ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 206 ขั้นสามตอนกลาง (2)
ตอนที่ 206 ขั้นสามตอนกลาง (2)
“วันนี้ทนทุกข์กับความเจ็บปวด คุ้มค่ากว่าการร้องไห้เพราะไร้กำลังในอนาคตอยู่แล้ว!”
“…”
ฟางผิงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ตอนที่ความเจ็บปวดนี้ถูกดึงออกไป ทั่วทั้งร่างก็โล่งว่างเปล่า เขานอนหอบหายใจบนพื้น
“ถ้ำใต้ดิน หนานเจียง ครอบครัว…”
ฟางผิงพึมพำเบาๆ หอบหายใจ ก่อนจะแค่นยิ้ม “ใช่ ฉันหวังแค่ว่าก่อนที่พวกถ้ำจะบุกออกมา จะสามารถมีพลังปกป้องตัวเองได้ อย่าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ สูงส่งจนเกินไป”
“ดังนั้นอะไรที่ควรฝึกก็ต้องฝึก สิ่งที่ควรแย่งชิงก็ต้องแย่งชิง”
—
สามวันต่อมา
วันที่ 3 พฤษภาคม
“สำเร็จแล้ว!”
ฟางผิงเผยใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย ทว่าจิตใจกลับกระปรี้กระเปร่าอย่างยิ่ง
เดือนเมษายนบ่มเพาะมาทั้งเดือน ทำให้เขาได้ขัดเกลาจุดบกพร่องบางส่วนที่เกิดจากการทะลวงขั้นหนึ่งขั้นสองเร็วเกินไป
เดือนพฤษภาคมผ่านมาสามวัน ฟางผิงก็เข้าสู่ขั้นสามตอนกลาง
ทรัพย์สิน : 17,500,000
ปราณ : 500 แคล (820 แคล)
จิตใจ : 450 เฮิรตซ์ (499 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 151 ชิ้น (90%) , 55 ชิ้น (30%)
“ปราณเกินแปดร้อยแคลแล้ว หลอมกระดูกอกและซี่โครงสำเร็จ เหลือแค่กระดูกสันหลังยี่สิบหกชิ้นกับกะโหลกอีกยี่สิบเก้าชิ้นที่ยังไม่ได้หลอม!”
ฟางผิงเคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อย กระดูกทั่วร่างนั้นเกิดเสียงกร๊อบแกร็บราวกับแตกร้าว
“ยังเหลือค่าทรัพย์สินสิบเจ็ดล้านห้าแสน เงินสดอีกยี่สิบล้าน ใช้ประหยัดหน่อย รวมกับรางวัลที่จะตามมาของมหาวิทยาลัย แตะขั้นสามตอนปลายน่าจะไม่มีปัญหาเท่าไหร่สินะ?”
ฟางผิงไม่ค่อยมั่นใจนัก ตอนนี้เขาพบว่า คาดหวังก็คือคาดหวัง ความจริงยังคงเป็นความจริง
บางครั้งเงินและค่าทรัพย์สินนั้นหมดไปเร็วกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก
หยิบดาบเฟิ่งจุ่ยด้านข้างขึ้นหมุนไปมา ฟางผิงรู้สึกติดขัดอยู่บ้าง นี่ถือเป็นผลข้างเคียงจากการที่เร่งความเร็วในการหลอมกระดูก
เขาพักผ่อนครู่หนึ่ง ก่อนจะไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ฟางผิงดูเวลา ไม่นานก็สาวเท้าออกไปข้างนอก
—
ตึกเรียน
ถังเฟิงกวาดสายตามองฟางผิงที่เพิ่งมาถึง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ้าเด็กนี่เกิดอะไรขึ้น หลายวันมานี้พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเอ่ยว่า “แผนการเดินทางถูกกำหนดแล้ว สถานที่ทดสอบในครั้งนี้คือ…หนานเจียง!”
ฟางผิงแววตาวูบไหว หนานเจียง?
“การทดสอบครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การทดสอบอย่างเดียว แต่ถือเป็นภารกิจขนาดใหญ่! ไม่ได้มีแต่พวกเรา ยังมีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง รวมทั้งมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จำนวนไม่น้อยเข้าร่วมด้วย ครั้งนี้เป็นภารกิจร่วมกัน”
คล้อยหลังจากคำอธิบายของถังเฟิง ทุกคนจึงค่อยๆ เข้าใจเนื้อหาในการทดสอบ
เกรงว่าจะมั่นใจแล้ว หนานเจียงคือสถานที่ต่อไปที่ทางเข้าถ้ำใต้ดินจะปรากฏ
ตอนนี้มีผู้ฝึกยุทธ์ลัทธินอกรีตหลายคนมาร่วมตัวกันที่หนานเจียง จากการคาดการณ์ของเบื้องบน ผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตพวกนี้อาจจะคิดลองเปิดทางเข้าถ้ำ ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตในถ้ำบุกออกมาตอนที่ทางเข้าเพิ่งผุดขึ้นมาใหม่ๆ ตอนที่ประตูถ้ำปรากฏ ในถ้ำก็จะมีผู้ที่แข็งแกร่งมาร่วมตัวกันเป็นจำนวนมาก
“หนานเจียงขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ทางเข้าใหม่จะปรากฏ ทั้งไม่มีความได้เปรียบจากทางเข้าถ้ำแห่งอื่น ขาดประสบการณ์ที่จำเป็นในการรับมือ ขาดแคลนผู้ฝึกยุทธ์ที่มีประสบการณ์ต่อสู้จำนวนมาก เขตอื่นๆ ต้องให้ความช่วยเหลือ รัฐบาลกลางก็จะโยกย้ายทหารมาคุ้มกันปากทางเข้าแห่งใหม่เช่นกัน แต่ว่าการปรากฏครั้งแรก ไม่อาจยืนยันสถานที่โดยชัดเจนได้ หน่วยทหารจะตั้งประจำการอย่างไร ผู้ฝึกยุทธ์ที่เป็นกำลังหลักควรจะอารักขาพื้นที่ไหน ล้วนยังเป็นปัญหา ทางเข้านั้นปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ในหนานเจียง แต่หากอยู่ห่างจากกองกำลังมากเกินไป การโยกย้ายทหารก็จำเป็นต้องใช้เวลาเช่นกัน จุดประสงค์ของพวกลัทธินอกรีตนั้นง่ายๆ ฉวยช่องว่างโอกาสนี้ ลองเปิดทางเข้าถ้ำ”
ถังเฟิงเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็น “ตอนนี้คนพวกนี้บ้าคลั่งอย่างถึงที่สุดแล้ว หลายปีที่ผ่านมา พวกเรามีฝีมือแข็งแกร่งขึ้น โอกาสของพวกเขาก็น้อยลงเรื่อยๆ ตอนนี้คงดิ้นรนเฮือกสุดท้ายแล้วเช่นกัน! ครั้งนี้หนานเจียงเริ่มมีพวกลัทธินอกรีตระดับสูงจำนวนมากมารวมตัวกัน รัฐบาลไม่อาจมองดูพวกเขาก่อความวุ่นวายเฉยๆ ได้ คนชั่วกลุ่มหนึ่งคิดจะจับปลาตอนน้ำขุ่น เพ้อเจ้อสิ้นดี! รัฐบาลไม่อาจรอจนปากถ้ำปรากฏขึ้นมาแล้วจึงดำเนินการกวาดล้าง ดังนั้นจะเคลื่อนไหวนับตั้งแต่ตอนนี้! และภารกิจของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อย่างพวกเรา ครั้งนี้รับผิดชอบให้กวาดล้างจุดรวมตัวขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จำไว้ให้ดี ไม่ว่าจะคนแก่หรือเด็กหนุ่ม ขจัดให้สิ้นซาก!”
“พวกเธอแต่ละคนสังหารผู้ฝึกยุทธ์ได้มากน้อยเท่าไหร่ ทีมของหาวิทยาลัยสังหารได้เท่าไหร่ ล้วนถือเป็นเกณฑ์ในการทดสอบของพวกเธอ ครั้งนี้ไม่ได้ดูแค่ความกล้าหาญส่วนบุคคล การจัดทัพ เลือกโอกาสในการต่อสู้ต่างเป็นเรื่องสำคัญ ต้องบุกจู่โจมตั้งแต่ครั้งแรกเลยหรือไม่ อยู่ที่พวกเธอไตร่ตรองเองเช่นกัน นี่ถือเป็นภารกิจทดสอบการรบเป็นทีม ไม่ใช่ดูที่คนๆ เดียว จำไว้ให้ดี! แน่นอน หากเธอคิดว่าสามารถกวาดล้างฐานทัพศัตรูได้ด้วยตัวคนเดียว นั่นก็เป็นความสามารถของเธอ แต่พวกเธอที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขั้นสาม คิดจะกวาดล้างคนเดียว เกรงว่าโอกาสตายน่าจะสูงกว่า!”
“…”
ถังเฟิงพูดอยู่พักหนึ่ง ฟางผิงรอเขาพูดจบแล้ว จึงเอ่ยถามว่า “จุดรวมตัวขนาดใหญ่แบบนี้ ให้หน่วยทหารจัดการด้วยอาวุธร้อน ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสสำเร็จสูงกว่าเหรอครับ?”
ถังเฟิงส่ายหัวว่า “ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนฝึกทหาร ฝึกทหารของหนานเจียง เข้าใจความหมายฉันหรือเปล่า?”
“คุณหมายความว่า…”
“ใช่ ทหารที่ประจำการในถ้ำวันข้างหน้า เป็นเรื่องยากที่จะโยกย้ายมาจากแต่ละพื้นที่ อย่างมากก็ส่งหัวหน้าระดับสูงบางส่วนมาเท่านั้น ส่วนกำลังทหารหลักๆ ส่วนมากต่างเป็นทหารใหม่ ครั้งนี้ยืมโอกาสให้ทหารใหม่คุ้นชินกับการรบด้วยอาวุธเย็น รวมถึงให้พวกเธอฝึกประสบการณ์ด้วย ผู้ฝึกยุทธ์ลัทธินอกรีตพวกนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เทียบกับสิ่งมีชีวิตใต้ดิน ผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตไม่มีระบบที่ตายตัว พลังต่อสู้ไม่ได้แข็งแกร่ง เป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมจะฝึกฝนที่สุด คนตายเยอะคงไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ว่าคนบางส่วนตายไปเยอะในวันนี้จะลดจำนวนคนที่ตายในวันข้างหน้าได้”
ฟางผิงพยักหน้าเบาๆ เอ่ยว่า “พวกเราเคลื่อนไหวจำนวนมากขนาดนี้ พวกลัทธินอกรีตจะไม่รู้เหรอครับ?”
“รู้”
ถังเฟิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ครั้งนี้ต้องการจะล่อให้พวกเขาติดกับดักตัวเอง พวกนอกรีตมารวมตัวกัน ก่อนหน้านี้พวกเราก็รู้แล้ว จงใจให้หน่วยทหารแต่ละแห่งและผู้ฝึกยุทธ์ล้อมปราบปราม ให้พวกเขาไปอยู่ในสถานที่เดียวกันโดยไม่รู้ตัว จุดประสงค์เพื่อส่งทหารมาฝึกฝนจำนวนมากในครั้งเดียว แม้จะเพราะฝึกทหารใหม่ แต่ตอนนี้มีปรมาจารย์เก้าคนคอยจับตาดูอยู่ที่สนามรบหนานเจียงแล้ว รวมถึงหน่วยทหารรบที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยพร้อมเคลื่อนไหวตามคำสั่งอยู่รอบนอก หากอีกฝ่ายไม่เลือกทำสงครามกับผู้ฝึกยุทธ์ ก็ต้องเลือกหนีตาย จากนั้นจะถูกกวาดล้างด้วยระเบิดจำนวนมาก! เธอคิดว่าพวกเขารู้ผลลัพธ์แบบนี้แล้ว จะเลือกแบบไหน?”
“งั้นตอนนี้ที่พวกเราต้องเผชิญหน้าก็คือปีศาจกลุ่มหนึ่ง?”
“จะพูดแบบนี้ก็ได้ แต่พวกเธอต้องระวังตัวให้ดี ในเมื่อเป็นการฝึก…นั่นเท่ากับมีโอกาสตายสูง หากสูญเสียไม่เกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ สนามรบก็จะตกเป็นของพวกเธออยู่ตลอด”
“สามสิบเปอร์เซ็นต์!”
ฟางผิงม่านตาหดเกร็งเล็กน้อย โอกาสตายจะสูงเกินไปแล้ว
ถังเฟิงเอ่ยด้วยเสียงเยือกเย็น “ในสนามรบที่พวกนอกรีตมีพลังต่อสู้ต่ำเช่นนี้ สามารถสังหารคนได้สามสิบเปอร์เซ็นต์ งั้นเมื่อถึงถ้ำใต้ดิน พวกเธอก็จะมีโอกาสตายสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์!”
ไม่มีใครพูดอะไรอีก
“เตรียมพร้อมสักหน่อย คืนนี้พวกเราจะออกเดินทางไปร่วมตัวกับทีมอื่นๆ”
—
ฟางผิงถอนหายใจ ต้องกลับหนานเจียงอีกแล้ว
แต่ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ครั้งที่แล้วเพราะทำภารกิจเลยถือโอกาสกลับบ้าน
แต่ครั้งนี้กลับเพื่อเข้าร่วมสงครามขนาดใหญ่ของผู้ฝึกยุทธ์
“ทางเข้าถ้ำใต้ดินจะปรากฏขึ้นที่หนานเจียงจริงๆ ด้วย”
ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ เกรงว่าสองปีนี้หนานเจียงจะต้องวุ่นวายหนักแล้ว
คนอื่นต่างแยกย้ายกันออกไป พวกฟางผิงกลับที่พักตัวเองไปเตรียมตัวเช่นกัน ยาบำรุง อาวุธ ของพวกนี้เตรียมไว้ก่อนเป็นเรื่องดี
ตอนเย็นฟางผิงเทียวไปบ้านพักหมายเลขแปดรอบหนึ่ง
หลู่เฟิ่งโหรวไม่อยู่ ไม่รู้ว่าไปที่ไหน
ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงไม่รั้งตัวอยู่นาน ได้ยินว่าหลู่เฟิ่งโหรวเหมือนจะสูญเสียลูกสาวในช่วงเวลานี้
หลายวันนี้หลู่เฟิ่งโหรวอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้อาจจะไประบายโทสะในถ้ำใต้ดินก็ได้
——————–