ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 205-2 ความลับเล็กๆ ของโลกผู้ฝึกยุทธ์ (2)
ตอนที่ 205 ความลับเล็กๆ ของโลกผู้ฝึกยุทธ์ (2)
“หากพูดแบบไม่เกรงใจ เฉินอวิ๋นซีตอนนี้แทบเทียบไม่ติด ปู่ของเฉินอวิ๋นซีเป็นปรมาจารย์ แต่พ่อแม่นั้นไม่ใช่ ตระกูลเฉินยังมีลูกหลานคนอื่นเหมือนกัน แต่ลูกสาวของอธิการอู๋ นั่นเป็นทายาทเพียงคนเดียวจริงๆ ปรากฏว่าตามใจลูกมากไป ทั้งรองอธิการก็มั่นใจในตัวเองเกินไป ตอนที่ออกภารกิจพาลูกสาวเข้าไปในถ้ำด้วยกัน ปรากฏว่ากลับเจอปัญหาในถ้ำ รองอธิการถูกศัตรูที่แข็งแกร่งเหนี่ยงรั้งตัวไว้ ได้ยินว่าเวลานั้นรองอธิการทำได้เพียงมองลูกสาวถูกผู้แข็งแกร่งในถ้ำฆ่าตาย…สถานการณ์คร่าวๆ เป็นแบบนี้แหละ พ่อฉันพูดไม่ชัดเจนเหมือนกัน”
“หลังจากเหตุการณ์นั้นอาจารย์หลู่และอธิการอู๋ก็แตกหักกัน พ่อฉันบอกว่า ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ตอนนั้นเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต เวลานั้นคนที่เข้าถ้ำไปกับอธิการอู๋ยังมียอดฝีมืออยู่ไม่น้อย อาจารย์หลู่บุกไปที่หน้าบ้านของทุกคนราวกับคนเสียสติ ถามคนพวกนั้นว่าทำไมไม่ช่วยลูกสาวเธอ? อันที่จริงการตายในถ้ำใต้ดิน จะพูดว่าใครถูกผิดนั้นเป็นเรื่องยาก…แต่อาจารย์หลู่เพิ่งจะเสียลูกสาวไป คนอื่นๆ จึงไม่ปริปากพูดอะไร ปล่อยให้เธอทำตามใจ สุดท้ายเหมือนจะเป็นอธิการอู๋ที่ออกหน้าขัดขวาง…จากนั้นอาจารย์หลู่ก็ประกาศว่าหย่ากับเขา ได้ยินว่าอธิการอู๋ไม่อยากหย่า ภายหลังไม่กล้าปฏิเสธ เพราะอาจารย์หลู่เข้ามาลอบฆ่าเขาตอนกลางดึกหลายครั้ง…”
ฟางผิงกลืนน้ำลาย เอ่ยอย่างระแวงว่า “จริงเหรอ?”
“จริงสิ” ฟู่ชางติ่งพูดเสียงเบา “นายระวังหน่อยแล้วกัน เมื่อก่อนอาจารย์นายได้รับ…ความกระทบกระเทือนทางจิตใจ เกือบจะฆ่าอธิการอู๋ไปแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อย ทุกปีใกล้วันครบรอบของลูกสาวก็จะบ้าคลั่งขึ้นมาเล็กน้อย ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเวลานั้นแล้ว ครั้งนี้อธิการกลับมาเหมือนจะเพราะเรื่องนี้เช่นกัน ยังไงช่วงนี้ทางที่ดีนายอย่าเพิ่งไปหาอาจารย์เลย อันตราย…เกินไปจริงๆ”
ฟางผิงขนลุกซู่ขึ้นมา น่ากลัวชะมัด
เรื่องนี้เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ทั้งเพิ่งรู้ว่าอาจารย์ของตัวเองมีลูกสาวเหมือนกัน เพียงแค่ตายไปในถ้ำแล้ว
“หรือว่า…ศัตรูที่แข็งแกร่งครั้งนั้นคือเจ้าเมืองเทียนเหมิน?”
ฟางผิงคาดเดาอยู่ในใจ ประติดประต่อเรื่องราวเล็กน้อย เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา
สาเหตุที่ไม่ชอบเฉินอวิ๋นซี…คงไม่ใช่เพราะว่านึกถึงลูกสาวตัวเองหรอกนะ?
เห็นได้ชัดว่าข่าวสารจากฟู่ชางติ่งยังไม่หมด เขาเอ่ยต่อว่า “ใช่สิ ลืมบอกไป เบื้องหลังของอาจารย์นายน่าตกใจจริงๆ ทางที่ดีนายทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยเถอะ เธอยังมีพ่ออีกคน…ไม่ใช่อธิการอู๋เหมือนที่ไอ้เบื๊อกอย่างนายเข้าใจ พ่อแท้ๆ ของเธอเป็นปรมาจารย์เหมือนกัน ปรมาจารย์ขั้นเจ็ดสูงสุด หลายปีมานี้ไม่เคยปรากฏตัวออกมาตลอด แต่ยังคงมีชื่ออยู่ในการจัดอันดับ นั่นหมายความว่ายังมีชีวิตอยู่ พ่อฉันบอกว่าน่าจะอยู่ในถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยออกมา แต่น่าจะมีชีวิตอยู่ ปรมาจารย์ตั้งสองคน…ไม่สิ หากอาจารย์หลู่ทะลวงถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว นั่นก็เป็นปรมาจารย์ตั้งสามคน คนที่มีภูมิหลังแบบนี้ ใครจะกล้าสร้างปัญหา? แต่พ่อฉันยังบอกว่า…”
ฟู่ชางติ่งเบาเสียงลงจนแทบไม่ได้ยิน “อันที่จริงอธิการอู๋และคนอื่นๆ ต่างคอยกดไม่ให้อาจารย์หลู่ทะลวงขั้น! หากทะลวงขั้นเป็นปรมาจารย์ต้องเกิดความวุ่นวายแน่”
“ความวุ่นวาย?”
“ไม่รู้ พ่อฉันพูดแค่นี้แหละ ฉันถามอะไร เขาก็ไม่ตอบอีกแล้ว”
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง หรือหมายถึงเจ้าเมืองเทียนเหมิน?
เจ้าเมืองเทียนเหมินอยู่ขั้นเก้าตอนต้น อันที่จริงไม่ใช่ว่าประเทศจีนไร้คนต่อกรกับเขา
แต่ฆ่าเขาแล้ว เมืองเทียนหนานขอความช่วยเหลือจากเมืองอื่น เกรงว่าสิบสองเมืองในถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ที่อยู่ด้านหลังจะเกิดความเคลื่อนไหวแล้ว
หลายปีมานี้ควบคุมสถานการณ์ทางเมืองเทียนเหมินอย่างยากลำบาก หากเปลี่ยนคู่ต่อสู้จากเมืองเทียนเหมินเป็นเมืองด้านหลัง บางทีนั่นอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นมาจริงๆ!
“กลัวว่าเธอทะลวงเป็นปรมาจารย์ หลังจากนั้นจะล้างแค้นอีกฝ่าย? ปรมาจารย์ขั้นเจ็ดสู้ไม่ไหวอยู่แล้ว แต่อาจารย์หลู่ลงมือ รองอธิการอู๋และพ่อของเธอจะสามารถมองดูเธอไปตายเฉยๆ ได้งั้นเหรอ? ปรมาจารย์สามคนร่วมมือกัน หากไม่สังหารอีกฝ่ายก็ต้องตายด้วยน้ำมืออีกฝ่าย! สรุปแล้วล้วนไม่ใช่เรื่องดี”
ฟางผิงพึมพำเบาๆ สังหารอีกฝ่ายต้องเกิดความวุ่นวาย หากปรมาจารย์ทั้งสามคนตาย ประเทศจีนก็ไม่อาจรับความสูญเสียแบบนี้ได้เช่นกัน
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ให้หลู่เฟิ่งโหรวทะลวงเป็นปรมาจารย์
เธอทะลวงไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าอธิการอู๋และพ่อเธอสบายใจกว่าเธอไม่น้อย ทั้งยังตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงต่อส่วนรวม
หลู่เฟิ่งโหรว…อาจไม่ได้คำนึงถึงส่วนรวมเสมอไป หนี้แค้นที่สูญเสียลูกสาว เกรงว่าคิดจะล้างแค้นตั้งนานแล้ว
“นึกไม่ถึงว่ายังจะมีเรื่องราวภายในเยอะขนาดนี้”
ฟางผิงถอนหายใจ พึมพำว่า “หากรุ่นพี่ของฉันคนนั้นยังมีชีวิตอยู่คงจะดีไม่น้อย ในครอบครัวมีปรมาจารย์ตั้งสามคน มีภูมิหลังแบบนี้ แม้จะเป็นคนธรรมดาก็ยังสามารถจับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางเฆี่ยนตีได้ทั้งกลุ่ม”
“ดูท่าหลังจากนี้ต้องประจบอาจารย์ตัวเองดีๆ หน่อย หรือจะรับเป็นแม่บุญธรรมดี?”
ฟางผิงบ่นพึมพำกับตัวเอง ฟู่ชางติ่งใบหน้าเขียวคล้ำไปหมด นายช่วยรักษาหน้าตาตัวเองหน่อยได้หรือเปล่า?
เห็นฟางผิงยังพึมพำ ฟู่ชางติ่งจึงเตือนว่า “อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้กับอาจารย์นายเชียว ตอนนี้แทบจะเป็นกลายเป็นเรื่องต้องห้าม ถูกคนซ้อมตายขึ้นมาคงไม่มีใครทวงความยุติธรรมแทนนาย ทั้งห้ามพูดถึงฉันด้วย ฉันกลัวตาย”
“ฉันโง่ขนาดนั้นที่ไหนกัน?”
ฟางผิงกลอกตา หลู่เฟิ่งโหรวไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้คนอื่นเอ่ยถึง
หากพูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าเธอ กระตุ้นความบ้าคลั่งของหลู่เฟิ่งโหรวขึ้นมา ตัวเองถูกฆ่าตายเป็นร้อยครั้งน่าจะยังไม่พอ
—
ข่าวสารของฟู่ชางติ่งฉับไวกว่าฟางผิงอยู่แล้ว ทั้งยังมีมากมายจนนับไม่ถ้วน
ปลายเดือนเมษายน ตอนที่ฟางผิงมุ่งกับการฝึกวิชา บางครั้งฟู่ชางติ่งก็จะได้รับข้อมูลจากแวดวงภายใน
อย่างเช่นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจทะลวงเป็นปรมาจารย์ในเดือนนี้แล้ว หรือผู้ว่ามณฑลคนหนึ่งถูกเลื่อนอันดับในขั้นปรมาจารย์ ไม่ก็ดาราดัง จู่ๆ กลับป่วยตายอย่างกะทันหัน…
น่าขำ ดาราดังคนนั้นมีความสามารถขั้นสี่ จะป่วยตายกะทันหันได้ยังไง น่าจะถูกบังคับให้ลงไปทำภารกิจในถ้ำแล้วทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นมากกว่า
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง ทุกปีต้องเข้าไปในถ้ำเพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จถึงจะกลับมาบนโลกได้
นี่เป็นข้อผูกมัดและความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง ทุกปีจู่ๆ ก็จะมีคนดังป่วยตายกะทันหันให้พบเห็นไม่น้อย
สำหรับข่าวสารพวกนี้ ฟางผิงทำเพียงรับฟังไปเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับฟางผิงอย่างแท้จริงกลับเป็นต้นเดือนหน้า มหาวิทยาลัยจะพาทุกคนไปเข้าร่วมการทดสอบครั้งที่หนึ่ง
เนื้อหาการทดสอบถูกกำหนดไว้แล้ว มีรางวัลให้มากมาย มหาวิทยาลัยแจ้งให้ทุกคนเตรียมพร้อมล่วงหน้า
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ยึดรูปแบบกลุ่มใหญ่ในการทำภารกิจทดสอบ
ฟางผิงที่ได้รับข้อมูล ไม่อาจสนใจเรื่องอื่นได้แล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบที่ใกล้จะเข้ามาทันที ดูว่าจะสามารถหลอมกระดูกซี่โครงสำเร็จก่อนหรือไม่
ตอนนี้ฟางผิงผ่านการฝึกวิชามาหนึ่งเดือนแล้ว ตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ทรัพย์สิน : 48,000,000
ปราณ : 650 แคล (659 แคล)
จิตใจ : 450 เฮิรตซ์ (469 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 134 ชิ้น (90%) , 72 ชิ้น (30%)
“ยังเหลือตั้งสิบเจ็ดชิ้นถึงจะหลอมกระดูกซี่โครงหมด…”
ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย ระยะห่างจากการทดสอบ มากสุดนั้นหนึ่งอาทิตย์ อย่างน้อยสุดสี่ห้าวัน ตัวเองยังคงพอที่จะลองหลอมกระดูกอีกสิบเจ็ดชิ้นให้สำเร็จได้
ส่วนครั้งนี้มหาวิทยาลัยจะทดสอบอะไร ตอนที่ถังเฟิงประกาศ ฟางผิงเห็นเขาคล้ายกับครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมา รู้สึกว่าจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
———————-