ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 303 ไม่ทันไรก็แยกกันซะแล้ว (1)
ตอนที่ 303 ไม่ทันไรก็แยกกันซะแล้ว (1)
วิ่งตะบึงไปตลอดทาง
ฟางผิงและฉินเฟิ่งชิงวิ่งด้วยความเร็วอย่างถึงที่สุด
รอจนวิ่งออกไปไกลกว่าสิบลี้ ยอดฝีมือขั้นห้าที่ไล่ตามมาคนนั้นและผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่หลายคนก็ถูกทิ้งห่างไปข้างหลัง
“ไอ้หนู วิ่งเร็วชะมัด!”
ฉินเฟิ่งชิงหอบหายใจเล็กน้อย วิ่งตัวปลิวมาไกลขนาดนี้ สะพานฟ้าดินทั้งห้าของเขายังไม่เสถียรดี ความเร็วของการฟื้นฟูจึงบกพร่องไปเล็กน้อย เริ่มเหนื่อยขึ้นมาบ้างแล้ว
ตอนนี้ทั้งสองคนไม่พูดภาษาถ้ำอีก
วิ่งมาไกลขนาดนี้ พลังปราณกระจัดกระจายไปทั่ว เว้นแต่ละขั้นห้าด้านหลังจะเป็นพวกปัญญาอ่อน ไม่งั้นคงรู้นานแล้วว่าพวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์
“เลิกพล่ามสักที ฆ่าได้หรือเปล่า?”
ฟางผิงไม่สนใจเขา นายก็ไม่ได้ช้าเลยเถอะ
“ฆ่า!”
ตอนที่ฉินเฟิ่งชิงทำอะไรเด็ดขาดก็ไม่ชักช้าเช่นกัน
สิ้นเสียงนั้นก็หมุนตัวฟาดดาบลงไปทันที!
‘วิ้ง!’
เสียงคำรามแผ่ดังออกมาจากความมืดไกลๆ
ดาบของฉินเฟิ่งชิงราวกับแหวกผ่านความมืด ชั่วพริบตากลับปรากฏขึ้นที่เอวของยอดฝีมือคนนั้น
ฟางผิงไม่ช้าเช่นกัน ดาบที่แบกไว้ข้างหลังถูกชักออกมาแล้ว กวาดดาบออกไปสกัดอีกฝ่ายพร้อมกับฉินเฟิ่งชิง
ท่ามกลางความมืด ยอดฝีมือวัยกลางคนที่ไล่ตามมาเผยสีหน้าเยือกเย็น แววตาปรากฏท่าทีดูแคลน
แตะเท้าบนอากาศ ก่อนยอดฝีมือคนนั้นจะหายไปจากที่เดิมในชั่วพริบตา ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเฟิ่งชิงแทน
ฉินเฟิ่งชิงไม่ตกใจแม้แต่น้อย เตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว ครู่ต่อมาฉินเฟิ่งชิงก็ถอยไปหนึ่งก้าว เข้าไปใกล้กับฟางผิง ไม่ได้ชักดาบกลับมา ยังคงฟันออกไปขวางที่เอว
‘ปัง!’
ยอดฝีมือวัยกลางคนชกหมัดออกไปพร้อมกัน ขจัดการโจมตีของทั้งสองคน ดาบสองเล่มต่างล่าถอยออกไป ฉินเฟิ่งชิงและฟางผิงกลับตาสว่างวาบขึ้นมา!
“ขั้นห้าตอนต้นไม่ก็ตอนกลาง!”
ทั้งสองคนคาดเดาออกมาทันที ฝีมือของอีกฝ่ายไม่นับว่าแข็งแกร่งจนเกินไป การโจมตีเมื่อครู่ของทั้งสองคนแค่หยั่งเชิงพลังของอีกฝ่ายเท่านั้น
ฉินเฟิ่งชิงแววตาคมปราดขึ้นมา กดเสียงว่า “กฎเดิม!”
สิ่งที่เรียกว่ากฎเดิมย่อมเป็นฟางผิงระเบิดพลังอย่างไร้ขีดจำกัด ส่วนเขาจะปลิดชีพแบบไม่ให้ตั้งตัว
“นายไหวหรือเปล่า?”
“ฝึกมาแค่ดาบเดียวเท่านั้น!”
ฉินเฟิ่งชิงตอบส่งๆ ต่อสู้ถ่วงเวลาเขาอาจไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่เคล็ดวิชาระดับสูงของเขา มีแค่ดาบนี้ดาบเดียวเท่านั้น!
หนึ่งดาบฟันออกไป ไปไม่กลับ!
หากศัตรูไม่ตายก็เป็นเขาที่ตาย
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาต้องลากอีกคนมาทำภารกิจด้วยให้ได้ มีเพื่อนเขาถึงจะมีเวลาให้ตัวเองได้ฟื้นฟูพลัง
ฟางผิงได้ยินแบบนี้ก็ไม่ถามอีก
ดาบคลั่งโลหิตเจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่งฟันแหวกอากาศออกไปทันที
ยอดฝีมือขั้นห้าที่อยู่ตรงข้ามหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย คำรามออกมาพร้อมพุ่งหมัดอย่างแรง โจมตีโดนหน้าดาบจนเกิดเสียงดังระลอกใหญ่
ชั่วพริบตานั้นหมัดของอีกฝ่ายก็โจมตีเจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่งของฟางผิงจนล่าถอยไป เคลื่อนไหวฝีเท้าเล็กน้อยก่อนจะปรากฏอยู่ด้านหน้าฟางผิง
ครู่ต่อมาหมัดที่เปี่ยมด้วยพลังก็เหวี่ยงมาหาหัวฟางผิง
หมัดยังไม่ทันเข้ามา คลื่นพลังงานกลับคล้ายกำลังฉีกทึ้งหัวของฟางผิงแล้ว
“เคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสูง!”
ฟางผิงแค่นเสียง หมัดซ้ายพุ่งออกไปเช่นกัน หมัดทั้งสองคนยังไม่ทันประสานกันก็มีเสียงดังขึ้นแล้ว
“คนจะมาแล้ว รีบหน่อย!”
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงถอยหลังไปหลายก้าว ยังไม่ได้ลงมือ เห็นแบบนั้นจึงตะโกน
ฟางผิงคำรามเบาๆ หมุนมือขวาที่ถือดาบ กลับไม่ได้ใช้โจมตี แต่เสียบเข้าไปในถุงดาบข้างหลังแทน
ดาบกวนอูมีขนาดใหญ่ ไม่มีปลอกดาบ แต่เพื่อความสะดวก ฟางผิงจึงให้คนทำถุงดาบจากหนังของปีศาจในถ้ำขึ้นมา ช่วงเวลาที่จำเป็นจะสามารถแบกดาบได้
เก็บดาบใหญ่แล้ว ฟางผิงแววตาคมกริบ ครู่ต่อมาก็ถลาเข้าไปหาอีกฝ่าย
หมัดทั้งสองข้างประกายแสงสีแดง ก่อนในชั่วพริบตาจะชกสลับออกไปกว่าสิบหมัดในครั้งเดียว
ยอดฝีมือวัยกลางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าคาดเดาได้ตั้งนานแล้ว ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนไม่ได้ฝีมือแข็งแกร่งนัก คงไม่ใช่ขั้นห้า จึงไม่คิดลังเลแม้แต่น้อย
ด้านหนึ่งก็แบ่งสมาธิระวังตัวจากฉินเฟิ่งชิงที่กำลังหาโอกาสโจมตี อีกด้านก็ชกหมัดโต้กลับฟางผิง อยากจะฆ่าฟางผิงในช่วงเวลาสั้นๆ
‘ปัง!’
เสียงปะทะของโลหะผสมดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง ฟางผิงกระเด็นตัวลอยออกไป มุมปากมีเลือดไหล
ตอนที่ยอดฝีมือวัยกลางคนเตรียมจะไล่ตามมาฆ่า ฟางผิงก็แตะเท้าในอากาศ ย้อนกลับไปอีกครั้ง ร้องคำรามก่อนจะชกหมัดออกไป
‘ปังๆๆๆ…’
ช่วงสั้นๆ ไม่กี่วินาที ฟางผิงก็ถูกอัดจนตัวลอยอีกครั้ง
ฉินเฟิ่งชิงเตรียมจะลงมือ จับดาบยาวไว้แน่นรอคอยจังหวะอยู่ตลอด ยอดฝีมือวัยกลางคนอยากจะฆ่าคนหนึ่งก่อนแล้วค่อยฟันอีกคน ฟางผิงกลับโจมตีเข้ามาอีกครั้ง
พลังจิตใจแกะตัวกันอย่างรวดเร็วกลายเป็นเข็มที่ไร้รูปร่าง ทิ่มแทงหัวของอีกฝ่ายทันที
ในปากกระอักเลือดเป็นเกาทัณฑ์ออกมา พุ่งเข้าหาดวงตาของอีกฝ่าย
ยอดฝีมือวัยกลางคนนึกไม่ถึงว่าผู้มาเยือนจะมีเคล็ดวิชาลับมากมายขนาดนี้ ไม่ว่าจะพลังจิตใจหรือวิชาเกาทัณฑ์เลือด ในสายตาเขาล้วนจัดอยู่ในประเภทเคล็ดวิชาลับ
พลังจิตใจถูกปล่อยข่มขวัญออกมา อีกฝ่ายตัวสั่นไหวเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น
เวลานี้เกาทัณฑ์เลือดพุ่งตามมา
ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดฝีมือขั้นห้า พลังจิตใจไม่อ่อนแออยู่แล้ว แม้จะถูกแช่แข็งไปครู่หนึ่ง แต่ยังคงมีแรงเหลือซัดเกาทัณฑ์เลือดจนพังพินาศ
เสี้ยวนาทีที่เขายกมือซัดเกาทัณฑ์เลือด ฟางผิงกลับโจมตีเข้ามาในเวลาเดียวกัน
‘ปัง!’
ครั้งนี้ฟางผิงใช้วิชาหมัดหมัวเหอ เขาไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาระดับสูงมาลึกล้ำเท่าไหร่ ฟางผิงไม่คิดจะฆ่าในกระบวนท่าเดียวเช่นกัน ระดมหมัดโจมตีทั่วร่างกายอีกฝ่ายไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยราวกับไม่มีคนอื่นอยู่อีกแล้ว
อีกฝ่ายทำลายเกาทัณฑ์เลือดแล้ว ครู่ต่อมากำลังจะโต้กลับ ฟางผิงก็ใช้พลังจิตใจทิ่งแทงสมองเขาอีกครั้ง
“รนหาที่ตาย!(ภาษาถ้ำ)”
ยอดฝีมือวัยกลางคนตะโกนอย่างโมโห เผยความน่าเกรงขามออกมา ทั่วร่างเต็มไปคลื่นพลังงานเข้มข้น ชั่วพริบตาก็ทลายพลังจิตใจที่โจมตีเข้ามาของฟางผิง
ในเวลานี้สองหมัดของฟางผิงโจมตีถูกร่างกายอีกฝ่ายหลายจุดเช่นกัน ชกจนอีกฝ่ายถอยไปหลายก้าว
แต่ชายวัยกลางคนเป็นยอดฝีมือขั้นห้า หลอมร่างกายจนถึงขีดจำกัดหนึ่งแล้ว อวัยวะตันและอวัยวะกลวงก็หลอมเสร็จสิ้นเช่นกัน ภายในร่างกายมีแค่อวัยวะภายในบางส่วนที่ยังไม่ได้หลอม แม้จะถูกโจมตีจนล่าถอยก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
ถอยหลังไปหลายก้าว อีกฝ่ายกำลังเตรียมจะโต้กลับ นึกไม่ถึงว่าพลังจิตใจที่ถูกซัดกระจัดกระจายเมื่อครู่จะรวบรวมกลายเป็นเข็มที่ไร้รูปร่าง ทิ่มแทงหัวของเขาอีกครั้ง!
ช่วงเวลาสั้นๆ อีกฝ่ายก็นิ่งค้างไป
เจอกับยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการงั้นเหรอ?
ไม่งั้นจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง!
เสี้ยววินาทีที่เขานิ่งไป ฉินเฟิ่งชิงที่หาจังหวะอยู่ตลอดก็ประกายสายตาราวกับเห็นแสงสว่างในความมืด
“สั่นสะเทือนเขาต่อ!”
ฉินเฟิ่งชิงตะโกนอย่างรวดเร็ว ครู่ต่อมาดาบยาวก็เปล่งแสงบาดตา ส่องสว่างจนกลายเป็นความอ้างเปล่า!
ฟางผิงไม่รับบทสนทนา ทั้งไม่มีเวลาด้วย
ใช้พลังจิตใจโจมตีอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน ปากกระอักเลือดออกมาเป็นเกาทัณฑ์เลือดใส่หัวของอีกฝ่ายอย่างไม่คิดชีวิต
ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ คอยมองดูฉินเฟิ่งชิงลงแรงคนเดียว
ถลาตัวอย่างว่องไว หมุนหมัดสองข้างโจมตีอีกฝ่ายอย่างรุนแรง ไม่ปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายหนีรอด!
ยอดฝีมือวัยกลางคนรับรู้ได้ถึงวิกฤต คำรามอย่างโมโห ทุ่มสุดกำลัง หมัดราวกับทะลวงผ่านอากาศซัดเข้าหาฟางผิง
‘เปรี้ยง!’
ฟางผิงกระเด็นตัวลอยออกไป ผิวบนหมัดขวาแตกจนเลือดกระจายไปทั่วทันที
ผิวหนังยังคงฉีกขาดไม่หยุดหย่อน ระเบิดจนขึ้นไปถึงแขนขวาด้านบน พลังนี้จึงค่อยหมดลง
เคล็ดวิชาระดับสูง พลังทะลวงผ่านร่างกาย หากเมื่อครู่ถูกโจมตีเข้าที่หน้าอก คงจะกระจายไปถึงอวัยวะภายในต่อ
แต่ปราณของฟางผิงนั้นแข็งแกร่ง ฟื้นฟูได้อย่างไม่ขาดสาย พลังของอีกฝ่ายเพียงพอแค่ระเบิดแขนขวาของเขาเท่านั้น หลังจากนั้นก็ดับวูบลง ถูกพลังปราณที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนตีกลับแทน