ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 279 ทั้งหมดล้วนเพื่อความสามารถ (1)
ตอนที่ 279 ทั้งหมดล้วนเพื่อความสามารถ (1)
หาเงินยากจริงๆ
ตอนที่ฟางผิงเอ่ยถึงเรื่องลงทุนกับหลี่เฉิงเจ๋อ หลี่เฉิงเจ๋อก็บอกเขาว่าตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนัก ทั้งแม้จะหาผู้ลงทุน ก็ได้เงินไม่เท่าไหร่ ฟางผิงทำได้ละทิ้งความคิดนี้ไป
ทำภารกิจ…ถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้ถูกปิดไม่ให้เข้าออก ภารกิจอื่นๆ ของเซี่ยงไฮ้มีแค่ภารกิจเล็กๆ นอกจากจะสิ้นเปลืองเวลาแล้ว ยังได้ค่าตอบแทนธรรมดา
ไปถ้ำใต้ดินแห่งอื่น…
ถ้ำใต้ดินที่ค่อนข้างคุ้นเคยอย่างเซี่ยงไฮ้ ฟางผิงยังเกือบหลงมาแล้ว ไปถ้ำใต้ดินอื่นที่ไม่คุ้นเคย เขามีโอกาสสูงที่จะกลับมาไม่ได้
เว้นเสียแต่ว่าจะทำความคุ้นเคยสักระยะหนึ่ง หรือไม่ก็เคลื่อนไหวพร้อมกับคนอื่น
“ทำภารกิจไม่ได้ ไปถ้ำใต้ดินอื่นไม่ได้ หาคนร่วมลงทุนก็ไม่ได้…”
ฟางผิงปวดหัวไม่น้อย งั้นฉันควรทำยังไง?
เงินสามสิบห้าล้าน อันที่จริงเพียงพอให้เขาทะลวงด่านแล้ว
แต่ตาเฒ่าหลี่เอ่ยเรื่องเชื่อมต่อสะพานห้าสายในครั้งเดียวเพื่อเข้าสู่ขั้นสี่ตอนกลางไปเลยออกมาล่อลวงเขาแล้ว นี่ทำให้ฟางผิงไม่อยากทยอยเชื่อมอย่างช้าๆ อยู่บ้าง
“จางอวี่ใช้เวลาหนึ่งปีถึงเชื่อมต่อสะพานทั้งห้าสำเร็จ”
“หวังจินหยาง ความจริงใช้เวลาไปไม่น้อยเหมือนกัน”
“คนพวกนี้ล้วนใช้เวลาไปกับการเชื่อมต่อสะพานทั้งห้าไปมาก พวกเขาก็เป็นอัจฉริยะ บางทีฉันอาจต้องใช้เวลาครึ่งปีหรือนานกว่านั้น”
“หากเชื่อมต่อสำเร็จในครั้งเดียว ฉันคงอาศัยฝีมือของขั้นสี่ตอนกลางไปประลองกับจางอวี่ได้เลย อยู่ระดับขั้นเดียวกันต่อสู้กับเขาถึงจะสนุกพอ”
“แน่นอนว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ย่นระยะเข้าไปใกล้เหล่าหวัง เขาเพิ่งจะอยู่ขั้นสี่ตอนปลายเท่านั้น”
ฟางผิงคิดอยู่ค่อนวัน จู่ๆ ก็กัดฟัน ต้องรับโฆษณา!
ฉวยโอกาสที่เขายังมีชื่อเสียงเล็กน้อย การจัดอันดับระดับกลางยังไม่ออกมา ตอนนี้ระดับต่ำกว่าขั้นปรมาจารย์ เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีชื่อเสียงด้านพลังต่อสู้มากที่สุด
รับโฆษณาไม่กี่ครั้ง บางทีอาจจะหาเงินได้แล้ว
—
เพื่อหาค่าทรัพย์สินให้พอ ฟางผิงจำเป็นต้องพยายามสุดชีวิตเช่นกัน
เขาให้หลี่เฉิงเจ๋อไปติดต่อคน ฉวยโอกาสที่ยังมีชื่อเสียงหาเงินก้อนสุดท้ายแล้วค่อยว่ากันใหม่
—
ไม่นานฟางผิงก็ได้รับโฆษณาหลายตัว
ตอนนี้ฟางผิงยังคงมีชื่อเสียง ทั้งไม่ใช่น้อยๆ จุดนี้นักลงทุนก็ทราบเช่นกัน
ฉวยโอกาสที่ฟางผิงยังอยู่ในช่วงโด่งดังทำโฆษณาออกมาหยาบๆ ผลลัพธ์กลับไม่แย่เลยทีเดียว
—
ดังนั้นระยะเวลาไม่ถึงสี่ห้าวัน
โฆษณาของฟางผิงก็ถูกเผยแพร่!
“ฟางผิงจะสอนคุณสู้กับสัตว์ประหลาด ต่อให้สัตว์ประหลาดจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ใช้แค่ดาบเดียวเท่านั้น ยินดีต้อนรับสู่โลกของสัตว์ประหลาดตัวเล็กๆ!”
“ผู้ชายมีสไตล์อย่างพวกเราต้องสวมรองเท้าตี๋เค่อ ให้คุณได้ล่องลอยในอากาศ!”
“ใช้ยาสระผมที่อ่อนโยนก็ทำให้มีความมั่นใจได้!”
“…”
ตอนที่โฆษณาของฟางผิงถูกเผยแพร่เต็มบนอินเทอร์เน็ต
หลายคนถึงกับตกตะลึงไปตามๆ กัน
—
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์
พวกหลิงอีอีมองโฆษณาบนจอ พากันนิ่งอึ้งจนพูดไม่ออก
หานซวี่ถอนหายใจว่า “เป็นถึงอันดับหนึ่งในขั้นสาม วิ่งโร่ไปสู้สัตว์ประหลาดตัวน้อยซะแล้ว ความรู้สึกนี้ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดจริงๆ”
หลิงอีอีกัดฟันจนแทบจะแหลกละเอียด “ฉันแพ้ให้หมอนี่ได้ยังไงเนี่ย?”
ทุกคนไม่ได้ดูแคลนพวกดาราที่อยู่ในวงการบันเทิง
ฮ่องเต้ฮองเฮาในหนังบางคน ตอนที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตในถ้ำก็ลงมืออย่างไม่ปรานีเช่นกัน
แต่ฟางผิง นายช่วยรักษาหน้าตาตัวเองหน่อยได้หรือเปล่า รับแต่โฆษณาใหญ่ๆ อะไรก็ว่าไป แต่โฆษณาธุรกิจแผงลอยพวกนี้นึกไม่ถึงว่าจะรับเหมือนกัน!
—
หยางเฉิง
ฟางหยวนก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ฟางผิง นี่นายทำอะไรอยู่เนี่ย?”
ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสับสน พี่ชายมาถึงจุดที่ขาดแคลนเงินแล้ว?
โฆษณาถูกเผยแพร่ออกมา ทุกคนแทบอยากจะบ้าตายอยู่บ้าง
“ขาดแคลนเงินถึงขนาดนี้เลย?” ฟางหยวนเอ่ยพึมพำ แต่ตัวเองก็อับจนหนทางเช่นกัน แม้ในบัญชีเล็กๆ นี้จะมีเงินไม่น้อย แต่ไม่น้อยสำหรับเธอเองเท่านั้น ตอนนี้พี่ชายต้องการเงินเป็นล้าน เธอไม่อาจสนับสนุนเขาได้เช่นกัน
“หรือว่าจะรับสมาชิกเพิ่มอีกดี?”
ฟางหยวนกุมหัว ระดมความคิดอย่างหนัก รับสมาชิกถึงจะสามารถเก็บเงินได้
—
ในเวลาเดียวกัน
จิงหนาน
เฉินอวิ๋นซีกลับเอ่ยอย่างเห็นใจว่า “ฟางผิงขาดแคลนเงินจริงๆ สินะ”
เป็นถึงยอดฝีมืออันดับหนึ่งของขั้นสาม มาถึงจุดที่โฆษณาเล็กๆ ยังรับ นี่ขาดแคลนเงินจนถึงขั้นไหนกัน?
เฉินอวิ๋นซีถอนหายใจเบาๆ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นับวันฟางผิงก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ฐานะทางบ้านยากจนแล้วยังไง?
ขายหน้าแล้วยังไง?
ขอแค่สามารถเดินบนเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ได้ไกล ขายหน้าในวันนี้ ก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์ในวันหน้าก็จะมีแต่เรื่องเล่าอันดีงามเท่านั้น ปรมาจารย์ฟางที่ในอดีตมีฐานะยากจนข้นแค้นยังกลายเป็นปรมาจารย์ได้ นี่ก็กลายเป็นการสร้างแรงบันดาลใจได้แล้ว
—
เซี่ยงไฮ้
ฟางผิงเผชิญกับแววตาพร้อมฆ่าคนของตาเฒ่าหลี่ เอ่ยแก้ต่างอย่างจนใจว่า “อาจารย์ โฆษณาใหญ่ รับได้ง่ายๆ ที่ไหนกัน นี่ผมก็แค่ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่ได้ลักเล็กขโมยน้อยสักหน่อย ผมไม่ได้รับโฆษณายาปลอมหรือคลาสฝึกที่หลอกลวงคนพวกนั้น รับแค่โฆษณาเกม รองเท้ากีฬา ยาสระผมอะไรพวกนี้ นี่คงไม่เป็นไรสินะครับ?”
“ฉันยังอยากเหลือหน้าตาไว้บ้าง!”
ตาเฒ่าหลี่กัดฟันพูดออกมา
นายคิดว่าพวกเราไม่ต้องการหน้าตาแล้วหรือไง?
เป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์อันดับหนึ่งของขั้นสาม ไปรับโฆษณาเล็กๆ พวกนี้ ไม่คิดอายคนบ้าง?
ฟางผิงยิ้มเจื่อนๆ “หน้าตาไม่ได้สำคัญเท่าเงิน คุณอย่ามองว่าบริษัทพวกนี้เล็ก แต่เวลาจ่ายเงินนั้นเร็วจริงๆ คุณเดาสิว่าผมรับโฆษณาสิบสองชิ้น พวกเขาให้เงินมาเท่าไหร่? วันหนึ่งผมถ่ายสี่ห้าโฆษณา เวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น โฆษณาแต่ละชิ้น สองล้านเป็นอย่างต่ำ มากสุดห้าล้าน! พวกนี้มีเงินกันทั้งนั้น แถมยังจ่ายเงินไวด้วย อาจารย์ คุณว่าถ้าผมรับภารกิจ นี่ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่?”
“สี่สิบสองล้าน?”
ตาเฒ่าหลี่อึ้งไปเล็กน้อยเช่นกัน พึมพำว่า “ตอนนี้หาเงินได้ง่ายขนาดนี้เลย?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เป็นผลพวงมาจากความคิดมุทะลุครั้งสุดท้ายของผม บริษัทหนึ่งไม่กี่ล้าน อันที่จริงไม่ถือว่าเยอะ แค่หาเงินได้ไวเท่านั้น ครั้งนี้ถ่ายเสร็จ ครั้งหน้าเกรงว่าคงไม่มีใครมาหาผมแล้ว ศักยภาพล้ำหน้าเงินไปไกล”
ตาเฒ่าหลี่แค่นเสียงในลำคอ ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “ขาดแคลนเงินขนาดนี้เชียว?”
“ไม่มีทางเลือก ฐานะทางบ้าน…”
“อย่ามาเล่นลูกไม้นี้!”
ตาเฒ่าหลี่แค่นเสียงอีกครั้ง เอ่ยต่อว่า “ถ้าขาดแคลนเงินจริงๆ ฉันให้เธอยืมได้…”
“ช่างเถอะครับ คุณเก็บไว้ใช้ชีวิตบั้นปลายดีกว่า”
ฟางผิงปฏิเสธตรงๆ อันที่จริงเขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่เป็นค่าทรัพย์สินต่างหาก
แม้ว่าเงินจะสามารถเปลี่ยนเป็นยาบำรุงแล้วแลกเป็นอย่างอื่นได้ แต่ระหว่างทางยังต้องผ่านหลายขั้นตอนกว่าจะกลายเป็นความสามารถ ต้องใช้เวลาอีกมาก
ความจริงสิ่งที่ฟางผิงต้องการคือเวลา
เงินที่ยืมมาไม่นับว่าเป็นค่าทรัพย์สิน
ถูกฟางผิงปฏิเสธ ตาเฒ่าหลี่ไม่สนใจเช่นกัน จ้องมองเขาอยู่พักใหญ่ ถามว่า “ยืดเวลามานานหลายวันขนาดนี้ พร้อมที่จะทะลวงด่านแล้ว?”
ระหว่างที่พูด แววตายังเผยความอันตรายอยู่บ้าง “ฉันไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ใช่อาจารย์เธอสักหน่อย แต่หลู่เฟิ่งโหรวกลับมา เห็นเธอรับโฆษณาขยะพวกนั้น อาจารย์เธอนั้นเป็นคนรักหน้าตา เชื่อหรือเปล่าว่าสามารถซ้อมเธอตายได้?”
“แต่เธอจะเข้าสู่ขั้นสี่แล้ว หลู่เฟิ่งโหรวน่าจะไม่สนใจเรื่องนี้”
หลู่เฟิ่งโหรวเป็นคนหนึ่งที่ใกล้จะทะลวงขั้นปรมาจารย์ ลูกศิษย์ของตัวเองไปวิ่งเต้นรับโฆษณาเล็กๆ ขายหน้าอยู่บ้างจริงๆ
แน่นอนว่ายังไม่ถึงขั้นที่ต้องขับไล่ออกไป
แต่เกรงว่าฟางผิงคงจะถูกซ้อมอยู่ยกใหญ่
ทว่าผู้ฝึกยุทธ์ให้ความสำคัญเรื่องฝีมือ หากฟางผิงกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง หลู่เฟิ่งโหรวน่าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้ว ลูกศิษย์ของตัวเองทะลวงสี่ขั้นในหนึ่งปี รับโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ จะเป็นไรไป!
ฟางผิงรับโฆษณาพวกนี้ เป้าหมายก็เพื่อทะลวงด่าน จะปฏิเสธได้ยังไง
ฟางผิงฟังจบก็รีบเอ่ยว่า “ต้องทะลวงอยู่แล้ว ผมยังเตรียมจะไปท้าประลองกับจางอวี่ด้วย”
“ไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอแล้ว”
ตาเฒ่าหลี่ส่ายหัวอย่างจนใจ เจอลูกศิษย์อย่างฟางผิง ปวดหัวจริงๆ
แต่เรื่องรับโฆษณานั้นเกิดขึ้นแล้ว พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
———————-