ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 200-2 สิบสามเมืองของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ (2)
ตอนที่ 200 สิบสามเมืองของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ (2)
ศาสตราจารย์เฒ่าถอนหายใจติดต่อกัน น่าเสียดาย หลายปีมานี้ถ้ำใต้ดินนำแต่ภัยอันตรายและความตายมาเท่านั้น ไม่มีใครคิดเพ้อหวังอะไรอีกแล้ว
นี่ไม่ใช่แดนสวรรค์ แต่เป็นความเพ้อฝันสวยหรูของมนุษย์เท่านั้น
อวี๋ซั่งหวาเอ่ยว่า “อาจารย์ครับ งั้นก็หมายความว่าสิ่งที่พวกเราต้องต่อกรแค่ทหารที่พร้อมสู้รบสองแสนคนของอีกฝ่ายเท่านั้น?”
“แค่?”
ศาสตราจารย์เฒ่าหลุดขำ “เธอรู้หรือเปล่าว่าพวกใต้ดินแข็งแกร่งแค่ไหน? ทหารที่พร้อมต่อสู้ของพวกเขา ครองสัดส่วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์สิบเปอร์เซ็นต์ มีผู้ฝึกยุทธ์ทหารเป็นของตัวเอง! แม่ทัพที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์! ถ้ำใต้ดินสถานที่อาวุธเย็นเป็นใหญ่ ทัพทหารสองหมื่นนายน่ากลัวแค่ไหน พวกเธอไม่อาจรู้ได้หรอก!”
อวี๋ซั่งหวาอดเอ่ยไม่ได้ “หน่วยทหารของพวกเราก็มีผู้ฝึกยุทธ์ทหารเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ?”
“ไม่เหมือนกัน หลายปีนี้หน่วยทหารบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์ออกมาไม่น้อยจริงๆ ตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์ของจีน ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ปราณหรือผู้ฝึกยุทธ์สู้รบ รวมทั้งหมดเกินกว่าหนึ่งล้านคน แต่กลับไม่ได้อยู่ในหน่วยทหารทั้งหมด ผู้ฝึกยุทธ์ทหารมีเยอะ แต่ละหน่วยรวมเข้าด้วยกันเกรงว่าจะมีไม่ต่ำกว่าสองแสนนาย เทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ในมหาวิทยาลัย เยอะกว่าหนึ่งเท่า แต่หน่วยทหารต้องคุ้มกันทางเข้ายี่สิบสองแห่ง เฉลี่ยแล้วก็จะมีจำนวนน้อยอย่างมาก ทั้งสังคมบนพื้นโลกยังต้องการหน่วยทหารมากำราบพวกนอกรีต ต้องถ่วงรั้งผู้ฝึกยุทธ์ไปอีกส่วนหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ทหารที่ประจำการในถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้อย่างแท้จริงมีไม่ถึงห้าพันคนเท่านั้น”
“ดังนั้นพวกเราจึงอยู่ในสภาวะที่ต้องตั้งรับอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้น…พวกเขามีสิบสามเมือง แม้จะรวมกันสุดกำลังเพื่อกำราบเมืองเทียนเหมิน แต่หลังจากนั้นล่ะ? พวกเราทำสงครามกับเมืองเทียนเหมินแล้ว บาดเจ็บล้มตายกันหมดสิ้น หากเมืองด้านหลังเพิ่มกำลังทหารอีก พวกเราคงไม่อาจมีโอกาสพลิกฟื้น ตอนนี้จึงยืดเยื้อสงครามกับเมืองเทียนเหมิน เมืองด้านหลังก็จะไม่ส่งกำลังทหารมาเพิ่ม สิ่งมีชีวิตใต้ดินเป็นพวกหวงอาณาเขต หากอยู่ในสถานการณ์ที่เมืองเทียนเหมินไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอ่ยขอความช่วยเหลือ ส่วนมากเมืองอื่นๆ จะนั่งดูเสือกัดกันเท่านั้น จากที่พวกเราสังเกต ถ้ำใต้ดินเหมือนจะไม่มีศูนย์กลางอำนาจ แต่ละเมืองแยกเป็นอิสระกัน”
“งั้นหมายความว่าทหารและผู้ฝึกยุทธ์ของพวกเราต้องต่อต้านกับเมืองเทียนเหมินแห่งเดียวเท่านั้น…”
“ผิดแล้ว!”
ศาสตราจารย์เฒ่าส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ใช่ต่อต้าน แต่เป็นการพยายามป้องกัน พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเมืองเทียนเหมิน แน่นอนว่าพูดถึงการรบในสนาม อีกฝ่ายไม่กล้าบุกจู่โจมฐานที่มั่นของเราอย่างเต็มกำลังเช่นกัน อย่างแรกฐานที่มั่นของพวกเรานั้นแน่นหนา พวกเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อย่างที่สองสถานการณ์คับขัน พวกเราจะส่งปรมาจารย์เข้าไปกวาดล้างรัง หากไม่มีกองกำลังด้านหลังคอยช่วยเหลือ เมืองเทียนเหมินย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของประเทศจีนอยู่แล้ว แต่ปรมาจารย์ของพวกเราไม่อาจเข้าไปอย่างอุกอาจ ทั้งไม่สามารถทำลายเมืองเทียนเหมิน เว้นเสียจากจะเชื่อมั่นว่าสามารถร่วมมือต่อต้านทั้งสิบสามเมืองได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทางตอนเหนือของสิบสามเมืองที่มีผู้แข็งแกร่งที่น่ากลัวอยู่ หากปรมาจารย์มารวมตัวเยอะเกินไป อาจจะดึงดูดพวกที่น่ากลัวออกมาก็ได้ ถ้ำใต้ดินของปักกิ่งเคยเกิดเรื่องนี้เมื่อเจ็ดสิบปีก่อน! เวลานั้นปรมาจารย์ของประเทศจีนมีไม่ถึงหนึ่งร้อยคน รวมตัวกันกว่าสี่สิบคนเพื่อจะกวาดล้างที่ถ้ำใต้ดินปักกิ่ง…ผลปรากฏว่ากลับมีพวกแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏตัวจากส่วนลึกของถ้ำใต้ดิน สุดท้ายทำให้เกิดความสูญเสียแก่ปรมาจารย์ของจีนถึงสิบหกคน สงครามครั้งนั้นทำลายถึงรากลึก มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เกือบจะพินาศย่อยยับ อธิการบดี รองอธิการ ทั้งคณบดีของแต่ละมหาวิทยาลัยต่างสู้จนตัวตายในสนามรบ!”
พูดถึงเรื่องในอดีต ศาสตราจารย์เฒ่านั้นปวดใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่
หลายปีมานี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีปรมาจารย์ตายในสนามรบมากที่สุด อันที่จริงเกี่ยวข้องกับสงครามใหญ่ประเภทนี้เช่นกัน
สงครามใหญ่ในถ้ำใต้ดิน พวกมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังอย่างเซี่ยงไฮ้เข้าร่วมน้อยครั้ง
มหาวิทยาลัยปักกิ่งกลับเป็นกำลังหลักมาโดยตลอด นี่ก็เป็นเหตุผลที่ตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยสูญเสียปรมาจารย์ไปแค่สองคน
พวกฟางผิงต่างรู้สึกหดหู่ใจอยู่บ้าง
“อย่างนั้นก็ทำได้แค่ป้องกันสินะครับ?”
ต่อสู้ด้วยกำลังขนาดเล็กไม่ได้ แต่ถ้าจัดกองกำลังใหญ่ก็จะพ่วงไปถึงอนาคตของประเทศจีน แม้จะชนะการต่อสู้ อย่างมากก็กำราบถ้ำใต้ดินได้แค่แห่งสองแห่งเท่านั้น แต่เมื่อเป็นแบบนั้น ปรมาจารย์ของจีนอาจจะตายไปเกือบครึ่งหนึ่ง แล้วทางเข้าถ้ำที่เหลืออยู่ล่ะ?
ศาสตราจารย์เฒ่าแค่นยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องเศร้าโศกขนาดนั้น ช่วงเวลาของหนุ่มสาวเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว อนาคตยังคงสดใส ไม่กี่สิบปีก่อน ประเทศจีนมีปรมาจารย์เท่าไหร่กัน? แต่ตอนนี้ล่ะ? ปัจจุบันนับวันพวกเราก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ความก้าวหน้าของพวกใต้ดินไม่ได้พัฒนาเร็วเท่าพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงสามารถประคองสภาวะป้องกันมาตลอดได้ เพื่อช่วงชิงเวลาให้มนุษยชาติในอนาคต หากต่อสู้จริงๆ ปรมาจารย์นับร้อยของประเทศจีน อย่างน้อยคงสามารถกวาดล้างทางเข้าได้สี่ห้าแห่ง! แต่หากถ้ำใต้ดินเชื่อมต่อกันจริงๆ พวกเราทำลายทางเข้าไปมากมายขนาดนั้น การจู่โจมจากถ้ำใต้ดินจะเกิดขึ้นพร้อมกันทุกทางทันที ดังนั้นพวกเราจึงยอมแค่ใช้กองกำลังขนาดเล็กในการต่อสู้ ใช้ชีวิตคนถมทางเข้า ดีกว่าจะเปิดสงครามอย่างเต็มรูปแบบ!”
ตอนนี้มียอดฝีมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อก่อนประเทศจีนมีปรมาจารย์ไม่ถึงหนึ่งร้อย
ช่วงสามสิบปีนี้กลับมีปรมาจารย์ปรากฏตัวเกือบหนึ่งร้อย!
เฉลี่ยแล้วทุกปีมีปรมาจารย์เกิดขึ้นสามคน นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อ
แวดวงธุรกิจมีปรมาจารย์ปรากฏขึ้นทุกปี ในรัฐบาลก็เหมือนกัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อันที่จริงรัฐบาลไม่อยากให้ดำเนินสงครามขั้นเด็ดขาด นั่นเป็นการฆ่าตัวตาย จึงทำได้เพียงทนเท่านั้น
ยืดเยื้อเวลาให้นานออกไป!
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ มนุษยชาติก็จะมีความหวังมากเท่านั้น สุดท้ายสงครามตัดสินนั้นยังต้องอยู่ที่ผู้แข็งแกร่ง
และภารกิจของถ้ำใต้ดินทั่วไปหรือการต่อสู้ในถ้ำใต้ดิน ความจริงถือเป็นการฝึกทหารอย่างหนึ่ง ฝึกผู้ที่แข็งแกร่งออกมา!
ทหารและผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางสละชีพไปจำนวนมาก นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เวลานี้จำเป็นต้องมีคนเสียสละ หากทุกคนต่างไม่ยินยอม งั้นจุดจบของมวลมนุษย์ชาติคงอยู่ไม่ไกลแล้ว
ตอนนี้ทุกคนไม่ถามอะไรออกมาอีก เริ่มมองแผนผังจำลอง
เมืองทั้งสิบสามแห่งของถ้ำใต้ดิน ปรากฏกระจัดกระจายเป็นรูปร่างของพัด
ทางใต้สุดเป็นทางเข้าของเซี่ยงไฮ้ ทางทะเลนั้น ประเทศจีนมีฐานที่มั่นอยู่เช่นกัน
เมืองเทียนเหมิน ห่างจากฐานที่มั่นประมาณแปดสิบกิโลเมตร
ฟังดูเหมือนไม่ไกล สมัยนี้บึ่งรถไปแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
แต่ในถ้ำใต้ดินต้องใช้การเดินเป็นหลัก ระยะทางจึงไกลขึ้นมาทันที บังคับทหารเดินเท้าปกติวันละห้าสิบกิโลเมตร ถือว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากแล้ว
เดินเท้าเจ็ดสิบกิโลเมตร กองกำลังแบบนี้ย่อมต้องขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจอยู่แล้ว
ห่างออกมาแปดสิบกิโลเมตรเป็นเมืองเทียนเหมิน เมืองเทียนเหมินจึงนับเป็นเมืองหน้าด่านของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้เช่นกัน
ด้านหลังยังมีเมืองอื่นอีก
ถ้ำใต้ดินมีภูเขาลำธาร เพียบพร้อมทุกสิ่งอย่าง
ศาสตราจารย์เฒ่าเห็นทุกคนตั้งใจดูอย่างละเอียดจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “เทคโนโลยียังคงน่าอัศจรรย์ใจ! อีกไม่นาน แผนที่สามมิติถ้ำใต้ดินของพวกเราก็จะทำเสร็จแล้ว ถึงเวลานั้นทุกคนจะสามารถสัมผัสเรื่องทั้งหมดของถ้ำใต้ดินได้โดยตรง และหลังจากพวกเราเข้าไปในถ้ำใต้ดิน หลักๆ จะเคลื่อนไหวภายในบริเวณสามสิบกิโลเมตรจากฐานที่มั่น ระยะทางนี้พวกเราได้กวาดล้างเรียบร้อยแล้ว ค่อนข้างปลอดภัย แต่ทหารของเมืองเทียนเหมินก็เคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน รวมทั้งผู้ฝึกยุทธ์ของพวกเขาด้วย ผู้ฝึกยุทธ์ส่วนหนึ่งไม่ใช่ทหาร พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ดังนั้นต้องอันตรายอยู่แล้ว และในถ้ำใต้ดิน นอกจากมนุษย์ถ้ำ พวกเราจะเรียกพวกเขาแบบนี้ชั่วคราว นอกจากมนุษย์ถ้ำ ยังมีอันตรายอย่างอื่นอีกมากมาย รวมทั้งพืชและสัตว์ของพวกเขา สัตว์บางอย่างถึงกระทั่งมีพลังของผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูง”
“ถ้ำใต้ดินคล้ายกับโลกเทพนิยายในตำนาน พืชและสัตว์พวกนี้บางทีอาจจะมองเป็นปีศาจได้ เป็นอันตรายที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกัน โอกาสก็มีอยู่มากมาย ทำไมมนุษยชาติจึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ? นั่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดินอย่างมาก! รวมถึงการผลิตยาแต่ละชนิดของพวกเรา การใช้พลังงานแร่เพื่อพัฒนา ถึงกระทั่งการสร้างสรรค์เคล็ดวิชาต่อสู้บางส่วน ล้วนเกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดิน”
“รู้หรือเปล่าว่าเหตุใดพวกนักศึกษาขั้นห้าของเซี่ยงไฮ้ถึงก้าวหน้าได้เร็วแบบนี้? มีส่วนเกี่ยวข้องกับโอกาสที่เจอในถ้ำใต้ดินเช่นกัน! เรื่องพวกนี้ฉันคงไม่แนะนำไปทีอย่าง ก่อนหน้านี้ไม่ได้เรียบเรียงบทเรียนมาโดยตลอด เพราะเมื่อก่อนผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปได้ และก่อนจะเข้าไปต้องได้รับการฝึกฝนช่วงสั้นๆ ที่หน่วยทหาร ในหน่วยทหารมีข้อมูลสรุปต่างๆ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้ก่อตั้งคลาสฝึกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขึ้นมา ดังนั้นพวกเราจึงกำลังหารือกับหน่วยทหาร ทั้งนี้ได้ถ่ายเอกสารข้อมูลถ้ำใต้ดินบางส่วนให้ทุกคนแล้ว ไปดูเอาเอง ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง…”
อาจารย์พูดจนคอแห้ง พวกฟางผิงก็ฟังอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่บ้าง
ที่แท้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าหลายคนของเซี่ยงไฮ้ต่างได้รับโอกาสในถ้ำใต้ดิน
ไล่ตามความแข็งแกร่งก็เป็นความคาดหวังของผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนเช่นกัน ถ้ำใต้ดินมีประโยชน์ บางทีอาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกผู้ฝึกยุทธ์ไม่กลัวการเสียสละ
ตอนนี้ลักษณะของถ้ำใต้ดินต่างกระจ่างชัดในสมองของทุกคน
เรื่องหลงทิศ ฟางผิงไม่ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว
ถ้ำใต้ดินไม่ใช่ทะเลทรายหรือทุ่งหญ้ารกร้างสักหน่อย มีเมือง ทั้งมีที่พักของมนุษย์ จะหลงง่ายๆ ได้ยังไงกัน
ยิ่งคิดเชื่อมไปถึงประโยชน์ของถ้ำใต้ดินมีมากมาย ชั่วพริบตานั้นทุกคนจึงฮึกเหิมอยากลองขึ้นมา
อยากจะเข้าไปในถ้ำใต้ดินเสียเดี๋ยวนี้เพื่อช่วงชิงผลประโยชน์ ทะลวงขั้นสามขั้นสี่หรือกระทั่งขั้นห้า
และในเวลานี้น้ำเย็นที่ร่วงลงมาจากฟ้าก็ราดดับไฟที่ลุกโชนในใจของทุกคน
————–