ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 235-2 เข้าสู่ถ้ำใต้ดิน (2)
ตอนที่ 235 เข้าสู่ถ้ำใต้ดิน (2)
ถังเฟิงอธิบายว่า “ทำไม่ได้ ในความเป็นจริง…นับวันทางเดินก็ยิ่งมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ทางเดินที่ซีซานนั้น เดิมทีก็ไม่อาจสั่นคลอนได้ พลังงานของทางเดินแปรสภาพแข็งตัว คล้อยตามเวลาที่ล่วงผ่านไปก็ยิ่งมั่นคงขึ้น เหตุผลที่ทางเดินของเทียนหนานปิดผนึกลงได้เพราะมีอายุไม่นาน เมื่อก่อนปรมาจารย์สองคนก็สามารถสั่นคลอนทางเดินได้แล้ว ตอนนี้หากปรมาจารย์ไม่ถึงสิบคนขึ้นไปคงทำไม่ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ นั่นทำได้แค่เลือกตั้งรับศัตรู พวกเราไม่อยากให้เกิดสงครามบนโลก นั่นจะเกิดผลกระทบกับพวกเรามากเกินไป!”
หากสงครามเกิดบนโลก มวลมนุษยชาติฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ มีเพียงตัวเองต้องเจ็บหนัก
ฟางผิงเข้าใจทันที ถอนหายใจว่า “ปิดผนึกทางเดินของถ้ำใต้ดิน คนที่อยู่ในนั้น…”
“กลับออกมาไม่ได้แล้ว”
“อ้อ”
ฟางผิงเงียบลง เขาจำได้ว่าอาจารย์ของเหล่าหวังติดอยู่ในถ้ำใต้ดินเทียนหนาน พ่อของจ้าวเสวี่ยเหมยตายอยู่ในนั้นเช่นกัน กระทั่งศพยังไม่อาจนำกลับมาได้
ตอนนี้ประตูถ้ำเทียนหนานถูกปิดผนึก เกรงว่าศพคงไม่อาจหาเจอแล้ว ส่วนคน…ที่ติดอยู่ในถ้ำ ยังคิดว่าจะมีชีวิตรอด?
ทางนั้นไม่มีฐานทัพ เผชิญกับทหารของถ้ำใต้ดิน นอกจากตายแล้วจะเป็นอะไรได้อีก?
ระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน คนอื่นๆ ก็ทยอยเข้ามา
เห็นทางเดินด้านหน้า ทุกคนต่างเกิดความสงสัยอยู่บ้าง พากันลูบคลำราวกับเด็กน้อยอยากรู้อยากเห็น
อวี๋ซั่งหวาสัมผัสเช่นกัน เอ่ยอย่างแปลกใจ “อาจารย์ครับ ทางเดินนี้ยาวหรือเปล่า?”
“ไม่ยาว เดินไปข้างหน้าอีกประมาณหนึ่งพันเมตรก็เป็นอีกประตูหนึ่งแล้ว”
“อาจารย์ งั้นไม่ได้หมายความว่าโลกสองใบนี้ของพวกเราอยู่ติดกัน ตอนนี้แค่ถูกทางเดินนี้เชื่อมต่อ…”
ถังเฟิงหมดคำจะพูด “ไม่รู้”
อย่าถามอะไรลึกล้ำขนาดนั้น เรื่องนี้กระทั่งปรมาจารย์ยอดฝีมือและผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเลย เขาจะรู้ได้ยังไง
เป็นแค่ทางเดินเส้นหนึ่งเท่านั้น จะถามอะไรให้มากมายนัก
“ไปเถอะ ไม่ต้องดูแล้ว”
ถังเฟิงเดินไปข้างหน้า ฟางผิงกลับถามว่า “อาจารย์ ทางเดินนี้สว่างเพราะอะไร?”
“ไม่รู้”
“เรื่องนี้คุณก็ไม่รู้?” ฟางผิงหมดคำพูดอยู่บ้าง ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะหาคำอธิบายให้ตัวเอง “น่าจะเกิดจากการแข็งตัวของพลังงาน ใช่ ผมคิดออกแล้ว อันที่จริงหินพลังงานก็เป็นการรวมตัวของพลังงานอย่างหนึ่ง หินพลังงานที่มีความบริสุทธิ์สูงจะส่องสว่างมาก อาจพูดได้ว่าทางเดินนั้นเป็นพลังงานที่มีความบริสุทธิ์สูง ดังนั้นถึงได้สว่างเช่นนี้…”
ฟางผิงปลดปล่อยความคิดออกไป “ถ้ำใต้ดินไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่สิ ควรจะพูดว่าดวงอาทิตย์ของถ้ำใต้ดินเป็นหินพลังงานความบริสุทธิ์สูงที่อยู่ในสภาพแข็งตัว ไม่แปลกใจที่มีแสงสว่างให้ถ้ำใต้ดินได้ งั้นทำไมถ้ำใต้ดินถึงมีตอนกลางคืน? ตามหลักแล้ว หินพลังงานไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ หรือจะพูดอีกอย่างว่าพลังงานแสงอาทิตย์ของถ้ำใต้ดิน อันที่จริงมีสองด้าน ด้านหนึ่งคือพลังงาน อีกด้านมีคุณสมบัติอื่น อยู่ในสภาวะหมุนด้วยตัวเอง จึงเกิดเป็นกลางวันและกลางคืน?”
ถังเฟิงไม่ปริปากพูดอะไร อาจารย์ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้ากลับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฟางผิง เธอไม่เคยเห็นถ้ำใต้ดินมาก่อนก็คาดคะเนออกมาได้ถึงขนาดนี้ เก่งจริงๆ พวกผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์แบบนี้เหมือนกัน แน่นอนว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยัน ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่เธอคาดคะเนแบบนี้ออกมาได้ น่าจะใกล้เคียงกับความจริงแล้ว”
ฟางผิงหัวเราะว่า “อาจารย์เจิ้ง ผมก็คิดว่าผมฉลาดมากเหมือนกัน คุณว่าถ้าผมควบคุมเซี่ยงไฮ้แล้ว มหาวิทยาลัยจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หรือเปล่า?”
ทุกคนเงียบกริบ
ถังเฟิงยังคงไม่เปิดปาก ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าอาจารย์เจิ้งเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “เธอจะคิดไกลเกินไปหน่อยแล้ว”
“อาจารย์ ผมคิดว่าไม่ไกลนักหรอก ตอนนี้ผมขั้นสามตอนปลายแล้ว บางทีไม่นานอาจขั้นสี่ ปีหน้าขั้นห้า ปีถัดจากนั้นกลายเป็นปรมาจารย์…”
“เงียบ!”
ถังเฟิงอดตำหนิไม่ได้!
เด็กเวร พูดออกมาแบบนี้ราวกับว่าปรมาจารย์นั้นเป็นเรื่องง่ายๆ ฉันคนนี้ยังไม่กลายเป็นปรมาจารย์ด้วยซ้ำ!
ฟางผิงเบะปาก ลอบวางแผนในใจ ถัดจากปีหน้าจะมีหวังเป็นปรมาจารย์หรือเปล่า?
ถ้ามีหวัง ต้องสั่งสอนหัวสิงโตชุดใหญ่สักหน่อยแล้ว!
อาจารย์คนอื่นๆ พากันหลุดขำ พวกนักศึกษาก็หมดคำจะพูดเช่นกัน ฟางผิง ช่างคิดไกลจริงๆ! ส่วนนักศึกษาในคลาสพิเศษบางคนจนถึงตอนนี้เพิ่งจะรู้ว่าฟางผิงแตะถึงขั้นสามตอนปลาย สีหน้าจึงเปลี่ยนไปอยู่บ้าง
เจ้าหมอนี่!
จะทะลวงด่านไวเกินไปแล้ว!
จางจื่อเวยมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนิดหน่อย…เซี่ยเหล่ย จะเอาชนะฟางผิงได้จริงๆ งั้นเหรอ?
ฟางผิงออกจากถ้ำ เซี่ยเหล่ยและเขาต้องประมือกันแน่
สาเหตุภายในนั้นมีมากมายเหลือเกิน!
การแย่งชิงผลประโยชน์ของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์และสมาคมผิงหยวน การประชันของผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกสามครั้ง บัญชีแค้นที่ฟางผิงซ้อมจางจื่อเวย รวมทั้งการแข่งขันของผู้นำนักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ในอนาคต
พูดได้ว่าถ้าพวกเขาไม่คิดจะต่อสู้กัน มหาวิทยาลัยคงหาทางให้พวกเขาสู้กันอยู่ดี
ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะเข้าสู่ขั้นสามตอนปลายแล้ว ความก้าวหน้านี้จะเร็วเกินไปแล้ว
ขั้นสามตอนปลายไม่ได้ห่างจากขั้นสามสูงสุดมาก
ตั้งแต่ตอนปลายลงไปถึงจะแตกต่างอย่างชัดเจน
—
ระยะทางหนึ่งพันเมตร สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ถือว่าใกล้มาก
ไม่นานทุกคนก็เดินมาถึงสุดทางเดิน
ตรงสุดทางเดิน ตอนนี้มีทหารรออยู่เช่นกัน
เห็นพวกถังเฟิง ผู้ฝึกยุทธ์วัยกลางคนหนึ่งในนั้นที่ดูเกรงขาม บุคลิกสง่างาม ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ราชสีห์คลั่ง ครั้งนี้นายนำทีมด้วยตัวเองเหรอ?”
“แม่ทัพสวี่!”
ถังเฟิงมีสีหน้านอบน้อม เผยรอยยิ้มที่ยากจะได้เห็น ตอบกลับว่า “ครั้งนี้รบกวนพวกคุณแล้ว”
“รบกวนอะไรกัน สำหรับนักศึกษาศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ หน่วยทหารอย่างพวกเรายินดีทำด้วยใจอยู่แล้ว! หลายปีนี้หากไม่ใช่พวกนายช่วยประคองสถานการณ์ ถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้คงพังทลายไปนานแล้ว”
แม่ทัพสวี่พูดไปยิ้มไป “ออกไปพูดข้างนอกเถอะ อยู่ที่นี่บางทีฉันยังกังวลว่าทางเดินจะถล่มลงมา แต่ก็อยากให้ถล่มได้จริงๆ นั่นแหละ ขัดแย้งในใจเหมือนกัน ไม่คุยตรงนี้ดีกว่า”
ทางเดินถล่มบางทีสงครามที่มีคนจำนวนมากสละชีวิตเช่นนี้ อาจไม่ต้องมีแล้วก็ได้
ระหว่างที่พูด แม่ทัพสวี่ก็สาวเท้าเดินออกไปจากทางเดิน หายวับไปจากเบื้องหน้าทุกคน
ฟางผิงหันกลับไปมอง เอ่ยทันที “ระยะห่างของทางเดินทั้งสองโลกอยู่ใกล้กันขนาดนี้ หากถูกบุกทะลวงเข้ามาจริงๆ คงต้านไม่อยู่แน่…”
ถังเฟิงเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ดังนั้นเพื่อปกป้องทางเดิน พื้นดินด้านหน้าจึงย้อมไปด้วยเลือดของคนรุ่นแล้วรุ่นเล่าตั้งนานแล้ว!”
ทุกคนไม่พูดอะไรออกมา ตกอยู่ในความเงียบชั่วพริบตา
—
ไม่กี่วินาทีต่อมา ตอนที่ฟางผิงก้าวออกมาจากห้วงน้ำวนก็เข้าสู่ห้องโลหะผสมอีกแห่งหนึ่ง
ห้องไม่ใหญ่มาก ทุกคนรีบเดินออกไป
ชั่วพริบตาที่เดินออกไปนั้น พวกฟางผิงต่างตกอยู่ในภวังค์อยู่บ้าง ไม่มีใครดูสิ่งก่อสร้างพวกนั้น ทหารที่กำลังเร่งรีบ หรือผู้ฝึกยุทธ์ที่สัญจรผ่านไปมา…
ทุกคนพากันเงยหน้ามองไปทาง ‘ดวงอาทิตย์’ ขนาดใหญ่กลางอากาศ
ใหญ่มาก!
ใหญ่โคตรๆ!
แตกต่างจากบนโลก ดวงอาทิตย์บนโลกมีขนาดใหญ่เหมือนกัน ยังไงก็เป็นดาวฤกษ์ จึงใหญ่กว่าโลกหลายเท่าตัว
แต่ในสายตาทุกคน ต่อให้ใหญ่ขนาดไหน แต่เพราะอยู่ไกล จึงเห็นเป็นแค่ดวงเล็กๆ
แต่ ‘ดวงอาทิตย์’ ในถ้ำใต้ดิน ราวกับแขวนอยู่บนหัวของทุกคน มีขนาดมหึมาอย่างเห็นได้ชัด
“ใหญ่โคตร!”
“น่าเกลียดชะมัด!”
นักศึกษาหญิงเสริมให้หนึ่งประโยค ดวงอาทิตย์ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็ดูน่าเกลียด ไม่กลมกลืนเอาซะเลย
ด้านหน้านั้น แม่ทัพสวี่ยืนอยู่ข้างถังเฟิง เห็นพวกนักศึกษาเงยหน้ามองฟ้า จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยังเป็นเด็กกันทั้งนั้น…”
ถังเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วยเช่นกัน”
“ผู้ฝึกยุทธ์…”
แม่ทัพสวี่พึมพำ ก่อนจะถอนหายใจ เอ่ยจนแทบไม่ได้ยิน “พยายามทำให้พวกเขามีชีวิตรอดกลับไป…”
“แน่อยู่แล้ว ครั้งนี้แค่ทดลองประสบการณ์”
“ถ้ำใต้ดินไม่มีการทดลองประสบการณ์”
แม่ทัพสวี่ส่ายหัว เอาอะไรมาทดลองกัน ที่นี่เป็นถ้ำเสือบึงมังกร แม้จะมีฐานทัพก็ไม่ปลอดภัย ไม่อาจหดกระดองอยู่ในฐานทัพได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว?
—————–