ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 245-2 ขอหนังจากเสือ (2)
ตอนที่ 245 ขอหนังจากเสือ (2)
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าคนหนึ่งตายในเวลาชั่วพริบตา
“ตายแล้ว?”
“เจี่ยวดูดกลืนปราณเขาจนหมด?”
ฟางผิงขนหลังลุกชัน ไม่น่าล่ะหลายครั้งตอนที่ปราณเขากำลังจะหมดเกลี้ยง เจี่ยวชอบทำท่ากระรือร้นขึ้นมา คงเตรียมจะสูบเอาปราณสุดท้ายไปจากเขา
ดีที่พอถึงเวลานั้น ฟางผิงที่ถูกเจี่ยวจ้องมองอย่างน่ากลัว จึงเพิ่มปราณเพื่อให้สามารถป้อนอาหารมันต่อไปได้
“ยอดฝีมือขั้นห้า ปราณน่าจะเกือบสี่พันแคล!”
“แต่ยังคงถูกดูดกลืนจนกลายเป็นศพแห้ง!”
ฟางผิงกลืนน้ำลาย ก่อนหน้านี้เขาป้อนปราณให้เจี่ยวไปกว่าหมื่นแคล เผาผลาญเร็วขนาดนี้เลย?
สัตว์ประหลาดที่กินปราณอย่างไม่รู้จักอิ่ม ทั้งยังสูบเลือดคนจนกลายเป็นศพแห้งเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะมองมันโง่ได้?
ฟางผิงใจเต้นตุบตับขึ้นมา รอจนเจี่ยวมองมาหาเขา ฟางผิงก็ร้องไห้ไม่ออกอยู่บ้าง รีบเข้าไปให้อาหารมันทันที
เจ้าหมอนี้จะกินเก่งเกินไปแล้ว!
ฟ้ายังไม่มืดเลย!
ป้อนปราณประมาณพันกว่าแคล ดูเหมือนเจี่ยวจะอิ่มแล้วจึงเริ่มกรนอีกครั้ง
เวลานี้ฟางผิงไม่ได้รีบหนีไป สำรวจรอบๆ ตัวผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าคนนั้น อีกฝ่ายกลายเป็นศพแห้งไปนานแล้ว
ฟางผิงเห็นว่าเจี่ยวไม่สนใจศพนี้จึงรีบคลำบนร่างอยู่พักใหญ่ ไม่นานฟางผิงก็เจอของบางอย่าง
“สนับมือคู่หนึ่ง…เทียบเท่ากับวัสดุระดับ C น่าจะมีมูลค่าไม่น้อยสินะ?”
“หินพลังงานไม่มี ก่อนหน้านี้น่าจะถูกเจี่ยวดูดกลืนไปแล้ว”
“เอ๋ รองเท้าคู่นี้ไม่เลวเลย ดีกว่าคู่ที่ฉันใส่ซะอีก”
ฟางผิงคำนวณอยู่พักหนึ่ง ของพวกนี้มูลค่าไม่น้อย น่าจะหลายล้าน แต่ระบบไม่ได้คำนวณเป็นค่าทรัพย์สินให้ตัวเอง
“ท่านราชาเจี่ยว!”
ฟางผิงตะโกนเบาๆ สัตว์ประหลาดสีทองลืมตาขึ้น ฟางผิงยกสนับมืออย่างระมัดระวัง ทำท่าชกโจมตีกับศพ ก่อนจะชี้ไปทางด้านนอก
“ฉันจะเอาสนับมือนี้ไปจับคนมาให้นายอีก เอาให้ฉันนะ?”
เจี่ยวกวาดสายตามองเขา ไม่นานก็หลับตาลง
ฟางผิงลอบดีใจ ให้ตัวเองจริงๆ ด้วย!
ครู่ต่อมา ค่าทรัพย์สินของฟางผิงมีการเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เพราะต้องป้อนอาหารเจี่ยวและวิ่งหนี เขาจึงเสียไปประมาณสิบสามล้าน แต่ตอนนี้กลับเพิ่มขึ้นมาหกล้าน
ค่าทรัพย์สินของฟางผิงแตะถึงแปดสิบแปดล้านอีกครั้ง
“วิธีนี้ไม่เลวเลย!”
ฟางผิงตาเป็นประกาย หลอกล่อศัตรูให้มาป้อนอาหารเจี่ยว แม้ว่าหินพลังงานและพลังงานหัวใจจะถูกเจี่ยวดูดกลืนจนสลายไป แต่อาวุธของผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางก็มีมูลค่าไม่น้อยอยู่ดี
“นี่ถ้าล่อขั้นหกสูงสุดให้กลายเป็นศพแห้งได้ อาวุธวัสดุระดับ B ของอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าจะหาเงินได้ก้อนโตแล้วเหรอ?”
ฟางผิงคำนวณไปก็ปวดหัวอยู่บ้าง ข้างนอกห่างจากที่นี่ร้อยลี้
หากเจอผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดจริงๆ ตัวเองคงถูกฆ่าทันที จะวิ่งมาไกลขนาดนี้ได้ยังไง
“ท่านราชาเจี่ยว หรือพวกเราจะออกไปหาเงินก้อนใหญ่ด้วยกัน?”
ฟางผิงตะโกน รอเจี่ยวลืมตาขึ้น เขาก็ทำท่าให้มันเดินออกไป
เจี่ยวมองเขาแวบหนึ่ง ดวงตาขนาดใหญ่นั้นประกายความหงุดหงิด เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์ที่ฟางผิงเอาแต่เสียงดังโวยวาย
ฟางผิงใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ประจบประแจงไม่สำเร็จ เขาไม่กล้ารบกวนอีกฝ่ายต่อ ฟางผิงเอาสนับมือ รองเท้าและอาวุธอื่นๆ มัดเข้าด้วยกัน ก่อนจะถอดเสื้อคลุม ห่อของพวกนี้เอาไว้ เขาไร้ทางเลือกอยู่บ้าง อาวุธมีเยอะเกินไป ทำเรื่องไม่สะดวก
ประเด็นอยู่ที่หินพลังงานไม่มีเหลือแล้ว
“หรือจะเอาอาวุธไว้ที่นี่ก่อนแล้วไปล่อผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้าเข้ามาสักสองสามคน? จากนั้นค่อยพกออกไปทั้งหมด…กลับไป หัวสิงโตคงจะตกใจใหญ่ ฉันฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้ามากถึงขนาดนี้ ไม่ตกใจก็แปลกแล้ว!”
“แต่ขอหนังจากเสือก็อันตรายเหมือนกัน ต้องระวังให้มาก ถูกกินขึ้นมาคงไม่อาจทำอะไรได้”
ฟางผิงขัดแย้งในใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ค่าทรัพย์สินลดลงไปไม่น้อย ผู้ฝึกยุทธ์อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม แล้วเมื่อไหร่ค่าทรัพย์สินของเขาจะเพิ่มถึงร้อยล้าน?
ก่อนหน้านี้ขาดแค่ไม่ถึงห้าล้าน ตอนนี้กลับขาดตั้งสิบสองล้าน เป็นเพราะสิ้นเปลืองจากสัตว์ประหลาดสีทอง มันต้องชดใช้ให้เขาเหมือนกัน?
กัดฟันแน่น ก่อนฟางผิงจะเอ่ยลอดไรฟัน “ทำอีกสักครั้ง ถึงร้อยล้านแล้วฉันค่อยไป!”
ขอแค่ทรัพย์สินถึงร้อยล้านแล้ว เขาก็จะไปทันที
ตอนนี้เจี่ยวดูเหมือนจะไม่กักบริเวณเขา รอทรัพย์สินทะลุร้อยล้าน เขาหนีไปแล้ว มันขี้เกียจขนาดนี้ คงไม่ไล่ฆ่าตัวเองหรอกมั้ง?
—
ถ้ำใต้ดินมีอันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่ง ฟางผิงเข้าใจดี อยู่ที่นี่เป็นการเสี่ยงอันตราย ไปไล่ล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อื่นก็เสี่ยงเช่นกัน ถึงกระทั่งเสี่ยงมากกว่า!
หัวสิงโตหลอกคนเก่งจริงๆ เอาอะไรมาพูดว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางมีไม่เยอะ มีอยู่เต็มไปหมดเถอะ!
นี่เพิ่งจะผ่านมาเท่าไหร่กัน?
เขาเจอผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางมานับไม่ถ้วนแล้ว?
—
ตอนที่ฟางผิงออกมาที่เขตรอยต่อของป่า ข้างนอกยังเห็นทัพทหารบางส่วนเดินผ่านมา รวมถึงทีมผู้ฝึกยุทธ์อิสระด้วย
ตอนนี้ฟางผิงตระหนักได้เช่นกันว่าสงครามจะเปิดฉากขึ้นแล้ว
“ตอนนี้เมืองความหวังกำลังทำสงคราม?”
“ฉันลอบโจมตีอยู่ด้านหลัง ถือเป็นการอุทิศตัวให้เมืองความหวังเหมือนกัน แฝงอยู่กองหลังของศัตรูสินะ?”
ฟางผิงรู้สึกว่าตัวเองช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ ตอนนี้ต้องมาหลอกล่อสิ่งมีชีวิตระดับสูง เรื่องอันตรายขนาดนี้ หากไม่บ้าระห่ำ ใครจะกล้ากัน?
นึกไม่ถึงว่าหัวสิงโตจะบอกว่าเขาไม่ลงแรงเพื่อมนุษยชาติ ครั้งนี้ต้องตบหนังหน้าแก่ๆ ของเขาให้ดังแล้ว!
โอบกอดความคิดยิ่งใหญ่ที่ว่าแบ่งเบาภาระของมวลมนุษยชาติ ฟางผิงตั้งใจเพ่งมองผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางที่ถืออาวุธครบมือ พวกที่มือเปล่าเขาไม่เสียแรงไปหลอกล่อหรอก
ฟางผิงไม่คิดจะหลอกล่อผู้ฝึกยุทธ์ทหาร
ทีมที่มีผู้ฝึกยุทธ์เยอะเกินไปเขาก็ไม่สนใจเหมือนกัน
ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ที่รวมกลุ่มกันไม่กี่คน ฟางผิงมองอย่างครุ่นคิด มียอดฝีมือขั้นหก เขาหดเกร็งขึ้นมาทันที ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้าถึงจะเป็นเป้าหมายของเขา
ไม่นานฟางผิงก็เลือกเป้าหมายได้ ทีมเล็กๆ สามคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ทั้งหมด!
ตอนที่จะล่อทั้งสามคนเข้าไปในป่าลึก จู่ๆ ท้องฟ้าก็มืดลงทันตา
กลางคืนแล้ว!
เห็นฟ้ามืด ฟางผิงจึงไม่ออกไปข้างนอกอีก รอคอยเงียบๆ แทน
เวลาอาหารเย็นมาถึงแล้ว ตอนที่ฟางผิงสาธิตวิธีป้อนปราณให้เจี่ยว สองในสามคนนั้นก็เข้าใจทันที
อีกคนพยายามต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับฟางผิง จึงถูกเจี่ยวกดแนบกับพื้นสูบปราณจนกลายเป็นศพแห้งทันที!
สองคนที่เหลือเห็นฉากนี้ก็เผยสีหน้าไม่พอใจและแค้นเคือง แต่กลับทำได้แค่ป้อนปราณเจี่ยวต่อไป
เจี่ยวราวกับหลุมดำที่ไร้ที่สิ้นสุด มันดูดกลืนปราณอย่างไม่รู้จักพอ
ไม่นานผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สามคนก็ถูกมันดูดกลืนปราณจนหมด ตอนที่ใกล้ตาย ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สองคนนั้นเผยสีหน้าสิ้นหวังออกมา
พวกเขายังคิดว่าจะมีชีวิตรอดซะอีก ทำไมผู้ฝึกยุทธ์จากเมืองแห่ง ‘ความหวัง’ ถึงไม่ถูกดูดกลืนปราณล่ะ?
ฟางผิงไม่คิดจะอธิบายอยู่แล้ว เขาถูกกลืนปราณจนเกลี้ยงไปหลายครั้งเหมือนกัน แต่ตัวเองฟื้นฟูปราณได้ ไม่งั้นคงตายไปนานแล้ว
รวบรวมอาวุธทั้งสามคนมาแล้ว ฟางผิงก็ถามซ้ำเหมือนก่อนหน้านี้ เจี่ยวยังคงไม่สนใจเขา
ค่าทรัพย์สินของฟางผิงกลับเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งสามคนมีอาวุธสามชิ้น เพิ่มค่าทรัพย์สินให้ฟางผิงถึงสิบล้าน!
หักจากที่สิ้นเปลืองกับการวิ่งหนีออกไปแล้ว ค่าทรัพย์สินของฟางผิงแตะที่เก้าสิบเจ็ดล้านห้าแสน ยังห่างจากร้อยล้านอีกนิดเดียว
“ฉันฆ่าขั้นสี่ไปหกคน ขั้นห้าอีกหนึ่งคน!”
ฟางผิงถอนหายใจ ในหมู่ขั้นสามยังจะมีใครทำเหมือนเขาได้อีก?
เก็บรวบรวมป้ายสถานะของทุกคนมาแล้ว ฟางผิงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าผลการรบเช่นนี้ คงไม่มีใครสู้เขาได้แล้ว?
——————-