ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 268 ได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ (1)
ตอนที่ 268 ได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ (1)
แม้ฟางผิงจะเอาชนะเจี้ยเซ่อได้ แต่ค่าทรัพย์สินกลับลดลงไปไม่น้อย
ในโรงแรม
ฟางผิงขมวดคิ้ว บนเส้นทางท้าประลอง เพื่อสั่งสมบารมี ทั้งเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ความเกรงขามเป็นสิ่งที่จำเป็น
แต่สิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินเยอะขนาดนี้ในครั้งเดียว ไม่สอดคล้องกับความตั้งใจของเขาเช่นกัน
“ทำยังไงถึงจะได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์?”
ฟางผิงครุ่นคิด จู่ๆ ก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้ หยิบโทรศัพท์ต่อสายหาหลี่เฉิงเจ๋อ
ปลายสายกดรับ ฟางผิงเอ่ยออกไปทันที “ให้คนจัดเตรียมชุดฝึกมาให้ผมหน่อย แบบที่ปักชื่อบริษัทหยวนฟางเพื่อโปรโมททำนองนั้น อีกอย่างตอนนี้เริ่มโฆษณาเป็นวงกว้างว่าหยวนฟางเป็นบริษัทของผมได้แล้ว ให้กองทุนซินอู่ร่วมด้วย หยิบยืมโอกาสนี้ทำให้ชื่อเสียงของหยวนฟางแผ่กระจายออกไป! ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว รัฐบาลประกาศแค่การจัดอันดับของขั้นสาม ขั้นสามอย่างพวกเราถือว่าอยู่ในจุดที่สูงสุดของปัจจุบันนี้ เป็นโอกาสที่หาได้ยาก”
ปรมาจารย์อยู่ห่างไกลจากทุกคนเกินไป!
ทั้งไม่อาจประมือต่อหน้าสาธารณะอย่างไร้สาเหตุ น่าขายหน้าเกินไป
ขั้นสามอย่างพวกฟางผิงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้
ตอนนี้รัฐบาลกำลังผลักดันให้คนทั่วไปค่อยๆ เข้าใจเกี่ยวกับผู้ฝึกยุทธ์อย่างลึกซึ้ง ฟางผิงเพิ่งเอาชนะเจี้ยเซ่อ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางความสนใจของผู้คน
เวลานี้ทุกคนแทบจะสนใจกับแผนการเดินทางท้าประลองของเขา
พวกเขาคาดหวังตั้งตารอการเดินทางขึ้นเหนือเพื่อท้าประลองผู้แข็งแกร่งมากกว่าการต่อสู้ของปรมาจารย์ขั้นแปดก่อนหน้านี้ซะอีก
หลี่เฉิงเจ๋อที่อยู่ปลายสายนิ่งไปเล็กน้อย ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยว่า “นี่จะทำให้…”
“ฉันยังไม่สนใจ คุณจะสนไปทำไม”
“ใช่สิ…” จู่ๆ ฟางผิงก็ชะงักไป “คุณดูสถานการณ์แล้วติดต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละพื้นที่หน่อย พวกโรงแรมที่ใช้พักผ่อนในวันหยุดเทศกาล ดูว่ามีคนยินดีสนับสนุนหรือเปล่า ผมสามารถเลือกสถานที่ประลองให้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยงหรือโรงแรมพวกนั้นได้ ทั้งยืดเวลาช่วงหนึ่งรอนักข่าวและประชาชนมารวมตัวชมได้ด้วย…”
หลี่เฉิงเจ๋ออ้าปากค้าง!
แบบนี้ก็ได้ด้วย?
ลังเลเล็กน้อย ก่อนหลี่เฉิงเจ๋อจะเอ่ยอย่างแห้งผาก “เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เกินไปหรือเปล่า…”
ในสายตาของทุกคน ผู้ฝึกยุทธ์นั้นไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินทอง
ดารานักธุรกิจพวกนี้ แม้ว่าจะมีบางคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่ในสายตาของคนส่วนมาก นับว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ทั้งไม่นับว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วยเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์นักธุรกิจมีหลายครั้งที่ถูกคนอื่นลืมฐานะของผู้ฝึกยุทธ์
การเดินทางท้าประลองครั้งนี้ของฟางผิง เหมาะที่จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของผู้ฝึกยุทธ์ในความคิดทุกคนมากกว่า
ฟางผิงอธิบายว่า “ผู้ฝึกยุทธ์ต้องฝึกวิชา กินข้าวกินน้ำเหมือนกัน ไม่มีเงินจะให้ฝึกยังไง? ครั้งนี้เป็นโอกาส พลาดไปแล้วคงไม่มีอีก ไม่ว่าคุณจะกู้เงินหรือทำยังไง ก็ต้องเริ่มขยับขยายบริษัทออกไปให้รวดเร็ว นี่เป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว”
“ได้ครับ แค่คุณไม่เห็นต่างก็เพียงพอแล้ว”
หลี่เฉิงเจ๋อกลัวว่าฟางผิงจะเห็นเป็นเรื่องไม่สมควร ในความเป็นจริง ฟางผิงเป็นคนเสนอออกมาเอง ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาย่อมยินดีทำตามนั้นอยู่แล้ว
ตอนนี้ทุกคนต่างให้ความสนใจกับการเดินทางท้าประลองของฟางผิง ฟางผิงจะสามารถขึ้นเป็นที่หนึ่งของขั้นสามได้หรือเปล่า…
เรื่องพวกนี้ต่างอยู่ในความสนใจของทุกคน
ทั้งฟางผิงยังอายุน้อย เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ทำให้พวกเขามีความรู้สึกร่วมไปด้วย ฟางผิงสามารถทำได้ พวกเขาจะทำไม่ได้หรือไง ลูกหลานของตัวเองก็ต้องทำได้เหมือนกัน
—
พูดคุยกับหลี่เฉินเจ๋อจบแล้ว จู่ๆ ฟางผิงก็นึกถึงใครคนหนึ่ง
รีบจัดการข้าวของ ก่อนฟางผิงจะลงไปข้างล่างอย่างเร่งรีบ
เขาเพิ่งจะลงจากมา ก็พบว่ามีคนสะกดรอยตามตัวเองอยู่ด้านหลัง ฟางผิงหยุดฝีเท้าทันที “ออกมา!”
ด้านหลังที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน ผ่านไปสักพัก หลิวต้าลี่ก็ยิ้มแหยๆ เดินออกมา ในมือยังถือกล้องถ่ายรูป ขำแห้งๆ ว่า “นักศึกษาฟาง สวัสดี!”
ฟางผิงจ้องเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนหน้านี้วางแผนจะไปคิดบัญชีกับเขาพอดี ตอนนี้คิดบัญชีล่วงหน้าก็คงไม่ต่างกัน
“วิดีโอของฉันกับเจี้ยเซ่อ นายเป็นคนปล่อยออกไป?”
“คือว่า…”
“แบ่งกัน ฉันเก้าสิบนายสิบเปอร์เซ็นต์!”
หลิวต้าลี่ใบหน้านิ่งค้าง เจอหน้าก็พูดถึงเรื่องแบ่งเงิน เหมาะสมหรือไง?
ฟางผิงเห็นเขาไม่ตอบ เอ่ยต่อทันที “ทำไม ไม่ยินยอม? นายสะกดรอยตามฉัน แอบถ่ายฉัน ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ถ่ายวิดีโอโดยพลการ ตามกฎของโลกผู้ฝึกยุทธ์ ตอนนี้ฉันเสนอการต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายกับนาย นายก็ต้องยอมรับ นายมั่นใจว่าอยากให้ฉันทำแบบนั้น?”
หลิวต้าลี่เผยสีหน้าตะลึงงัน ฉันไม่ได้อยากต่อสู้!
“คะ…คุณฟาง ผม…”
“แน่นอน ฉันไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น เรื่องแบ่งเปอร์เซ็นต์ กลับไปค่อยว่ากันอีกที นายช่วยฉันทำอะไรนิดหน่อย ฉันก็ไม่ท้าประลองนายแล้ว”
หลิวต้าลี่พูดออกมาทันที “คุณว่ามาเลย!”
ฟางผิงมองไปรอบๆ เข้าไปจับแขนเขาไว้ ก่อนจะดึงเขาเดินไปทางห้องตัวเอง
หลิวต้าลี่สีหน้าเปลี่ยนทันที กระซิบด้วยใบหน้าราวกับจะร้องไห้ “คะ…คุณฟาง ผม…ผมคิดว่านะ ผู้ชายกับผู้ชาย อันที่จริง…”
ฟางผิงถลึงตามองเขา หมอนี้ทำหน้าตาโรคจิต คิดอะไรอยู่กัน
รอกลับเข้ามาในห้อง ฟางผิงก็เรียกให้เขานั่งลง เห็นเขามีท่าทีกระวนกระวายก็ไม่สนใจ เอ่ยตรงๆ ว่า “อยากถ่ายการต่อสู้ของฉันกับคนอื่นๆ หรือเปล่า?”
“อยาก!”
“งั้นก็ได้ ฉันจะให้โอกาสนาย โอกาสอย่างเที่ยงตรงโปร่งใส แน่นอนว่าวิดีโอได้กำไรต้องแบ่งเงินให้ฉัน อีกอย่างนายหามือรับจ้างโพสต์ในอินเทอร์เน็ตให้หน่อย อย่างเช่นต่อไปฉันจะท้าประลองกับใคร นายสร้างกระแสให้ฉันขึ้นไปอยู่บนประเด็นร้อนเลย อย่างบอกว่าฉันจะท้าประลองกับหลิงอีอี นายก็จับจุดสำคัญ บอกว่าหลิงอีอีถูกขนานนามว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของโลกผู้ฝึกยุทธ์ สวยสะพรั่งราวกับดอกไม้ หรือเพิ่มเข้าไปอีกหน่อยว่าเธอและหานซวี่มีเรื่องราวภายในที่จำเป็นต้องพูด ก่อนหน้านี้ปักกิ่งพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยงไฮ้ หลิงอีอีเลยจะล้างแค้นให้หานซวี่ หรือกระทั่งจะใส่สีตีไข่ไปว่าเพื่อหลิงอีอี ฉันและหานซวี่อย่างนั้นอย่างนี้ เป็นศัตรูความรัก แบบนี้ก็ได้…”
หลิวต้าลี่ตะลึงงงงัน แบบนี้ก็ได้?
“งั้น…ถ้าเธอมาคิดบัญชีกับฉันล่ะ…” ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
“โง่หรือไง จะให้คนรู้ว่าเป็นฝีมือนายทำไม? พวกเขาไม่สิ้นเปลืองแรงไปขุดคุ้ยหรอก แค่ข่าวซุบซิบเท่านั้น ใครจะรู้ว่าจริงหรือไม่จริง ยังไงก็สร้างประเด็นร้อนให้ฉัน แล้วนายค่อยเผยแพร่วิดีโอ ถือโอกาสโฆษณาบริษัทให้ฉันด้วย บริษัทหยวนฟางเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ ฉันเป็นคนเปิดเอง ไม่ต้องทำให้ดูจงใจเกินไป ตอนที่ฉันท้าประลองจะสวมชุดโปรโมทหยวนฟางเป็นตัวอักษรเล็กๆ นายตาดีเลยเจอตัวอักษรนี้ก็ทำเป็นเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ…”
หลิวต้าลี่ฟังด้วยสีหน้าอึ้งๆ ยังทำแบบนี้ได้ด้วย?
“อีกอย่างตอนที่ถ่าย พูดถึงฉันให้เยอะๆ อีกฝ่ายพูดแค่นิดหน่อยพอ หลักๆ พูดให้อีกฝ่ายดูแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากๆ อะไรเทือกนั้น แล้วค่อยแสดงให้เห็นว่าฉันแข็งแกร่งกว่า”
“อันนี้…”
“ไม่ต้องอันนั้นอันนี้แล้ว ไม่งั้นนายรอฉันท้าประลองนายแล้วกัน อย่าลืมว่านายเป็นคนหาเรื่องฉันก่อน!”
หลิวต้าลี่ร้องไห้ไม่ออก ฉันแค่ถ่ายคลิปเท่านั้น นายจำเป็นต้องทำแบบนี้หรือไง?
ในสายตาของเขา ฟางผิงเป็นยอดฝีมือที่อยู่อันดับต้นๆ ของขั้นสาม
คนประเภทนี้ไม่ควรจะแปดเปื้อนกับเรื่องวุ่นวายทางโลกอีกแล้ว
ตอนนี้ล่ะ?
นึกไม่ถึงว่าเขาจะถูกจับมาเป็นกรรมกร ให้ร่วมมือกับฟางผิงโฆษณาตัวเอง โฆษณาบริษัทของเขา!
ทั้งยังให้เขาจ้างมือโพสต์สร้างข่าวลือซุบซิบเผยแพร่ออกไป…
นี่ยังเป็นยอดฝีมือในความคิดของเขาอีกหรือไง?
“คุณฟาง นี่…นี่จะเกินไปหรือเปล่า…”
“พล่ามให้มันน้อยๆ หน่อย ไม่งั้นตอนนี้นายรับฉันสักหนึ่งหมัด นายไม่ตายค่อยมาพูดกันอีกที แน่นอนว่าฉันไม่อัดให้นายตายหรอก แต่กระดูกหักสักท่อนสักท่อนคงไม่เหนือบ่ากว่าแรง ใครใช้ให้นายมาแอบถ่ายฉันล่ะ!”
หลิวต้าลี่ร้องไห้ไม่ออก ยิ้มแหยๆ ว่า “งั้น…กำไรของวิดีโอ คุณจะแบ่งยังไง?”
“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์กับสิบเปอร์เซ็นต์ไง…” หลิวต้าลี่ทำหน้าไม่ยินยอม ฟางผิงไอแห้งๆ “แปดสิบยี่สิบ นายแค่ถ่ายวิดีโอเท่านั้น นายไม่ทำ ฉันยังไปหาคนอื่นได้ นายคิดว่ามีแค่นายทำได้คนเดียวหรือไง? ฉันประมือกับคนอื่น นั่นถึงจะอันตรายกับชีวิตอย่างแท้จริง นายแค่ยืนดูเท่านั้น ให้นายยี่สิบเปอร์เซ็นต์ น่าจะทำให้พอใจได้แล้ว?”
“นี่ก็ถูก…แต่ถ้าคนอื่นจะถ่ายวิดีโอเหมือนกันล่ะ…”
“ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน พวกเขากล้าปล่อยออกไป ฉันจะฟ้องให้ล้มละลาย! ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ แน่นอนว่าพวกเราเก็บกำไรได้ก้อนหนึ่งก็เปิดให้ดูฟรีได้แล้ว สร้างกระแสออกไปอีกครั้ง…”
“ได้ครับ”
หลิวต้าลี่ยอมรับเงื่อนไข ยังคงคิดไม่ตกอยู่บ้างว่า จู่ๆ กลับกลายมารับจ้างทำงานให้ฟางผิงซะแล้ว
—————-