ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 177-2 แรงงานฟรีเยอะจริงๆ (2)
ตอนที่ 177 แรงงานฟรีเยอะจริงๆ (2)
แม้มหาวิทยาลัยจะไม่ได้ต้องการขายของขนาดนั้น แต่คะแนนของมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ให้กันฟรีๆ
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ คะแนนนั้นหมายถึงหลายอย่าง
ทั้งเก็บคะแนนคืนจากนักศึกษา บีบบังคับพวกเขาไปหาคะแนนอีกครั้ง ก็เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยทำมาตลอดเช่นกัน
ต้องใช้คะแนนออกไป พวกนักศึกษาถึงจะมีแรงกระตุ้นในการรับภารกิจ ต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้แข็งแกร่งกว่าเดิม
ดังนั้นคะแนนจำนวนมากจึงหวนคืนสู่มหาวิทยาลัย เวลานี้มหาวิทยาลัยคงจะไม่ถือสากับส่วนลดเล็กน้อยหรอก
ตาเฒ่าหลี่เอาแต่คิดจะควักคะแนนจากฟางผิงให้เกลี้ยงอยู่ตลอด อันที่จริงก็เป็นการบีบบังคับอย่างหนึ่ง
บีบให้ฟางผิงไปรับภารกิจ เปลี่ยนให้ตัวเองแข็งแกร่ง พยายามมากยิ่งขึ้น
การกระทำเช่นนี้ถูกซึมซับเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว พวกนักศึกษาแทบตระหนักไม่ถึงเรื่องพวกนี้
ตอนนี้พวกฟู่ชางติ่งมีแรงกระตุ้นบ้างแล้ว หยางเสี่ยวม่านเอ่ยปากถามว่า “ฟางผิง…”
“เรียกประธาน!”
หยางเสี่ยวม่านโมโหขึ้นมา คิดจะวางท่าอย่างนั้นเหรอ?
“สมาคมสามารถซื้อยาบำรุงในราคาส่วนลดได้จริงๆ เหรอ?”
“ได้ แต่ฉันบอกไปแล้ว อันดับแรกต้องเป็นนักศึกษาที่ทำผลงานออกมาดี หากอยู่แค่ในสมาคมเฉยๆ คิดจะรับสิทธิพิเศษ ต้องขอโทษด้วย ไม่มีให้หรอก!”
หยางเสี่ยวม่านถลึงตาใส่ จ้องฉันทำไมกัน นายจะเจาะจงว่าใคร!
“แต่ส่งของ…”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ฟางผิงตัดบทว่า “ผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเธอไม่ต้องรับผิดชอบส่งของ เอาโอกาสให้คนที่ยังไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ดีกว่า ผลงานของพวกเธอเป็นยังไง ดูจากสามเรื่อง เรื่องแรก เวลาปกติพวกเธอสองคนต้องเข้ากะ ทุกวันสมาคมต้องมีผู้ฝึกยุทธ์สองคนนั่งรักษาการณ์อยู่ รับผิดชอบคลายข้อสงสัยให้ทุกคน เรื่องที่สอง สมาคมอื่นๆ มาหาเรื่อง พวกเธอต้องเป็นคนจัดการ จัดการไม่ไหว มาหาฉันได้ เรื่องที่สามหลังจากนี้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นแล้ว พวกเราอาจจะส่งภารกิจของสมาคมให้ทำ ภารกิจของสมาคม เป้าหมายหลักๆ คือพวกรุ่นพี่ที่อยู่นอกมหาวิทยาลัย พวกเขาบางคนฝึกงานอยู่ที่อื่น บางคนฝึกในบริษัท ทั้งมีบางคนที่ปฏิบัติภารกิจแต่ละพื้นที่ เวลานี้หากพวกเขาสั่งซื้อทรัพยากรผ่านอินเทอร์เน็ต พวกเราสามารถให้ผู้ฝึกยุทธ์คุ้มกันส่งของได้ นี่เป็นภารกิจฝึกฝนอีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้ยากเกินไป นอกจากจะสามารถเรียนรู้จากรุ่นพี่ระดับสูงๆ แล้ว ยังมีรางวัลให้อีก!”
ฟางผิงครุ่นคิดมาดีแล้ว หลังจากนี้หากเปิดระบบรับคำสั่งซื้อจากภายนอก เขาจะไม่แบ่งกำไรจากการขาย แต่จะรวบรวมคะแนนบางส่วนมาเป็นค่าส่งของ คะแนนพวกนี้ฟางผิงสามารถรับมาอยู่ในมือตัวเอง แลกเปลี่ยนเป็นเงินให้ผู้ฝึกยุทธ์ที่ทำภารกิจ หรือจะไม่สอดมือยุ่งก็ได้ ให้ผู้ฝึกยุทธ์ยินยอมทำตามความสมัครใจเอง แน่นอนว่านี่คือช่วงแรก หลังจากนี้ต้องมีระบบระเบียบและข้อจำกัด ไม่สามารถให้นักศึกษาทำได้ทุกคน
ตอนนี้อันที่จริงมีนักศึกษาบางคนคาดเดาออกแล้ว ในเรื่องนี้ฟางผิงรับบทอะไรกันแน่
พูดเหมือนจะดูดี อันที่จริงเป็นการทำหน้าที่ของพนักงานส่งของ
หรือจะบอกว่าแพลตฟอร์มนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฟางผิง?
หรือฟางผิงดึงเอาค่าผลประโยชน์จากภายใน?
ไม่ว่าจะคิดยังไง สำหรับพวกเขา ครั้งนี้เป็นโอกาสจริงๆ คนที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ไม่มีโอกาสรับภารกิจเก็บคะแนนได้
แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นหนึ่ง ก็ไม่มีคุณสมบัติแตะต้องระบบภารกิจเช่นกัน
—
ฟางผิงชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด นับว่าค่อยๆ ทำให้ทุกคนยอมรับภารกิจหลักของสมาคมได้
ตอนที่รับสมัครคนส่งของ นอกจากคนกลุ่มน้อยแล้ว คนส่วนมากต่างลงสมัครกัน
ฟางผิงไม่ได้เลือกทั้งหมด คนที่หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ขัดหูขัดตาล้วนคัดออกทั้งสิ้น
ถือเป็นการสร้างภาพจำให้ทุกคนรู้ว่า ไม่ใช่ใครก็สามารถสมัครได้หมด โอกาสนั้นหายาก
สุดท้ายฟางผิงค่อยแต่งตั้งหน้าที่ในสมาคมขึ้นมา
“โจวเยวี่ยหง เป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายสำนักงานของสมาคม เลือกคนขึ้นมาจัดการคำสั่งซื้อสักสองสามคน ส่วนกระบวนการสั่งซื้อ แพลตฟอร์มหยวนฟางจะเป็นคนจัดการเอง แต่พวกเขาจะเอาคำสั่งซื้อที่จัดการเสร็จแล้ว ส่งให้พวกเรา พวกเราจัดคนมาส่งของต่อ เวลานี้สำนักงานก็ต้องดำเนินการจัดสรรคน อย่างน้อยนี่ก็เป็นโอกาสฝึกประสบการณ์สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจ หรือผู้หญิงที่อยากเล่นการเมือง นี่ถือเป็นโอกาสหายาก ปกติไม่มีบริษัทที่ไหนให้โอกาสพวกเธอเป็นคนตัดสินใจ จัดการเรื่องราวแบบนี้ได้ กัวเซิ่ง รับหน้าที่ฝ่ายประสานงาน”
พูดว่าฝ่ายประสานงาน อันที่จริงเป็นฝ่ายจัดสรรพนักงานส่งของ
เรื่องนี้ต้องหาคนที่ดูซื่อสัตย์จริงใจรับหน้าที่นี้
นายอ้วนดูเป็นคนซื่อๆ ทั้งในหมู่คนที่ยังไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์เขากลับยังมีความสามารถอยู่บ้าง เอามาเป็นแบบอย่างที่ดีได้
“ฟู่ชางติ่ง นายเป็นรองประธาน งานหลักๆ คือพูดคุยติดต่อระหว่างสมาคมและมหาวิทยาลัย ทั้งระหว่างสมาคมด้วยกัน อีกอย่างการไปรับยาบำรุงและอาวุธ ให้นายรับผิดชอบนำทีมผู้ฝึกยุทธ์พวกนี้ ป้องกันเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น มีอะไรคัดค้านหรือเปล่า?”
ฟู่ชางติ่งครุ่นคิดเล็กน้อย ถามว่า “ยุ่งมากไหม?”
“พอตัว แต่ไม่ได้ให้นายรับผิดชอบคนเดียว ได้ประสบการณ์เยอะก็ไม่ได้มีผลเสียอะไรสักหน่อย”
“งั้นก็ได้ ฉันตกลง”
“จ้าวเสวี่ยเหมย เป็นฝ่ายต่อสู้กับภายนอก!”
“ฝ่ายต่อสู้กับภายนอก?”
ทุกคนทำหน้ามึนงง สมาคมยังมีฝ่ายนี้ด้วย?
“ใช่น่ะสิ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? หลังจากนี้สมาคมอาจจะรับภารกิจกับภายนอก ต้องเลือกผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝีมือแข็งแกร่งเข้าร่วม นี่ก็คือฝ่ายต่อสู้กับภายนอก!”
“สรุปแล้ว ก่อตั้งสมาคมครั้งแรก แต่งตั้งแต่ละฝ่ายคร่าวๆ ฝ่ายสำนักงาน ฝ่ายประสานงาน ฝ่ายต่อสู้กับภายนอก ฝ่ายสำนักงานรับผิดชอบธุรกิจภายใน…แค่ก ใช่ ภารกิจภายใน ฝ่ายประสานงานรับผิดชอบภารกิจภายในของมหาวิทยาลัย ฝ่ายต่อสู้ภายนอกรับผิดชอบภารกิจนอกมหาวิทยาลัย…”
“แล้วฉันล่ะ?”
หยางเสี่ยวม่านอดถามไม่ได้ ไม่มีตำแหน่งให้ฉันสักอย่าง? แม้ตำแหน่งพวกนี้จะไม่ได้มีค่าอะไรก็เถอะ
“เธอ?”
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดพักหนึ่ง “ถ้าเป็นเธอ เธอเป็นฝ่ายกำกับดูแลภายในสมาคมละกัน นี่เป็นฝ่ายที่สำคัญมาก รับผิดชอบตรวจสอบการทำงานของแต่ละฝ่าย การบริการ คำวิจารณ์โดยรวมของอาจารย์และรุ่นพี่ สมาคมจะให้รางวัลสมาชิกสมาคมจากเรื่องนี้ นี่ถึงจะสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของสมาคม ทุกคนไม่ได้มารวมตัวไปวันๆ แต่อยากจะก้าวหน้าด้วยใจจริง! อีกอย่าง เธอยังมีหน้าที่สอนศิลปะการต่อสู้ภายใน นี่ก็เป็นการทบทวนความรู้ของตัวเองอย่างหนึ่งเช่นกัน”
“แล้วนายล่ะ?”
“ฉัน?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันคอยดูสถานการณ์โดยรวม ช่วงชิงผลประโยชน์มาให้ทุกคน นี่ยังไม่พอหรือไง? สมาคมต้องการแรงขับเคลื่อน ทั้งต้องการผู้แข็งแกร่งมาเป็นตัวอย่างให้ทุกคน ผู้ที่เป็นเสาหลักของจิตใจ! นอกจากฉันแล้ว หรือต้องเป็นเธอ? ภารกิจของฉันสำคัญกว่าพวกนาย แต่เพื่อให้ทุกคนก้าวหน้าไปพร้อมกัน ฉันจึงมุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล!”
ฟางผิงพูดไม่หยุด ตอนนี้จู่ๆ ตัวเขาเองยังเชื่อเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาด้วยซะงั้น
ใช่ ฉันช่วงชิงผลประโยชน์ให้ทุกคน!
ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัว!
แม้จะไม่ได้ให้เงินเดือนทุกคน แต่นักศึกษาพวกนี้ หากพูดเรื่องอุทิศตน ยังจะสนใจเงินเดือนอะไรอีก!
อย่างมากอาทิตย์หนึ่งก็เลี้ยงข้าวสักครั้ง เชิญทุกคนไปกินข้าว พูดคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบระหว่างเพื่อนนักศึกษา
“ทุกคนยังมีข้อสงสัยหรือเปล่า?”
ทุกคนเผยท่าทีว่าไม่มี
“ไม่มีแล้วก็เริ่มแบ่งกันทำงานได้ อยากเข้าฝ่ายไหน เลือกตามความพอใจ เมื่อกี้คนที่ไม่ได้เข้าร่วมฝ่ายประสานงาน สามารถเลือกเข้าฝ่ายอื่นได้ ทุกคนทุ่มเทสร้างสมาคมขึ้นมาด้วยกัน ฉันอยากให้ทุกคนรู้ว่าผู้ที่แข็งแกร่งนั้นอาศัยความพยายามของตัวเองก็เพียงพอให้ก้าวหน้าได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งฐานะทางบ้าน!”
“ประธานพูดได้ดี ขอเพียงแค่พวกเราพยายาม ต้องสามารถเอาชนะลูกหลานคนรวยพวกนั้นได้แน่!”
นายอ้วนกัวเซิ่งฮึกเหิมขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีตำแหน่งหน้าที่กับคนอื่นด้วย ในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์เขาได้รับตำแหน่งทั้งๆ ที่เป็นคนธรรมดา!
ประธานพูดไม่ผิดจริงๆ คนนั้นต้องพึ่งพาความพยายามของตัวเอง!
ฟางผิงยกนิ้วให้นายอ้วนว่าไม่เลว อย่างน้อยฉันก็ต้มนายจนเปื่อยได้ ไม่เสียแรงที่ให้นายกลายเป็นหัวหน้าพนักงานส่งของ
เขาดื่มน้ำไปแก้วหนึ่ง ฟางผิงคอแห้งผากไปหมด
แต่พอเห็นแต่ละฝ่ายของบริษัท…
ไม่สิ สมาคมค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง ทั้งสามารถดึงผู้ฝึกยุทธ์และคนธรรมดามาทำงานฟรีๆ เป็นร้อย ฟางผิงนั้นมีความสุขจนไม่รู้จะพูดอย่างไร
คนพวกนี้หากออกไปทำงานจริงๆ เกรงว่าเงินเดือนต่อปีคงเป็นสิบล้าน
ตอนนี้ใช้แค่คำพูดไม่กี่คำเท่านั้น
อย่างพวกฟู่ชางติ่งที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง ฟางผิงคงจ้างไม่ไหว ตอนนี้กลายเป็นแรงงานฟรีซะแล้ว
พวกฟู่ชางติ่งพากันเสียวสันหลังวาบ เหมือนรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล พวกเขาตกหลุมพรางอะไรไปหรือเปล่า
แต่ตอนนี้ ความรู้สึกฮึกเหิมและภาคภูมิใจที่ก่อตั้งสมาคม ก็ทำให้พวกนักศึกษาใหม่กระตือรือร้นขึ้นตาม
พวกนักศึกษายังไม่ถึงเวลาที่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับผลประโยชน์ หลายธุรกิจในมหาวิทยาลัยนั้นก่อตั้งขึ้นมาจากความหลงใหล
ส่วนเงินเดือน…นั่นนับเป็นอะไรกัน?
มองสำนักงานที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ทุกคนพูดคุยปรึกษากัน ต่อไปจะต้องทำยังไงบ้าง ฟางผิงก็ถอนหายใจอีกครั้ง
ตอนนี้นั่งรอเก็บเงินได้แล้ว!
สิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวเองยังคงเป็นการพัฒนาฝีมือ เรื่องยิบย่อยพวกนี้มอบให้พวกเขาแล้วกัน
ขอแค่เขาไม่ถูกใครล้ำหน้า สมาคมก็จะดำเนินตามความตั้งใจของตัวเองต่อไป
—————-