ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 302-2 หลอกยากกันทั้งนั้น (2)
ตอนที่ 302 หลอกยากกันทั้งนั้น (2)
“ยุ่งยาก พวกเราคุยกันแบบนี้มีประโยชน์จริงๆ หรือไง?”
“ถ้าหากในสิ่งก่อสร้างมีผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำก็เนียนๆ เป็นพวกเดียวกันไปก่อน ตอนที่ยังไม่เกิดการต่อสู้ อันที่จริงอีกฝ่ายไม่ใช่ระดับสูง ยากที่เจอความผิดปกติของพวกเรา สู้โดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว ไม่แน่ว่าจะฆ่าได้ง่ายกว่า”
ฉินเฟิ่งชิงได้ฟังก็คิดแบบนั้นเช่นกัน เป็นครั้งแรกที่ไม่โต้แย้งฟางผิง
มีเหตุผล!
ไม่แน่ว่าอาจจะหลอกพวกเขาได้เหมือนกัน?
ทั้งสองคนคว้านหัวใจอย่างรวดเร็ว อันที่จริงหนังและเลือดเนื้อ รวมถึงกระดูกของปีศาจหมาป่าโบราณต่างมีราคาทั้งนั้น
หนังของสิ่งมีชีวิตขั้นสี่ไม่ใช่ถูกๆ อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะเข้ามาในภูเขา แบกของหนักเกินไปไม่ได้ ทำได้เพียงทิ้งไปอย่างปวดใจ คว้านแต่หัวใจที่มีมูลค่าที่สุดแทน
—
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าหนักแน่นขึ้นมา กระซิบว่า “ข้ามเนินเขานี้ไปก็ถึงแล้ว นั่นเป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง นายว่าเคลื่อนไหวตอนกลางคืนหรือกลางวันดี? ถ้ากลางคืนไม่จำเป็นต้องปลอมตัว คนโง่ก็ยังรู้ว่าเข้ามาตอนกลางคืนคงไม่ใช่คนดี กลางวันจะมีโอกาสมากกว่าหน่อย”
“ดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน”
ฟางผิงหันกลับไปมองแวบหนึ่ง ปวดหัวอยู่บ้าง เขาและฉินเฟิ่งชิงขึ้นเขาลงห้วยอย่างยากลำบาก อย่างน้อยน่าจะข้ามมาเกือบสิบกว่ายอดเขาค่อยมาถึงที่นี่ได้
ครั้งนี้เขาอย่าได้จำทางผิดจะดีกว่า ไม่งั้นคงจะยุ่งแล้ว
—
ส่วนลึกของเขาหัวหมาป่า
สถานที่แห่งหนึ่งกลางหุบเขา มีสิ่งก่อสร้างที่ก่อขึ้นจากหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่
ท่ามกลางความมืด ภายในสิ่งก่อสร้างมีแสงไฟส่องออกมาอย่างเลือนราง
หุบเขาสามด้านล้อมรอบด้วยภูเขา มีเพียงทางตะวันออกที่มีช่องว่าง จากที่ฉินเฟิ่งชิงพูด ทางตะวันออกเป็นทิศที่เขาและหวังจินหยางบุกเข้าไป ทั้งสองคนถูกไล่ฆ่า หนีตายมาตลอดทาง รอจนเห็นว่ามีสิ่งก่อสร้างที่นี่ก็ไม่กล้าเข้าไปลึก วิ่งอ้อมภูเขาหนีไป
แต่ตอนนี้ทั้งสองคนมาถึงยอดเขาทางใต้ของหุบเขาแล้ว
“มีคนอยู่”
ฟางผิงเผยสีหน้าหนักแน่น ฉินเฟิ่งชิงส่ายหัวว่า “ไม่เสมอไป โคมไฟพลังงานของถ้ำใต้ดิน ขอแค่หินพลังงานยังใช้ไม่หมดก็จะไม่ดับ อาจจะไม่มีคน แต่พลังงานแค่ยังไม่หมดเท่านั้น แต่ว่า…ใช้โคมไฟพลังงานได้ก็นับว่าเป็นเศรษฐีของถ้ำใต้ดินแล้ว ครั้งนี้พวกเราอาจจะกอบโกยได้มหาศาลจริงๆ!”
พูดจบ ฉินเฟิ่งชิงค่อยเอ่ยต่อว่า “จะหยั่งเชิงก่อนหรือเข้าไปเลย? สวนสมุนไพรอยู่ในลานหินนั่น นายเห็นหรือเปล่า?”
“อืม”
อันที่จริงฟางผิงเห็นไม่ค่อยชัด แต่เขาสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าพลังงานที่นั่นค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
“หรือจะเข้าไปตรงๆ เลย ปล้นสวนสมุนไพรก่อน ถ้าไม่มีคนไล่ฆ่า พวกเราค่อยกลับมากวาดเรียบอีกที?”
ฟางผิงอดถามไม่ได้ “นายมั่นใจนะว่าไม่ใช่ที่อยู่ของยอดฝีมือระดับสูง? คนที่อาศัยในป่าลึกแบบนี้ ฉันคิดว่าเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น”
“นายใจกล้าหน่อยไม่ได้หรือไง คนกล้ามีแต่จะอิ่ม คนขลาดมีแต่จะอด!”
ฉินเฟิ่งชิงด่าออกมา เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอคนกลัวตายยิ่งกว่าตัวเองซะอีก
ฟางผิงสูดลมหายใจ นายคิดว่าฉันกลัวตายจริงๆ หรือไง?
ประเด็นอยู่ที่ไม่อยากตายฟรี!
ครั้งก่อนเข้าไปในป่าราชันเจี่ยวไม่ทันไรก็เจอสิ่งมีชีวิตระดับสูงตัวเป้ง ไม่ให้ระวังได้หรือไง?
อิงจากแผนที่เขาหัวหมาป่า ไม่ได้หมายเหตุว่าเจอสิ่งมีชีวิตระดับสูง ที่นี่อย่างมากสุดก็เป็นฝูงปีศาจหมาป่าโบราณซึ่งมีจำนวนไม่น้อย ยอดฝีมือมนุษย์ไม่ได้สำรวจมากมายเพราะที่นี่อยู่ห่างจากเมืองซีเฟิ่งไม่ไกลมาก
“ช่างเถอะ”
ฟางผิงกัดฟัน กดเสียงว่า “งั้นเข้าไปตรงๆ เลย ขุดให้เร็วที่สุด…อีกอย่าง จำไว้ว่าถ้าฉันวิ่งหนี นายต้องเผ่นให้ไวเหมือนกัน!”
ไม่ใช่อะไร แค่พลังจิตใจเขาแข็งแกร่งกว่า
หากมียอดฝีมือปรากฏตัวจริงๆ ฟางผิงคิดว่าตัวเองจะรับรู้ได้ก่อน
“จำเป็นต้องให้นายบอกหรือไง”
ฉินเฟิ่งชิงไม่ใส่ใจ นายวิ่งหนี จะให้ฉันยืนอยู่กับที่หรือไง?
ทั้งสองคนไม่คุยไร้สาระอีก เริ่มเดินลงเขาไปอย่างระมัดระวัง
หน้าเขาสูงชันอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ ขอแค่มีที่ให้ยืมแรง แนวตั้งยังเดินให้เหมือนแนวราบได้
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั้งสองคนก็ลงมาถึงล่างเขา อยู่ห่างจากสิ่งก่อสร้างด้านหน้าไม่ไกล
ฟางผิงใช้พลังจิตใจสำรวจอีกครั้ง แต่ภายในหุบเขามีอนุภาคพลังงานเข้มข้นไม่น้อย รวมถึงสิ่งก่อสร้างหินขนาดใหญ่นั้นปิดกั้นไว้ จึงไม่อาจสำรวจถึงภายในได้ ครั้งนี้ทั้งสองคนไม่ลังเลอีก ค่อยๆ ย่องไปที่สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ด้านหน้าทันที
ไม่ได้ใช้พลังปราณ ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำค่อนข้างสัมผัสไวกับเรื่องพวกนี้ แค่ขยับปราณนิดเดียว หากในสิ่งปลูกสร้างมียอดฝีมืออยู่ก็จะรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว
—
“รวยเละแล้ว!”
ตอนที่ทั้งสองคนค่อยๆ ปีนกำแพงอย่างระมัดระวัง ฉินเฟิ่งชิงก็กลืนน้ำลายเสียงดังจนฟางผิงได้ยิน ฟางผิงแทบอยากบีบคอเขาให้ตาย มีความรับผิดชอบหน่อยได้หรือเปล่า!
แต่ว่า…ฟางผิงก็อยากกลืนน้ำลายเช่นกัน
กลางกำแพงหินนั้นมีสวนสมุนไพรอยู่จริงๆ
“ผลหลัวเซิง ผลหลันเย่ หญ้าเลือดมรกต…”
ฟางผิงพึมพำในใจ สมุนไพรพวกนี้เป็นวัตถุดิบในการทำยาบำรุง ทั้งส่วนมากยังเป็นวัตถุดิบของยาบำรุงระดับกลาง
กวาดสายตาอย่างลวกๆ แล้ว อย่างน้อยมีสมุนไพรประมาณยี่สิบชนิด แต่ไม่ได้มีจำนวนมากมาย บางอย่างก็ปลูกแค่ต้นเดียว บางอย่างก็มีหลายต้น สรุปแล้วมีทั้งหมดกว่าร้อยต้น
นึกเชื่อมโยงไปถึงระหว่างทางที่ทั้งสองคนเดินมากลับไม่เจอสมุนไพรป่าเท่าไหร่
ฟางผิงคาดคะเนในใจว่าบางทีสมุนไพรพวกนี้ เจ้าของที่นี่อาจจะรวบรวบจากเขาหัวหมาป่ามาปลูกไว้ที่นี่
ผลหลัวเซิงหนึ่งอัน เมื่อก่อนมีมูลค่าหนึ่งร้อยคะแนน ทั้งวัดตามความเข้มข้นของพลังงาน ยังราคาสูงได้กว่านี้อีก
ตอนนี้มหาวิทยาลัยรับซื้อสมุนไพรด้วยราคาอีกเท่าตัว หมายความว่าอย่างต่ำก็สองร้อยคะแนน
สมุนไพรอื่นๆ ราคาไม่ต่างกันมาก
ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย หากมีมูลค่าทั้งหมด นั่นไม่ใช่ว่าจะเกือบสองหมื่นคะแนนหรอกเหรอ?
ไม่น่าล่ะฉินเฟิ่งชิงถึงบอกว่ากอบโกยได้ก้อนโต!
ฟางผิงเข้ามหาวิทยาลัยจนถึงวันนี้ รวมรางวัลทั้งหมดเข้าด้วยกันยังไม่เยอะขนาดนี้เลย
แม้จะไม่คำนวณมูลค่าหนึ่งเท่าตัว หมื่นกว่าคะแนนก็สูงอยู่ดี สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางแล้ว น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง
ฉินเฟิ่งชิงผลักฟางผิงเบาๆ บอกกล่าวเป็นนัย
ฟางผิงเข้าใจความหมายของเขา ฟางผิงขุดทางซ้าย เขาขุดทางขวา
ฟางผิงกวาดสายตามองแวบหนึ่ง สมุนไพรด้านซ้ายเหมือนจะมีน้อยกว่าหน่อย…แต่ไม่เป็นไร ประเด็นอยู่ที่มือต้องไว
ยังไงฉินเฟิ่งชิงก็เป็นคนพาเขามา ฟางผิงจะมีน้ำใจสักครั้ง พยักหน้าสื่อว่าตกลง
แน่นอนว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่ง ด้านขวาอยู่ใกล้กับประตูใหญ่ของตำหนักหินนั้นอยู่บ้าง ฟางผิงคิดว่าด้านซ้ายค่อนข้างดีกว่า
ทั้งสองคนหารือกันดีแล้ว เสี้ยวนาทีต่อมาก็ร่วงสู่พื้นเบาๆ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช้พลังปราณ แต่ก็ยังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ถลาไปใกล้กับสวนสมุนไพร
ผลปรากฏว่าเพิ่งเข้าไปใกล้ จู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น
ฉินเฟิ่งชิงหน้าเปลี่ยนสี เอ่ยทันที “อุปกรณ์เตือนภัย!”
“แม่ง ยังมีอันนี้ด้วย!”
“ฉันเป็นขโมยมือฉมัง…ยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย!”
ตอนนี้ทั้งสองคนสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว ทั้งไม่คิดชักช้า ฟางผิงควักกระสอบออกมานานแล้ว ใช้มือดึงอย่างว่องไว รวบหลายต้นขึ้นมาพร้อมกันยัดเข้าไปในกระสอบ
อีกด้านหนึ่งฉินเฟิ่งชิงก็เคลื่อนไหวทั้งสองมือ ดึงสมุนไพรยัดเข้าไปในเสื้อตัวเองอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในเวลานี้ด้านหลังของประตูใหญ่ก็เกิดเสียงดังและเสียงตะโกนแผ่กระจายออกมา
มีคนอย่างแน่นอน ทั้งไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย
พอคนเคลื่อนไหว ฟางผิงก็ใช้พลังจิตใจสัมผัสอนุภาคพลังงานทันที ระยะเริ่มเข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อยๆ
“คนจะมาแล้ว นายเร่งมือหน่อย!”
“ขั้นอะไร?”
“ไม่อ่อนแอ!”
ฟางผิงทำได้เพียงให้คำตอบแบบนี้ มีแค่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่งั้นช่วงเวลาสั้นๆ ยากที่จะแยกออกว่าแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ นอกจากว่าอีกฝ่ายจะระเบิดพลังเต็มที่
ครู่ต่อมาฟางผิงก็สีหน้าเปลี่ยน ตะโกนว่า “ย่าลี่ (ไป!)”
สิ้นเสียง ฟางผิงและฉินเฟิ่งชิงก็ทะยานตัวขึ้น หนีไปในอากาศ
ชั่วพริบตาที่พวกเขากระโดดขึ้นไป พื้นดินก็แตกกระจุยเป็นเสี่ยงๆ มียอดฝีมือลงมือแล้ว!
“%#¥% (จับพวกเขาไว้!)”
ในลานกว้าง ยอดฝีมือผมยาววัยกลางคนผู้หนึ่งตะโกนเสียงดัง ทะยานตัวขึ้นเช่นกัน ไล่ตามไปยังทิศทางที่ทั้งสองคนหนีไป!
ในเวลาเดียวกันด้านหลังก็มียอดฝีมือหลายคนพุ่งตัวออกจากประตูหิน ไล่ตามไปในอากาศ
ฟางผิงที่กำลังหนีหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย คนที่อยู่ด้านหน้าคือขั้นห้า ด้านหลังอีกหลายคนนั้นคือขั้นสี่ นึกไม่ถึงว่าสถานที่แบบนี้จะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางมากขนาดนี้
หากมีแค่พวกนี้ยังพอว่า กลัวก็แต่ว่าในนั้นยังมีคนอีก
ฟางผิงไม่ได้แยกหนีกับฉินเฟิ่งชิง ทั้งสองคนสบสายตากัน ฉินเฟิ่งชิงชี้ไปข้างหน้า ทำมือฟันฉับลงไป!
ฟางผิงพยักหน้า
หนีก่อน หนีไปไกลแล้วค่อยย้อนมาฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ไล่ตามมาพวกนี้