ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 273-2 จิตใจแข็งแกร่ง คนก็แข็งแกร่ง (2)
ตอนที่ 273 จิตใจแข็งแกร่ง คนก็แข็งแกร่ง (2)
ค่าทรัพย์สิน : 1,540,000
ปราณ : 1200 (1366 แคล+)
จิตใจ : 540 เฮิรตซ์ (575 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (30%+)
“เอ๋!”
ฟางผิงเผยสีหน้าตกตะลึง ลองตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้สนใจทรัพย์สินที่สิ้นเปลืองไปหนึ่งหมื่น แม้จะเยอะขึ้นมาสิบเท่า แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าไม่เหมือนเดิม!
พื้นฐานร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง
แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดเช่นนี้ แต่ฟางผิงที่อยู่ในขั้นสามสูงสุด ร่างกายจึงสามารถรับรู้ได้เด่นชัดเป็นพิเศษ
ตอนแรกวิธีเพิ่มขีดจำกัดแบบนี้ หากร่างกายรับไม่ไหว จะเกิดสัญญาณส่อเค้าว่าหลอดเลือดจะระเบิดถึงกระทั่งร่างกายระเบิดได้
แต่ครั้งนี้…ขีดจำกัดปราณเพิ่มขึ้นมาหนึ่งแคล ระบบร่างกายของเขากลับปรับตัวและแข็งแกร่งขึ้นตาม
“นี่…นี่ไม่ได้หมายความว่า…”
ฟางผิงสั่นสะท้านขึ้นมา เขายังคิดว่าเครื่องหมายบวกนั่นไม่มีประโยชน์อะไร แค่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นเท่านั้น แต่ตอนนี้ค่อยพบว่าตัวเองมองข้ามไป!
นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ได้ลองตั้งแต่ทีแรก!
“นี่ไม่ได้หมายความว่า ขีดจำกัดปราณฉันเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะพัฒนาขึ้นตาม เท่ากับประหยัดขั้นตอนหลอมร่างกายก่อนหน้านี้ไป…”
“แม่เจ้า ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันคงไม่ซื้อยาเสริมสร้างร่างกาย ยาชุบร่างกายพวกนั้นมากักตุนไว้เยอะหรอก…”
ฟางผิงพึมพำ “แต่ตอนนั้นระบบยังไม่ได้อัปเกรดเหมือนกัน คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะทำแบบนี้ได้ด้วย ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ ฉันคงจะเลือกเพิ่มปราณ จะมีปัญหาได้ยังไงอีก สู้กับหลิงอีอียังต้องแหกกฏตัวเองเพื่อเพิ่มปราณ”
“ครั้งนี้จะมีขีดจำกัดหรือเปล่า?”
ฟางผิงไม่ค่อยมั่นใจ หากเป็นแบบนี้จริงๆ เขาเพิ่มปราณได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ได้หมายความว่าร่างกายจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดหรอกเหรอ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝึกฝนอวัยวะภายใน ก็สามารถเอาชนะขั้นหกทั้งที่อยู่ในขั้นสามได้?
“น่าจะมีขีดจำกัด”
ฟางผิงครุ่นคิด หากไม่เหนือความหมาย น่าจะมีขีดจำกัดอย่างแน่นอน
แค่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
“หรือพลังจิตใจจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน?”
ตอนนี้ฟางผิงไม่กล้าเพิ่มพลังจิตใจ ยิ่งเข้าใจลึกเท่าไหร่ยิ่งต้องระวังเท่านั้น
ครั้งก่อนเพิ่มหนึ่งเฮิรตซ์ ทะลวงด่านใหญ่ห้าร้อยเฮิรตซ์ แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะสูญเสียความทรงจำไปครู่หนึ่ง
อันตรายเกินไป!
แต่ตอนนี้ล่ะ?
เพิ่มตอนนี้ร่างกายจะทำความคุ้นชินกับพลังจิตใจได้เองหรือเปล่า?
แม้จะสิ้นเปลืองถึงสิบเท่า แต่เป็นการเพิ่มขึ้นที่คงอยู่ตลอดไป สิบเท่าจะเปลืองสักเท่าไหร่กัน!
การเพิ่มขึ้นของปราณไม่ใช่แค่ขีดจำกัด แต่รวมถึงพื้นฐานร่างกาย เป็นแบบนั้นก็สมควรแล้ว
“ลองดูอีกทีละกัน!”
ฟางผิงไม่พูดพล่ามอีก เริ่มเพิ่มขีดจำกัดปราณต่อ
ค่าทรัพย์สิน : 1,200,000
ปราณ : 1200 (1400 แคล+)
จิตใจ : 540 เฮิรตซ์ (575 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (30%+)
ผิวหนังของฟางผิงหดกระชับอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ชัดเจนมากมาย แต่ฟางผิงลองขยับดู เหมือนจะมีความทนทานขึ้นมากว่าเดิม
“น่าสนใจขึ้นแล้ว เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วฉันคงจะฝึกร่างทองได้ล่วงหน้าจริงๆ!”
ฟางผิงหน้าบานเป็นกระด้ง “ขีดจำกัดอยู่ที่ไหนกัน?”
“น่าเสียดายที่ค่าทรัพย์สินไม่พอ ไม่อาจใช้สุรุ่ยสุร่ายได้ รอค่าทรัพย์สินฉันเยอะแล้วค่อยลองอีกที”
ส่วนพลังจิตใจนั้น ฟางผิงมองดูเฉยๆ ไม่กล้าเพิ่ม
นี่ไม่ใช่เรื่องของพื้นฐานร่างกาย เขาเพิ่มปราณ แม้จะเกิดสถานการณ์ที่รับไม่ไหว อย่างมากก็แค่เส้นเลือดแตก ตอนนี้ฟางผิงไม่ได้ร่างกายระเบิดง่ายขนาดนั้น
แต่พลังจิตใจเกี่ยวข้องกับสมอง สมองระเบิดขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว
“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดทั่วไปมีปราณประมาณหนึ่งพันแคล ตอนนี้ฉันหนึ่งพันสี่ร้อยแคล น่าจะมีความได้เปรียบมากกว่าพวกเขา แต่พวกหลิงอีอี พื้นฐานร่างกายและปราณแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป คงจะอยู่ที่หนึ่งพันกว่าเช่นกัน ไม่รู้ว่าขีดจำกัดจะแตะถึงสองพันแคลของขั้นสี่ได้หรือเปล่า หากทำได้ ระหว่างขั้นสามและขั้นสี่ของฉัน นอกจากความแตกต่างเรื่องอวัยวะภายใน ก็ไม่มีเรื่องไหนต่างกันแล้ว”
การเพิ่มขึ้นของขีดจำกัดปราณ นอกจากหมายถึงความมากน้อยของปราณ ยังรวมถึงความแข็งแกร่งของร่างกาย ปราณระดับเดียวกันแสดงอานุภาพได้แข็งแกร่งกว่า
ยอดฝีมือขั้นหก แสดงอานุภาพหนึ่งแคล พลังนั้นแข็งแกร่งกว่าขั้นสามอย่างมาก
เหมือนกับความแตกต่างของขั้นสามตอนกลางกับขั้นสามตอนปลาย ตอนนี้ฟางผิงออกกระบวนท่าห้าสิบแคล ก็สามารถระเบิดผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางที่ปะทุกระบวนท่าร้อยแคลได้แล้ว
“ไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสาม ที่แท้ก็ถูกกำหนดไว้นานแล้ว!”
เวลานี้ฟางผิงมีความมั่นใจขึ้นมา เผยความเกรงขามออกมาไม่น้อย
จะหยุดที่ไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสามได้ยังไง ฟางผิงคิดว่าตัวเองสามารถทำได้จนถึงปลายทางของผู้ฝึกยุทธ์!
—
วันนั้นฟางผิงเดินทางออกจากปักกิ่ง
การเดินทางออกจากปักกิ่งของเขา มีอาจารย์จากปักกิ่งแอบติดตามอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่จะวางแผนร้ายกับเขา แต่เป็นการส่งให้ฟางผิงออกจากเขตแดนอย่างปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เด็กนี่ถูกฝังในปักกิ่ง กลุ่มคนจากเซี่ยงไฮ้จะมาหาเรื่องพวกเขาเอาได้
ผลปรากฏว่าตอนที่อาจารย์คนนั้นเห็นฟางผิง กลับตกตะลึงอย่างยิ่ง
เด็กนี่ เกิดอะไรขึ้น?
ก่อนหน้านี้ที่เอาชนะหลิงอีอี ยังไม่มีสง่าราศีเท่านี้เลย ทุกคนต่างรู้สึกว่าฟางผิงไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเอาชนะสองคนจากหน่วยทหารได้
แต่เจออีกครั้ง ฟางผิงกลับเผยท่าทีน่าเกรงขาม สัมผัสได้ถึงความรู้สึกว่าเขาไร้คู่ต่อสู้อย่างแท้จริง!
อาจารย์ที่สะกดรอยฟางผิงทำหน้าประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกัน?
กลับไปนอนตื่นหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองไร้คู่ต่อสู้แล้ว?
หรือจะบอกว่าเด็กนี่ฟันเจ็บดาบรวมเป็นหนึ่งสำเร็จแล้ว จึงคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องเห็นขั้นสามในสายตาอีกต่อไป?
“เฉินชิวเฟิงยังไม่มีความมั่นใจเท่าเขาเลย?”
อาจารย์คนนั้นพึมพำกับตัวเอง แทบไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างสิ้นเชิง
ไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสามเป็นเพราะอาศัยการต่อสู้ เป็นเพราะต่อสู้จนถึงขั้นที่ไม่มีใครกล้าสงสัยอย่างแท้จริงถึงเป็นแบบนั้นได้
ทำไมฟางผิงถึงทำได้ล่ะ?
เส้นทางไร้คู่ต่อสู้ของเขายังเดินทางไม่จบเลย!
—
ไม่ใช่แค่อาจารย์จากปักกิ่งที่ตกใจ
ตอนที่หวังจินหยางเห็นท่วงท่าย่างกรายของฟางผิง เชิดหน้าขึ้นต่อหน้าเขาด้วยความมั่นใจ ก็เอ่ยอย่างตกใจอยู่บ้าง “นายประลองกับคนของหน่วยทหารอย่างเงียบๆ แล้ว?”
“ยัง”
“งั้นนายก็ฟันเจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่งได้แล้ว?”
“ยัง”
“งั้นนาย…งั้นนายเป็นอะไร?”
ฟางผิงไม่ใส่ใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เดิมทีผมก็ไร้คู่ต่อสู้อยู่แล้ว จิตใจแข็งแกร่ง คนก็แข็งแกร่ง ไม่มีอะไรน่าแปลกสักหน่อย?”
“จิตใจแข็งแกร่ง…”
หวังจินหยางพึมพำ เอ่ยอู้อี้ว่า “ฉันไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสี่…ฉันไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสี่งั้นเหรอ? ใช่แล้ว ฉันไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสี่!”
ครู่ต่อมาหวังจินหยางก็เผยความเกรงขามขึ้นมา แววตาเป็นประกายวับวาว เอ่ยกับตัวเองว่า “แบบนี้ก็ได้? นี่ฉันหลอกตัวเองหรือสะกดจิตตัวเองกัน?”
ฟางผิงอ้าปากค้างตั้งนานแล้ว!
นายไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสี่ที่ไหนกันล่ะ นายเพิ่งจะขั้นสี่ตอนกลางเถอะ เป็นอะไรของนาย?
หวังจินหยางไม่อาจสนใจเขาอีก ยังคงพึมพำกับตัวเอง “ไม่ถูก เปลี่ยนแปลงแค่ความรู้สึกจากภายนอกเท่านั้น ไม่ได้มาจากความสามารถ เป็นเพราะจิตวิญญาณของฉันมีอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ใช่ไร้คู่ต่อสู้จริงๆ…ก็ไม่ถูก เหมือนจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ถูกอยู่ดี ทำไมฉันสะกดจิตตัวเองจนถึงขั้นนี้ได้? นี่มันเลื่อนลอย…ไม่ตรงกับความจริง! แต่เป็นแบบนี้ เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นสี่สูงสุด ฉันน่าจะไม่มีความหวาดกลัวอะไรเลย อย่างน้อยฉันก็มีความมั่นใจจะเอาชนะพวกเขาได้!”
ฟางผิงฟังเขาพูดกับตัวเอง จู่ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยใจอยู่บ้าง
นายคิดว่าตัวเองไร้คู่ต่อสู้จริงๆ จึงดูทรงพลังขึ้นมาสินะ!
นายเป็นบ้าอะไรกัน? หลอกตัวเองก็ทำได้สมจริงขนาดนี้?
“ฉันจะไปจวนผู้ว่า…”
ฟางผิงถอนหายใจ สมองโล่งอย่างเห็นได้ชัด หลอกตัวเองจนถึงขั้นที่ตัวเองเชื่อ เหล่าหวังเก่งจริงๆ!
“เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ แค่ฟองอากาศจิ้มก็แตกแล้ว หวังว่าเหล่าหวังจะแยกความจริงให้ออก รู้จักตัวเองอย่างชัดเจน ไม่งั้นถูกคนอื่นตีตายขึ้นมา ยังไม่รู้ว่าจะตายยังไง”
ฟางผิงส่ายหัว ดูจากท่าทีของหวังจินหยางตอนนี้ ไปท้าประลองพวกเหยาเฉิงจวินและหลี่หานซวี่ ยังไม่รู้ว่าจะถูกซ้อมตายหรือเปล่า?
—————–