ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 227-2 เงื่อนไขสูงเกินไป (2)
ตอนที่ 227 เงื่อนไขสูงเกินไป (2)
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย อันที่จริงไม่ได้เสนอราคาต่ำไปเลย
สำหรับแพลตฟอร์มอาหารหยวนฟาง ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายประเมินค่าให้เกือบห้าสิบล้าน พูดได้ว่ายังคงมีความจริงใจอยู่
ฟางผิงลงทุนกับหยวนฟางประมาณสามสิบห้าล้าน แต่ประเด็นคือใช้ไปกับเรื่องช่องทางจัดส่งและวางโครงสร้างขนส่งทางออฟไลน์
เสียไปกับการสร้างและโฆษณาแพลตฟอร์มอย่างแท้จริงน่าจะไม่ถึงยี่สิบล้าน
แต่ตอนนี้สร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ในเซี่ยงไฮ้ แพลตฟอร์มได้สะสมลูกค้าไว้จำนวนมาก
อีกฝ่ายเสนอราคาห้าสิบล้าน ก็ไม่ถึงกับสูงจนน่าตกใจเช่นกัน
เคาะโต๊ะทำงานเบาๆ ฟางผิงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ปัจจุบันมีโรงงานมือถือสามจีเกิดขึ้นแล้ว แพลตฟอร์มอาหารของพวกเราสามารถเตรียมพร้อมลงออนไลน์ได้แล้ว”
หลี่เฉิงเจ๋อพยักหน้า เอ่ยว่า “งั้นเรื่องลงทุน…”
“พวกเขาอยากลงทุนกับแพลตฟอร์มก็ได้เหมือนกัน พวกเราสามารถแบ่งหยวนฟางเป็นสามส่วน ส่วนแรกแพลตฟอร์มอาหาร
ส่วนที่สองการขนส่งออฟไลน์ รวมถึงขนส่งทั่วไปและการจัดส่งอาหาร ส่วนที่สามแพลตฟอร์มของซื้อขายออนไลน์ขอมหาวิทยาลัยศิละการต่อสู้ ส่วนนี้จะยังไม่รับผู้ร่วมลงทุน ทางแพลตฟอร์มอาหาร พวกเขาอยากลงทุนยี่สิบล้าน แลกกับหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์…”
ฟางผิงตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง “ราคาต่ำไปอยู่บ้าง แน่นอนว่าตอนนี้ดูเหมือนไม่ต่ำเท่าไหร่ แต่เมื่อยุคอินเทอร์เน็ตมาถึง จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเราพัฒนาไปยังสถานที่อื่นๆ แล้ว เตรียมขยายกิจการไปหนานเจียงแล้วเช่นกัน สามสิบล้าน ฉันจะขายหุ้นให้พวกเขาสามสิบเปอร์เซ็นต์”
หลี่เฉิงเจ๋อตะลึงไปเล็กน้อย สองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน!
ขายนั่นหมายความว่าสามสิบล้านนี้เข้ากระเป๋าของฟางผิงคนเดียว
การลงทุนหมายถึงเงินพวกนี้เข้าสู่บริษัท สองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ขายหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ให้อีกฝ่ายราคาสามสิบล้าน หมายความว่าฟางผิงประเมินค่าแพลตฟอร์มอยู่ที่ร้อยล้าน
ลงทุนสามสิบล้าน อีกฝ่ายได้หุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ หมายความว่าราคาของแพลตฟอร์มตอนนี้อยู่ที่เจ็ดสิบล้าน
ฟางผิงเปลี่ยนแปลงตัวอักษรง่ายๆ กลับทำให้เกิดความแตกต่างไม่น้อย
“นี่…”
หลี่เฉิงเจ๋อคิดว่าฟางผิงตั้งเงื่อนไขสูงเกินไปอยู่บ้าง แพลตฟอร์มอาหารลงทุนไปไม่ถึงยี่สิบล้าน
ไม่ถึงสิบเดือน ฟางผิงบวกขึ้นมาห้าหกเท่า นี่แทบพูดไม่ออกแล้ว
ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “สิ่งที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ตนั้น ขายความคิดไม่ใช่ของที่จับต้องได้ บอกว่ามูลค่ามันร้อยล้าน งั้นก็มีมูลค่าร้อยล้านขึ้นมาแล้ว บอกว่ามันไม่มีมูลค่า มันก็อาจไม่มีมูลค่าจริงๆ หากสถานการณ์ไม่เลวร้าย ยังคงมีโอกาสอยู่ อย่างน้อยตอนนี้แม้สถานการณ์จะตึงเครียดนิดหน่อย แต่ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยภายในสี่ห้าปีคงไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ช่วงเวลาสี่ห้าปีอะไรก็เกิดขึ้นได้ สถานการณ์ในอนาคตเป็นยังไง ใครจะพูดได้ชัดเจนกัน? บางทีอาจจะได้กำไร หรือบางทีอาจจะขาดทุน การลงทุนมีความเสี่ยงแบบนี้อยู่แล้ว…”
หลี่เฉิงเจ๋อทำหน้างงงวย ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถ่ายทอดคำพูดนี้ให้อีกฝ่าย พวกเขาน่าจะเข้าใจความหมายของผม ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นบริษัทของผม! ผมทะลวงขั้นสามตอนปลายแล้ว อีกไม่นานคงเข้าสู่ขั้นสามสูงสุด ในอนาคตหากสถานการณ์เลวร้ายจริงๆ บางทีผมอาจจะเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์แล้ว ลงทุนกับปรมาจารย์คนหนึ่งล่วงหน้า เงินไม่กี่สิบล้านจะแค่ไหนกันเชียว? ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ บางทีนี่อาจจะเป็นเงินช่วยชีวิต สำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์ซะอีก แน่นอนว่าจะกล้าวางเดิมพันสักตั้งหรือเปล่า ก็เป็นการทดสอบผู้ลงทุนพวกนี้เช่นกัน ตอนนี้ผมต้องการใช้เงิน ดังนั้นถึงได้ขายหุ้นบริษัทราคาถูก อันที่จริงยังรวมถึงการติดค้างน้ำใจด้วย ไม่ว่าจะยังไง ในสายตาผม ลงทุนสามสิบล้าน นอกจากจะได้หุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ยังได้มิตรภาพจากผม ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่า”
หลี่เฉิงเจ๋อตกสู่ในห้วงความตกใจอีกครั้ง ขั้นสามตอนปลาย? สูงสุด?
การพัฒนาของเจ้านายเขาจะเร็วเกินไปแล้ว!
ฟางผิงไม่สนใจเขาเช่นกัน เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คำพูดพวกนี้เอาไปถ่ายทอดให้เขาทั้งหมด เพราะพวกเขาเป็นบริษัทแรกที่ลงทุนกับกิจการของพวกเราอย่างจริงใจ ดังนั้นผมถึงได้พูดเรื่องมิตรภาพ ไม่งั้นคงจบแค่เรื่องธุรกิจ พูดถึงมิตรภาพไม่ได้หรอก สามสิบล้านสำหรับผมแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หากพวกเขาเข้าใจผม น่าจะรู้แล้ว”
ผู้ฝึกยุทธ์นั้นหาเงินได้ค่อนข้างเร็ว
อันดับแรกต้องมีฝีมือก่อน
ฟางผิงไม่ได้ทำเพราะเงินสามสิบล้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำเพื่อให้ระบบยอมรับมูลค่าของแพลตฟอร์ม
หากแพลตฟอร์มถูกประเมินค่าร้อยล้านจริงๆ งั้นระบบก็มีโอกาสจะเพิ่มค่าทรัพย์สินให้เขากว่าแปดสิบล้าน นี่นับเป็นราคาสินทรัพย์สุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย
ตอนนี้ฟางผิงขาดแคลนค่าทรัพย์สินจริงๆ รวมถึงการฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้หลังจากนี้ด้วย
ไม่มีค่าทรัพย์สิน หวังจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงสั้นๆ ฝันกลางวันเสียมากกว่า
แม้หลี่เฉิงเจ๋อจะไม่เข้าใจหลายอย่าง แต่ยังคงพยักหน้าว่า “ได้ครับ ผมจะถ่ายทอดคำพูดของคุณให้อีกฝ่าย”
“พยายามให้พวกเขาตัดสินใจให้เร็วที่สุด เพราะช่วงนี้ผมต้องการใช้เงินถึงได้เร่งรีบขนาดนี้ พลาดโอกาสนี้ไปแล้ว ผมประสบความสำเร็จกลับมา นั่นคงไม่จำเป็นต้องใช้พวกเขาแล้ว”
“คุณจะออกไปข้างนอก?”
“อืม ออกเดินทางไกล ภายในเดือนนี้แหละ”
หลี่เฉิงเจ๋อพยักหน้าอีกครั้ง เอ่ยปากว่า “เรื่องนี้ผมจะถ่ายทอดให้พวกเขาฟังเช่นกัน”
“หากจำเป็นสามารถให้พวกเขามาคุยกับผมได้”
ฟางผิงอยู่มหาวิทยาลัยตลอด ตอนนี้อีกฝ่ายพูดคุยผ่านหลี่เฉิงเจ๋อ
หลี่เฉิงเจ๋อขาดแคลนความรู้เกี่ยวกับโลกผู้ฝึกยุทธ์ บางครั้งพูดผลดีออกมา อาจจะทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามไม่ได้
ฟางผิงไม่เหมือนกัน ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลาย ทั้งยังใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปี
ตอนนี้ลงทุนกับบริษัทเท่ากับลงทุนกับคนด้วยเช่นกัน ลงทุนให้กับฟางผิง
จุดนี้หลี่เฉิงเจ๋อไม่คิดต่ออีกแล้ว
ประเมินมูลค่าแพลตฟอร์มไว้ที่ร้อยล้าน มูลค่าห้าสิบล้านในแพลตฟอร์ม งั้นลงทุนกับฟางผิง อย่างน้อยต้องได้ห้าสิบล้านขึ้นไปเช่นกัน
แน่นอนว่านี่ต้องดูที่อีกฝ่ายคิดยังไงด้วย
พูดคุยกับหลี่เฉิงเจ๋ออีกไม่กี่ประโยค ท้ายที่สุดฟางผิงกำชับว่า “ต้องให้เร็วที่สุด หากทำให้เสร็จในวันเดียวก็อย่ายืดเยื้อเวลาไปถึงวันที่สอง ผมอยากทำเวลา”
เรื่องเข้าถ้ำอยู่ในอีกไม่กี่ยี่สิบวันข้างหน้านี้แล้ว
ยังต้องฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้อีก เวลากระชั้นชิดเกินไป
ช่วงเวลานี้ ฟางผิงแทบไม่มีเวลาไปทำภารกิจ หากเจอกับภารกิจที่ยุ่งยาก บางทีใช้เวลาหลายวันก็อาจจะไม่สำเร็จ
ตอนนี้ฟางผิงมองการลงทุนเป็นทางออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หากหาคนลงทุนไม่ได้จริงๆ ฟางผิงทำได้เพียงเลือกไปยืมคะแนนอีกนิดหน่อย ซื้อยาบำรุงให้ตัวเอง พัฒนาเคล็ดวิชาต่อสู้อีกเล็กน้อยเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เหมือนกัน
“ผมเข้าใจแล้ว”
“มีข่าวคราวให้ติดต่อผมทันที”
ฟางผิงไม่พูดมากอีก กำชับแล้วก็ออกจากบริษัทอย่างรวดเร็ว
—
รอจนกลับมามหาวิทยาลัย ฟางผิงได้รับข้อความจากจ้าวเสวี่ยเหมยให้ไปที่บ้านพักหมายเลขแปดโดยด่วน
ฟางผิงไม่คิดเยอะ มุ่งหน้าไปหาบ้านพักของหลู่เฟิ่งโหรวทันที
ไม่รู้ว่าครั้งนี้หลู่เฟิ่งโหรวจะใจกว้างหรือเปล่า เห็นแก่ตัวเองที่แทบเป็นยาจกแล้ว อาจจะให้ประโยชน์อะไรเล็กน้อยก็ได้
———————