ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 258-2 ทำถึงขั้นไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน (2)
- Home
- ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน
- ตอนที่ 258-2 ทำถึงขั้นไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน (2)
ตอนที่ 258 ทำถึงขั้นไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน (2)
“พยายามอย่าใช้ แต่ไม่ใช่หมายความว่าจะใช้ไม่ได้ เหมือนตอนที่ประลองกับกู้สยงที่หนานเจียง เธอเอาชนะเขาแล้วค่อยฟื้นฟูปราณ นี่ก็เป็นความได้เปรียบของเธอ เข้าใจหรือยัง?”
“เรื่องนี้คุณก็รู้ด้วย?”
“ไร้สาระ เซี่ยงไฮ้มีเรื่องที่ฉันไม่รู้ด้วยหรือไง?”
ตาเฒ่าหลี่ฟื้นฟูอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว เผยรอยยิ้มออกมา
ฟางผิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เอ่ยว่า “พูดแบบนี้ ผมก็บดขยี้คู่ต่อสู้ไม่ได้แล้วน่ะสิ ทั้งไม่อาจระเบิดกระบวนท่าใหญ่อย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้อีกแล้ว…”
“ใช่ เธอต้องเรียนรู้การควบคุมพลัง ขัดเกลาเคล็ดวิชาต่อสู้ของตัวเอง ใช้การแลกเปลี่ยนที่น้อยที่สุดเอาชนะคู่ต่อสู้”
“เข้าใจแล้ว”
ฟางผิงถอนหายใจ สุดท้ายยังถามอย่างแปลกใจอยู่บ้าง “คุณไม่สงสัยเหรอว่าไขกระดูกผมเป็นปรอทได้ยังไง?”
ตาเฒ่าหลี่ทำท่าเมินเฉย เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “มีอะไรให้สงสัย โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาล จะไม่มีเรื่องแปลกได้ยังไง เธอคิดว่าไขกระดูกตัวเองเป็นปรอทแล้วฉันจะตกใจ? ฉันเคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เกิดมาด้วยกะโหลกที่หลอมถึงเก้าส่วน ฉันยังต้องตกใจไหมล่ะ? ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ที่พลังจิตใจแข็งแกร่งกว่าเธอก็เคยเห็น ฉันยังต้องตกใจอีก?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างตกตะลึง “ผมคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้แย่เลยทีเดียว…”
ตาเฒ่าหลี่ควบคุมใบหน้าไม่ได้อยู่บ้าง หากเธอหลอมกะโหลกและทำให้พลังจิตใจแข็งแกร่งกว่านี้อีก ตาแก่คงต้องชำแหละกระดูกเธอมาวิจัยแล้วจริงๆ!
ฟางผิงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ พึมพำว่า “เรียนวิชาหมัดจินกังให้พลังหมัดตัวเองรวมเป็นหนึ่ง ก้าวสู่ขั้นสามสูงสุด จากนั้นท้าประลองผู้ฝึกยุทธ์ระดับเดียวกัน สร้างชื่อในนามไร้ศัตรูในระดับเดียวกัน ภารกิจต่อไปของผมก็คือพวกนี้สินะ?”
“อืม”
“งั้นถ้าผมกลายเป็นขั้นสี่แล้ว จะแข็งแกร่งกว่าหวังจินหยางใช่หรือเปล่า?”
“ขอแค่เธออาศัยร่างกายตัวเอง ใช้ปราณที่เท่ากันเอาชนะยอดฝีมือพวกนั้นได้ เธอก็แข็งแกร่งกว่าเขา แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่กลับไม่ได้ไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน!”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างมั่นใจ “รวมกับความได้เปรียบเรื่องปราณของเธอ ถ้าพวกเธอทั้งสองอยู่ระดับเดียวกัน เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออยู่แล้ว!”
ฟางผิงตาเป็นประกาย พูดแบบนี้ผ่านไปอีกสักช่วงเขาอาจจะอัดเหล่าหวังได้แล้ว ถึงเวลาคิดบัญชีเก่าๆ?
ในใจคิดฟุ้งซ่าน ก่อนฟางผิงจะนึกอะไรได้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ปกตินัก “อาจารย์ น่าย่ากู่ข่าหลี่ตกลงหมายความว่ายังไงกันแน่?”
ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดอย่างหนัก ผ่านไปพักหนึ่งค่อยนึกขึ้นได้ เอ่ยอย่างไม่มั่นใจว่า “ฆ่าฉันล่ะมั้ง?”
“คุณตอบด้วยประโยคย้อนถามมันหมายความว่ายังไง?”
ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยนทันที ฉันว่าแล้วมันแปลกๆ!
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “จะสนใจความหมายทำไม ใช้ได้ก็พอแล้ว เอาล่ะ เธอไปได้แล้ว อีกเดี๋ยวฉันยังต้องไปทำธุระ…”
“คุณยังมีธุระต้องทำด้วย?”
“เหลวไหล มหาวิทยาลัยไม่มีปรมาจารย์ อาจารย์ออกไปเกือบครึ่ง ฉันไม่ทำ ให้เธอทำหรือไง?”
“ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว…”
“ไสหัวไปเลย!”
ตาเฒ่าหลี่ด่าด้วยรอยยิ้ม พูดคุยกับเจ้าเด็กนี้กลับไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรขนาดนั้นแล้ว
พวกตาแก่ไปแล้ว แต่รุ่นของหนุ่มสาวยังทำได้ยอดเยี่ยม เซี่ยงไฮ้รุ่นหลังมีคนสืบทอดแล้ว คงไม่ต้องกลัวเซี่ยงไฮ้ที่ตาแก่นั่นให้ความสำคัญที่สุดในชีวิตล่มสลายอีกแล้ว
ฟางผิงเห็นว่าเขามีธุระจริงๆ ทำได้เพียงสาวเท้าจากไป
แต่ในใจกลับครุ่นคิด ตกลงตาเฒ่าหลี่สอนตัวเองให้พูดอะไรไปกันแน่?
—
เขาไปห้องฝึกวิชา ยืมข้อมูลการฝึกวิชาหมัดจินกังกลับมา
อ่านอยู่สักพัก ฟางผิงก็ดวงตาใสแจ๋วขึ้นมา
เขาหาเคล็ดวิชาที่ระเบิดพลังมหาศาลในครั้งเดียวมาโดยตลอด วิชาหมัดจินกังจัดอยู่ในประเภทนี้พอดี แรงผสานเป็นหนึ่ง ระเบิดพลังหมัดออกมาอย่างแข็งแกร่ง
“น่าเสียดาย ไม่ใช่วิชาดาบ…”
“แต่เคล็ดวิชาต่างๆ ล้วนเชื่อมโยงกัน หมัดและดาบไม่เหมือนกันที่รูปร่าง ตอนนั้นฉันใช้พลังจิตใจติดไปกับดาบ ดาบถูกควบคุมเหมือนกับแขน วิชาหมัดและวิชาดาบน่าจะเชื่อมโยงกันและกันได้”
เคล็ดวิชาต่อสู้เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น พวกจางติ้งหนานคิดค้นขึ้นมาตอนอยู่ระดับกลาง
ตอนนี้ฟางผิงขาดแคลนอยู่หลายอย่าง คงคิดค้นออกมาไม่ได้ แต่นำวิชาหมัดและวิชาดาบมาหลอมรวมกัน เอาวิชาหมัดไปใช้กับดาบน่าจะพอมีหวัง
“พบเจอมาน้อย ประสบการณ์มีน้อย ไม่งั้นถึงไม่เรียนวิชาหมัดจินกังก็อาจทำให้ฉันออกหมัดรวมพลังได้แล้ว”
อ่านข้อมูลอยู่สักพัก ฟางผิงมองค่าทรัพย์สินและปราณของตัวเองอีกครั้ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทรัพย์สิน : 25,500,000
ปราณ : 954 แคล (1,219 แคล+)
จิตใจ : 520 เฮิรตซ์ (549 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 126 ชิ้น (100%) , 51 ชิ้น (90%+) , 29 ชิ้น (30%+)
“เหลือค่าทรัพย์สินแค่ยี่สิบกว่าล้าน…”
ก่อนที่จะไปทำสงครามอยู่แนวป้องกัน ค่าทรัพย์สินของเขาเหลือตั้งห้าสิบล้าน ต่อสู้ในสนามรบครั้งหนึ่งยังสิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินไปจำนวนมาก
ทั้งการลงถ้ำครั้งนี้เขายังไม่ได้เอาสินสงครามอะไรกลับมาเลย
หินพลังงานทั้งหมดรวมถึงสิ่งของอื่นๆ นำไปแลกเปลี่ยนเป็นของใหม่หมดแล้ว
ดาบกวนอูระดับ B เสื้อเกราะหนังสิ่งมีชีวิตขั้นห้าตอนกลาง สองอย่างนี้ก็สิ้นเปลืองอย่างหนักแล้ว
ส่วนเงินสด ก่อนเขาจะลงถ้ำก็ใช้ไปหมดแล้ว สองล้านที่เหลือฝากไว้กับฟางหยวน
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้มือถือถูกหน่วยทหารยึดไป อยู่ในเขตอับสัญญาณมาโดยตลอด…ควรจะโทรศัพท์หาที่บ้านสักหน่อย”
การลงถ้ำใต้ดินครั้งนี้ ฟางผิงใช้เวลาทั้งหมดไปเก้าวัน กลับมาหลับเป็นตายอีกหนึ่งวัน ตอนนี้มาถึงวันที่สามสิบแล้ว
มองดูเวลาแวบหนึ่ง มัวแต่อ่านวิชาหมัดจินกังจนถึงดึกดื่น
“พรุ่งนี้ค่อยโทรละกัน” ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ระหว่างที่ฟางผิงพูด ก็ปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ต้องใช้ค่าทรัพย์สิน หลอมไขกระดูกแกนกลางก็ต้องใช้ค่าทรัพย์สิน ทั้งเขายังอยากลองหลอมกะโหลกสักหน่อย ต้องใช้ค่าทรัพย์สินอีกเหมือนกัน
แต่ค่าทรัพย์สินหายไปไหนหมดแล้ว
“กระดูกแกนกลางยังต้องใช้อีกห้าสิบเอ็ดล้าน นี่เป็นเรื่องจำเป็น ค่าทรัพย์สินในตอนนี้เพียงพอให้ใช้ฝึกวิชาเท่านั้น เข้าสู่ขั้นสามสูงสุดไม่มีปัญหาอยู่แล้ว สรุปคือยังต้องหาเงินเพิ่มอีกสักห้าสิบล้านถึงจะพอ”
ฟางผิงถอนหายใจ คงใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ ไม่ได้แล้ว
ส่วนทางหน่วยทหาร ตอนที่เฝ้ากำแพงเมืองเขาฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ไปหลายคน มีรางวัลให้เช่นกัน แต่ต้องรอให้หน่วยทหารทำสงครามเสร็จสิ้นก่อน
ช่วงเวลานี้ถ้ำใต้ดินอนุญาตแค่ให้เข้า ไม่อนุญาตให้ออก
“ตอนนี้เหมือนจะเริ่มปิดเทอมแล้วสินะ ควรจะกลับบ้านสักหน่อยหรือเปล่า?”
ฟางผิงมึนงงอยู่บ้าง เกือบจะลืมเรื่องปิดเทอมไปเลย ไม่น่าล่ะตอนที่เจอฉินเฟิ่งชิงครั้งแรก หมอนั่นบอกว่าอย่านึกถึงเรื่องปิดเทอมเลย
“อีกอย่าง เรื่องของแพลตฟอร์มเซี่ยงไฮ้….”
ฟางผิงพึมพำ ครั้งนี้มีนักศึกษาตายไปหลายคน ค่าชดใช้ที่มหาวิทยาลัยมอบให้น่าจะพอ แต่แพลตฟอร์มเพิ่งจะเปิดบริการได้ไม่นานเอง
“ยากซะแล้ว!”
ถอนหายใจอย่างไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ฟางผิงอยากกลับไปถ้ำใต้ดินอยู่บ้าง อยู่ที่นั่นไม่จำเป็นต้องคิดมากมาย ไม่มีเงินก็ออกไปฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำเท่านั้น
“อีกอย่างพวกอาจารย์ยังอยู่ในถ้ำใต้ดิน ไม่รู้ว่าจะออกมาได้เมื่อไหร่”
“ร่างของพวกอาจารย์และนักศึกษาก็ไม่ได้ขนกลับมา…สงครามครั้งนี้ตายไปเยอะซะขนาดนั้น…”
ความคิดต่างๆ หลั่งไหลเข้ามาในหัว ฟางผิงส่ายหน้าเบาๆ พยายามเบนความสนใจไปไว้ที่การฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ เขาต้องพยายามเข้าสู่ขั้นสามสูงสุดให้เร็วที่สุด
———————