ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 279-2 ทั้งหมดล้วนเพื่อความสามารถ (2)
ตอนที่ 279 ทั้งหมดล้วนเพื่อความสามารถ (2)
เจ้าเด็กนี่เอาแต่คิดหาเงิน บางทีอาจจะขาดแคลนทรัพยากรพวกนี้จริงๆ แต่ดูจากฝีมือขั้นสามของเขา ในมือยังมีดาบยาวระดับ B สวมเกราะหนังขั้นห้าระดับกลาง ตาเฒ่าหลี่แทบไม่อาจคิดเชื่อมโยงได้ว่าเขาไปกับข้องเกี่ยวกับเรื่องขาดแคลนเงินยังไง
ไม่สาวความยืดอีก ไม่นานตาเฒ่าหลี่ก็พาฟางผิงมาถึงสระปราณ
ฟางผิงไม่ปฏิเสธเช่นกัน แม้สระปราณจะสิ้นเปลืองมาก แต่บางทีเขาอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากมัน ในสถานการณ์ที่ไร้ทางเลือก เขาไม่อยากใช้ค่าทรัพย์สิน
แม้จะหาเงินได้กว่าสี่สิบล้าน แต่พอใช้จริงๆ ก็หมดเร็วเช่นกัน
กะโหลกจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้หลอมเลย
—
สระปราณ
บอกว่าเป็นสระปราณ อันที่จริงองค์ประกอบแทบไม่ต่างจากห้องแหล่งพลังงาน
ฟางผิงมองจากข้างนอกอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปถามอาจารย์ผู้ดูแลที่นี่ “อาจารย์ ถ้าตอนที่ผมฝึกวิชาอยู่ สระปราณไม่เข้มข้นพอจะทำยังไง? พลังปราณด้านในเหมือนไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่? ผมดูดซับแล้วจะสามารถเติมเต็มเข้าไปทันเวลาหรือเปล่า?”
อาจารย์ผู้ดูแลยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ได้ยินว่าไขกระดูกเธอเหมือนปรอท พลังจิตใจเคลื่อนย้ายอนุภาคได้ บางทีอาจจะใช้ปราณที่นี่จนหมดเกลี้ยงได้จริงๆ แต่ว่าพลังปราณข้างในปล่อยพลังงานให้อย่างตายตัว พูดว่าเก็บเงินตามเวลา ความจริงแล้วเก็บเงินตามปริมาณต่างหาก”
ฟางผิงเอ่ยทันที “งั้นรุ่นพี่บางคนที่ดูดซับไม่หมด จะเก็บเงินน้อยกว่าอย่างนั้นเหรอครับ?”
“ไม่ได้อยู่แล้ว ดูดซับไม่หมด นั่นสาเหตุมาจากพวกเขาเอง”
อาจารย์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อย่าคิดอะไรแผลงๆ พลังปราณที่ส่งออกมาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้หินพลังงานในการแลกเปลี่ยน ใช้อนุภาคพลังงานเปลี่ยนเป็นพลังปราณ ทั้งเพื่อรักษาสภาพของมัน อันที่จริงยังใช้พลังงานหัวใจของผู้แข็งแกร่งจากถ้ำใต้ดินด้วย”
ระหว่างที่พูด อาจารย์ยังเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “หัวใจเป็นๆ ของผู้แข็งแกร่งจากถ้ำใต้ดิน!”
ฟางผิงม่านตาหดเกร็งเล็กน้อย ตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้างกลับเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำตายบนพื้นโลกสามารถคืนชีพได้ แต่ถ้าไม่ตาย นั่นก็ไร้ทางคืนชีพ ผู้แข็งแกร่งผ่าหัวใจออกมาแล้วอาจไม่ตายเสมอไป ไอ้หนู มูลค่าของสระปราณนั้นสูงกว่าที่เธอจินตนาการไว้ เซี่ยงไฮ้สามารถสร้างสระปราณได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เหมือนกัน เธออย่าคิดเอาเปรียบเรื่องนี้กับมหาวิทยาลัยเลย”
ฟางผิงถอนหายใจ “ควักหัวใจ คนไม่ตายได้เหรอครับ?”
“ใครบอกว่าควัก?”
ตาเฒ่าหลี่แค่นยิ้ม “ฉันบอกว่าผ่าอาจไม่ตายเสมอไป ไม่ได้หมายความว่าผ่าจริงๆ ข้างล่างนั้นมีสิ่งก่อสร้างอยู่ เธอคิดว่าก่อนหน้านี้ผู้เฒ่าหลิวเฝ้าเขตทางใต้อยู่ตลอดเพราะเฝ้าอะไรอยู่ล่ะ?”
ฟางผิงสั่นสะท้านในใจอีกครั้ง ข้างล่างสระปราณมีผู้แข็งแกร่งของถ้ำใต้ดินอยู่!
นี่จะอันตรายเกินไปแล้ว!
“วางใจเถอะ เป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้าทั้งนั้น ก่อนหน้านี้มีขั้นหกอยู่ หลังจากเหล่าหลิวไป ทั้งหมดก็ถูกพากลับไปฆ่าที่ถ้ำใต้ดิน”
หลิวพั่วหลู่ไปหนานเจียง อันที่จริงสร้างความเสียหายให้เซี่ยงไฮ้เช่นกัน
อย่างน้อยก็จำเป็นต้องฆ่าผู้แข็งแกร่งขั้นหกจากถ้ำหลายคนเพื่อป้องกันไม่ใช่สร้างความวุ่นวาย
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้า แม้ว่าจะเกิดเรื่องก็คงไม่อาจก่อผลกระทบอะไรให้กับเซี่ยงไฮ้
ฟางผิงไม่ถามอีก เรื่องพวกนี้ความจริงเป็นความลับของเซี่ยงไฮ้ ตาเฒ่าหลี่เล่าให้ตัวเองฟังเยอะขนาดนี้ได้ถือว่าไม่ง่ายแล้ว
ไม่มีคะแนน ฟางผิงจ่ายเงินสดไปห้าล้าน ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปยังสระปราณ
พอเขาเข้าไป อาจารย์ผู้ดูแลก็เอ่ยเสียงเบาว่า “เร็วจริงๆ”
“เร็วมากจริงๆ นั่นแหละ ไม่รู้ว่าจะสามารถเชื่อมต่อสะพานทั้งห้าได้ในครั้งเดียวหรือเปล่า ใช่สิ เปิดการใช้ปราณของขั้นห้า”
อาจารย์ที่ผู้ดูแลแค่นยิ้มว่า “คุณต้องครุ่นคิดให้ดีนะ ถ้าเขาฆ่าขั้นห้าคนนี้ตาย คุณต้องรับผิดชอบไปจับคนใหม่มา”
“เชอะ แค่พวกกระจอกขั้นห้าเท่านั้น”
ตาเฒ่าหลี่พูดเหมือนไม่ใส่ใจ อาจารย์ผู้ดูแลก็ไม่ได้เอ่ยอะไร ฆ่าตายกับจับเป็นนั้นเป็นคนละเรื่อง
ตาเฒ่าหลี่สังหารขั้นห้า นั่นง่ายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก
แต่จับกลับมาบนพื้นโลกเป็นๆ ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เขาพูดขนาดนั้น
หากฟางผิงดูดซับพลังปราณมากเกินไป ใช้ปราณสำรองของผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำขั้นห้าคนนั้นจนเกลี้ยง พลังงานหัวใจพังทลาย อีกฝ่ายก็ตายเหมือนกัน
เว้นเสียแต่ว่าระหว่างนั้นจะตัดการส่งปราณ แต่ในขณะที่ฝึกวิชา นี่ถือเป็นเรื่องต้องห้าม
ไม่พูดพล่ามอีก อาจารย์ผู้ดูแลดำเนินการให้ แจ้งยอดฝีมือที่เฝ้าระวังข้างล่างเปลี่ยนผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำเพื่อส่งพลังปราณ
—
ภายในสระปราณ
ฟางผิงตรวจดูข้อมูลของตัวเอง
ค่าทรัพย์สิน : 41,540,000
ปราณ : 1420 แคล (1420 แคล+)
จิตใจ : 579 เฮิรตซ์ (579 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (30%+)
“ไม่รู้ว่าสระปราณจะเติมปราณทันการสิ้นเปลืองของฉันหรือเปล่า”
“เชื่อมต่อสะพานห้าสายไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
หลายวันนี้ฟางผิงฝึกวิชาเคล็ดหลอมพลัง…บทอวัยวะภายในมาเล็กน้อยแล้ว ไม่ต่างจากที่ทะลวงด่านก่อนหน้านี้เท่าไหร่ การทะลวงในระดับต่ำกว่าขั้นสามต้องบุกเบิกเส้นเดินปราณบางส่วน
แต่ขั้นสามทะลวงขั้นสี่ต้องเชื่อมสะพานลำเลียง สามารถมองว่าสร้างเส้นเดินปราณขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้เช่นกัน
เส้นเดินปราณพวกนี้ เดิมทีก็ไม่มีอยู่จริง ตอนนี้ต้องอาศัยปราณของผู้ฝึกยุทธ์มาบุกเบิกเพื่อทำให้มั่นคง
“หากเชื่อมต่อสะพานทั้งห้าไม่สำเร็จ ครั้งนี้ฉันทำขายหน้าคงนับว่าขายหน้าไปเปล่าๆ แล้ว”
ถ่ายโฆษณาเล็กๆ พวกนั้น อันที่จริงฟางผิงก็อับอายเช่นกัน
ยุคมืดของเขาชัดๆ
บอกว่าไม่สนใจ แต่คนที่รักหน้าตาอย่างเขา ไม่สนใจได้จริงๆ งั้นเหรอ
“ทั้งหมดล้วนเพื่อความสามารถ ความจริงก็เหมือนดารานั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก”
ปลอบใจตัวเองแล้ว ฟางผิงก็ปลดปล่อยจิตใจให้โล่ง
ครู่ต่อมา ฟางผิงเริ่มโคจรปราณตามบทอวัยวะภายใน บุกเบิกสะพานลำเลียงของหัวใจ
ปราณสิ้นเปลืองอย่างรวดเร็วเช่นกัน
—
ด้านนอกห้อง
ตาเฒ่าหลี่และอาจารย์ผู้ดูแลมองด้วยตาไม่กระพริบ
จากขั้นสามถึงขั้นสี่ อันที่จริงก็เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพอย่างหนึ่ง
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม แม้จะไม่พึ่งยาบำรุงในการฟื้นฟูปราณ ไม่ใช้ไขกระดูกที่สภาพเป็นปรอทเร่งการฟื้นฟู ไม่อาศัยพลังจิตใจไล่จับอนุภาคพลังงานก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วอยู่ดี
ตอนที่หลอมอวัยวะตันทั้งห้าและอวัยวะกลวงทั้งหกแล้ว อันที่จริงมีหลายครั้งที่ผู้ฝึกยุทธ์จะอาศัยอนุภาคพลังงานที่แหวกว่ายในท้องฟ้าและพื้นดินมาใช้ฝึกวิชา
เคล็ดวิชาหลอมพลัง…บทอวัยวะภายใน ความจริงเกี่ยวข้องกับการไล่จับอนุภาคเช่นกัน ไม่เหมือนระดับต่ำกว่าขั้นสามที่อาศัยยาบำรุงในการฝึกวิชาอีกแล้ว
“คณบดีหลี่ เด็กคนนี้จะสามารถเชื่อมสะพานทั้งห้าสายได้จริงๆ หรือเปล่า?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้นทำไมคุณยังยุยงให้เขาลอง…”
ตาเฒ่าหลี่แค่นเสียงขึ้นจมูก “นายจะเข้าใจอะไร เด็กคนนี้ไม่มีความกดดันก็ไม่มีแรงขับเคลื่อน มีความกดดันถึงจะมีแรงขับเคลื่อนได้ ฉันแค่พูดไปเท่านั้น หากทำสำเร็จจริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี”
อาจารย์ผู้ดูแลหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ไม่พูดมากอีก รอดูก็จะรู้เอง
หากฟางผิงข้ามขั้นสี่ตอนต้นไปถึงขั้นสี่ตอนกลางได้จริงๆ นั่นถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว
ในช่วงเวลาฝึกฝนที่มีค่า ประหยัดขั้นตอนเล็กๆ นี้ได้ แม้ว่าหลังจากนี้ต้องสิ้นเปลืองเวลาเพื่อทำให้เสถียรและสมบูรณ์เล็กน้อย แต่มีประโยน์มากกว่าโทษแน่นอน
“หากทำสำเร็จ เด็กคนนี้คงกลายเป็นบุคคลแนวหน้าของเซี่ยงไฮ้อย่างแท้จริงแล้ว”
อาจารย์ผู้ดูแลพึมพำ ตอนนี้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีฝีมืออยู่ที่ขั้นสี่ตอนปลายเท่านั้น ขั้นสี่สูงสุดไม่มี
หากครั้งนี้ฟางผิงกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนกลาง บางทีในอนาคตอีกสองปี เซี่ยงไฮ้อาจจะมีนักศึกษาที่อยู่ในขั้นหกปรากฏขึ้นมาหนึ่งคน!
นักศึกษาขั้นหก ตั้งแต่สร้างมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มา ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มหาวิทยาลัยปักกิ่งกลับเคยมีคนหนึ่ง
เซี่ยงไฮ้ที่กระตือรือร้นอยากจะล้ำหน้าปักกิ่งมาโดยตลอด อยากจะล้ำหน้ากว่าอีกฝ่ายทุกด้านอยู่แล้ว มีนักศึกษาขั้นหก บางทีอาจเป็นเรื่องที่ยากที่สุด แต่ตอนนี้ไม่ถึงกับหมดหวังเลยเช่นกัน
———————