ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 177 แรงงานฟรีเยอะจริงๆ (1)
ตอนที่ 177 แรงงานฟรีเยอะจริงๆ (1)
ฟางผิงกลับมาถึงหอพัก กำลังเตรียมจะนั่งลงดูแบบฟอร์มรับสมัคร ประตูกลับถูกเคาะขึ้นมาก่อน
พอเปิดประตูก็เห็นพวกฟู่ชางติ่ง ฟางผิงหงุดหงิดอยู่บ้าง “อะไรอีก? ฉันกำลังยุ่งอยู่”
“ฟางผิง บอกมา นายสร้างสมาคมขึ้นมาทำไมกันแน่?”
ฟู่ชางติ่งทำสีหน้าสงสัย “วางใจเถอะ พวกเรารับรองว่าจะไม่บอกใคร”
“ฉันบอกไปแล้วไง เพราะทุกคนมีความฝันร่วมกัน ต่อสู้บากบั่นเพื่อความฝัน นายอยากจะรู้อะไรอีก?”
“เชื่อนายก็โง่แล้ว”
ฟู่ชางติ่งว่าแล้วยังเอ่ยด้วยคิ้วขมวดว่า “พูดตามตรง สมาคมนี้ของนายอ่อนแอเกินไป ฉันเพิ่งเห็นมา มีผู้ฝึกยุทธ์ไม่กี่คนเท่านั้น ทั้งยังเป็นพวกปลายแถวอีก ให้พวกเราร่วมด้วย อย่างน้อยจะได้เป็นหน้าเป็นตาให้นาย”
“พวกนายว่างไม่มีอะไรทำหรือไง?”
ฟู่ชางติ่งไม่สนใจเขา จ้าวเสวี่ยเหมยกลับเอ่ยอย่างจริงใจว่า “ฟางผิง เทอมก่อนพวกเราสิ้นเปลืองไปเยอะเหมือนกัน ตอนนี้ทางบ้านยากที่จะให้การสนับสนุน ทุกคนต่างหาช่องทางทำเงิน ถ้านายมีช่องทางแบบนี้ก็ดึงพวกเราเข้าไปด้วยสิ?”
เทอมก่อนคนพวกนี้หมดเงินไปเยอะจริงๆ
แม้ว่าภายหลังมหาวิทยาลัยจะให้รางวัล แต่คะแนนพวกนี้ พวกเขาทะลวงขั้นหนึ่งขั้นสอง เปลี่ยนอาวุธใหม่ ก็แทบจะใช้จนหมดเกลี้ยงแล้ว
หากอยากจะก้าวหน้าต่อ ทำได้แค่พึ่งตัวเองเท่านั้น
ตระกูลใหญ่บางครั้งก็มีปัญหาเยอะ ปู่ของฟู่ชางติ่งจะเอาทรัพย์สินของตระกูลฟู่มาทุ่มเทกับหลานชายคนนี้คนเดียวอย่างนั้นเหรอ?
ลุงป้าน้าอาของฟู่ชางติ่งยังมีอีกเจ็ดแปดคน ลูกพี่ลูกน้องนับไม่ถ้วน รวมกันทั้งหมดเกือบสี่สิบห้าสิบคน
คนหนึ่งสิ้นเปลืองประมาณหนึ่งล้านต่อปี นั่นก็หลายสิบล้านแล้ว ต่อให้ร่ำรวยขนาดไหนก็สู้ไม่ไหวเช่นกัน
ฟางผิงเอ่ยอย่างจนใจ “คิดมากไปแล้ว ฉันสร้างสมาคมที่มีรูปแบบช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น พวกนายไปความคิดพวกนั้นมาจากที่ไหนกัน”
“จริงเหรอ?”
“จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ ฉันกำลังยุ่ง ไม่ส่งนะ”
แม้พวกฟู่ชางติ่งจะคิดสงสัยอยู่เต็มอก แต่ครุ่นคิดแล้วก็ไม่ถามอะไรอีก
ตอนที่กำลังจะออกไป ฟางผิงกลับถามขึ้นว่า “อันที่จริง จะรับพวกนายมันก็ได้อยู่หรอก แต่เข้าสมาคมแล้ว ก็ต้องเป็นกำลังให้สมาคม พวกนายทำได้หรือเปล่าล่ะ?”
“กำลังที่นายพูดถึงคือ?”
“หลังจากนี้จะมีพวกที่ชอบร้องเรียน ก่อความรำคาญ พวกนายออกหน้ารับผิดชอบเรื่องนี้ อีกอย่าง ข้อสงสัยบางอย่างของพวกนักศึกษาใหม่ พวกนายก็ช่วยคลายความสงสัยเสียหน่อย รอสมาคมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เดินไปในทิศทางที่เหมาะสมแล้ว พวกนายก็จะกลายเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อพวกเขา อาจจะเป็นเหมือนสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก็ได้ ได้รับสิทธิ์จัดสรรทรัพยากรจากมหาวิทยาลัย สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ตอนนี้ถูกพวกปีสูงครองอยู่ พวกเราที่เป็นเด็กใหม่ เมื่อไหร่จะได้โดดเด่นกัน? ดังนั้นฉันเลยเตรียมที่จะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา…”
คำพูดนี้ทำไมฟังดูปลอมๆ ชอบกล จำเป็นต้องสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา เห็นพวกเขาเป็นคนโง่หรือไง?
แต่การรู้มากไม่ได้เป็นผลดีเสมอไป พวกเขาครุ่นคิดพักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
ส่งพวกเขาออกไปแล้ว ฟางผิงเบ้ปากว่า “พวกโง่ แรงงานมาส่งถึงหน้าประตู จะไม่รับไว้ได้ยังไง”
ว่าแล้ว ฟางผิงก็เริ่มอ่านข้อมูลต่อ
—
วันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลแขวนโคม
ฟางผิงอยู่ในสำนักงานของตึกสมาคม เปิดการประชุมใหญ่ครั้งแรกของสมาคมผิงหยวน!
ตอนนี้เทียบกับวันแรก สำนักงานดูสะอาดสะอ้านมากกว่า ด้านในมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์และโต๊ะเก้าอี้บางส่วน
“เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้เป็นวันก่อตั้งสมาคมของพวกเรา ทั้งยังเป็นการประชุมใหญ่ของสมาชิกครั้งแรก”
“วันนี้ ที่นั่งอยู่รวมถึงฉัน ทั้งหมดมีหนึ่งร้อยแปดคน! ตัวเลขนี้เป็นมงคลไม่น้อย หลังจากนี้พวกเราก็จะเป็นรัฐบุรุษอาวุโสหนึ่งร้อยแปดคนของสมาคมผิงหยวน ทั้งยังเป็นปรมาจารย์หนึ่งร้อยแปดคนในอนาคต!”
“ความฝันยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ปรมาจารย์ก็เป็นเรื่องที่รอไม่ได้เช่นกัน”
“กฎเกณฑ์ของสมาคมผิงหยวนมีไม่เยอะ ทุกคนต่างเท่าเทียมกัน มารวมตัวเพื่อเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์”
“แต่ว่า…ไม่มีกฎเกณฑ์ไม่อาจทำอะไรสำเร็จได้! การแบ่งชนชั้นอำนาจมีอยู่ในทุกที่! ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ทุกคนแทบไม่สนใจอย่างอื่น ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีฝีมือเป็นสิ่งที่พวกเราไล่ตามอยู่ตลอด ยึดเรื่องนี้เป็นพื้นฐาน พวกเราถึงจะมีแรงกระตุ้นให้ก้าวต่อไปข้างหน้า! ฉันฟางผิงรับหน้าที่เป็นประธาน ในอนาคตจะมีวันหนึ่งที่คนในสมาคมเหมาะสมกว่าและแข็งแกร่งกว่าฉัน วันนั้นฉันจะยอมถอยให้เอง ในสมาคมผิงหยวน ฉันอยากให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎที่ฉันตั้งขึ้นสักหน่อย เมื่อเป็นแบบนี้ สมาคมจะได้สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เดินหน้าไปพร้อมๆ กัน”
ด้านล่างมีคนกำลังเบะปาก ฟางผิงชำเลืองตามองพวกนั้น ไม่ต่างจากที่คาด เป็นพวกฟู่ชางติ่ง
ก็ไม่รู้ว่าให้พวกเขาเข้ามาเป็นเรื่องดีหรือร้ายกัน ฟางผิงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ กลับไปจะจัดการพวกนาย!
“ตอนนี้ฉันจะประกาศข่าวดีเรื่องหนึ่ง ช่วงนี้ทางมหาวิทยาลัยต้องการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ฉันเลยยื่นหนังสือคว้าโอกาสที่ยอดเยี่ยมมาให้ทุกคน! มหาวิทยาลัยตัดสินใจว่า หลังจากนี้จะใช้ระบบจัดส่งทรัพยากรผ่านอินเทอร์เน็ต ก็หมายความว่า นักศึกษาไม่จำเป็นต้องไปแลกเปลี่ยนทรัพยากรที่ฝ่ายบริการแล้ว แต่จะใช้แพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตแทน และระหว่างทางต้องการนักศึกษาที่เต็มใจอุทิศตนช่วยเหลือจัดส่ง…”
“นี่มันพนักงานส่งของไม่ใช่หรือไง?”
มีคนบ่นพึมพำขึ้นมา ฟางผิงตำหนิออกมาทันที “พวกนายใช้สมองกันหน่อย รุ่นพี่ที่มีคะแนนแลกเปลี่ยนทรัพยากรจะเป็นผู้อ่อนแองั้นเหรอ? นั่นเป็นรุ่นพี่ขั้นสามขั้นสี่ที่เคยรับภารกิจมาก่อน! นายเป็นพนักงานส่งของ สามารถไปส่งของให้ผู้ฝึกยุทธ์ได้ทุกวันหรือไง? แค่ระยะสั้นๆ ในมหาวิทยาลัย โอกาสนี้หลายคนอยากจะแย่งยังแย่งไม่ได้! เป็นฉันที่ไปหาคณบดี อยากให้เขาเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรา คณบดีถึงรับปากให้พวกเราลองดู โอกาสแบบนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีได้”
“มหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะมากมาย ภายในสมาคมของพวกเรา มีเพียงห้าสิบคนที่สามารถมีโอกาสเป็นหนึ่งในคนที่รับหน้าที่นั้น อย่าลืมว่าไม่ใช่แค่นักศึกษา อาจารย์ก็ต้องแลกเปลี่ยนทรัพยากรเหมือนกัน พวกเขาจะใช้การแลกเปลี่ยนผ่านอินเทอร์เน็ต แทบไม่ต้องคิดก็เดาได้แล้วว่า โอกาสแบบนี้หายาก ถ้ามีนักศึกษาบางคนไปส่งของให้อาจารย์ อาจารย์ถูกชะตาเข้า อาจจะให้ยาบำรุงพวกนายมา นี่ก็รวยแล้วไม่ใช่หรือไง! พวกนายลองคิดดูว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่า? นายไปหาอาจารย์ทางนั้น ถ้ามีข้อสงสัยเล็กๆ น้อยๆ ปกติกระทั่งโซนบุคลากรยังเข้าไปไม่ได้ ตอนนี้ผ่านไปได้สะดวก ถามคำถามจากอาจารย์ อาจารย์จะปฏิเสธหรือไง? ความจริงมหาวิทยาลัยยังกังวลว่านักศึกษาจะทำผิดพลาด ทั้งกลัวว่าจะทนต่อสิ่งล่อตาล่อใจไม่ไหว เสนอเงื่อนไขให้นักศึกษาที่เข้าร่วมต้องจ่ายเงินประกันห้าล้าน!”
“เป็นฉันที่ให้อาจารย์ตัวเอง อาจารย์หลู่เฟิ่งโหรวออกหน้ารับผิดชอบให้ บอกว่านักศึกษาเซี่ยงไฮ้อย่างพวกเราไม่ใช่คนอย่างนั้น! มีอาจารย์ขั้นหกสูงสุดรับหน้าให้พวกเรา พวกนายน่าจะรู้ว่า เพื่อโอกาสครั้งนี้ สมาคมต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปเท่าไหร่? ตอนนี้ยังมีคนคิดว่าโอกาสนี้ไม่สำคัญ เป็นเรื่องน่าอาย พูดได้ไหมว่าจริงๆ แล้วฉันยังกลุ้มใจ คนเยอะไปจะทำยังไง ห้าสิบคน แบ่งเป็นห้ากะ ทุกคนจัดสรรเวลาว่างจากตารางเรียนออกมา ห้าวันเปลี่ยนกะครั้งหนึ่ง คนอื่นๆ ฉันทำได้แค่พูดว่ามีโอกาสหลังจากนี้ ถึงได้ให้พวกนายสมัครเข้ามา ตอนนี้โอกาสต้องไขว่คว้าเองแล้ว!”
นักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่คนโง่ แม้ว่าฟางผิงจะไม่ได้พูดถูกทั้งหมด แต่จำเป็นต้องพูดว่า มีโอกาสเป็นแบบนั้นได้เหมือนกัน
พวกเขาไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ พูดให้ตรงหน่อยคือแทบไม่เป็นที่สะดุดตาในมหาวิทยาลัย
อาจารย์ไม่เห็นความสำคัญ พวกรุ่นพี่ไม่สนใจ
หนึ่งสัปดาห์ หาเวลาว่างในหนึ่งวันออกมาลองเสี่ยงดวงดู ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรเช่นกัน
พวกฟู่ชางติ่งกลับสบสายตากัน แลกเปลี่ยนทรัพยากรบนอินเทอร์เน็ต?
ฟางผิงรับบทเป็นอะไรในเรื่องนี้? เขาช่วงชิงโอกาสมาให้ทุกคนจริงๆ เหรอ?
แต่เรื่องภายในนี้เหมือนว่าจะมีผลประโยชน์ไม่เยอะเท่าไหร่?
ส่งยาบำรุงให้รุ่นพี่ วิ่งเต้นแค่ไม่ไกลเท่านั้น ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกอาจารย์
ปกติประจบยังประจบไม่ได้ นี่ถือเป็นกรณีพิเศษ
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนพวกฟางผิง ทะลวงขั้นสองสำเร็จในเทอมเดียว
ฟางผิงไม่สนใจพวกเขาเช่นกัน เอ่ยต่อว่า “อีกอย่าง นอกจากเปลี่ยนหนึ่งกะในทุกห้าวันแล้ว เวลาอื่นๆ ทุกคนสามารถหาเวลามาที่สมาคมได้ ปัญหาการฝึกวิชาที่ไม่เข้าใจ ส่วนที่มีข้อสงสัย พวกเราสามารถให้คำตอบได้ ทั้งนักศึกษาที่เข้าร่วมการจัดส่งของ แม้ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์จากรุ่นพี่และอาจารย์ ขอเพียงแค่ทำได้ดี สมาคมจะมอบรางวัลและสิทธิพิเศษให้เช่นกัน อย่างเช่น ต่อจากนี้สมาคมอาจจะเสนอโครงการแลกเปลี่ยนของรางวัลออกมา คนอื่นใช้สามสิบคะแนนแลกยาชุบร่างกายหนึ่งเม็ด สมาชิกในสมาคมของพวกเราอาจใช้แค่ยี่สิบแปดหรือยี่สิบเจ็ดคะแนน ยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาหนึ่งเม็ด พวกเราอาจจะให้ทุกคนสามสิบคะแนนแลกได้สิบเอ็ดเม็ด นี่คือประโยชน์ที่ฉันหามาให้ทุกคน! อย่าได้ดูถูกเชียว ถามใจตัวเองดู เก็บสะสมวันละเล็กละน้อย พวกเราจะสามารถประหยัดได้ตั้งเท่าไหร่? ฉันบอกว่าให้พวกนายเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ใช่คำโกหก…”
ตอนนี้ทุกคนจิตใจสั่นคลอนแล้ว
หากเป็นเหมือนที่ฟางผิงพูด ประโยชน์การเข้าสมาคมก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว
ส่วนฟางผิงนั้นครุ่นคิดแล้วว่าจะจ่ายคะแนนให้สมาชิกสมาคมยังไง
ซื้อยาบำรุงจำนวนมากพร้อมกัน ตกลงมหาวิทยาลัยจะให้ส่วนลดเท่าไหร่กันแน่?
—————–