ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 193-2 พูดเป็นลาง (2)
ตอนที่ 193 พูดเป็นลาง (2)
ตอนที่ 193 พูดเป็นลาง (2)
ห้านาทีให้หลัง
เฉินอวิ๋นซีเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม “ฉันไม่ซื้อจริงๆ ยาบำรุงมีเยอะแล้ว จะเอาไปใช้ทำมากมายอะไรขนาดนั้น”
“พ่อแม่เธอต้องใช้”
“พวกเขาไม่ใช้ยานี้”
“ญาติพี่น้องเธอล่ะ?”
“ไม่ใช้เหมือนกัน”
“งั้นเพื่อนเธอล่ะ?”
“พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนยาบำรุง”
“เธอ…บ้านเธอไม่มีคนต้องใช้ยาบำรุงเลยเหรอไง?”
เฉินอวิ๋นซีจนใจอย่างยิ่ง บังคับขู่เข็ญกันแบบนี้ ที่นี่คือในมหาวิทยาลัยจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?
เฉินอวิ๋นซีถอนหายใจ เอ่ยอย่างหมดคำพูดว่า “นาย..นายเอาแต่ขายยาบำรุง ตัวเองไม่ต้องใช้หรือไง?”
“ไม่มีเงิน”
“งั้นเวลานายฝึกวิชาทำยังไง?”
“ฝึกตามมีตามเกิด”
ฟางผิงไม่พูดเยิ่นเย้อ เขามาเพื่อขายยาบำรุง พูดไร้สาระมากไปก็ไม่มีประโยชน์
“…เท่าไหร่?”
“แปดสิบเม็ด ราคาตลาดแปดล้าน ให้ฉันเจ็ดล้านหกแสนพอ” ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย เป็นแบบนี้เขาจะสามารถเพิ่มค่าทรัพย์สินขึ้นมาอีกสองล้าน
เฉินอวิ๋นซีเอ่ยอย่างโมโห “แพงกว่าครั้งก่อนซะอีก ฉันไม่ซื้อแล้ว!”
“ช่วยอุดหนุนหน่อยสิ ฉันใกล้จะเป็นปรมาจารย์แล้ว รอฉันเป็นปรมาจารย์จะตอบแทนเธอแน่”
ฟางผิงไม่คิดจะลดราคาแล้ว ส่วนเรื่องที่เอาเปรียบจากเธอไปหลายแสน วันหลังรวยขึ้นมาแล้วค่อยคืนก็ไม่สาย
“วันนี้ลงทุนให้ฉัน อนาคตจะไม่เสียใจแน่ ฉันทะลวงขั้นสามแล้ว!”
เฉินอวิ๋นซีสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เอ่ยอย่างยากจะเชื่อ “ขั้นสาม?”
“อืม ปรมาจารย์อยู่ไม่ไกลแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังหาเงินเพื่อเตรียมจะลงถ้ำใต้ดิน หากเข้าถ้ำแล้ว จะเป็นหรือตายยังพูดยาก…”
ระหว่างที่ฟางผิงพูด จู่ๆ หยางเสี่ยวม่านก็ผลักประตูเข้ามา เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “อวิ๋นซี อาจารย์ฉันบอกว่าปิดเทอมฤดูร้อนอาจจะพาพวกเราลงถ้ำใต้ดินเพื่อเตรียมความพร้อมในอนาคต…”
“เอ๋ ฟางผิง ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?”
ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย จะเข้าถ้ำใต้ดินแล้วจริงๆ สินะ!
เขาเพิ่งจะพูดส่งๆ ออกไป นึกไม่ถึงว่านอกจากเขาต้องเข้าไปแล้ว ขั้นสองอย่างพวกหยางเสี่ยวม่านยังรู้เรื่องนี้ด้วย
เฉินอวิ๋นซีอึ้งไปเล็กน้อย มองฟางผิงแวบหนึ่ง เมื่อกี้เธอคิดว่าฟางผิงพูดเหลวไหล คาดไม่ถึงว่าต้องเข้าถ้ำใต้ดินจริงๆ
นึกมาถึงตรงนี้ เฉินอวิ๋นซีจึงพยักหน้าว่า “งั้นนายเอายาไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีนาย”
“ได้ ขอบคุณ”
ฟางผิงทิ้งยาบำรุงไว้ ก่อนจะเดินออกไป
พอเขาจากไป หยางเสี่ยวม่านก็ละล่ำละลักเอ่ย “เขาขายยาบำรุงให้เธออีกแล้ว?”
“อืม เขาบอกว่าเขาต้องเข้าถ้ำใต้ดิน ตอนนี้ขาดแคลนเงิน ฉันเลย…”
“เธอ…เธอก็เลยซื้อ? ซื้อเท่าไหร่?”
เฉินอวิ๋นซีกระอักกระอ่วนขึ้นมา เอ่ยเสียงแผ่วว่า “เจ็ดล้าน แปดสิบเม็ด”
“อ่อ ยังดี ครั้งนี้เขาไม่ได้หลอกเธอ”
หยางเสี่ยวม่านเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะขายราคาที่ลดสิบเปอร์เซ็นต์ให้เฉินอวิ๋นซี ยังถือว่าไว้ใจได้
เฉินอวิ๋นซีหน้าแดงเล็กน้อย หกแสนที่หายไปเธอหักออกเอง ก็ดีกว่าให้เสี่ยวม่านเห็นเรื่องตลกละกัน
—
ฟางผิงไม่สนใจว่าพวกเธอทั้งสองจะพูดอะไรกันอยู่แล้ว
ตอนนี้เขาคิดแค่เรื่องจะเข้าถ้ำใต้ดิน
ปิดเทอมฤดูร้อนอยู่ไม่ไกลแล้ว
ใกล้จะเข้าเดือนเมษายน ระยะห่างจากปิดเทอมฤดูร้อนมีแค่สามเดือนเท่านั้น
“สามเดือน…”
เขากำลังคิดว่าช่วงเวลาสามเดือนนี้ตัวเองจะสามารถแตะถึงขั้นสามตอนปลายได้หรือไม่
ฟู่ชางติ่งเดินเข้ามาพอดี เห็นฟางผิงอยู่ตรงทางเดินเลยเอ่ยอย่างแปลกใจ “ตอนเช้าไปไหนมา?”
“ไม่ได้ไปไหน ทำไม?”
“เมื่อกี้อาจารย์ฉันบอกว่าเดือนมิถุนายน มหาวิทยาลัยจะจัดกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองเข้าไปในถ้ำใต้ดินเลยมาบอกนายสักหน่อย ช่วงนี้คลาสฝึกพิเศษจะมีการเปิดสอนอีกครั้ง หลักๆ จะเป็นความรู้เกี่ยวกับถ้ำใต้ดิน”
“เดือนมิถุนายน?”
“อืม”
“งั้นก็ไม่ถึงสามเดือนแล้วสิ…”
ฟู่ชางติ่งได้ยินแบบนั้นเลยเอ่ยว่า “ไม่ต้องกังวล เข้าไปครั้งแรกไม่ได้ลึกมาก ทั้งยังมีอาจารย์ตามไปด้วย ปลอดภัย…”
“อย่าพูดเป็นลาง!”
ฟางผิงบ่นออกมา ยิ่งพูดแบบนี้ยิ่งเกิดเรื่องได้ง่าย
เขาต้องรีบทำเวลาหน่อย พึ่งใครไม่สู้พึ่งตัวเอง
พวกฟู่ชางติ่งนั้นสมองนิ่มไปหมดแล้ว เขากลับไม่ใช่
ถ้ำใต้ดิน สถานที่ที่ไม่อาจใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในสมัยปัจจุบัน ต้องเดินทางด้วยเท้า สื่อสารด้วยการตะโกน อาจารย์และนักศึกษาพลัดหลงกันเป็นเรื่องปกติ
คาดหวังให้อาจารย์ปกป้อง ยังไม่สู้คาดหวังตัวเอง จะเชื่อใจได้มากกว่า
อีกอย่างเขาต้องรีบฉวยโอกาสไปเขตทางใต้อีกสักครั้ง ท่องจำแผนที่ลักษณะภูมิประเทศ เผื่อกรณีที่ตัวเองหลงทางหาทางออกไม่เจอ
อีกอย่างต้องเก็บออมค่าทรัพย์สินและยาบำรุงให้มากหน่อย อาวุธต้องเปลี่ยนใหม่ บางทีระดับ C อาจจะเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ต้องสอบถามข้อมูลกับคนที่เข้าถ้ำบ่อยๆ ทำยังไงถึงจะมีชีวิตรอดปลอดภัยได้…
ภารกิจล้นตัวเหลือเกิน!
เห็นฟางผิงมีท่าทีกังวล ฟู่ชางติ่งจนใจอยู่บ้าง หมอนี่จำเป็นต้องขนาดนี้เลยหรือไง?
ฟางผิงไม่สนใจเขา เดินออกไปข้างนอกทันที เขาต้องไปบริษัทสักหน่อย
—
ในเวลาเดียวกัน
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ ห้องอธิการบดี
หวงจิ่งเอ่ยด้วยสีหน้านอบน้อม “อาจารย์แจ้งเรื่องลงไปแล้ว ครั้งนี้เซี่ยงไฮ้จะรวบรวมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองหนึ่งร้อยคนเข้าไปในถ้ำใต้ดิน รอคนพวกนี้มีชีวิตรอดในถ้ำอย่างราบรื่น ผมคิดว่าไม่นานพวกเขาอาจจะกลายเป็นทีมผู้ฝึกยุทธ์ที่สุดยอดทีมหนึ่ง”
“เฮ้อ!”
อธิการบดีเฒ่าถอนหายใจเบาๆ พึมพำว่า “ขั้นสอง…ยังเป็นเด็กกัน…”
“นักศึกษาต่างเป็นเด็กทั้งนั้น แต่เด็กจำเป็นต้องแบกรับหน้าที่ที่พวกเขาควรจะแบกรับเช่นกัน แค่ให้พวกเขาเคลื่อนไหวในบริเวณที่ผ่านการกวาดล้างแล้วเท่านั้น ไม่ได้อันตรายมาก”
อธิการบดีเฒ่าไม่พูดอะไรอีก ครุ่นคิดเล็กน้อย “เตรียมพร้อมล่วงหน้าให้ดี อย่าเข้าไปในถ้ำใต้ดินแบบไม่รู้อะไร อีกอย่างถึงเวลานั้นนายต้องแอบให้ความช่วยเหลือ”
หวงจิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงพยักหน้า
“ตอนนี้มีทางเข้ายี่สิบสองทางก็ชักหน้าไม่ถึงหลังแล้ว หากมีเพิ่มมาอีกทาง ไม่รู้ว่าจะสามารถต้านไหวหรือเปล่า หวังแค่ว่าปีสองปีนี้จะสามารถรวบรวมผู้ฝึกยุทธ์หัวกะทิออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น”
อธิการบดีเฒ่าถอนหายใจ เอ่ยต่อว่า “สถานการณ์พื้นที่อื่นๆ ก็ไม่ดีเท่าไหร่เหมือนกัน…ดูข่าวหรือยัง? แถบแอฟริกามีการยิงขีปนาวุธแล้ว”
“ครับ เห็นแล้ว ปากทางเข้าถ้ำในท้องที่น่าจะถูกบุกทะลวงแล้ว”
“เรื่องของถ้ำใต้ดิน เกรงว่ายากที่จะปิดต่อไปแล้ว มีประเทศที่รับแรงกดดันไม่ไหว ตอนนี้จำเป็นต้องเกณฑ์ประชาชนเป็นทหารถึงจะสามารถต้านไว้ได้ หากเปิดเผยออกไป…การใช้ชีวิตที่สงบสุขของมนุษยชาติ…เกรงว่าคงจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว”
อธิการบดีเฒ่าถอนหายใจอีกครั้ง หวงจิ่งเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “บางทีก็เป็นการพลิกโอกาสอย่างหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์เป็นชนกลุ่มน้อย ปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป พวกเราอาจจะไม่ไหวเช่นกัน ทำได้เพียงใช้ชีวิตคนมาทดแทน อาศัยร่างคนมากั้นประตูถ้ำ ต่อเวลาหายใจให้ผู้ฝึกยุทธ์สักนิด”
คำพูดนี้เลือดเย็นอย่างมาก แต่อธิการบดีกลับไม่พูดอะไร
หากถึงเวลานั้นจริงๆ อาจทำได้เพียงเลือกวิธีนี้
ไม่คิดเรื่องพวกนี้อีก อธิการบดีเฒ่าเอ่ยว่า “รัฐบาลอาจจะให้ความสนับสนุนกับท้องที่ นี่เป็นภัยพิบัติของมนุษยชาติทั้งหมด ให้อาจารย์บางส่วนเตรียมตัวสักหน่อย”
หวงจิ่งอยากจะพูดอะไรบางอย่างกลับหยุดไป อธิการบดีเฒ่าส่ายหัวว่า “อย่างน้อยเวลานี้คงไม่อาจนั่งเฉยๆ ได้ นอกจากพวกเราจะต้านไม่อยู่เหมือนกัน”
“ครับ หวังว่าจะสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยทั้งหมด”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องทำงานก็ตกสู่ความเงียบสงบ
—————