ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 217-2 ผู้ฝึกยุทธ์ที่คิดเพื่อส่วนรวม (2)
ตอนที่ 217 ผู้ฝึกยุทธ์ที่คิดเพื่อส่วนรวม (2)
ฟางผิงเอ่ยอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ผมซื้อไม่ใช่น้อยๆ!”
“นั่นก็ไม่อาจสร้างความลำบากใจให้ผู้เฒ่าหลี่ได้อยู่ดี มหาวิทยาลัยกำหนดราคาแลกเปลี่ยนแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เฒ่าหลี่จะเปลี่ยนแปลงเองได้ บอกเธอตามตรง บางส่วนที่ขาดไป ผู้เฒ่าหลี่ต้องเป็นคนชดใช้เอง อย่ามาพึ่งพาสมองเล็กๆ นั่นแล้วคิดว่าคนทั้งโลกเป็นคนโง่!”
ฟางผิงอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ถังเฟิงแค่นเสียงว่า “เอาเถอะ เรื่องพวกนี้รู้อยู่แก่ใจก็ดี อีกเดี๋ยวไปรวมตัวที่ตึกฝึกซ้อมด้วย!”
“ครับ”
ฟางผิงซึมลงอย่างเห็นได้ชัด ตาเฒ่าหลี่ชดใช้แทนเขางั้นเหรอ?
เขายังคิดว่าตาเฒ่าหลี่เป็นผู้ควบคุมฝ่ายบริการ มีอำนาจใหญ่โตซะอีก
—
ถังเฟิงไปแล้ว คนอื่นๆ ก็ทยอยลงจากรถ ฟู่ชางติ่งเดินเข้ามากระซิบว่า “ตอนเย็นนัดจ้าวเหล่ยสักหน่อยไหม?”
จ้าวเหล่ยเดินเข้ามาเหมือนกัน ฟังจบก็เผยสีหน้าดำคล้ำ มองฟู่ชางติ่งด้วยแววตาเยือกเย็น
ฟางผิงทะลวงขั้นสามตอนกลางแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางผิง
แต่ฟู่ชางติ่ง…หมอนี้วอนโดนหมัดซะแล้ว!
ฟางผิงไม่สนใจเขา เก็บคำพูดเมื่อกี้ไว้ในใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ทุกคนมีคะแนนพอใช้หรือเปล่า?”
“ไร้สาระ!”
“ถ้า…ฉันบอกว่าถ้าตอนนี้ฉันให้ทุกคนยืมคะแนน ยืมสักหนึ่งร้อยสองร้อยคะแนนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พวกนายอยากยืมหรือเปล่า?”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็มองไปทางฟางผิงโดยพร้อมเพรียงกัน
ผู้ฝึกยุทธ์หูตาว่องไวอยู่แล้ว ตอนนี้ทุกคนแทบได้ยินเหมือนกันหมด
ฟางผิงเห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยว่า “แน่นอนฉันแค่ยกตัวอย่าง ฉันไม่ใช่จะให้ทุกคนยืม แต่เป็นมหาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้ฉันได้แนะนำมหาวิทยาลัยไป ตอนนี้ทุกคนค่อนข้างขาดแคลนคะแนน ทั้งยังอยู่ในช่วงที่กำลังทะลวงขั้นสูงสุด ไม่อาจจะให้ปัญหาเรื่องคะแนนมาถ่วงรั้งความก้าวหน้าของทุกคนได้ ฉันยังตั้งใจไปหาพวกคณบดี ตอนนี้เหมือนมหาวิทยาลัยจะให้ความสนใจแล้ว หากมหาวิทยาลัยให้พวกเรายืมคะแนนล่วงหน้าจริงๆ ทุกคนจะสามารถพัฒนาฝีมือได้อย่างรวดเร็ว มีฝีมือแล้วยังจะกลัวหาคะแนนไม่ได้ไปทำไมอีก? ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งหาสิบคะแนนยังเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าทะลวงขั้นสาม สี่สิบห้าสิบคะแนนคงไม่ใช่เรื่องใหญ่? ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองหาหนึ่งร้อยคะแนนแทบเป็นแทบตาย แต่ทะลวงขั้นสามหรือขั้นสามตอนปลายแล้ว นั่นคงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย หากทุกคนเห็นด้วย บอกกับฉันได้ ฉันจะไปเสนอกับมหาวิทยาลัยดู ฉันคิดว่ามีโอกาสสูง”
“ฟางผิง นายจริงจัง?”
อวี๋ซั่งหวาเดินออกมา เอ่ยอย่างสนใจ “ยืมก่อนได้จริงๆ งั้นเหรอ?”
ฟางผิงไอแห้งๆ เล็กน้อย “อาจต้องเก็บดอกเบี้ยสักหน่อย อย่างเช่นยืมหนึ่งร้อยคะแนนคิดดอกเบี้ยเดือนละหนึ่งคะแนน”
“นั่นจะเป็นไรไป!”
อวี๋ซั่งหวาไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย!
บางครั้งทุกคนขาดแค่หนึ่งร้อยคะแนนนี้ก็จะทะลวงด่านได้แล้ว หากยืมก่อนได้จริงๆ พอทะลวงด่าน หนึ่งเดือนเสียเพิ่มอีกหนึ่งคะแนนจะเป็นไรไป?
แค่ทำภารกิจง่ายๆ สักชิ้นก็คืนทุนได้แล้ว
หากเปลี่ยนเป็นเงินก็สามหมื่นหยวน
กระทั่งพวกฟู่ชางติ่งยังสนใจขึ้นมา เอ่ยอย่างสงสัยว่า “ฟางผิง มีเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอ?”
“อืม มหาวิทยาลัยมีแผนแบบนี้อยู่ ฉันมาหยั่งเชิงความเห็นทุกคนเท่านั้น นี่ก็เพื่อหาสิทธิพิเศษให้กับทุกคน งั้นกลับไปฉันจะให้คนไปทำแบบสำรวจ หากทุกคนเห็นด้วยจริงๆ ฉันจะไปปรึกษากับมหาวิทยาลัยอีกที”
“ใช้ได้เหมือนกันนี่นา!”
หยางเสี่ยวม่านเอ่ยด้วยใบหน้าแปลกใจ “ตอนนี้นายสามารถผลักดันนโยบายใหม่ในมหาวิทยาลัยได้แล้ว ไม่เลวเลย!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนต่างเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันทั้งนั้น พวกนายแข็งแกร่ง มหาวิทยาลัยก็แข็งแกร่ง พวกเราทำภารกิจด้วยกัน นั่นจะปลอดภัยมากกว่า สุขคนเดียวจะเท่าสุขไปด้วยกันได้ไง แข็งแกร่งอยู่คนเดียวไม่มีค่าอะไร เห็นพวกเพื่อนๆ ไม่อาจฝึกวิชาทะลวงด่านได้เพราะติดปัญหาเรื่องทรัพยากร อันที่จริงในใจฉันแทบไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกยังไง ทั้งขึ้นชื่อว่าเป็นสมาชิกสมาคมผิงหยวน ฉันยังคว้าสิทธิพิเศษมาให้ทุกคนด้วย!”
ฟางผิงชำเลืองมองคนอื่นๆ จงใจเอ่ยอย่างมีลับลมคมใน “พวกเราสมาคมผิงหยวน เพราะก่อนหน้านี้บริการทุกคนเป็นอย่างดี ความหมายของมหาวิทยาลัยนั้นสามารถให้สมาชิกอย่างพวกเรายืมคะแนนฟรีได้ นี่เทียบกับคนอื่นแล้วดีกว่าไม่น้อย ตอนนี้สมาคมผิงหยวนไม่เปิดรับคนเพิ่ม ไม่งั้นคนคงหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย อีกอย่างหลังจากนี้แพลตฟอร์มหยวนฟางที่พวกเรารับผิดชอบอยู่ อาจจะต้องจัดกิจกรรมบางอย่าง อย่างเช่นซื้อยาบำรุงเลือดและปราณขั้นสามหนึ่งเม็ดฟรียาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาหนึ่งเม็ด หรือซื้ออาวุธระดับ C หนึ่งชิ้นแถมกริชสั้นป้องกันตัวหนึ่งเล่ม เรื่องพวกนี้ยังไม่อาจบอกคนอื่นได้ ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยมีจำกัด พวกเราซื้อกันเงียบๆ แล้วค่อย…”
ทุกคนตาเป็นประกายขึ้นมา แม้จะเป็นจางจื่อเวยที่ไม่ค่อยถูกกับฟางผิง เวลานี้ก็เดินเข้ามาเช่นกัน “นายพูดจริงเหรอ?”
ฟางผิงขมวดคิ้วว่า “ไม่ได้พูดกับพวกเธอ พูดกับคนของสมาคมผิงหยวนต่างหาก อย่าแอบฟังคนอื่นสิ”
ว่าแล้วฟางผิงก็มองไปทางพวกฟู่ชางติ่ง “พวกเราเดินไปคุยไปเถอะ นี่เป็นสิทธิพิเศษที่ฉันคว้ามาให้ อย่าให้พวกปีสูงได้ผลประโยชน์ไปด้วยเลย”
พวกฟู่ชางติ่งรีบตามไปประจบ ฟางผิงเอ่ยเสียงเบาว่า “เมื่อกี้ดีใจจนลืมตัวไปหน่อย เรื่องนี้ไม่ควรพูดต่อหน้าพวกปีสูง ถูกพวกเขากระจายข่าวออกไป โอกาสของพวกเราคงน้อยลงแล้ว…”
คล้อยหลังจากเสียงของฟางผิงที่แว่วมาอย่างเลือนราง พวกจางจื่อเวยสบสายตากัน ผ่านไปพักหนึ่ง จางจื่อเวยค่อยเอ่ยว่า “เก็บเป็นความลับให้หมด!”
ทุกคนพยักหน้า ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยมีอย่างจำกัด หากเป็นเหมือนที่ฟางผิงพูดจริงๆ ซื้อยาบำรุงขั้นสามแถมยาบำรุงธรรมดาหนึ่งเม็ด นี่เป็นผลพลอยได้แล้ว
พวกเขาเสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย หากประหยัดได้ก็ควรจะประหยัด ทำภารกิจแล้วขาดทุน พวกเขาพบเจอมาหลายครั้งเช่นกัน
—
บอกเป็นหมั่นเป็นเหมาะให้ทุกคนเก็บความลับ ผลปรากฏว่าตอนเย็นกลับรู้กันแทบทั้งมหาวิทยาลัย
“ได้ข่าวหรือยัง? แพลตฟอร์มหยวนฟางจัดกิจกรรมซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ราคาเหมือนกับปกติเลย!”
“จริงเหรอ?”
“จะหลอกนายทำไม อย่าลืมเก็บเป็นความลับด้วย ของมีไม่เยอะ คนอื่นรู้เข้าจะถูกแย่งไปหมด”
“แน่อยู่แล้ว!”
—
“รู้หรือเปล่า? มหาวิทยาลัยอนุญาตให้พวกเรายืมคะแนนล่วงหน้าได้ ถึงเวลาแล้วค่อยส่งคืน แต่คะแนนไม่เยอะเท่าไหร่ ทั้งยังต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเราจะมีคุณสมบัติหรือเปล่า?”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วย?”
“อืม ฉันได้ยินคนพูดมาเหมือนกัน ได้ยินว่าสมาคมผิงหยวนของฟางผิงสามารถยืมคะแนนได้ฟรีด้วยซ้ำ!”
“ทำไมล่ะ!” มีคนเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“ยังจะอะไรได้ ฉันได้ยินว่าฟางผิงเป็นคนไปเสนอกับคณบดีด้วยตัวเอง คณบดีเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา ฟางผิงจึงถือโอกาสพูดเรื่องที่สมาคมผิงหยวนเสียสละเพื่อทุกคน คอยส่งของในมหาวิทยาลัย…”
“ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงไปส่งของด้วยแล้ว ใกล้ๆ แค่นี้เอง? จะสักเท่าไหร่กันเชียว ตอนนี้กลับต้องเอาผลประโยชน์ให้คนพวกนั้น ใช่สิ ตอนนี้ยังเปิดรับสมัครสมาชิกอยู่หรือเปล่า?”
“เหมือนจะไม่ได้แล้ว เสียดายจริงๆ”
—
วันนี้สมาชิกของสมาคมผิงหยวนต่างดีใจเป็นพิเศษ
สมาชิกบางคนที่เดิมทีแทบไม่ได้กำไรหรือผลประโยชน์อะไรมากมาย ในใจเคยคิดจะออกจากสมาคมมาก่อน
พอมาตอนนี้รู้ว่าสมาคมผิงหยวนสามารถยืมคะแนนล่วงหน้าโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย จึงพากันเผยสีหน้าดีใจ
เทียบกับคนอื่นแล้ว ก่อนหน้านี้คนของสมาคมผิงหยวนแทบไม่มีความได้เปรียบ บางส่วนจนถึงตอนนี้ยังไม่กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์
แต่พอสามารถยืมคะแนนล่วงหน้าได้ นั่นหมายความว่าไม่นานก็จะทะลวงด่านได้แล้ว
ช่วงเวลาสั้นๆ สมาคมผิงหยวนจึงดังเป็นพลุแตก ข่าวยืมคะแนนล่วงหน้าและกิจกรรมบนแพลตฟอร์มก็ดังไม่ต่างกัน
—
ในเวลาเดียวกันฟางผิงตบไหล่กัวเซิ่ง เอ่ยชมว่า “ทำได้ไม่เลว รอสมาคมคุมอำนาจในการให้บริการได้แล้ว นายคงยืมได้ห้าสิบคะแนนเป็นอย่างต่ำ ทั้งไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเลย”
กัวเซิ่งยิ้มแหยๆ เอ่ยอย่างแปลกใจอยู่บ้าง “ประธาน นี่ถือเป็นเรื่องดี ทำไมต้องบอกคนอื่นด้วยล่ะ?”
ฟางผิงแค่นยิ้มว่า “ผู้ฝึกยุทธ์ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม คิดเห็นแก่ตัว สนใจแต่ตัวเอง นั่นยังจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์อีกหรือไง? กัวเซิ่ง ลองคิดดีๆ อย่าได้หลงเดินผิดทาง”
“ประธานปราดเปรื่องจริงๆ!”
นายอ้วนเผยสีหน้านับถือ ประธานก็คือประธาน สติปัญญาไม่ธรรมดาจริงๆ!
ฟางผิงหาวหวอด สาวเท้าเดินออกไป ดูสิ อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์
รอเทอมหน้าเริ่มต้นขึ้น นักศึกษาใหม่เข้าเรียนก็หลอกล่อมาทำงานฟรีอีกสักกลุ่ม
ทั้งตอนนี้คนของสมาคมแทบจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์กันแล้ว วันหลังยังสามารถใช้งานได้อีก
———————