าพัวพันไปถึงการต่อสู้ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง คงไม่คุ้มค่าที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดด้วยซ้ำ
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสี่สิบคน หากสุ่มผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ออกมาสักคน คงกวาดล้างได้จนเกลี้ยงแล้ว
ฟางผิงถอนหายใจว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเตรียมการแข่งขัน ผมคงทะลวงขั้นสองไปนานแล้ว หากรู้มาก่อนว่าคนพวกนี้อ่อนแอกัน ผมคงทะลวงขั้นสองไปแล้ว”
เพื่อเตรียมการแข่งขัน เขาจึงทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับการฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้
ไม่งั้นคงทะลวงขั้นสองก้าวหน้าไปไม่น้อยแล้ว
ไป๋รั่วซีแทบไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ในตอนที่เธอพูดไม่ออกนั้น ถังเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้น เอ่ยแค่นเสียงว่า “มั่นใจขนาดนี้ การแข่งขันจบแล้วจะส่งเธอไปถ้ำใต้ดิน!”
ฟางผิงก่นด่าอยู่ในใจ ราชสีห์ถังไม่ชอบขี้หน้าเขาชัดๆ!
ตัวเองดันไม่มีความสามารถพอ ไม่งั้นคงอัดเขาจนหน้าบวมเป็นหัวสิงโตแล้ว
พูดล้อเลียนในใจอยู่ครู่หนึ่ง เพราะคนเจ็บยังต้องพักรักษาตัว พวกเขาจึงแยกย้ายกันออกไป
—
หลังจากจบการแข่งขันของทีมปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ครั้งนี้ฟางผิงดังขึ้นมาจริงๆ
“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งที่แข็งแกร่งที่สุด!”
“ปักกิ่งสู้เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ ฟางผิงหัวหน้าทีมเซี่ยงไฮ้ซัดอัจฉริยะของปักกิ่งราบคาบ!”
“ตำแหน่งมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่งจะตกเป็นของใคร?”
“ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้มีโอกาสพลิกฟื้น!”
“…”
ข่าวต่างๆ นานาถูกปล่อยออกมา แต่ทั้งหมดทั้งมวลกลับหนีไม่พ้นเรื่องของฟางผิง
ฟางผิงหัวหน้าทีมนักศึกษาใหม่ของเซี่ยงไฮ้ แสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้
เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์คนเดียวที่ขึ้นเวทีมาจนถึงตอนนี้แล้วยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
แต่มีบางคนไม่เห็นด้วยเช่นกัน ฟางผิงไม่ได้เจอกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสองคนนั้น ทั้งไม่ได้เจอกับหานซวี่ ไม่งั้นคงไม่ไร้รอยขีดข่วนแบบนี้หรอก
แต่เรื่องที่ว่าฟางผิงฝีมือกล้าแกร่งกลับเป็นที่ยอมรับ
ทั้งมีบางคนคิดว่าฟางผิงพึ่งยาบำรุงถึงเอาชนะคนอื่นได้
คนๆ นี้กินยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งเหมือนกินลูกอม พาให้คนจำนวนมากต่างอิจฉาตาร้อน
—
ในขณะเดียวกัน
สถานพักฟื้นถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้
หวังจินหยางและฉินเฟิ่งชิงนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ตอนนี้กำลังดูการถ่ายทอดสด
ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะว่า “เจ้าหมอนี่น่าสนใจ ร่างกายอะไรกันเนี่ย? เหล่าหวัง นายว่าพอเขาถึงขั้นสาม ครอบครองกระบวนชั้นยอดของเคล็ดวิชาขั้นสาม ให้เขาอัดยาบำรุง ไม่ใช่ว่าจะสามารถออกกระบวนชั้นยอดอย่างไม่จำกัดได้แล้ว? ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ขั้นสี่คงถูกฟันตายเหมือนกันสินะ?”
หวังจินหยางเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “น่าจะมีข้อจำกัดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นพลังกายและใจของมนุษย์ก็มีข้อจำกัด ไม่อาจใช้พลังได้ตลอด…”
“แต่ฟันดาบออกมานับสิบครั้งคงไม่มีปัญหาสินะ?”
“น่าจะอย่างนั้น”
หวังจินหยางไม่มั่นใจนัก วันนี้ฟางผิงฟันกระบวนชั้นยอดออกมาหกเจ็ดดาบแล้ว
หากถึงขั้นสาม อาจจะฟันกระบวนชั้นยอดออกมากว่าสิบดาบได้เช่นกัน
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ขั้นสี่อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
แน่นอนว่า จำกัดแค่ขั้นสี่ที่ฝีมือไม่ร้ายกาจพวกนั้น
ขั้นสี่ที่พลังแข็งแกร่งคงฆ่าฟางผิงตายด้วยกระบวนท่าเดียว เขาต้องออกสักหมื่นดาบถึงจะมีโอกาสชนะ
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยต่อว่า “ครั้งนี้เขาจบการแข่งขันแล้ว ขั้นสองคงไม่มีปัญหา ขั้นสามฉันว่าเร็วๆ นี้แหละ ก่อนจะเปิดเรียนปีสอง อาจจะก้าวสู่ขั้นสามแล้ว หากฉันไม่ขยันให้มากหน่อย คงถูกเจ้าเด็กนี้ตามทันจริงๆ แล้ว เหล่าหวัง คิดเรื่องก่อตั้งทีมรบ ลากคนส่วนหนึ่งเข้าไปช่วยค้นหาถ้ำใต้ดินหรือยัง?”
หวังจินหยางถอนหายใจ “อันตรายเกินไป”
ไม่ใช่ว่าถ้ำใต้ดินอันตรายเกินไป แต่ติดตามพวกเขาอันตรายเกินไป
อย่าพูดถึงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขั้นสามเลย ขั้นสี่ธรรมดา ต่อสู้อย่างสุดชีวิตก็อาจตายอยู่ดี
ฉินชิงเฟิ่งมีชีวิตรอด หวังจินหยางยังคิดมาตลอดว่าเจ้าหมอนี่ดวงแข็งอย่างมาก
อย่างไม่กี่วันก่อน ถูกขั้นห้าซัดฝ่ามือลงมา
นึกไม่ถึงว่าฉินเฟิ่งชิงยังจะสามารถวิ่งปราดอย่างรวดเร็ว หวังจินหยางนั้นตกตะลึงพรึงเพลิด เขาแทบจะคิดว่าฉินเฟิ่งชิงตายไปแล้ว
ฉินเฟิ่งชิงไม่คิดเช่นนั้น เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยงอันตรายถึงจะได้อะไรกลับมา! ครั้งนี้ฉันจะต้องหลอมกระดูกแกนกลางให้สำเร็จ แตะถึงขั้นสามสูงสุด พอถึงขั้นสามสูงสุด ขั้นสี่คงไม่ไกลแล้ว”
ระหว่างที่พูดก็ลืมเรื่องก่อตั้งทีมรบไปเสียสิ้น รวมถึงเรื่องฟางผิงด้วย
คนพวกนี้ต่อให้เก่งแค่ไหน ยังคงเป็นเพียงขั้นหนึ่ง ตอนนี้พูดเล่นหยอกล้อกันไปเท่านั้น หากดึงพวกเขามาจริงๆ คงเป็นการส่งไปตายมากกว่า
—
วันที่ 14 มกราคม
ทีมปักกิ่งพบกับทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้
วันนี้ฟางผิงนั่งชมการแข่งขันเป็นเพื่อนฟางหยวนอีกครั้ง
หลี่หรานและจางเจิ้นกวงจากทีมปักกิ่งลงสนามอย่างที่คาด สมาชิกทีมสำรองอีกสามคนขึ้นเวทีทั้งหมดเช่นกัน
ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ เฉินเจียเซิงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองลงสนาม จู่ๆ ก็เกิดฉากที่ทำให้ทุกคนตกใจขึ้น ซุนหมิงอวี่ที่เสียฝ่ามือลงสนามพร้อมอาการบาดเจ็บ
นอกจากซุนหมิงอวี่ เหลียงเว่ยเย่าที่แขนหักก็ลงสนามเช่นกัน!
ครั้งนี้ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เข้าแข่งขันแบบไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ขึ้นเวทีห้าคน สองคนได้รับบาดเจ็บ อีกสองคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลาย คนสุดท้ายคือเฉินเจียเซิง
ทีมปักกิ่งก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ แขนของจางเจิ้นกวงยังมีผ้าพันแผล เลือดซึมออกมาประปราย หลี่หรานใบหน้ายังซีดเผือด อาการบาดเจ็บภายในยังไม่หายดี
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดอีกสามคนกลับสมบูรณ์แข็งแรงดี
เห็นการจัดลำดับการต่อสู้ ฟางผิงก็เห็นใจอยู่บ้าง
ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อยากได้ทรัพยากรสามส่วนจากทีมปักกิ่งจริงๆ ไม่งั้นคงไม่ถึงขั้นที่ให้คนเจ็บลงสนามอีกครั้งหรอก
ทีมปักกิ่งล่ะ?
ตอนนี้เพื่อรักษาความเกรงขามของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ปกป้องเกียรติของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อันดับหนึ่ง จึงเป็นเหตุผลที่ต่อสู้อย่างไม่กลัวตาย
แพ้ให้ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ เสียทรัพยากรจะเป็นไรไป แต่ชื่อเสียงอันดับหนึ่งของปักกิ่งคงไม่มีเหลือแล้ว
การต่อสู้ครั้งนี้ ถูกกำหนดไว้แล้วว่าสถานการณ์คงไม่ดีไปกว่าการแข่งระหว่างทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยและทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อีกแล้ว ทั้งอาจจะน่าอเนจอนาถกว่านั้น
—
ผลลัพธ์ อยู่การคาดเดาของฟางผิงเช่นกัน พวกเขาต่อสู้กันอย่างโหดเหี้ยม
ท้ายที่สุดทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ยังคงเป็นฝ่ายแพ้
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายสองคนพ่ายแพ้ให้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดคนหนึ่งจากปักกิ่ง
ซุนหมิงอวี่ที่ฝ่ามือขาด เจอกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดคนหนึ่ง ยอมแลกกับการบาดเจ็บที่เอว เลือดไหลราวกับเปิดก๊อก ใช้ขวานฟันเข้าหลังของอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสทันที ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
เหลียงเวยเย่าใช้แขนข้างเดียวโจมตี ท้ายที่สุดต้านผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดคนที่สามของปักกิ่งไม่ได้ จึงถอนตัวจากสนามด้วยอาการเจ็บหนักอีกครั้ง
คนสุดท้ายเฉินเจียเซิง ครั้งนี้ต่อสู้อย่างบ้าคลั่งสุดขีด
ดาบคู่เกือบฟันผู้ฝึกยุทธ์ที่เอาชนะเหลียงเวยเย่าตายแล้ว ยังดีที่ผู้ตัดสินดึงหลบ ทำให้อีกฝ่ายมีชีวิตรอด
หลี่หรานลงสนามเป็นคนที่สี่ ผู้หญิงคนนี้ต่อสู้อย่างบ้าดีเดือดเช่นกัน
ท้ายที่สุดอาการบาดเจ็บภายในกำเริบ ปรมาจารย์จึงต้องเอ่ยปากยอมแพ้จบการแข่งขัน
แม้เฉินเจียเซิงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง แต่ปราณมีอย่างจำกัดเช่นกัน ต่อสู้จนมาถึงคนสุดท้ายจางเจิ้นกวง
จางเจิ้นกวงบาดเจ็บที่แขนเท่านั้น สถานการณ์โดยรวมยังดี ท้ายที่สุดอาศัยการหลบหลีกเป็นหลัก ค่อยๆ บดขยี้เฉินเจียเซิง
ชั่วนาทีสุดท้ายที่ทั้งสองคนประมือกัน เฉินเจียเซิงโจมตีจนแขนเขาหัก
จางเจิ้นกวงเกือบจะบิดคอเขาหักเช่นกัน เป็นผู้ตัดสินที่ลงมือช่วยเหลือเฉินเจียเซิงเสียก่อน
สู้มาถึงตรงนี้ทั้งสองทีมก็แทบสะบักสะบอมแล้ว
—
ดูการแข่งขันจบ ฟางผิงก็พึมพำว่า “พรุ่งนี้พวกเราจะแข่งกับใคร?”
เหมือนจะไม่ต้องแข่งกันแล้ว
ต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเกินไป วันนี้คนของปักกิ่งแทบจะพิกลพิการกันไปหมดแล้ว นอกจากหานซวี่ที่ยังสามารถลงสนาม คนอื่นๆ ดูเหมือนจะเจ็บหนักกันหมด
อาจารย์นำทีมของปักกิ่งปิดปากเงียบเช่นกัน
นี่จะให้สู้ยังไง?
ผู้ฝึกยุทธ์ส่วนมากของทีมเซี่ยงไฮ้ยังไม่ได้ลงสนามเลย
แต่ตอนนี้ปักกิ่งเจอกับทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้มาถึงสองครั้ง เซี่ยงไฮ้อีกหนึ่งครั้ง
ถูกโจมตีจนกองทัพทลายย่อยยับ การแข่งรอบตัดสินพวกเขาเครียดหนักแล้ว
จะหาครบทั้งห้าคนได้อย่างนั้นเหรอ?
หานซวี่นับเป็นหนึ่ง ตอนนี้ฟางเหวินเสียงยังอาการหนัก หลิวเฮ่าหมิงก็เหมือนกัน
เว่ยซู่เจี๋ยยังไม่ดีขึ้น หลงเทากระดูกน่องหักเพราะถูกหอกยาว…
วันนี้ลงสนามห้าคน ต่างจบอย่างน่าเศร้า แม้จะคนสุดท้ายจางเจิ้นกวง ตอนนี้ก็แขนหักเหมือนกัน
—
ฟางผิงแทบไม่ได้นึกถึงเรื่องการจัดลำดับในวันพรุ่งนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องของเขา
การแข่งขันดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ รัฐบาลบรรลุเป้าหมายแล้ว ทุกคนได้เห็นเบื้องหลังที่โหดร้ายของผู้ฝึกยุทธ์
เห็นความกล้าต่อสู้เอาชีวิตเข้าแลกของพวกเขา รับรู้ถึงความเกรงขามของผู้ฝึกยุทธ์
เซี่ยงไฮ้ก็บรรลุเป้าหมายเช่นกัน แทบที่จะชนะได้อย่างง่ายๆ
ทีมพันธมิตรมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ อันที่จริงก็บรรลุจุดประสงค์ พวกเราสามารถแบ่งทรัพยากรจากทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยมาได้เล็กน้อย
ทีมปักกิ่งแม้ว่าจะได้อันดับสอง ก็สูญเสียไม่มาก แต่ถูกเซี่ยงไฮ้เอาชนะ นับว่าขายหน้าอยู่บ้างเท่านั้น
สรุปแล้ว นอกจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งที่ลงสนามพวกนี้ ทุกคนแทบไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยกลับสูญเสียไปไม่น้อย
ทั้งผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ที่จริงยังได้รับทรัพยากรและค่าชดเชยเป็นจำนวนมาก
ขอเพียงแค่ไม่ตาย แม้ว่าจะเป็นซุนหมิงอวี่ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสต่อฝ่ามือให้ดีอีกครั้ง
“ถือว่าดีอกดีใจกันทุกคนสินะ?”
ช่วงเวลาที่เดินออกมาจากสนามกีฬา ฟางผิงก็ลอบบ่นกับตัวเอง
ผู้ฝึกยุทธ์ไม่ง่าย
เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ไม่ง่าย
การต่อสู้ห้ำหั่นอย่างน่าสังเวชใจครั้งนี้ ไม่อาจแยกถูกผิดได้จริงๆ
เป็นความต้องการของแวดวงผู้ฝึกยุทธ์ เป็นความต้องการของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้…ทั้งเป็นความต้องการของพวกผู้ฝึกยุทธ์ด้วยเช่นกัน!
ต้องการใช้เลือดของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งพวกนี้ให้คนธรรมดาได้ตื่นตัว ให้ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไปมีสติขึ้นมา
โลกใบนี้ไม่ได้สงบสุข ไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้น
ไม่ว่าคุณจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ยอมรับหรือไม่ยอมรับ แต่นี่คือโลกที่แท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์!
——————