ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 273 จิตใจแข็งแกร่ง คนก็แข็งแกร่ง (1)
ตอนที่ 273 จิตใจแข็งแกร่ง คนก็แข็งแกร่ง (1)
วันที่ 25 กรกฏาคม ฟางผิงจากเซี่ยงไฮ้เอาชนะหลิงอีอีจากปักกิ่ง
การจัดอันดับของขั้นสามถูกเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้ง ฟางผิงอยู่ในอันดับสาม
เมื่อคลิปวิดีโอถูกปล่อยออกมาก็ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวเป็นวงกว้างทันที
ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของฟางผิงและหลิงอีอี
คลิปบนอินเทอร์เน็ตมีการเผยแพร่อย่างหลากหลาย มีฉากที่ปรมาจารย์จากปักกิ่งยืนชมการประลองอยู่บนยอดชิงช้าสวรรค์
ทั้งกลางอากาศยังคล้ายกับมีเงาคนปรากฏขึ้นบนนั้น
คนธรรมดาหลายคนเพิ่งจะเคยเห็นวิถีของยอดฝีมือที่แท้จริงเป็นครั้งแรก
พวกเขาเดินเหินในอากาศราวกับเทพเซียน
ความฝันที่ลอยบนฟ้าได้ เป็นโลกที่มนุษย์ใฝ่หาตั้งแต่สมัยโบราณ
ครั้งก่อนที่ฟางผิงและเจี้ยเซ่อต่อสู้ในอากาศ เวลานั้นก็ดึงดูดความสนใจไม่น้อยเช่นกัน
ตอนนี้ยอดฝีมือของผู้ฝึกยุทธ์แสดงความสามารถออกมาอีก ชมการต่อสู้บนฟ้า ล้มล้างจินตนาการของใครหลายคนโดยสิ้นเชิง
ที่แท้ผู้ฝึกยุทธ์สามารถทำได้ถึงขั้นนี้แล้ว!
—
ฟางผิงเอาชนะหลิงอีอีได้ สำหรับการเดินทางครั้งต่อไปของเขา ทุกคนยังคงอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย
น่าเสียดายที่ฟางผิงหายตัวไปตั้งแต่นั้น หลิวต้าลี่ที่รายงานข่าวเพียงคนเดียวอธิบายว่า แม้ผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารจะประลองกับฟางผิงก็มีเรื่องเกี่ยวข้องกับความลับอยู่บ้าง ไม่อาจรายงานออกมาได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถถ่ายทอดคลิปวิดีโอถัดไปได้แล้ว
เวลานี้หลายคนต่างผิดหวัง
แต่พอผ่านไปครึ่งเดือนก็มีผู้ฝึกยุทธ์บางส่วนดังระเบิดขึ้นมา
ฟางผิงจากเซี่ยงไฮ้ หลิงอีอีจากปักกิ่ง ภิกษุเจี้ยเซ่อจากวัดว่านซาน อวี๋เฉินจากซีว่างกรุ๊ป…
ส่วนเรื่องที่ฟางผิงจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของขั้นสามได้หรือไม่ ทำได้เพียงรอการจัดอันดับครั้งต่อไปเท่านั้น
—
ในเวลาเดียวกัน
ฟางผิงแทบจะบีบมือถือแตก เผยแววตาคมกริบ เอ่ยด้วยรอยยิ้มทั้งที่โมโห “เยี่ยม เยี่ยมไปเลย ตัดสายโทรศัพท์ฉัน!”
“นี่ถือว่าหลบหนีไปพร้อมกับเงินสินะ?”
หลิวต้าลี่หนีไปแล้ว!
ปล่อยคลิปสุดท้าย ขายขาดลิขสิทธิ์แล้วก็หนีไปเลย!
ตอนแรกฟางผิงไม่ทันตระหนักถึงจุดนี้ ขายลิขสิทธิ์วิดีโอ หลิวต้าลี่ไม่ได้บอกว่าจะขายขาด บอกแค่ว่าแบ่งกำไรได้เลยโอนมาให้ฟางผิงหนึ่งล้าน ตอนนั้นฟางผิงยังดีใจ ในที่สุดหมอนี่ก็รู้จักเป็นฝ่ายแบ่งเงินก่อน
ปรากฏว่าได้รับหนึ่งล้านแล้วก็ไม่มีหลังจากนั้นอีก
พอฟางผิงจะตามหาคน เขากลับหนีไปไหนไม่รู้แล้ว
ฟางผิงขาดแคลนเงินอย่างหนัก ติดต่อไปทางเว็บคู่โต้ว ดูว่าพอจะสามารถแบ่งเงินปันผลมาที่บัญชีตัวเองได้หรือเปล่า กลับถูกแจ้งให้ทราบว่าหลิวต้าลี่ขายขาดออกไปในราคาหกล้านแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหลิวต้าลี่เอาเข้ากระเป๋าตัวเองไปห้าล้าน!
นี่ยังไม่นับรวมอย่างอื่น ฟางผิงไปสืบเรื่องเงินปันผลของวิดีโอก่อนหน้านั้น พออีกฝ่ายรู้ว่าเป็นฟางผิงจึงแจ้งให้ทราบอย่างตรงไปตรงมา
เป็นเงินรวมๆ ทั้งหมดเกือบสิบห้าล้าน ยังไงวิดีโอที่ปล่อยออกมาตอนแรกก็มีแต่วิดีโอดีๆ
สรุปแล้วเป็นเงินยี่สิบเอ็ดล้าน ฟางผิงได้ส่วนแบ่งมาเจ็ดล้านห้าแสน แต่หลิวต้าลี่ฮุบไปถึงสิบสองล้านห้าแสน!
“หมอนี่อย่าให้ฉันเจอละกัน ถ้าเจอก็รอตายซะเถอะ!”
ฟางผิงก่นด่าออกมา หลิวต้าลี่ใจกล้าไม่เบา
ใจกล้าซะตัวเองยังนึกไม่ถึง!
กลืนเงินเขาไปเกือบสิบล้าน แต่ฟางผิงไม่อาจพูดอะไรได้ ส่วนแบ่งยี่สิบแปดสิบนั้นพูดกันปากเปล่า ทั้งฟางผิงยังเขียนหนังสือมอบอำนาจให้หลิวต้าลี่อีก
“ไม่เป็นไร เงินสิบล้านที่หมอนี่เอาไป น่าจะคิดทะลวงขั้นสามตอนปลาย…”
ฟางผิงพอจะเดาสาเหตุที่หลิวต้าลี่หนีไปได้แล้ว เขาอยู่ขั้นสามตอนกลางมานาน ตอนนี้มีเงินกว่าสิบล้าน ฝึกวิชาถึงขั้นสามตอนปลายคงไม่ใช่เรื่องยาก
แต่เมื่อถึงขั้นสามตอนปลาย แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคม ก็มีโอกาสถูกเรียกตัวสูงเช่นกัน
“เข้าไปในถ้ำใต้ดินแล้ว ไอ้เวรนี่อย่าพูดว่าสิบล้านเลย ถึงจะห้าสิบล้านก็ต้องหามาให้ฉันให้ได้!”
ฟางผิงแค่นเสียงในลำคอ ถ้ำใต้ดินประเทศจีนมีมากมาย หากหลิวต้าลี่ถูกเรียกตัว ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาคงเจอกัน ฟางผิงไม่จำเป็นต้องหา รออีกฝ่ายมาถึงหน้าประตูเท่านั้น
“ประตูถ้ำหนานเจียงจะเปิดออกแล้ว หากหมอนั่นทะลวงขั้นสามตอนปลายได้ก่อน คงมีโอกาสสูงที่จะได้เจอในถ้ำหนานเจียง”
“คอยดูเถอะ!”
—
บริษัทยาบำรุงปักกิ่ง
หลิวต้าหลี่รับยาหลอมกระดูกกับยาบำรุงเลือดและปราณด้วยตาเป็นประกาย เอ่ยทั้งสีหน้าลิงโลดว่า “ฉันจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายแล้ว!”
“รอฉันกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลาย…คงห่างจากหมอนั่นนิดเดียวเท่านั้น จะกลัวไปทำไม!”
หลิวต้าลี่เบะปาก พวกเขาไม่ได้เซ็นสัญญากันสักหน่อย ให้นายไม่กี่ล้านก็นับว่าดีแล้ว
รอฉันกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลาย ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเขาอีก…แม้ฟางผิงจะดูโหดเหี้ยม แต่หลิวต้าลี่ได้ยินมาว่าขั้นสามตอนปลายและขั้นสามตอนกลางเป็นคนละเรื่อง แต่เทียบกับขั้นสามสูงสุดไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่แล้ว
แม้จะคิดอย่างนั้น แต่พอนึกได้ว่าฟางผิงประลองมาหลายครั้งกลับเอาชนะยอดฝีมือในขั้นสามสูงสุดได้หมด หลิวต้าลี่ก็เอ่ยอย่างร้อนตัวอยู่บ้าง “ใครใช้ให้นายใส่ร้ายฉันล่ะ ทำเอาฉันถูกตอกฝังดินอยู่เป็นค่อนวัน!”
วันนั้นถูกตาเฒ่าคนนั้นตบไหล่แค่ไม่กี่ที เขากลับถูกกดจมลงไปในดินกว่าครึ่งวัน
ความจริงเป็นแค่ดินโคลนเท่านั้น เขาที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลาง คิดจะปีนขึ้นมาเป็นเรื่องง่ายจะตาย ผลปรากฏว่าไม่รู้เป็นเพราะอะไร มีแรงกลับใช้ไม่ได้ เขาไม่สามารถปีนออกมา รอจนฟ้ามืดแล้วถึงค่อยดึงตัวออกมาได้
สำหรับเรื่องที่ฟางผิงให้ร้ายเขา หลิวต้าลี่คิดว่าตัวเองได้ค่าแรงมากกว่าเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
“ประเทศจีนใหญ่ขนาดนี้ อย่างมากคราวหลังก็อย่าไปเหยียบที่เซี่ยงไฮ้เท่านั้น…”
หลิวต้าลี่เก็บยาบำรุงแล้ว ก็จากไปด้วยสีหน้าเบิกบาน ในใจรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง รู้อย่างนี้ไม่ให้เงินหนึ่งล้านนั่นกับฟางผิงดีกว่า สิ้นเปลืองจริงๆ
—
ในโรงแรม
ฟางผิงพักเรื่องของหลิวต้าลี่ไว้ก่อน เรื่องสำคัญในตอนนี้ไม่ใช่หมอนั่น
เขาควรจะใช้เวลาบ่มเพาะพลังเพื่อเตรียมทะลวงขั้นสี่สักหน่อย
“บางที…อาจต้องไปขอคำชี้แนะจากผู้ว่าจาง เจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่ง ฉันคิดว่าแสดงออกมาตอนนี้คงไม่ได้ แต่ผู้ว่าจางเป็นคนคิดค้นเคล็ดวิชาต่อสู้ นี่ไม่ใช่เคล็ดวิชาโบราณ คนที่สร้างยังมีชีวิตอยู่ เขาถึงจะเป็นคนที่เข้าใจดาบคลั่งโลหิตอย่างถ่องแท้”
“หลังจากเจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่งค่อยไปท้าประลองเฉินชิวเฟิงอีกที ไม่ว่าจะยังไง ฉันจะขึ้นไปนั่งในอันดับที่หนึ่งให้ได้ แม้ว่าหลังจากวันนั้นฉันจะทะลวงเข้าสู่ขั้นสี่ก็ตาม”
เจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่ง ฟางผิงมั่นใจว่าเฉินชิวเฟิงคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตัวเองอีกแล้ว
แต่ไม่ว่าจะยังไง เอาชนะอีกฝ่ายได้ ก็นับว่าเป็นความตั้งใจของเขา
การเดินทางครั้งนี้ เขาได้รับอะไรกลับมาไม่น้อย
ห้าดาบต่อเนื่องกลายเป็นเจ็ดดาบต่อเนื่อง ทั่วร่างนอกจากกะโหลกแล้ว กระดูกส่วนอื่นล้วนหลอมสำเร็จขั้นสูง รวมถึงตอนนี้ยังมีเงินสดสามสิบห้าล้าน
“บริษัทก็ขยายไปไม่น้อยแล้ว รอบๆ เซี่ยงไฮ้ต่างกำลังขยับขยาย…ทั้งยังไม่มีคนมาหาเรื่อง”
ตามหลักทั่วไป เขาขยายออกไปนอกเซี่ยงไฮ้ อย่างน้องต้องใช้ฐานะของขั้นสี่
แต่ตอนนี้ฟางผิงอยู่แค่ขั้นสามสูงสุด ผลปรากฏว่ากลับไม่มีคนพูดถึงเรื่องนี้
เขาที่อยู่ขั้นสามสูงสุด เห็นได้ชัดว่าไม่อาจเทียบกับขั้นสามสูงสุดทั่วไปได้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ก็รู้ดีเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะพวกนี้ ขั้นสี่เป็นเรื่องไม่เร็วก็ช้าอยู่แล้ว ทั้งพลังต่อสู้ของฟางผิงถึงกระทั่งล้ำหน้าพวกเขาไปอีก สร้างปัญหาในตอนนี้ก็รอถูกล้างแค้นละกัน
“กลับหนานเจียง!”
ฟางผิงตัดสินใจแล้ว ไปขอคำชี้แนะจากจางติ้งหนานสักหน่อย จากนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้วค่อยเตรียมตัวท้าประลองกับเฉินชิวเฟิง
พยายามทะลวงขั้นสี่ ก่อนเปิดเทอมก็ท้าประลองกับจางอวี่
ท้าประลองกับจางอวี่ในขั้นสี่ ฟางผิงคิดว่าแม้เขาไม่ใช้วิธีอะไรเป็นพิเศษก็สามารถเอาชนะได้
เก็บของเรียบร้อยแล้ว มองกระดานด้านหน้าไปแวบหนึ่ง ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ ก้าวหน้าเร็ว ค่าทรัพย์สินก็ลดลงไวเช่นกัน ช่วงนี้เจอกับสภาวะล้มละลายอยู่บ่อยๆ
ค่าทรัพย์สิน : 1,550,000
ปราณ : 1200 (1365 แคล+)
จิตใจ : 540 เฮิรตซ์ (575 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (30%+)
“ยังมีกะโหลกที่ไม่ได้หลอม ไม่รู้ว่าต้องสิ้นเปลืองเท่าไหร่ ปราณและพลังจิตใจตั้งแต่ระบบอัปเกรดขึ้น ฉันก็ไม่เคยฝืนเพิ่มอีก…”
ฟางผิงครุ่นคิดเรื่องนี้ จู่ๆ ก็ลองเพ่งสมาธิเพิ่มขีดจำกัดปราณ
ก่อนหน้านี้เพิ่มขีดจำกัดปราณหนึ่งแคลก็เหมือนกับฟื้นฟูปราณ ต้องใช้ค่าทรัพย์สินหนึ่งพัน
เวลานั้นยังไม่มีเครื่องหมายบวก
ตอนนี้มีแล้ว มีอะไรแตกต่างกัน?
ฟางผิงเพิ่งจะคิดเรื่องนี้ จู่ๆ ตัวเลขก็เปลี่ยนแปลงทันที
——————