ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 308 เงินที่ใช้ไม่หมดทั้งชีวิต (1)
ตอนที่ 308 เงินที่ใช้ไม่หมดทั้งชีวิต (1)
เมืองความหวัง
ฝ่ายบริการของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
นับตั้งแต่ที่มหาวิทยาลัยได้รับสิทธิ์ในการขยายฐานการผลิต ภายในเมืองความหวังคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็สามารถเอาของรางวัลของตัวเองมาแลกเปลี่ยนกับทางมหาวิทยาลัยได้ ไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้ที่ส่วนใหญ่มอบให้หน่วยทหารจัดการแล้วส่งต่อให้หน่วยทหารและบริษัทยาบำรุงและอาวุธต่างๆ ก่อน ท้ายที่สุดถึงจะส่งให้มหาวิทยาลัย
ฝ่ายบริการเป็นห้องโถงที่ปรับปรุงตกแต่งใหม่ง่ายๆ กลายเป็นคลังสินค้าขนาดใหญ่
ฟางผิงเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก เข้ามาก็เอ่ยว่า “อาจารย์ อย่าขี้เหนียวเกินไปสิครับ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ไม่ได้มีตำแหน่งฐานะธรรมดา ในห้องโถงควรใส่โคมไฟพลังงานสักหน่อย อีกอย่างหน้าประตูก็ควรตกแต่งซะบ้าง กลับไปผมจะให้คนของสมาคมนำของเข้ามาตกแต่งที่นี่ ตู้เตียงโต๊ะเก้าอี้จะจัดการให้สมบูรณ์แบบ ไม่งั้นจะทำให้คนคิดว่าพวกเราตกอับได้”
เขาเพิ่งพูดจบ ในห้องโถงก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “ฟางผิง ไม่เจอตั้งนาน ตอนนี้นับวันก็ทำตัวสมเป็นประธานขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ”
ฟางผิงเงยหน้ามอง ก่อนจะเอ่ยด้วยความดีใจอยู่บ้าง “อาจารย์ไป๋ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”
ตอนนี้ไป๋รั่วซีนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะบริการ อมยิ้มว่า “อาการบาดเจ็บดีขึ้นมากแล้ว ฝ่ายบริการเปิดสาขาย่อย ทุกคนต่างกำลังยุ่ง ฉันเลยมารับหน้าที่นี้”
ก่อนหน้านี้ไป๋รั่วซีได้รับบาดเจ็บหนัก พักรักษาตัวอยู่นาน
จนถึงตอนนี้อวัยวะภายในยังไม่หายดี เห็นได้ชัดว่าตอนแรกอาการบาดเจ็บนั้นหนักถึงขนาดไหน
ฝ่ายบริการทางนี้ขาดคนพอดี ไม่อาจใช้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างได้ ตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางในมหาวิทยาลัยแทบไม่พอใช้งาน ไป๋รั่วซีที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายสนิทเลยต้องมารับหน้าที่นี้
เวลานั้นหลังกลับมาจากถ้ำใต้ดิน ไป๋รั่วซีก็เสียแขนซ้ายไป
ตอนนี้ฟางผิงจึงเหลือบมองไปแวบหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย “อาจารย์ครับ แขนซ้ายไม่มีวิธีต่อได้เลยเหรอครับ?”
ซุนหมิงอวี่จากมหาวิทยาลัยเป่ยเจียง ก่อนหน้านี้ถูกหานซวี่ฟันมือซ้ายขาดเช่นกัน ภายหลังกลับเชื่อมติดกันได้
ไป๋รั่วซีส่ายหน้าเบาๆ “ครั้งนั้นโกลาหลเกินไป ไม่สามารถหากลับมาได้”
เวลานั้นการทำสงครามในถ้ำอันตรายมาก เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ใครยังจะมีเวลาไปค้นหาแขนซ้ายที่ถูกฟันขาด
จุดนี้ไม่เหมือนกับซุนหมิงอวี่
ฟางผิงถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ขั้นแปดจะหลอมร่างทองใหม่อีกครั้งนี่ครับ? อาจารย์จะสามารถคืนกลับมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่าครับ?”
ไป๋รั่วซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจจะอย่างนั้น”
ยอดฝีมือร่างทองขั้นแปดสามารถปรับรูปร่างได้ใหม่อีกครั้ง แต่แม้ว่าจะอย่างนั้น สุดท้ายแล้วมีกี่คนกันที่จะสามารถฝึกไปถึงขั้นแปดได้?
ทั้งร่างทองขั้นแปด ไม่อาจสร้างแขนขึ้นมาโดยเปล่าๆ ได้ ถึงเวลานั้นต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรจำนวนมากเช่นกัน
แน่นอนว่าหากถึงขั้นแปดจริงๆ มีความคิดแบบนี้สามารถทำได้อยู่แล้ว
ไป๋รั่วซีไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ครั้งนี้พวกเธอได้รางวัลกลับมาไม่น้อย หาเงินได้อย่าลืมเลี้ยงข้าวด้วยล่ะ”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยทันที “แน่นอนครับ…”
ฟางผิงกลับเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “บนพื้นโลกนะครับ กลับไปเลี้ยงบนโลกได้ ที่นี่อาหารไม่อร่อย”
ไป๋รั่วซีเผยยิ้มเต็มใบหน้า เด็กคนนี้ยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน ตอนที่พูดเรื่องเงินนั้นหัวไวเป็นที่สุด
ระหว่างที่พูดกัน ชายชราอ้วนก็เดินเข้ามา
มองสัมภาระของทั้งสองคนแวบหนึ่ง ชายชราอ้วนขมวดคิ้วว่า “พลังงานเข้มข้นไม่น้อย พวกเธอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อย ไปล่อยอดฝีมือระดับสูงมาเจอกับเจี่ยวได้ยังไง”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรีบ อาจารย์จาง พวกเรากลับไปค่อยพูดกัน แลกเปลี่ยนของให้เสร็จก่อนเถอะครับ”
ชายชราอ้วนพยักหน้า ไม่ถามอีก
ครั้งนี้เด็กทั้งสองคนได้อะไรกลับมา อันที่จริงเขาสนใจไม่น้อย
ไม่ใช่แค่เขา คนอื่นๆ ออกไปข้างนอก สัมภาระยังบรรจุได้ไม่เต็มด้วยซ้ำ พวกฟางผิงกลับแบกกลับมาหลายร้อยจิน คนที่สนใจนั้นมีไม่น้อย
ตอนนี้ยอดฝีมือบางส่วนทยอยเข้ามาดูความครึกครื้นเช่นกัน
ฟางผิงระแวดระวังอยู่บ้าง ไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สินออกมา คนพวกนี้เข้ามาทำไมกัน?
สวี่โม่ฟู่ที่เดินเข้ามาเห็นท่าทีของเขาก็เอ่ยหยอกว่า “แลกเปลี่ยนซะสิ!”
คิดว่าพวกเราว่างจนมาที่นี่เหรอไง กระเป๋าสัมภาระใหญ่ของฉินเฟิ่งชิงเห็นเป็นขอบเป็นมุม เหมือนจะเป็นหนังสือของถ้ำใต้ดิน ดังนั้นเขาเลยมาดูสักหน่อย
ยิ่งไปกว่านั้นใครจะกล้าวางแผนกับสองคนนี้สุ่มสี่สุ่มห้ากัน?
ผู้อ่อนแอนับว่ารนหาที่ตาย ผู้แข็งแกร่งย่อมไม่สนใจเรื่องพวกนี้
ฉินเฟิ่งชิงกลับไม่ใส่ใจมาก เริ่มควักรางวัลที่ตัวเองได้ออกมา อันดับแรกเป็นพวกสมุนไพร ต่อด้วยหินพลังงานบางส่วน จากนั้นก็เป็นของจุกจิกทั่วไป อย่างเช่นโคมไฟพลังงานที่ถูกบีบอัดแล้ว
“ผลหลัวเซิง ดอกเทียนชิง หญ้าหลันเย่…”
ไป๋รั่วซีตรวจสอบอย่างละเอียดทีละอัน เอ่ยด้วยความตกตะลึงอยู่บ้าง “พวกเธอไปที่ไหนกันมา?”
ถ้ำใต้ดินมีสมุนไพร แต่ไม่ได้กระจายอยู่ที่เดียวกัน
ทั้งของที่อยู่รอบนอกถ้ำใต้ดินก็ถูกคนเก็บไปหมแล้ว ไปเอาสมุนไพรเยอะขนาดนี้จากที่ไหนมากัน
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆ ว่า “แค่สวนสมุนไพรของผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงคนหนึ่งน่ะครับ…”
ทุกคนที่อยู่ด้านข้างต่างหน้าเปลี่ยนสีอยู่บ้าง ไปกวาดรังผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงมาจริงๆ?
ไป๋รั่วซีไม่ได้ถามต่อ คำนวณอยู่พักหนึ่ง เอ่ยว่า “สมุนไพรมีสามสิบเจ็ดต้น แต่มีบางต้นอายุยังไม่ครบเกณฑ์ แถมเธอยัดเข้าด้วยกันอย่างลวกๆ บางต้นได้รับความเสียหาย…”
“อาจารย์ คุณคงไม่คิดจะหักคะแนนผมหรอกนะครับ?”
ฉินเฟิ่งชิงอ่อนไหวต่อเรื่องพวกนี้มาก ผมจนขนาดนี้ คุณยังจะหักผมอีก?
ไป๋รั่วซีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สรุปผลอยู่พักใหญ่ เอ่ยขึ้นว่า “สมุนไพรห้าพันคะแนน”
“เยอะ…ไม่สิ น้อยขนาดนี้เลย!”
ฉินเฟิ่งชิงดีใจเป็นอันดับแรก ก่อนจะเสียงดังว่า “เฉลี่ยต้นละสองร้อยคะแนนก็ควรจะเจ็ดพันคะแนนขึ้นไปสิครับ!”
“อายุไม่ถึงเกณฑ์ บางต้นก็ใช้ได้แค่เป็นส่วนประกอบของยาบำรุงระดับล่างเท่านั้น” ไป๋รั่วซีอธิบาย “อีกอย่าง เธอเก็บรักษาไม่ค่อยดี พลังงานสูญเสียออกไป…”
“ตอนนั้นอับจนหนทางจริงๆ ผมคงไม่อาจพกกล่องที่บรรจุสมุนไพรเป็นร้อยไปด้วยได้หรอกมั้งครับ”
ฉินเฟิ่งชิงบ่นอุบอิบ ไม่ได้พูดอะไรอีก
ไป๋รั่วซีตรวจสอบต่อ ผ่านไปสักพักก็เอ่ยว่า “หินพลังงานไม่ได้ขึ้นราคา ของเธอนั้นแปดร้อยคะแนน”
ครั้งนี้ฉินเฟิ่งชิงไม่คิดโต้แย้ง ทำแค่มองไปทางฟางผิงอย่างหงุดหงิดอยู่บ้าง
หมอนี้ตอนที่ป้อนอาหารเจี่ยว เอาหินพลังงานของเขาไปไม่น้อย
“อาวุธ…ส่วนมากเป็นระดับ E และ D สองร้อยคะแนน”
“ข้าวของอย่างอื่นห้าร้อยคะแนน”
“สรุปทั้งหมดแล้วหกพันห้าร้อยคะแนน”
ฉินเฟิ่งชิงทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจเพราะเขาไม่เคยได้รางวัลเยอะขนาดนี้มาก่อน แม้จะเป็นครั้งก่อนที่มากับหวังจินหยาง เสียเวลาไปตั้งมากมายก็ได้แค่สามพันกว่าคะแนนเท่านั้น
ส่วนเสียใจก็เพราะว่าเจ้าฟางผิงต้องได้เยอะกว่าเขาแน่นอน!
แต่ตระหนักได้ว่าในกระเป๋าของตัวเองยังมีหนังสือนับร้อยเล่ม ฉินเฟิ่งชิงก็ไม่ร้อนใจอีก
ของพวกนี้น่าจะมีมูลค่า
แต่ตอนนี้เขายังไม่รีบร้อนควักออกมา ดูรางวัลของฟางผิงก่อนค่อยว่ากัน
ไป๋รั่วซีกลับถามว่า “ในกระเป๋าของเธอยังมีของอีกเยอะ ไม่แลกเปลี่ยนหรือไง?”
“เดี๋ยวค่อยแลกครับ”
ฉินเฟิ่งชิงมองไปทางฟางผิง “นายเอาของนายออกมาดูสิ มีมูลค่าเท่าไหร่”
ฟางผิงไม่ชักช้าเช่นกัน ไม่นานก็ควักสมุนไพรจำนวนมากออกมาจากกระสอบ ยังมีอาวุธและเครื่องประดับอีกไม่น้อย จากนั้นก็ควักหินพลังงานออกมาจากกระเป๋าทหาร เยอะยิ่งกว่าฉินเฟิ่งชิงซะอีก
ตอนนี้ยอดฝีมือขั้นห้าขั้นหกบางส่วนที่อยู่ตรงนั้นต่างตาลุกวาวอยู่บ้าง
ไอ้หนูสองคนนี่ ครั้งนี้กอบโกยได้เยอะจริงๆ
“สมุนไพรทั้งหมดห้าสิบสองต้น…”
ฟางผิงเอ่ยไปตรงๆ “ผมเก็บรักษาดีกว่าฉินเฟิ่งชิง อย่างน้อยต้องหนึ่งหมื่นคะแนนนะครับ!”
ไป๋รั่วซียิ้มเจื่อนอีกครั้ง เอ่ยอย่างจนใจ “แปดพันคะแนนมากสุดแล้วฟางผิง นี่ไม่ใช่ธุรกิจของอาจารย์เอง”
นี่เป็นจุดแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เธอไม่มีสิทธิ์ขึ้นราคาให้ได้
ชายชราอ้วนกระแอมไอออกมาเช่นกัน “ฟางผิง อย่าสร้างความลำบากใจให้อาจารย์ไป๋”
ฟางผิงอับจนหนทาง เอ่ยอย่างยอมรับชะตากรรม “งั้นแปดพันคะแนนก็ได้ครับ”
“หินพลังงาน…สองพันคะแนน”
“ครับ”
“อาวุธ โลหะผสม ข้าวของต่างๆ คำนวณเป็นสามพันคะแนน”
“รวมทั้งหมดหนึ่งหมื่นสามพันคะแนน”
ฟางผิงยังไม่ทันอ้าปาก ฉินเฟิ่งชิงดวงตาเขียวคล้ำไปก่อนแล้ว!
เขาออกแรงเท่าฟางผิง วิ่งหนีมาตลอดทางเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าได้รางวัลมาแค่ครึ่งหนึ่งของฟางผิงเท่านั้น!
นี่มันฟังขึ้นที่ไหนกัน!
แต่ฟางผิงยังไม่จบแค่นั้น ควักหัวใจพลังงานออกมา
ฉินเฟิ่งชิงสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง แม่งเหอะ ลืมเรื่องนี้ไปเลย
คนอื่นต่างสีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน ชายชราอ้วนมองอยู่พักหนึ่ง เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเธอฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้า?”
ของสิ่งนี้ไม่อาจทำของปลอมขึ้นมาได้
ฟางผิงพยักหน้า ไม่ได้พูดมากความ เวลานี้เงินสำคัญที่สุด
“อาจารย์ ขั้นสี่สี่ดวง ขั้นห้าหนึ่งดวงเป็นกี่คะแนนครับ?”
ไป๋รั่วซีมองอยู่พักหนึ่ง “พลังงานของขั้นสี่ตอนต้นและตอนกลางมีความบริสุทธิ์น้อย ราคาไม่สูง ตอนปลายห้าร้อยคะแนน ขั้นสูงสุดหกร้อยคะแนน ขั้นห้าตอนต้นแปดร้อยคะแนน ตอนกลางหนึ่งพันคะแนน ของเธอมีขั้นสี่ตอนต้นและตอนกลางสองดวง ตอนปลายสองดวง ขั้นห้าก็มีแค่ตอนต้น นับเป็นสองพันคะแนนแล้วกัน”
“ขั้นสี่ตอนต้นและตอนกลางหนึ่งดวงแค่หนึ่งร้อยคะแนนเหรอครับ?”
ฟางผิงมองฉินเฟิ่งชิงแวบหนึ่ง ครั้งก่อนหมอนี่บอกว่าสามร้อยคะแนนไม่ใช่หรือไง?
ครั้งก่อนคนที่พวกเขาฆ่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ตอนต้นและตอนกลางทั้งหมด