ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 216 ใช้ปัญญาและความกล้าต่อสู้ สอนคนตามความถนัด (1)
- Home
- ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน
- ตอนที่ 216 ใช้ปัญญาและความกล้าต่อสู้ สอนคนตามความถนัด (1)
ตอนที่ 216 ใช้ปัญญาและความกล้าต่อสู้ สอนคนตามความถนัด (1)
ไม่กี่นาทีต่อมา
ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วว่า “เธอจะเก็บกำไร?”
ฟางผิงอธิบายว่า “ไม่ใช่เก็บกำไร ความหมายของผมคือจะจัดกิจกรรมลดราคาบนแพลตฟอร์มหน่อย กระตุ้นการซื้อของทุกคน ไม่งั้นคะแนนจะเหลืออยู่อย่างนั้น ทุกคนมีคะแนนแต่ไม่มีแรงกระตุ้นให้ใช้…”
ตาเฒ่าหลี่เบะปากว่า “ไม่กระตุ้นพวกเขาก็ซื้ออยู่ดี”
ฟางผิงพูดอย่างน้ำไหลไฟดับทันที “อาจารย์ คุณทำธุรกิจเป็นหรือเปล่า? ตอนนี้หากพวกยาบำรุงมีส่วนลด จัดกิจกรรมอะไรหน่อย ทุกคนต้องคันไม้คันมืออยากซื้ออยู่แล้ว! ถึงกระทั่งมหาวิทยาลัยสามารถเปิดให้กู้ยืมคะแนนเก็บดอกเบี้ย ให้ทุกคนรับผิดชอบหนักหน่อย ถึงเวลานั้นคุณลองคิดว่าติดหนี้คะแนนของมหาวิทยาลัยแล้ว พวกเขาจะไม่พยายามบากบั่นทำภารกิจได้หรือไง? หากเปิดให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามใช้บริการ ผมว่าคนพวกนี้ต้องมีแรงกระตุ้นในการลงถ้ำมากขึ้น มีหนี้สินติดตัว ทั้งยังคิดดอกเบี้ย จะไม่พยายามช่วงชิงคะแนนหรือไง?”
“มหาวิทยาลัยควรสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนหน่อย ตอนนี้ทุกคนมีหนึ่งคะแนนก็ใช้หนึ่งคะแนน พูดตามตรงจะมีแรงกระตุ้นได้ยังไง อย่างมากแค่ตัดใจไม่ซื้อแล้ว ฝึกวิชาช้าก็ให้ช้าไป! แต่ถ้าสร้างกิจกรรมกระตุ้นการขายขึ้นมา ผมรับประกันว่าต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ไร้ความสามารถขนาดไหนก็ต้องกระตือรือร้นขึ้นมาในเวลานี้ ติดหนี้คะแนนเล็กน้อยพอให้ทุกคนมีแรงกดดัน มีแรงกดดันถึงจะกระตือรืนร้นขึ้นมา หนานเจียงกำลังปฏิรูปการศึกษาเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าเซี่ยงไฮ้ของเรายังจะกินบุญเก่า!”
“อาจารย์ ตอนนี้นักศึกษาปีสี่จบการศึกษาแล้ว อาศัยจากสถานการณ์ของพวกเรา ยังจะมีนักศึกษาขั้นห้าได้อีกเหรอ? รู้ถึงไหนอายถึงนั่น! เวลานี้ให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นสี่ยืมคะแนนไปก่อน นอกจากทุกคนจะสามารถเตรียมพร้อมล่วงหน้า ยังสามารถพัฒนาฝีมือของตัวเอง หาเงินในถ้ำเพื่อใช้คืนได้…นี่ถึงจะเป็นวัฏจักรที่สมบูรณ์แบบ! มหาวิทยาลัยที่ใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีคนตระหนักถึงเรื่องนี้มาก่อน เอาแต่ให้ทุกคนฝึกแทบเป็นแทบตาย แต่ไม่มีเงินไม่มีคะแนนจะให้ฝึกยังไง? ให้กู้ยืมก่อน รอทุกคนมีความสามารถแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรบเร้า พวกเขาต้องขยันฝึกวิชาอยู่แล้ว”
ตาเฒ่าหลี่ทำท่าราวกับคิดตาม พึมพำว่า “เหมือนจะมีเหตุผลอยู่บ้าง”
“ไม่ใช่เหมือนจะมีเหตุผล แต่มีเหตุผลสุดๆ ต่างหาก คุณคิดดู ผู้ฝึกยุทธ์และคนธรรมดามีอะไรแตกต่างกัน? คนที่แบกรับหนี้สินบ้านจำนวนมหาศาลต้องขยันกว่าคนที่ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใช่หรือเปล่า? เพราะถ้าไม่ขยัน พวกเขาคงใช้หนี้คืนไม่ได้…”
ตาเฒ่าหลี่พึมพำว่า “งั้นถ้าระหว่างทางเกิดเรื่องอะไรขึ้น…”
ฟางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “อาจารย์ หากตายในถ้ำจริงๆ ใช้คืนคะแนนไม่ได้ ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยควรจะยอมรับผิดชอบเรื่องพวกนี้! หรือคุณหวังให้พวกเขาตายในถ้ำ? พวกเขาหวังให้ตัวเองตายในถ้ำ? หากตายจริงๆ นั่นก็ตายเพื่อมวลมนุษย์ชาติ คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้เหมาะสมหรือไง? การมีอยู่ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คืออะไร เพื่อให้โอกาสและพื้นที่ทำให้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้น! การฝึกครั้งนี้ผมพบว่าอันที่จริงนักศึกษาเซี่ยงไฮ้ทำผลงานได้แย่ เพราะอะไร? เพราะความกระตือรือร้นของทุกคนไม่สูงพอ ขาดแรงจูงใจ…หากตอนนั้นแต่ละคนแบกรับภาระ ผมคิดว่าพวกเราคงแสดงฝีมือได้ดีกว่านี้ ไม่อาจมีใครเอาเท้าราน้ำอีกแล้ว”
ตาเฒ่าหลี่กลอกตา เหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ครุ่นคิดดูแล้ว ตาเฒ่าหลี่จึงเอ่ยว่า “งั้นเธอได้ประโยชน์อะไร?”
“ผม…ผมให้บริการทุกคน จะมีประโยชน์อะไรได้อีก…”
“ฮ่าๆ!”
ฟางผิงหมดคำจะพูด ครุ่นคิดว่า “ความคิดของผมคือมหาวิทยาลัยให้ราคาส่วนลดกับผม ผมจะไปจัดกิจกรรมบนแพลตฟอร์ม อีกอย่างผมจะช่วยมหาวิทยาลัยเปิดแพลตฟอร์มยืมคะแนน ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ จะได้ไม่เป็นปัญหากับมหาวิทยาลัย ทั้งหมดนี้ล้วนทำบนแพลตฟอร์ม สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องทำคือให้โควตาคะแนนกับพวกเรา ผมรับประกันว่าไม่นานมหาวิทยาลัยต้องเกิดกลุ่มคนที่ทำภารกิจอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาแน่! เป็นฝ่ายกระตือรือร้นเอง ไม่ใช่ถูกบังคับอะไรแบบนั้น!”
“อาวุธระดับ C ใช้ดีหรือเปล่า? อยากลองใช้ล่วงหน้าสักหน่อย? ยาบำรุงระดับสูงดีหรือเปล่า? อยากลองกินดูก่อน? ห้องแหล่งพลังงาน สระปราณ อยากเข้าไปฝึกวิชาทุกวัน? ทำได้ทั้งนั้น แค่ยืมคะแนนก่อน! ถึงกระทั่งผมแนะนำว่าอาจารย์ขั้นหกบางส่วน รวมถึงปรมาจารย์เปิดบริการขึ้นมาให้ถามเกี่ยวกับเรื่องฝึกวิชาแล้วใช้คะแนนแลกเปลี่ยน! ให้พวกคณบดีเจียดเวลาออกมาเล็กน้อย ให้ทุกคนได้มีโอกาสฟังคำชี้แนะของปรมาจารย์ โอกาสแบบนี้ เกียรติยศเช่นนี้กระตุ้นให้พวกเขาพยายามอย่างสุดตัวอยู่แล้ว! จากถูกรบเร้ากลายเป็นฝ่ายกระตือรือร้นเอง นักศึกษาจะได้พยายามแข่งขันแย่งชิง ไม่ใช่ให้มหาวิทยาลัยคอยกระตุ้นอยู่ตลอด ถึงขั้นต้องใช้คะแนนเป็นรางวัลถึงจะทำให้ทุกคนมีแรงกระตุ้นได้ ตอนนี้ชื่อเสียงของเซี่ยงไฮ้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทุกคนต่างเห็นแก่ผลประโยชน์ถึง…”
ตาเฒ่าหลี่ประชดว่า “ประโยคนี้ใช้กับตัวเธอเหมาะสมที่สุด…”
ฟางผิงพูดไม่ออก รีบเอ่ยว่า “ได้ พูดถึงผมละกัน ตอนนี้หากผมติดคะแนนมหาวิทยาลัยหลายพันคะแนน คุณคิดว่าผมยังจะรอมหาวิทยาลัยมอบภารกิจให้อย่างนั้นเหรอ? กลัวว่าคงจะออกไปทำภารกิจใช้หนี้ตั้งนานแล้ว”
“มีเหตุผล”
“ดังนั้นมหาวิทยาลัยควรต้องให้รางวัลผม ผมคิดเพื่อมหาวิทยาลัยตั้งขนาดนี้ นักศึกษาใหม่ใกล้จะเข้าเรียนแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ตึงเครียด พวกเรามีเวลาว่างขนาดนั้นที่ไหน ควรให้พวกนักศึกษาใหม่เป็นฝ่ายแข่งขันแย่งชิง ไม่ใช่ให้พวกเขาค่อยๆ เติบโตเอง!”
ตาเฒ่าหลี่คล้อยตามอยู่บ้าง เคาะโต๊ะเบาๆ “สมองเธอใช้การได้ดีไม่น้อย บางทีอาจสามารถเผยแพร่เรื่องนี้ให้มหาวิทยาลัยอื่นได้…”
ฟางผิงแววตาเป็นประกาย “อาจารย์ อันที่จริงความคิดของผมคือให้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างต่อสู้เหมือนตอนนี้ เปิดแพลตฟอร์มร่วมกัน ถึงขั้นให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่นสามารถซื้อทรัพยากรของเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งยืมใช้สระปราณและห้องแหล่งพลังงานของพวกเราได้ แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายต้องสูงกว่านักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ อีกอย่างพวกอาจารย์แต่ละคนมีด้านที่เก่งไม่เหมือนกัน อาจารย์ของพวกเราต้องมีด้านที่ไม่เชี่ยวชาญอยู่บ้าง แต่อาจารย์จากมหาวิทยาลัยอื่นอาจเติมเต็มส่วนนั้นได้ ใช้คำชี้แนะของอาจารย์ให้กลายเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง ฟังดูหยาบคายอยู่บ้าง แต่เมื่อเป็นแบบนี้ผู้ฝึกยุทธ์คงไม่จำกัดอยู่แค่ในแวดวงเล็กๆ ของมหาวิทยาลัยแห่งเดียวอีกแล้ว แต่จะหลอมรวมกลายเป็นแวดวงขนาดใหญ่”
ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วว่า “กลัวว่าจะยากอยู่บ้าง…”
“ผมเข้าใจ แต่ก็ยังมีหวังไม่ใช่เหรอครับ? อาจารย์ คุณคิดว่าให้หยวนฟางมาทำเรื่องนี้ จะเป็นไปได้หรือเปล่า?”
“เป็นไปได้” ตาเฒ่าหลี่พยักหน้า “อันดับแรกเธอต้องมีฝีมือก่อน อีกอย่างหากเธอจะทำแบบนี้จริงๆ คงไม่อาจให้เธอทำแพลตฟอร์มเพียงคนเดียวได้ แต่ต้องให้มหาวิทยาลัยร่วมสร้างกฎเกณฑ์ด้วย”
“นั่นไม่มีปัญหา ผมอยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน อันที่จริงผมอยากให้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น พวกเราผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้แยกตัวออกจากสังคม ทั้งไม่ควรให้สังคมปรับเข้ากับพวกเรา แต่พวกเราต้องเข้าไปหลอมรวมกับสังคม ก้าวไปพร้อมกัน ไม่อาจหนีห่างจากสังคม…”
“หยุด!”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างจริงจัง “ส่วนลดบนแพลตฟอร์มที่เธอพูดถึง ต้องการเท่าไหร่?”
“ตอนนี้ตั้งที่ลดสิบเปอร์เซ็นต์!”
ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วว่า “เดิมทียาบำรุงและอาวุธของเซี่ยงไฮ้ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ใช้เงินซื้อ อันที่จริงใช้คะแนนแลกเปลี่ยนถือเป็นการช่วยเหลือของมหาวิทยาลัยแล้ว…”
ฟางผิพยักหน้าว่า “ผมรู้ ยาบำรุงและอาวุธพวกนี้ไม่เหมือนกับสินค้าอื่นๆ มูลค่าคงที่ ทั้งเป็นทรัพยากรที่ขาดแคลนด้วยซ้ำ ทว่ามหาวิทยาลัยกลับให้ผลประโยชน์แค่นักศึกษา ไม่ใช่คนนอก เป้าหมายที่ให้นักศึกษาแข็งแกร่งขึ้นคืออะไร? เพื่อเข้าสู่ถ้ำใต้ดิน ปกป้องมวลมนุษย์ชาติ! ช่วยเหลืออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป? ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นธุรกิจกู้ยืม อันที่จริงก็เหมือนกัน เก็บกำไรดอกเบี้ย สิ่งที่ชดเชยเข้าไปพวกนี้ก็เปลี่ยนกลับออกมา ราคาเท่ากับที่พวกนักศึกษาจ่ายออกไปเช่นกัน สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงก็คือยืมเงินในอนาคตมาใช้ก่อนเท่านั้น”
“เรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่ ฉันและคนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยต้องปรึกษากันหน่อย ไม่อาจรับปากเธอตรงๆ…”
“อาจารย์ พวกเราอย่าชักช้าเลย ไปหาคณบดีตอนนี้เลยดีกว่า คณบดีอยู่หรือเปล่า?”
“อยู่…”
ตาเฒ่าหลี่พูดไม่ทันจบ ฟางผิงก็ดึงเขาออกไปข้างนอกทันที
ตาเฒ่าหลี่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เด็กนี้ใจร้อนอะไรขนาดนั้น หากบอกว่าไม่ได้ประโยชน์ ตีเขาให้ตายก็ไม่เชื่อ
—
สิบนาทีต่อมา
ห้องทำงานหวงจิ่ง
หวงจิ่งเอ่ยอย่างสุขุมว่า “จะว่าได้ก็ได้ แต่เธอพูดเหมือนจะดี ช่วงชิงผลประโยชน์ให้นักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย แต่พอถึงเวลานั้น หากเธอให้สิทธิพิเศษมากมายขนาดนั้นกับทุกคนไม่ได้ อมกำไรให้ตัวเอง ความรับผิดชอบนี้เธอรับไหว…”
“คณบดี คุณวางใจเถอะ ผมรับรองว่าทุกคนต้องรู้สึกว่าตัวเองได้ประโยชน์ ทั้งในความจริงก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน”
ฟางผิงเอ่ยอย่างมั่นใจ “คุณรอดูเถอะ ถ้าเซี่ยงไฮ้ใช้กลยุทธ์นี้ก่อน อีกไม่นานพวกเราต้องแซงหน้าปักกิ่งได้แน่!”
“เหอะ มั่นใจไม่เบา”
“ผมมั่นใจ!”
หวงจิ่งไม่พูดมากอีก มองเขาก่อนจะเอ่ยว่า “อย่าเอาแต่สนใจเรื่องพวกนี้จนทำให้การฝึกวิชาตกต่ำลง”
“ผมเรียงลำดับความสำคัญได้ครับ ทั้งช่วงนี้ผมพบว่าพลังจิตใจพลุกพล่านผิดปกติ คณบดี ผมสงสัยว่าทำธุรกิจน่าจะสามารถกระตุ้นพลังจิตใจให้เพิ่มขึ้นได้…”
ฟางผิงทำราวกับพูดด้วยใจจริง หวงจิ่งและตาเฒ่าหลี่ต่างตกตะลึงไปเล็กน้อย
เวลานี้ฟางผิงเค้นพลังออกมาอีกครั้ง พยายามขยับเส้นผมของคณบดี
เขาเพิ่งจะคิดเท่านั้น จู่ๆ แววตาของหวงจิ่งก็วูบไหว ฟางผิงรู้สึกเพียงด้านหน้ามีแรงกดดันปะทะเข้ามา!
เสี้ยวนาทีนั้นหน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
——————-