ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 259-2 เป้าหมายเดียวกัน ทางเดินแตกต่าง (2)
ตอนที่ 259 เป้าหมายเดียวกัน ทางเดินแตกต่าง (2)
เห็นเขาปฏิเสธ เฉินอวิ๋นซีจึงไม่เอ่ยปากอีก ฟู่ชางติ่งไม่สนใจเรื่องของพวกเขาเช่นกัน เอ่ยว่า “คืออย่างงี้ สมาคมผู้ฝึกยุทธ์อยากจะจัดประชุมให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองและขั้นสามในมหาวิทยาลัยไปเข้าร่วม นายไม่ใช่คนของสมาคม ประธานจางเลยให้พวกฉันมาบอกนายก่อน”
“จางอวี่?”
ฟางผิงขมวดคิ้ว “ได้บอกว่าเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่ได้บอก”
ฟู่ชางติ่งส่ายหัว “อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องถ้ำใต้ดินครั้งนี้ รุ่นพี่ตายในสนามรบหลายคน อันที่จริงไม่ใช่แค่ที่นายเห็น ยังมีรุ่นพี่ขั้นสี่คนอื่นๆ…ตายอีก…”
ฟางผิงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ตั้งแต่ปีสี่เรียนจบ นักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ก็มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นสี่น้อยมาก
เขายังคิดว่ามีแค่นักศึกษาขั้นสามที่ตายในสนามรบ นึกไม่ถึงว่าขั้นสี่จะตายไปหลายคนเช่นกัน
เป็นแบบนี้ กำลังหลักของเซี่ยงไฮ้คงลดหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง
“ฉันไม่ใช่คนของสมาคม…”
“ประธานจางบอกว่าตอนนี้ไม่แบ่งแยกว่าจะเป็นสมาคมผู้ฝึกยุทธ์หรือสมาคมผิงหยวน”
สมาคมผิงหยวนความสามารถธรรมดา แต่หลังจากปีสี่จบการศึกษา คนของสมาคมผิงหยวนก็ขึ้นปีสองกันแล้ว
ตอนนี้ในหนึ่งร้อยแปดคน ฟางผิงอยู่ขั้นสามตอนปลาย ฟู่ชางติ่ง จ้าวเหล่ย เฉินอวิ๋นซีทั้งสามคนอยู่ขั้นสองสูงสุด พวกหยางเสี่ยวม่าน จ้าวเสวี่ยเหมยก็ใกล้เข้าสู่ขั้นสองสูงสุดแล้ว
เวลานี้สมาคมผิงหยวนไม่ได้ไร้ความสำคัญอีกต่อไป
“งั้นก็ได้ เริ่มประชุมเมื่อไหร่ล่ะ?”
“ตอนนี้”
“ตอนนี้? รีบชะมัด…” ฟางผิงไม่มากความอีก หยัดกายขึ้นว่า “ไปเถอะ จางอวี่ไม่ได้ลงถ้ำงั้นเหรอ?”
“เขากลับมาจากถ้ำใต้ดินไม่กี่วันก็เกิดสงครามขึ้น เขาเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ หลังจากนั้นจึงไม่ได้เข้าไปแล้ว”
—
พวกเขาเดินไปคุยเล่นกันไป ไม่นานก็มาถึงสมาคมผู้ฝึกยุทธ์
พื้นที่ของสมาคมค่อนข้างกว้าง ตอนนี้มีคนทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เห็นพวกฟางผิง บางคนก็ทักทายเขาอย่างเป็นมิตร คนพวกนี้ต่างเป็นผู้ฝึกยุทธ์สูงกว่าขั้นสามตอนปลายที่เคยทำภารกิจร่วมกันมาก่อน
ในสถานการณ์ที่มีผู้ฝึกยุทธ์หลายคนตายในสนามรบ ขั้นห้าจบการศึกษาและขั้นสี่มีน้อย ตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์สูงกว่าขั้นสามตอนปลายในเซี่ยงไฮ้ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่อยู่บนจุดสูงสุดแล้ว
ฟางผิงเห็นคนคุ้นหน้าเช่นกัน หลิวหย่งเหวิน
ตอนที่เห็นหลิวหย่งเหวิน อีกฝ่ายก็หลบสายตาของฟางผิง ฟางผิงแค่นหัวเราะ ไม่มองเขาอีก
ปีก่อนช่วงเปิดเทอมหมอนี้เป่าหูพวกปีสูงมาหาเรื่องเขา
ผลปรากฏว่าถูกฟางผิงฆ่าตายไปสองคน เหล่าหวังมาขู่ไว้อีก เขาจึงหงอไปตั้งแต่นั้น
ช่วงที่ผ่านมา ฟางผิงก็ไม่เคยเจอเขา นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอวันนี้
ตอนนั้นฟางผิงยังไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ แต่อีกฝ่ายอยู่ขั้นสามแล้ว
ตอนนี้ฟางผิงทะลวงขั้นสามตอนปลาย ลองหยั่งเชิงเมื่อครู่จึงรู้ว่าหลิวหย่งเหวินอยู่ขั้นสามตอนกลางเท่านั้น
ไม่รู้ว่าทะลวงไม่ได้ หรือกลัวทะลวงด่านแล้วตาย
ตายได้จริงๆ!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายไม่ลงถ้ำย่อมถูกคนดูแคลน รวมถึงอาจารย์ด้วย!
ตอนที่ฟางผิงอยู่ขั้นสามตอนปลาย ถังเฟิงยังรังเกียจที่เขาไม่กล้าเข้าไปในส่วนลึกเลย
หลิวหย่งเหวินที่เป็นนักศึกษาปีสูง ไม่กล้าลงถ้ำใต้ดิน นั่นไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจแล้ว แต่เซี่ยงไฮ้จะมองนักศึกษาเช่นนี้เป็นความอัปยศ
ไม่สนใจหลิวหย่งเหวินอีก ฟางผิงมองไปรอบๆ ก่อนจะตะโกนว่า “รุ่นพี่เย่ รุ่นพี่หลิว!”
ด้านข้างหลิวเมิ่งเหยาและเย่ฉิงกำลังสาวเท้าเข้ามา
เย่ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย เส้นผมยังตั้งโด่เด่เหมือนเดิม หลิวเมิ่งเหยาเป็นมิตรกว่ามาก เห็นพวกฟางผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รุ่นน้องฟาง อวิ๋นซี พวกเธอมาเหมือนกันเหรอเนี่ย”
เฉินอวิ๋นซีรีบทักทาย จ้าวเสวี่ยเหมยเพราะไม่ได้อยู่ขั้นสองสูงสุดจึงไม่ได้มาเข้าร่วม
ฟางผิงและหลิวเมิ่งเหยาพูดคุยกันไม่กี่ประโยค ก่อนจะถามว่า “พวกรุ่นพี่เหลียงไม่มาเหรอครับ?”
“เฟิงหวากำลังเตรียมทะลวงขั้นสี่ หวาเป่าเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นสามตอนปลายเช่นกัน ออกไปทำภารกิจ…”
หลู่เฟิ่งโหรวเป็นคนกำชับให้ทุกคนอย่าลงถ้ำในช่วงนี้ ดังนั้นครั้งนี้พวกเขาจึงไม่ได้ลงถ้ำ
ตอนนี้เย่ฉิงทะลวงขั้นสามสูงสุดแล้ว รวมถึงเหลียงเฟิงหวาที่เตรียมทะลวงขั้นสี่และเหลียงหวาเป่าที่จะทะลวงขั้นสามตอนปลาย จู่ๆ ฟางผิงก็พบว่าลูกศิษย์ของหลู่เฟิ่งโหรวเหมือนจะไม่ได้ไร้น้ำยาเลย
ขั้นสามสูงสุดสองคน ตอนนี้มีแค่ฟางผิงที่อยู่ตอนปลาย เหลียงหวาเป่าและหลิวเมิ่งเหยาอยู่ตอนกลาง เฉินอวิ๋นซีอยู่ขั้นสองสูงสุดและจ้าวเสวี่ยเหมยที่อยู่ขั้นสองตอนปลาย
ลูกศิษย์เจ็ดคน คนที่อ่อนแอที่สุดคือจ้าวเสวี่ยเหมยซึ่งกำลังจะทะลวงขั้นสองสูงสุด
รอเปิดภาคเรียนต่อไป หากไม่เหนือความคาดหมาย เฉินอวิ๋นซีคงเข้าสู่ขั้นสาม
จ้าวเสวี่ยเหมยทะลวงขั้นสองสูงสุดไม่เป็นปัญหาเช่นกัน ไม่นานอาจจะขั้นสาม
ถึงเวลานั้นจะมีขั้นสามเจ็ดคน หรืออาจจะมีขั้นสี่ด้วย ความสามารถนี้ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก
พวกเขาพูดคุยกันพร้อมทั้งเดินไปยังห้องประชุมใหญ่ของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ ส่วนจางอวี่จะพูดอะไร ทุกคนต่างไม่รู้เหมือนกัน
—
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์
ห้องประชุมใหญ่
ตอนนี้หลังจากนักศึกษาขั้นสองสูงสุดและขั้นสามขั้นสี่ทยอยเข้ามา ในห้องประชุมก็มีคนกว่าหนึ่งร้อยคนแล้ว
จางอวี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้ากลับดูเศร้าซึมไปบ้าง ช่วงที่รุ่งโรจน์ สมาชิกขั้นห้าขั้นสี่ของเซี่ยงไฮ้ยังมีไม่น้อย ขั้นสามมีกว่าร้อยคน รวมขั้นสองสูงสุด นั่นเป็นจำนวนหลายร้อยแล้ว
ตอนนี้กลับหายไปกว่าครึ่ง
หลักๆ คือปีสี่ที่จบการศึกษาไป ทั้งยังมีหลายคนที่ตายในสนามรบถ้ำใต้ดิน
ตอนที่พวกฟางผิงมาถึง คนก็มาเกือบครบแล้ว ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
“มากันครบแล้วใช่หรือเปล่า?”
จางอวี่ถามขึ้นมา โจวเหยียนเอ่ยทันที “นอกจากบางส่วนที่ไม่อยู่มหาวิทยาลัย คนๆ อื่นมาครบกันแล้ว”
“งั้นก็ดี เริ่มประชุมเถอะ”
จางอวี่นั่งลง ก่อนจะมองหน้าทุกคน “เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ฉันคิดว่าทุกคนน่าจะรู้กันแล้ว เรียกทุกคนเข้ามาที่นี่ มีเป้าหมายสามอย่าง อย่างแรกส่งพวกอาจารย์และพวกนักศึกษากลับบ้าน!”
จางอวี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พรุ่งนี้ประตูถ้ำใต้ดินจะเปิด ร่างของผู้ที่สละชีพในสนามรบกลุ่มแรกจะถูกส่งออกมา พวกอาจารย์ต้องฝังที่สวนทางใต้ของมหาวิทยาลัย แต่ต้องแจ้งข่าวการสูญเสียให้ครอบครัวของพวกเขาเช่นกัน ตอนนี้พวกอาจารย์กำลังยุ่งกันอยู่ ไม่สามารถไปจัดการได้ คนอื่นๆ ไม่รู้เรื่องของถ้ำใต้ดิน มีแค่พวกเราที่ส่งพวกเขากลับบ้านได้ ทุกคนมีใครเห็นต่างหรือเปล่า?”
ทุกคนต่างส่ายหัว
“ร่างของพวกนักศึกษาต้องผ่านการเผา ส่งกลับไปแค่เถ้ากระดูกและเงินชดเชย ฉันหวังว่าทุกคนจะช่วยเหลือกันได้ อีกอย่างต้องปลอบใจครอบครัวของพวกเขาให้ดี ทั้งต้องติดต่อกับหน่วยงานของทางการในพื้นที่ เรื่องนี้มีแค่พวกเราที่ทำได้เหมือนกัน”
ทุกคนพยักหน้าอีกครั้ง การติดต่อกับหน่วยงานของทางการ ฝีมืออ่อนด้อยเกินไป อาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง อย่างน้อยอยากเจอหัวหน้าของหน่วยงานในท้องที่ก็เป็นเรื่องยากแล้ว
“อย่างที่สอง สิ้นปีจะเริ่มการแข่งขันแลกเปลี่ยนผู้ฝึกยุทธ์ครั้งที่สอง ครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักศึกษาใหม่อีกแล้ว แต่เป็นสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นหลัก…ฟางผิง ฉันอยากเชิญนายมารับหน้าที่รองประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ นายคิดว่ายังไง?”
ท่ามกลางฝูงชน ฟางผิงมองไปทางจางอวี่แวบหนึ่ง เขาไม่คุ้นเคยกับจางอวี่ แต่จางอวี่เหมือนจะไม่ใช่ประเภทที่ทำให้คนเหม็นขี้หน้า
ครุ่นคิดแล้ว ฟางผิงก็ส่ายหัว “ฉันไม่เป็นรองประธานหรอก ก่อนเปิดเทอมฉันจะท้าประลองนาย ตำแหน่งประธานน่าจะพอให้ฉันได้”
จางอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เซี่ยเหล่ยที่ก่อนหน้านี้เงียบมาโดยตลอดแค่นเสียงว่า “ปากเก่งไม่เบา ฟางผิง นายคิดว่าตัวเองฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ในถ้ำได้หลายคน ก็ไม่เห็นสมาคมผู้ฝึกยุทธ์อยู่ในสายตาแล้ว?”
ฟางผิงส่ายหัว “ประธานเซี่ย อย่าใจร้อนขนาดนั้นสิ ฉันยังไม่ได้พูดสักหน่อย นายอย่าคิดไปเอง ฉันไม่อยากเป็นรองประธาน ไม่อยากขัดแย้งกับทุกคน พวกนายน่าจะเข้าใจความหมายของฉัน…”
——————–