ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 252 จ่ายค่าเรียนให้นาย (1)
ตอนที่ 252 จ่ายค่าเรียนให้นาย (1)
ภายในเมืองความหวัง ทุกคนต่างมีภารกิจติดตัว
นอกจากคนของหน่วยทหารแล้ว แทบไม่มีคนทั่วไปอยู่เลย แม้จะเป็นนักธุรกิจในเมืองก็ยังมีสถานะเป็นผู้ฝึกยุทธ์
เดิมทีที่นี่ก็เป็นเมืองของทหาร สงครามกำลังจะเปิดฉาก ทุกคนจึงจำเป็นต้องออกรบ
—
ความมืดปกคลุมทั่วทิศทางอีกครั้ง
ในตอนกลางคืน ไม่ได้มีแค่ทีมของฟางผิงที่เคลื่อนไหว พวกฟางผิงเจอทีมผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วนที่ประตูเมือง
ฉินเฟิ่งชิงเดินไปก็โอดครวญว่า “ไม่ถึงขั้นสี่ อวัยวะภายในไม่ถูกหลอม ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เหมือนกับคนสายตาสั้นยังไงยังงั้น เห็นแค่ระยะสิบเมตร นี่ถ้าพลัดพลงตอนกลางคืน ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองวิ่งไปทางไหนกันแน่”
“หุบปาก เบาเสียงหน่อย!”
อาจารย์ขั้นห้าที่นำทีมอยู่ด้านหน้าตำหนิเบาๆ
ฉินเฟิ่งชิงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดินไปพักหนึ่ง ก็ดึงฟางผิงว่า “อันที่จริงเคลื่อนไหวตามกลุ่มใหญ่ แทบจะไม่ได้รางวัลอะไรเลย เสี่ยวฟาง ลองคิดดู พวกเราสองคนบุกฆ่าไปถึงแนวหลังของเมืองเทียนเหมิน…”
ฟางผิงปวดหัวอยู่บ้าง นายจะจู้จี้จุกจิกมากไปแล้ว พูดมากยิ่งกว่าฉันซะอีก!
“ตอนนี้เมืองเทียนเหมินส่งทหารออกมาทั้งหมด แนวหลังมีคนน้อย ถ้าบุกฆ่าไปถึงรังของพวกเขา ได้กำไรกลับมา ปรมาจารย์คงไม่จำเป็นต้องกังวลด้วยซ้ำ”
“ฉันจะบอกนายให้ ครั้งก่อนฉันและเจ้าหวังจินหยางได้กลับมาเป็นกอบเป็นกำ เข้าไปลึกถึงแนวหลัง…เหอะๆ นายน่าจะไม่รู้? ได้หินพลังงานฝึกวิชาขนาดเท่ากำปั้น หนักหนึ่งจิน!”
หากประเมินตามมูลค่าของหินพลังงาน ฉินเฟิ่งชิงได้มาหนึ่งจิน ฟางผิงแปลงค่าในเวลาชั่วพริบตา หนึ่งหมื่นห้าพันคะแนน สี่ห้าร้อยล้าน!
“พูดจริงหรือเปล่า?”
“จริงอยู่แล้ว แต่ไอ้บ้าหวังจินหยางนั่นมันปีศาจชัดๆ บอกว่าตัวเองลงแรงไปเยอะ คนเดียวแย่งไปเกินกว่าครึ่ง เหลือให้ฉันแค่ครึ่งหนึ่งเล็กๆ…”
“นายเลยอยู่แค่ขั้นสามสูงสุด?”
“ไอ้เวรอย่างนายจะรู้อะไร ฉันซื้อดาบระดับ B ไปหนึ่งเล่ม เสียเงินไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว เงินที่เหลือเอาไปซื้อยาบำรุง ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ก็หมดเกลี้ยงแล้ว อย่ามองว่าฉันอยู่แค่ขั้นสามสูงสุด ฉันคนเดียวสู้นายได้ถึงห้าคน!”
“โม้มาเถอะ ฉันคนเดียวก็สู้นายได้ห้าคน นายเชื่อรึเปล่า?”
“อย่าพูดหน่อยเลย!” ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียง โอ้อวดว่า “ฉันฟันดาบหนึ่ง ระเบิดปราณสูงสุดห้าร้อยแคล ขั้นสี่ยังต้องม่องเท่ง นายคิดว่าปราณตัวเองฟื้นฟูไว จะต้านได้อย่างนั้นเหรอ? อีกอย่างฉันวิ่งไว นายหลบไม่พ้นหรอก ดาบเดียวฆ่านายไม่ได้ สองดาบนายก็ต้องตายอยู่ดี!”
“โม้ต่อเลย นายแค่ขั้นสามคิดจะฆ่าฉัน? ขั้นหกยังฆ่าฉันไม่ได้เลยเหอะ”
“นั่นมันคนโง่ ถูกนายหลอกเข้าน่ะสิ ไม่ได้โจมตีฆ่านายในครั้งเดียว ถ้าเป็นฉัน จะเปิดโอกาสให้นายหนีได้ยังไง”
“พูดอย่างกับเป็นเรื่องจริง กลับไปมาตัวต่อตัวกับฉันสิ!”
“ใครต้องกลัวใครกัน!”
“ใช่สิ นายมีเงินเยอะขนาดนั้น ครั้งก่อนยืมเงินฉันสามล้านยังไม่คืนเลย?”
“หา?”
ฉินเฟิ่งชิงงุนงงขึ้นมา ฉันยืมเงิน? ทั้งยืมตั้งสามล้าน ทำไมไม่เห็นจำได้เลย?
พวกอาจารย์ด้านหน้าแทบอยากจะกระอักเลือด เจ้าสองคนนี้คิดว่ามาทัศนศึกษากันหรือไง?
กำลังจะไปต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย!
ทีมผู้ฝึกยุทธ์สามร้อยคน ทางพวกเขารวมนักศึกษากับอาจารย์แล้ว มีประมาณหนึ่งร้อยคน
จะให้ทะลวงลึกไปแนวหลังได้ยังไง?
—
ระยะทางห้าสิบลี้ คนพวกนี้ไม่คิดจะผลาญปราณเหมือนฟางผิงเช่นกัน เดินทางมาเกือบสองชั่วโมงค่อยมาถึงที่หมาย
พวกอาจารย์เผยสีหน้าเคร่งเครียด นักศึกษาคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน
ฉินเฟิ่งชิงจริงจังได้แค่สามวินาที จู่ๆ ก็บ่นว่า “อาจารย์ พวกคุณต้องต้านขั้นหกให้ได้นะครับ ผมสู้ไม่ไหวจริงๆ ขั้นสี่ขั้นห้า ปล่อยมาสักคนสองคน ผมคิดว่าฆ่าได้อยู่แล้ว”
อาจารย์ที่นำทีมปวดหัวแทบระเบิด กวาดสายตามองฉินเฟิ่งชิงแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “เธอและฟางผิง พวกเธอสองคนเคลื่อนไหวตามลำพัง อย่ามารวมกับนักศึกษาคนอื่น!”
ไม่จัดการแบบนี้คงไม่ได้ เจ้าสองคนนี้ปรึกษากันจะจัดการขั้นสี่ขั้นห้า นักศึกษาขั้นสามคนอื่นไม่ได้มีฝีมือถึงขั้นนั้น
หากถูกพวกเขาดึงขั้นสี่ขั้นห้าเข้ามา เจอกับนักศึกษาขั้นสามแทบจะตายได้ในชั่วพริบตา
แน่นอนว่าในหมู่นักศึกษามีขั้นสามหลายคนที่แข็งแกร่งเช่นกัน แต่ผลการรบยังเทียบกับฉินเฟิ่งชิงที่สังหารขั้นสี่ไม่ได้ ทั้งห่างชั้นกับฟางผิงที่ฆ่าขั้นห้าอยู่มากโข
สู้กับขั้นสามตอนปลายหรือสูงสุดยังพอว่า แต่ถ้าเจอขั้นสี่คงเป็นปัญหาแล้ว
ฉินเฟิ่งชิงดีใจขึ้นมา พยักหน้ารัวๆ ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ฟางผิงกลับอึ้งไป ฉันไม่ได้บอกว่าจะเคลื่อนไหวกับหมอนี้สักหน่อย!
ฉันเตรียมตัวมาฆ่าแค่พวกขั้นหนึ่งขั้นสองขั้นสาม ค่อยๆ สั่งสมไปทีละเล็กละน้อยเท่านั้น
“อีกสามนาทีลงมือ ไม่ว่าจะฆ่าได้เท่าไหร่ หลังจากนี้สิบห้านาทีหรือพวกเรามีคำสั่งล่าถอย ต้องถอยทั้งหมดทันที เข้าใจหรือยัง?”
“เข้าใจครับ/ค่ะ”
“เข้าไปในค่าย ขั้นสามเคลื่อนไหวพร้อมกัน พวกเธอสองคนแยกออกไป พวกเราจะจัดการระดับกลาง จำไว้ให้ดี นอกจากว่าจะรบจนตัวตาย ไม่งั้นอาจารย์ทั้งหมดไม่มีใครปล่อยให้ระดับกลางข้ามเขตเข้ามาแน่นอน!”
อาจารย์ที่นำทีมกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น คนอื่นๆ ต่างไม่เอ่ยขัด นี่เป็นธรรมเนียม ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิดให้มากมาย
ฟางผิงเหนื่อยใจขึ้นมาอีกครั้ง อยากจะพูดอะไรสักหน่อย ฉันไม่ได้อยากจะเคลื่อนไหวกับหมอนี่!
—
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
พวกผู้ฝึกยุทธ์ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเวลา ไม่ถึงสามนาที หนึ่งในอาจารย์มีคนยิงธนูออกไป เสียงฟิ้วฝ่าอากาศออกไป ผู้ฝึกยุทธ์บางส่วนที่อยู่ด้านนอกค่าย ถูกธนูพุ่งโจมตี ตายเกลี้ยงในชั่วพริบตา!
“ฆ่า!”
ในเวลาเดียวกับที่ลูกธนูพุ่งออกไป คนอื่นๆ ต่างทยอยบุกเข้าไปโจมตีค่ายของอีกฝ่าย
ฟางผิงตะลึงไปเล็กน้อย ง่ายๆ แบบนี้เลย?
ฉินเฟิ่งชิงพุ่งตัวเข้าไปทันที “ไปสิ มัวมองอะไรอยู่ เห็นผู้ฝึกยุทธ์เป็นคนโง่หรือไง? พวกเราคนเยอะขนาดนี้ พอเข้าไปใกล้ ปราณก็จะเผยออกไปทันที โจมตีค่ายสุดท้ายก็ยังจำเป็นต้องอาศัยพลัง ครองความได้เปรียบเป็นฝ่ายบุกก่อน…”
มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางนั่งรักษาการณ์ในค่าย อยากเข้าไปลอบฆ่า ฝีมือคุณจะต้องสูงกว่าพวกเขา ไม่งั้น ฆ่าได้คนเดียวก็จะดึงดูดความสนใจทันที
โจมตีในตอนกลางคืน ประเด็นหลักคือกำจัดข้อได้เปรียบของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองออกไป ในความมืด ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองไม่อาจมองได้ชัดเจน แทบจะถูกฆ่าทั้งสิ้น
“แม่งเหอะ ฉันคิดว่า…”
ฟางผิงไร้คำจะพูด ฉันคิดว่าลอบฆ่าบางส่วน จากนั้นถูกพบแล้วค่อยประมือกันอีกที…
ตอนนี้แทบไม่เหมือนที่ตัวเองจินตนาการไว้!
ทางนี้เพิ่งจะวิ่งเข้าไป พวกผู้ฝึกยุทธ์ในค่ายก็มีการโต้ตอบกลับมาทันที สงครามกำลังจะเริ่มขึ้น พวกผู้ฝึกยุทธ์ต่างเตรียมพร้อมที่จะทำสงครามอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน มีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะหลับในเวลาแบบนี้
ในหมู่อาจารย์มีคนยิงธนูฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เฝ้าประตูบางส่วน ชั่วเวลาพริบตาก็บุกเข้าไปในค่ายได้ โรมรันกับผู้ฝึกยุทธ์อีกฝ่ายที่ถลาตัวออกมา
ฟางผิงวิ่งช้าลงเล็กน้อย รอจนมาถึงประตูค่ายก็เจอกับฉากสังหาร!
อาจารย์ขั้นห้าสูงสุดคนหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ถือขวานยาวในมือ ก่อนจะเหวี่ยงไปรอบทิศทางฟันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นสี่จนขาดเป็นสองท่อน!
“แยกกันออกไป!”
อาจารย์ขั้นห้าอีกคนตะโกนเสียงดัง พวกอาจารย์คนอื่นต่างแยกกันต่อสู้ ล่อศัตรูของตัวเองวิ่งเข้าไปในส่วนลึก
ฉินเฟิ่งชิงฟันดาบออกไปฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนต้นคนหนึ่ง มองไปทางฟางผิง “มองบ้าอะไรอยู่ ระดับกลางถูกพาออกไปแล้ว อาจารย์อู๋สู้สามคนด้วยตัวคนเดียว พวกเราไปล่อมาฆ่าหนึ่งคน!”
ฟางผิงมือไม้พันกันอยู่บ้าง นักศึกษาขั้นสามคนอื่น ตอนนี้ทยอยเข้าไปปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามในค่ายเช่นกัน
ทางฟางผิงและฉินเฟิ่งชิง แม้ว่าจะถูกคนล้อมโจมตี แต่ฉินเฟิ่งชิงฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ แทบจะฆ่าคนพวกนี้ด้วยดาบเดียว
ก่อนหน้านี้ฟางผิงคิดว่ายุ่งเหยิงไปอยู่บ้าง ในความเป็นจริงกลับต่อสู้ผสมผสามอย่างลงตัว
พวกอาจารย์ล่อศัตรูออกไปฆ่าในส่วนลึก พวกนักศึกษากวาดล้างอยู่รอบนอก
แต่ก็มีความวุ่นวายอยู่บ้างเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางในค่ายมีเยอะกว่าพวกอาจารย์อยู่บ้าง บางคนไม่ยอมตามพวกอาจารย์ออกไป อยากจะบุกไปฆ่ารอบนอก
ผลปรากฏว่าอาจารย์ที่ปกติดูใจดีมีเมตตา ตอนนี้ต่างเผยความบ้าคลั่ง อาจารย์บางคนล่อศัตรูหลายคนด้วยตัวคนเดียว ไม่ยอมให้พวกเขาหลุดออกไปจากวงล้อมต่อสู้
“นี่…นี่คืออาจารย์ของพวกเรางั้นเหรอ?”
ฟางผิงพึมพำ การเคลื่อนไหวกลับไม่ช้าเลย ฟันดาบออกไปปลิดชีวิตผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองคนหนึ่งทันที
เห็นฟางผิงเหมือนอยากจะเก็บสินสงคราม ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างโมโหว่า “ฆ่าให้หมดก่อนค่อยเก็บ เก็บของระดับกลางหรือขั้นสาม ขั้นหนึ่งขั้นสองมีแต่พวกยาจก อีกสิบห้านาทีต้องสลายตัว นายเร็วกว่านี้หน่อยได้หรือเปล่า?”
“ฉัน…ไม่ได้บอกว่าจะเคลื่อนไหวพร้อมนายสักหน่อย!”
ฟางผิงร้องทุกข์ ยังจะมาอะไรกับฉันอีก!
ฉินเฟิ่งชิงไม่สนใจเขา บุกขึ้นไปข้างหน้า ตะโกนว่า “อาจารย์อู๋ ปล่อยขั้นสี่มาหนึ่งคน!”
อาจารย์ที่เขาตะโกนเรียก ตอนนี้ถูกล้อมถึงสามคน ถูกต้อนจนต้องถอยหลังไปติดต่อกัน ได้ยินจึงไม่คิดมากความอีก หลบตัวออกมาจากคนหนึ่ง เปิดโอกาสให้คนๆ นั้นออกจากวงล้อมการต่อสู้
ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำคนนั้นกลับทำสวนทางกับความตั้งใจของเขา ยังคงล้อมโจมตีเขาต่อ
ฉินเฟิ่งชิงไม่ชักช้า พุ่งเข้าไปฟันอีกฝ่ายทันที ก่อนจะวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว “ฟางผิง เปิดกระบวนท่าใหญ่ ฟันเขาสักสิบดาบ!”
ฟางผิงอยากจะกระอักเลือดออกมาจริงๆ ตกลงนายจะทำอะไรกันแน่?
ฉินเฟิ่งชิงไม่สนใจว่าฟางผิงจะยินดีหรือไม่ นายฆ่าขั้นห้ามาแล้ว ฆ่าขั้นสี่ไม่ได้ยากหรอก จะกลัวอะไร!
ฟางผิงจนใจอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนต่างมีคู่ต่อสู้ของตัวเอง คงไม่อาจปล่อยให้หมอนี้บุกเข้าไปฆ่าขั้นสามคนอื่นๆ ได้หรอก?
ฉินเฟิ่งชิงเพิ่งจะวิ่งผ่านเขาไป ฟางผิงก็คำรามเล็กน้อย กระโดดขึ้นมาข้างหน้า ยกดาบฟันออกไป!
‘เคร้งๆๆ’ เสียงกระทบดังออกมาติดต่อกัน ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ที่ถลาเข้ามาคนนั้นคำราม ก่อนจะระเบิดปราณเต็มกำลัง
เหวี่ยงดาบเข้าหาฟางผิงจนถอยไปหลายก้าว
ฟางผิงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ขึ้นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ยกดาบฟันอีกครั้ง!
อาศัยจากวิธีของเขา อยากจะฆ่าขั้นสี่คนหนึ่ง นั่นต้องรอให้อีกฝ่ายสิ้นเปลืองไปสักหน่อยก่อน
ผลปรากฏว่าทั้งสองคนกำลังตะลุมบอนกันอยู่ ฉินเฟิ่งชิงที่ไม่รู้ว่าเมื่อครู่วิ่งไปไหน จู่ๆ กลับกระโดดเข้ามาจากด้านหลังของฟางผิง!
————————