ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 316-2 รอคุณทะลวงด่านแล้ว ผมจะมาเป็นอธิการบดี (2)
- Home
- ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน
- ตอนที่ 316-2 รอคุณทะลวงด่านแล้ว ผมจะมาเป็นอธิการบดี (2)
ตอนที่ 316 รอคุณทะลวงด่านแล้ว ผมจะมาเป็นอธิการบดี (2)
วันที่ 13 ตุลาคม
ฝ่ายบริการ
ตาเฒ่าหลี่สูบยาเส้น เอ่ยอย่างคลุมเครือว่า “เธอคิดจะกลับหนานเจียง?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เปล่าสักหน่อย ผมจะกลับหนานเจียงไปทำไม ผู้ว่าการมณฑลอาจะไม่แข็งแกร่งเท่าอธิการบดีมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เสมอไป ยังไม่สู้อยู่ที่นี่ ถือโอกาสรับช่วงต่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไปด้วย ตอนนี้ผมมองเซี่ยงไฮ้เป็นอาณาเขตของตัวเองแล้ว”
ตาเฒ่าหลี่หัวเราะ ไอ้หนูนี้บ้าระห่ำดีจริงๆ
เธอเพิ่งจะปีสองก็คิดจะคุมอำนาจในมหาวิทยาลัยแล้ว?
ฟางผิงราวกับรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เวลานั้นอธิการเฒ่าเข้าเรียนได้ไม่นานก็รับช่วงต่อมหาวิทยาลัยแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“งั้นเธอก็ต้องรอเหล่าอู๋ตายในสนามรบก่อน”
ตาเฒ่าหลี่หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะเอ่ยว่า “ไม่สิ ยังต้องรอไอ้หงอกหวงนั่นตายในสนามรบอีกคน สองคนนี้ตายแล้ว เธอก็รับช่วงต่อได้ไม่มีปัญหาแล้ว”
ฟางผิงกระแอมไอเบาๆ เอ่ยกระอักกระอ่วนว่า “ดูคุณพูดเข้า ผมไม่ได้เป็นคนพูดนะ ถ้าถูกใครได้ยิน นั่นเป็นเรื่องของคุณแล้ว”
“เชอะ ฉันกลัวพวกเขาหรือไง?”
ช่วงนี้ตาเฒ่าหลี่อวดดีไม่น้อย แค่นเสียงอย่างดูแคลน กลับไม่พูดอะไรอีก หากไอ้แก่พวกนั้นแอบฟังอยู่ นั่นก็ไม่ดีแล้ว
ไม่พูดประเด็นนี้ต่อ ตาเฒ่าหลี่เคาะปล้องยาเส้นกับโต๊ะ เว้นช่วงไปเล็กน้อย “การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ยังดำเนินอยู่ การแข่งขันแลกเปลี่ยนแต่ละพื้นที่กำลังขยายไปทั่ว เธอกลัวเรื่องเยอะไม่พอหรือไง ยังจะมีเวลาว่างไปกวาดรังพวกนอกรีตอีก? แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองไม่กี่คนเท่านั้น ใช้คนอื่นไปไม่ได้หรือไง จำเป็นจะต้องไปด้วยตัวเอง?”
“ไม่ได้วางแผนจะกลับหนานเจียงรับตำแหน่ง แต่ไปนัดพบกับจางอวี่เฉียง ปรึกษาเรื่องขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อถ้ำใต้ดินอุบัติหรือไง? ฟางผิง อย่าฟังคำยุยงของคนอื่น ตอนนี้เธอยังไม่มีคุณสมบัติพอ ทั้งไม่มีความสามารถจะรับภาระด้วยตัวคนเดียว เธอคิดว่าตัวเองสำคัญมาก ในความเป็นจริงกลับไม่ได้สลักสำคัญอะไร อยู่อย่างสงบเสงี่ยมในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดีกว่า รอเรียนจบแล้ว ตาเฒ่าจะไม่ยุ่งกับเธออีก”
ฟางผิงยิ้มบางๆ “ผมไม่เคยเห็นตัวเองเป็นบุคคลสำคัญอะไรหรอกครับที่พอไม่มีผมแล้วโลกจะถูกทำลายอะไรประมาณนั้น ผมรู้จักความเหมาะสมของตัวเองดี กวาดล้างรังระดับสูง สนิทชิดเชื้อกับราชาสัตว์ประหลาดขั้นแปดอะไรนั่นล้วนเป็นชื่อเสียงจอมปลอมทั้งนั้น…”
ตาเฒ่าหลี่กลอกตา แม่งเหอะ ขี้โม้คุยโวต่อหน้าตาเฒ่าเหมาะสมหรือไง?
“เรื่องรนหาที่ตาย ผมไม่ทำหรอก พวกผู้ว่าจางจากหนานเจียงอาจจะไม่เห็นชีวิตเล็กๆ ของผมสลักสำคัญเสมอไป ปรมาจารย์ยอดฝีมือพวกนี้คิดยังไง ผมไม่รู้ คิดเพื่อส่วนรวมก็ดี ส่วนตัวก็ช่าง อันที่จริงผมไม่อยากให้หนานเจียงเกิดปัญหาอะไร ยังไงรุ่ยอันก็ใกล้กับหยางเฉิงเกินไป ผมใช้ชีวิตที่นั่นมาหลายปี บรรพบุรุษของผมต่างอาศัยอยู่ทางนั้น ผู้ว่าจางคิดยังไง ไม่จำเป็นต้องสนใจ ชีวิตนั้นยังต้องพึ่งตัวเอง ครั้งนี้ผมเชิญรุ่นพี่เถียนมู่ขั้นแปด ผู้เฒ่าโค่ว โค่วเปียนเจียงขั้นแปด อธิการเฉิน เฉินเย่าถิงขั้นเจ็ด อธิการหลิวพั่วหลู่ขั้นเจ็ด รวมทั้งหมดเป็นระดับสูงสี่คนแอบคุ้มครองผมอยู่ลับๆ ตาเฒ่าหลี่ นี่ถ้าผมยังตายอีก งั้นโชคคงไม่ดีเอามากๆ แล้ว ครั้งนี้ไม่ตาย ครั้งหน้าก็ตายอยู่ดี”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”
ตาเฒ่าหลี่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหิ้วตัวฟางผิง เตะก้นเขาไปอย่างแรงทีหนึ่ง!
“แม่งเหอะ เจ้าคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ตอนนี้ปีกกล้าขาแข็งขึ้นมาแล้ว? คิดว่าตัวเองเชิญปรมาจารย์มาได้? มาเรียกฉันว่าตาเฒ่าหลี่? ไอ้เวรตะไล!”
ระหว่างที่ตาเฒ่าหลี่พูดยังคงขุ่นเคืองไม่หาย หยิบปล้องยาสูบมาเคาะที่หัวฟางผิงอีกครั้ง
ฟางผิงถูกทุบราวกับตอกเสาเข็ม คอนั้นหดไปกว่าหนึ่งช่วง
เขาเผยสีหน้าจนใจ เอ่ยอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “คุณจะเรียกผมว่าตาเฒ่าฟางก็ได้ ผมไม่ถือสา…”
“ไสหัวไปเลย!”
ตาเฒ่าหลี่เตะเขาไปกลางอากาศทันที เวลานี้ค่อยสงบจิตใจลงได้
รอฟางผิงร่วงลงมาแล้ว ตาเฒ่าหลี่จึงยกปล้องยาเส้นมาสูบต่อ “ก็รู้อยู่ว่าเธอไม่ใช่คนที่รนหาที่ตาย ปรมาจารย์สี่คนน่าจะไม่มีปัญหา ไปเกลี้ยกล่อมพวกเขายังไง? ขั้นแปดสองคนนั่งรักษาการณ์ที่ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ไม่ได้เชิญออกมาง่ายๆ”
“ไม่ยาก ผมบอกว่าหากผมยังไม่ตาย พวกเขาตายไปแล้ว หลังจากนี้ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขามาเรียนที่เซี่ยงไฮ้ ผมจะดูแลให้ รุ่นพี่เถียนลูกชายลูกสาวตายไปแล้ว ยังมีหลานอีกหลายคน คนแก่แล้วย่อมต้องนึกถึงคนรุ่นหลัง ทางอธิการหลิว อันที่จริงตอนแรกความต้องการของผู้ว่าจางคือให้ผู้เฒ่าหลิวออกหน้า แต่ผู้เฒ่าหลิวอยู่ขั้นเจ็ด…แค่กๆ ไม่ได้มีความหมายจะดูแคลนเขา แต่จางติ้งหนานตาเฒ่าคนนั้นไม่ได้ใสสะอาดเท่าไหร่ เชื่อเขา ผมมีโอกาสตายสูง! ส่วนอธิการเฉิน ผมบอกว่าถ้าไม่ช่วยผม ผมจะให้เฉินอวิ๋นซีไปท้าประลองที่จิงหนานทั้งปี ตาเฒ่าตอบรับอย่างรวดเร็ว อันที่จริงก่อนหน้านี้ผมยังเชิญรุ่นพี่อู๋ชวน แต่รุ่นพี่อู๋เลือดเย็นเกินไป ให้ตายยังไงก็ไม่ยินยอม ภายหลังพวกรุ่นพี่เถียนตอบรับผม นึกไม่ถึงว่ารุ่นพี่อู๋จะอัดผม คุณว่าคนแบบนี้ยังมีคุณธรรมอยู่หรือเปล่า?”
“เหลวไหล!”
ตาเฒ่าหลี่ด่าออกมา หากเชิญอู๋ชวนออกมาได้จริงๆ งั้นถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้ก็รอถูกโจมตีเถอะ
เชิญยอดฝีมือขั้นแปดสองคนออกไป อู๋ชวนไม่ได้ซ้อมเขาตายถือเป็นเรื่องดีแล้ว
เถียนมู่และโค่วเปียนเจียงตอบรับก็เหนือความคาดหมายของตาเฒ่าหลี่แล้ว
ส่วนเรื่องช่วยดูแลลูกหลานพวกเขาที่ฟางผิงพูดถึงนั้น…ดูแลหาปู่แกสิ ตาเฒ่าสองคนนั่นยังมีชีวิตอยู่ เธอกล้ารังแกถึงทายาทพวกเขาแล้ว?
ยอดฝีมือขั้นแปดบ้าคลั่งขึ้นมา ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงเอาไม่อยู่
“รู้แก่ใจแล้วก็ดี เธอยังอายุน้อย…” ตาเฒ่าหลี่สูบยาเส้น ก่อนจะเคาะปล้องยาอีกครั้ง ถอนหายใจว่า “คนแก่อย่างพวกเราตายไปก็ไม่เป็นไร พวกเธอยังต้องอยู่อีกหลายปี หวังว่าในอนาคตพวกเธอจะเผากระดาษเงินกระดาษทองให้พวกเราบ้างเท่านั้น ครั้งนี้เสร็จสิ้น เธอลงแรงในสิ่งที่ควรลงแรงแล้ว ต่อจากนี้ถ้ำใต้ดินหนานเจียงอุบัติขึ้น อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้สนับสนุนอีก เข้าใจหรือยัง?”
“อืม ผมเข้าใจแล้ว”
“ใช่สิ…” จู่ๆ ตาเฒ่าหลี่ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตาแก่ไม่มีลูกไม่มีหลานโดยตรง แต่ฉันยังมีหลานสาวของพวกพี่น้องคนหนึ่ง พรสวรรค์ไม่เลว จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกสองปี มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องรับเป็นกรณีพิเศษ เข้าใจหรือเปล่า?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างหมดคำพูด “เรื่องนี้คุณทำเองก็ได้ จำเป็นต้องให้ผมใช้เส้นด้วยหรือไง?”
“ตาแก่พอใจแบบนี้ ฉันเป็นวีรบุรุษมาทั้งชีวิต จะให้แบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่ได้ยังไง เธอแบกหม้อนี้ไปแล้วกัน!”
ฟางผิงหมดคำจะพูดอีกครั้ง สรุปแล้วชื่อเสียงของผมไม่มีค่าเลยซะงั้น?
ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดเรื่องนี้อีก สุดท้ายจึงเอ่ยว่า “อีกไม่กี่วันฉันจะเข้าด่าน เธออยากแลกเปลี่ยนอะไรก็แลกตอนนี้ ถือโอกาสตอนที่ฉันยังอยู่ ลดราคาเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอ ผ่านด่านแล้วอาจจะไม่มีร้านค้าอีกก็ได้”
“ลดราคา?”
ฟางผิงตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยว่า “คุณจะทะลวงเป็นปรมาจารย์?”
“เหอะๆ ลองทายดูสิ?”
“จริงหรือเปล่า?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าดีใจ “ถ้าคุณทะลวงด่าน อาจารย์ผมทะลวงอีกคน ให้ตายเถอะ หลังจากนี้ที่พึ่งของผมก็มีเยอะแล้ว พวกเราบังคับปลดอธิการอู๋ออกจากตำแหน่ง ให้ผมเป็นอธิการแทน คุณว่ามีหวังหรือเปล่า?”
“ไสหัวไปเลย!”
ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดพร่ำทำเพลง ด่าออกไปแล้วก็เตะฟางผิงออกไปจากฝ่ายบริการทันที
เด็กเวรนี่คิดอะไรอยู่กัน?
—
“ผม…ผมยังไม่ได้แลกของเลย!”
ฝ่ายบริการด้านนอก ฟางผิงไร้คำจะพูด
บอกแล้วว่าจะลดราคาให้ผม?
ไม่มีแล้ว?
แต่มาคิดดู ตอนนี้เหมือนตัวเองจะไม่ต้องการแลกอะไร ดาบยาวระดับ B สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่อย่างเขาถือว่ามากเกินพอแล้ว
ทั้งจางติ้งหนานยังบอกว่าจะเอาดาบระดับ A ที่ทำขึ้นพิเศษให้เขา
เกราะหนังขั้นห้าตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว
ส่วนเกราะหนังขั้นหก คนที่ฆ่าฟางผิงได้คงไม่สนใจเกราะ ส่วนคนที่ฆ่าฟางผิงไม่ตาย เกราะหนังขั้นห้าก็คงต้านไหวแล้ว
“ครั้งหน้าค่อยมาดู อาจจะต้องตุนยาฟื้นคืนชีวิตสักโหลหนึ่ง ของพวกนี้ได้ใช้อยู่ตลอด”
ฟางผิงพึมพำ ไม่เข้าไปอีก หมุนตัวกลับไปหอพัก ขั้นสี่ตอนปลายได้เห็นกันคืนนี้แหละ