ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 172-2 ลูกค้ารายใหญ่กลับมาแล้ว (2)
ตอนที่ 172 ลูกค้ารายใหญ่กลับมาแล้ว (2)
ทั้งสามคนทะเลาะกันขึ้นมาอีกครั้ง ความกลัดกลุ้มของฟางผิงเมื่อครู่หายวับไปกับตา เอ่ยอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่ต้องแย่งกันแล้ว กลับไปจะซื้อให้อีก”
“พ่อครับ ไปรับเงินที่ศาลาว่าการด้วยนะครับ วันนี้ไปเข้าร่วมงานชุมนุมมา ผู้บัญชาการไป๋บอกว่าให้รางวัลผมห้าแสน พ่อไปเอามาใช้จ่ายภายในบ้านนะครับ”
ทั้งบ้านเงียบลงในชั่วพริบตา!
ฟางหยวนอ้าปากค้าง ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยอย่างสับสน “ไปประชุมก็ได้เงินตั้งห้าแสน?”
เธอคำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ตกลงคลังเล็กๆ ของเธอมีเงินเท่าไหร่กันแน่นะ!
คิดไปคิดมา เมื่อวานเหมือนนับไปตั้งสามครั้ง…หนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยสามสิบหยวน!
ใช่แล้ว ฟางหยวนก็มีเงินออมเกินหนึ่งหมื่นเหมือนกัน!
ในหมู่นักเรียนเธอเงินเยอะที่สุดแล้ว
แต่ตอนนี้ฟางผิงแค่ไปประชุมตอนเช้า กลับมาบอกทุกคนว่าให้ไปรับเงินห้าแสนที่ได้มาฟรีๆ!
เทียบกันแล้วน่าโมโหจริงๆ!
“พี่ ฉันจะไปเอาให้นายเอง!”
ฟางหยวนดึงสติกลับมาทันที ถลาไปที่อกฟางผิง ออดอ้อนว่า “อย่าให้พ่อเทียวไปเทียวมาเลย ฉันจะช่วยไปเอาให้เอง”
“เธอ?”
ฟางผิงหลุดขำ “คนของศาลาว่าการจะรู้เหรอว่าเธอเป็นใคร? พ่อยังจะพอว่า แต่ให้เธอไปเนี่ยนะ?”
ฟางผิงเคาะหน้าผากเธอไปที “อย่าสร้างเรื่อง รอเธอกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว เงินไม่กี่แสนจะนับเป็นอะไรกัน? ตอนนี้ตั้งใจฝึกวิชาดีๆ ก็เท่ากับหาเงินแล้ว ลองคำนวณดูเถอะ ตอนนี้ถ้าปราณเธอสูงขึ้นหนึ่งแคล นั่นหมายถึงหาเงินหลายหมื่นถึงกระทั่งหลายแสนได้แล้ว การฝึกวิชาเทียบกับสมาคมหยวนผิงอะไรนั่นของเธอ ตกลงแบบไหนหาเงินได้เร็วกว่ากันแน่? คนที่ใช้สมองไม่เป็น คำนวณเงินไม่ได้ อย่าได้คิดที่จะรวยเลย พี่ชายเธอทำไมถึงหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ? เพราะฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ฝึกฝนวิชาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เข้าใจหรือยัง? เธอไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ ชั่วชีวิตนี้อย่าได้คิดว่าจะหาเงินมหาศาลได้ แค่อาวุธผู้ฝึกยุทธ์เธอยังไม่มีปัญญาซื้อด้วยซ้ำ!”
ฟางผิงสั่งสอนน้องสาวเป็นชุด มองแค่ผลประโยชน์ตรงหน้าจะได้เรื่องได้ราวอะไร ต้องครุ่นคิดถึงอนาคตต่างหาก
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีความสามารถ แค่วิ่งก็จะวิ่งได้เร็วกว่าคนอื่นแล้ว
เผชิญหน้ากับอันตราย อย่างน้อยก็สามารถวิ่งหนีได้เร็วกว่าคนอื่น
ฟางหยวนงงงวยอยู่บ้าง พึมพำว่า “คำนวณแบบนี้เหรอ? จะว่าไปก็ใช่ ฝึกวิชาได้เร็ว กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แค่ไปประชุมได้ตั้งห้าแสนแล้ว…”
ลองคำนวณดูอีกครั้ง สี่เดือนมานี้ตัวเองหาเงินได้กว่าหนึ่งหมื่น
เดือนหนึ่งสามพันหยวน
ถ้าเป็นห้าแสน…ต้องใช้เวลาถึงสิบสี่ปี!
หากฝึกฝนจนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เหมือนว่าจะหาเงินได้เยอะยิ่งกว่านี้อีก
ครู่ต่อมาฟางหยวนก็พยักหน้าอย่างจริงจังว่า “พี่ ฉันจะตั้งใจฝึกฝนวิชา!”
ฟางผิงเบะปาก รู้อยู่แล้วเธอมันเห็นแก่เงิน
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน หลังจากนี้คงไม่ต้องให้ตัวเองคอยกระตุ้นอีกแล้ว?
—
หลังจากงานชุมนุมผู้ฝึกยุทธ์เสร็จสิ้น ฟางผิงจึงอยู่ที่บ้านเฉยๆ ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว
ปีนี้ไม่มีการจัดงานเลี้ยงรวมตัวเพื่อนนักเรียน
แม้ว่าจะมี ฟางผิงอาจจะไม่เข้าร่วมเสมอไป
ช่วงนี้เขามีชื่อเสียงขึ้นมาอยู่บ้าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนถามนู่นถามนี่ ถึงเวลานั้นหากทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจขึ้นมากลับจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกของเพื่อนนักเรียนด้วยกัน
แต่วันที่แปดของปีใหม่ ฟางผิงยังคงออกไปข้างนอก
ไปเยี่ยมเยือนอาจารย์ประจำชั้นมัธยมปลายของตัวเอง
ก่อนหน้านี้อาจารย์ให้ความดูแลเขาเช่นกัน ตอนที่สอบศิลปะการต่อสู้ ยังส่งหนังสือกองโตให้เขา
ทั้งยังเป็นเขาที่จัดการให้ฟางผิงไปรับหวังจินหยาง ทำให้เขาและเหล่าหวังมีปฏิสัมพันธ์กัน
ช่วงก่อนปีใหม่ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวาย ฟางผิงไม่อยากเข้ามาเวลานั้นเช่นกัน ทั้งก่อนหน้านี้เคยบอกไปว่าวันที่เจ็ดจะเข้าไปเยี่ยม
สำหรับหลิวอันกั๋วแล้ว การมาเยือนของฟางผิงทำให้เขาดีใจอย่างยิ่ง
ตอนกลางยังรั้งฟางผิงให้กินข้าวด้วยกัน ตอนที่เหล่าหลิวเดินลงบันไดพร้อมกับฟางผิงยังตั้งใจส่งเสียงดัง ราวกับกลัวพวกอาจารย์ห้องข้างๆ ไม่รู้ว่าลูกศิษย์แวะมาเยี่ยมหาตัวเอง
ฟางผิงมองออกเช่นกัน ทำแค่หลุดขำอย่างจนใจ
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เหล่าหลิวนั้นรักหน้าตาเป็นชีวิตจิตใจ
เยี่ยมเหล่าหลิวเสร็จแล้ว ธุระในการกลับบ้านครั้งนี้ของฟางผิงถือเป็นอันสิ้นสุดลง
วันที่เก้าเขานัดพวกอู๋จื้อหาวออกไปกินข้าว พูดคุยเรื่องฝึกวิชาด้วยกัน
รอจนเช้าตรู่วันที่สิบ ฟางผิงก็ขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปเซี่ยงไฮ้
ตอนนี้มีแค่เขาต้องกลับไปมหาวิทยาลัยถึงจะสามารถเพื่อพูนความสามารถให้เร็วที่สุดได้
ออกห่างจากเซี่ยงไฮ้ ฟางผิงแทบไม่รู้ว่าต้องไปหาซื้อยาบำรุงที่ไหนด้วยซ้ำ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยใช้ยาบำรุง แต่ก่อนจะออกมา ฟางผิงเอายาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาสิบเม็ดที่มีให้ฟางหยวนไปแล้ว รวมทั้งยาฟื้นฟูบาดแผลก็ทิ้งไว้ให้ส่วนหนึ่ง
—
เซี่ยงไฮ้
ฟางผิงกลับมามหาวิทยาลัย สิ่งแรกที่คิดคืออยากจะซื้อรถสักคัน
ไม่มีรถ บางครั้งไม่สะดวกเลยจริงๆ
เขาพักเรื่องซื้อรถไว้ในใจก่อน ตรงดิ่งไปที่ฝ่ายบริการแทน
ฟางผิงไม่ได้ไปชั้นหนึ่ง แต่ขึ้นไปชั้นสองก่อน แม้ว่ายังไม่เริ่มภาคเรียน แต่ฝ่ายบริการก็ยังเปิดทำการ
ชั้นสอง
จุดประเมินขั้น
ฟางผิงมาถึง อาจารย์ครั้งก่อนที่ประเมินขั้นให้เขาก็แววตาวูบไหวเล็กน้อย “ขั้นสองแล้ว?”
“ครับ”
“ไม่เลวนี่”
อาจารย์ที่รับผิดชอบประเมินขั้นผงกหัวเล็กน้อย นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเช่นกัน
ตอนที่ฟางผิงเดินทางออกจากมหาวิทยาลัยก็อยู่ขั้นหนึ่งสูงสุดแล้ว ทั้งยังอยู่มานานถึงระยะหนึ่ง
อาจารย์คนนั้นไม่มากความอีก พาฟางผิงไปที่ห้องด้านหลัง เอ่ยว่า “เตะออกมาครั้งหนึ่ง ฉันจะแก้ไขข้อมูลให้เธอ”
ฟางผิงมองแท่นเหล็กที่อยู่ตรงหน้า เอ่ยอย่างไร้คำพูดว่า “อาจารย์ ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอครับ?”
“ไร้สาระ นักศึกษาใหม่อันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ หรือยังต้องให้ประเมินขั้นอย่างจริงจัง เสียเวลา! เตะส่งๆ ไปเลย เตะเสร็จก็จบเรื่อง!”
อาจารย์ทำหน้าหงุดหงิดอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปประเมินขั้นต้องสิ้นเปลืองเวลามหาศาล แต่เธอทำเหมือนว่าฉันไม่รู้จักเธออย่างนั้นแหละ?
ฟางผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำได้เพียงเตะส่งๆ ออกไป
อาจารย์แทบไม่ดูด้วยซ้ำ ออกจากประตูทั้งเอ่ยไปพลาง “ขั้นสองแล้ว เร็วไม่ใช่เล่น แต่ถือว่าโชคดี สถานการณ์ปีก่อนเธอคงรู้ดี มหาวิทยาลัยจัดสรรทรัพยากรให้เยอะ ผ่านช่วงเวลานั้นมา ตอนนี้คงไม่มีโอกาสดีแบบนั้นอีก คิดจะเอาคะแนน ต้องพึ่งแค่ตัวเองแล้ว ทำภารกิจ ลงถ้ำ ล้วนแล้วแต่เธอ อีกอย่างถึงขั้นสองแล้ว มหาวิทยาลัยจะเปิดให้เธอเข้าถึงพื้นที่และทรัพยากรมากขึ้น…”
ฟางผิงงุนงงเล็กน้อย “มหาวิทยาลัยจะเปิดให้เข้าถึงพื้นที่มากขึ้น? คุณหมายถึง…”
“ใช่แล้ว พื้นที่ของมหาวิทยาลัยกว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่เห็นเหรอว่าฝั่งที่ติดกับทะเลถูกปิดกั้นไว้มาตลอด? ที่นั่นมีของดี หัวใจสำคัญของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อยู่ตรงนั่นแหละ หรือเธอคิดว่ามหาวิทยาลัยอาศัยแค่คลาสเรียนวิชา ยาบำรุงก็สามารถทำให้นักศึกษาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแล้ว? ขั้นสามอยู่กลาดเกลื่อน ขั้นสี่ก็มีถมเถ ขั้นห้ายังมีเลย! ต่ำกว่าขั้นสามยังพอว่า นักศึกษาที่จบด้วยขั้นสี่ขั้นห้า เธอคิดเอาเองเถอะว่าหายากขนาดไหน! มหาวิทยาลัยชื่อดังไม่มีของล้ำค่าซ่อนไว้ ยังจะเรียกว่ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ยังไง?”
ฟางผิงแววตาเป็นประกาย รีบถามว่า “อาจารย์บอกได้ไหมครับ ของดีที่ว่าคืออะไร?”
อาจารย์ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “ถึงเวลานั้นเธอจะรู้เอง ไปถามจากอาจารย์ของเธอสิ ฉันมีหน้าที่ประเมินขั้นเท่านั้น”
ฟางผิงไม่ได้ผิดหวังอะไร ลงบันไดไปอย่างอารมณ์ดี
เห็นเขาจากไปแล้ว อาจารย์ที่รับหน้าที่ประเมินขั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสถึงขั้นห้าก่อนจบการศึกษาหรือเปล่า”
ขั้นห้า ไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ทำได้
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีนักศึกษาแบบนี้เช่นกัน แต่น้อยถึงน้อยมาก หลายปีถึงจะมีคนหนึ่ง
ตอนนี้ฟางผิงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากเข้าสู่ระดับกลาง จะต้องช้าลงอย่างแน่นอน
“นักศึกษารุ่นใหม่ต้องพยายามเติบโตให้เร็วที่สุดเท่านั้น…”
อาจารย์พึมพำเบาๆ ก่อนจะคว่ำหน้ากลับไปงีบหลับที่เดิม
—
ชั้นหนึ่ง
ตาเฒ่าหลี่แววตาสว่างวาบ ลูกค้ารายใหญ่มาแล้ว!
ฟางผิงที่ตุนคะแนนไว้ถึงสี่ร้อยยี่สิบคะแนน เป็นลูกค้ารายใหญ่ในหมู่นักศึกษาใหม่จริงๆ ไม่สิ เทียบกับนักศึกษาปีสูงขั้นสองบางส่วนไม่ได้ด้วยซ้ำ ครั้งนี้ต้องเป่าหูให้ลูกค้ารายใหญ่ซื้ออะไรสักหน่อยแล้ว!
——————-