ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 331 เส้นทางแห่งการปกป้องตำแหน่ง (1)
ตอนที่ 331 เส้นทางแห่งการปกป้องตำแหน่ง (1)
เขตทางใต้ ริมชายหาด
สองชั่วโมงผ่านไป!
ฟางผิงหลอมกระดูกหูหกชิ้นเสร็จสิ้นแล้ว
ตอนนี้ฟางผิงเหมือนจะพบเจอความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาเล็กน้อย
หูของเขาโปร่งใสขึ้น เส้นเลือดภายในใบหูบางส่วนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
หากเงี่ยหูฟังใกล้ๆ อย่างละเอียด ถึงกระทั่งสามารถได้ยินถึงการไหลเวียนของเลือด
ค่าทรัพย์สิน : 956,000,000
ปราณ : 2300 (2700 แคล+)
จิตใจ : 672 เฮิรตซ์ (699 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 6 ชิ้น (90%) , 23 ชิ้น (30%+)
ช่องเก็บของ : 1 ลูกบาศก์เมตร
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่น/นาที
“ขีดจำกัดปราณเพิ่มขึ้นอีกสามร้อยแคลแล้ว!”
ฟางผิงตาเป็นประกาย นี่ไม่ใช่น้อยๆ เลย!
“แค่กระดูกหูเท่านั้น ถ้าหลอมกระดูกอื่นๆ…”
แม้ฟางผิงจะพูดแบบนั้น กลับไม่กล้าหลอมต่อ
ตอนที่หลอมกระดูกหูเสร็จสิ้น ฟางผิงก็รับรู้ถึงวิกฤตขึ้นมาอย่างเลือนราง หากทำต่อ มีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันกับสมอง
“เพิ่มขีดจำกัดของปราณต่อดีกว่า ฉันกลับอยากเห็นว่าตกลงจะสามารถเพิ่มได้เท่าไหร่!”
ฟางผิงไม่คิดหยุดพัก นั่งสมาธิต่อ เริ่มเพิ่มขีดจำกัดของปราณอีกครั้ง
—
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง
ตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ค่าทรัพย์สิน : 953,010,000
ปราณ : 2300 แคล (2999 แคล)
จิตใจ : 672 เฮิรตซ์ (699 เฮิรตซ์)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่น/นาที
ฟางผิงแทบไม่คิดลังเล เห็นเศษหนึ่งหมื่นขัดหูขัดตา ไม่นานก็เพิ่มพลังจิตใจขึ้นอีกสิบเฮิรตซ์
เขาหยัดกายขึ้นเดินออกไปหนึ่งก้าว หินก้อนใหญ่ที่เพิ่งนั่งตะกี้ถูกเขาเหยียบแตกในชั่วพริบตา!
“เสียการควบคุมอยู่เล็กน้อย”
“ทำความคุ้นชินสักสองวันก็น่าพอแล้ว แต่ยังดีกว่าครั้งก่อนเยอะ ครั้งก่อนหลักๆ เป็นเพราะเพิ่มพลังจิตใจมากเกินไป ทำให้ฉันเกิดปัญหา ปราณที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นไม่เกิดปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
“ปราณเกือบสามพันแคล พลังจิตใจเจ็ดร้อยเฮิตรซ์ หมายความว่าร่างกายของฉันแข็งแกร่งจนถึงขั้นไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสี่แล้ว ปราณ พลังจิตใจ ร่างกาย กระดูก…เรื่องพวกนี้ ฉันแข็งแกร่งจนถึงขีดจำกัดหนึ่งแล้ว ถึงกระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าบางส่วนยังสู้ฉันไม่ได้ หากมีความก้าวหน้าด้านเคล็ดวิชาต่อสู้ ขั้นสี่คงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ฉันได้? พรสวรรค์? ฉันคนนี้แหละที่มีพรสวรรค์มากที่สุด!”
“ฝึกดาบพิชิตสวรรค์เป็นหลัก หมัดหมัวเหอเป็นรอง นอกจากนี้ต้องฝึกการเคลื่อนไหวในอากาศให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น”
ฟางผิงวางแผนให้ตัวเองแล้ว วิชาดาบพิชิตสวรรค์ใช้คู่กับดาบผิงล่วนจะสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้มากที่สุด
แต่ไม่อาจออกดาบอย่างส่งเดชได้ สู้กับผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป ไม่ทันชักออกมาก็คงฆ่าคนตายแล้ว
สู้กับอัจฉริยะพวกนั้น หากแรงกดดันไม่มากพอก็ไม่จำเป็นต้องออกดาบ
แต่เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจนไม่อาจเทียบได้ค่อยชักดาบสู้จนเขาต้องร้องอ้อนวอน
ลูบหูเล็กน้อย เสียงดังชัดขึ้นจริงๆ หวังว่าจะปรับตัวได้เร็วๆ นี้ จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงที่ไม่จำเป็น
—
วันที่ 14 พฤศจิกายน การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเข้าสู่สามอันดับแรกแล้ว
ถังเหวินเป็นหนึ่งในนั้น ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เพียงคนเดียวที่เข้าสู่สามอันดับแรกได้
กู้หลงเฟยหยุดอยู่ที่อันดับแปด โจวเย่าจู่อยู่ที่อันดับหก
มีแค่ถังเหวินที่ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งห้าวหาญขึ้นเรื่อยๆ ทะลวงเข้าไปในสามอันดับแรก
ฟางผิงไม่ได้โผล่หน้าออกมา แต่ให้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์แพร่ข่าวว่าผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เข้าสู่สามอันดับแรกของขั้นหนึ่งไม่ได้ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง
ไม่ได้บอกว่าผลที่ตามมาคืออะไร แต่ประโยคที่ว่าให้ยอมรับผลด้วยตัวเอง ยิ่งทำให้ทุกคนกดดันอย่างหนัก
กู้หลงเฟยและโจวเย่าจู่พ่ายแพ้ติดต่อกัน เหลือแค่ถังเหวินเพียงคนเดียว ทั้งมหาวิทยาลัยต่างจับตามองเธอ เวลานี้ถังเหวินรู้ว่าถ้าตัวเองแพ้ นั่นเป็นปัญหาใหญ่แล้ว
พ่อของเธอบอกว่าเธอจะแพ้ไม่ได้เหมือนกัน!
หากแพ้ ไม่ใช่แค่เธอที่จะซวย แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งทั้งมหาวิทยาลัยจะซวยด้วยกันหมด
ถึงกระทั่งไม่ใช่แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง ตอนนี้ฟางผิงกระหายจะสร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เขาทนเห็นความพ่ายแพ้ไม่ได้ ไม่ใช่แค่สงครามของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง รวมถึงการแข่งขันแลกเปลี่ยนต่อจากนี้ด้วย ฟางผิงจะพยายามไม่ให้แพ้เด็ดขาด
ช่วงนี้ฟางผิงเก็บตัวฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมกับการแข่งขันแลกเปลี่ยน เห็นได้ชัดว่ายังคงกดดันไม่น้อย
หากถังเหวินแพ้ ฟางผิงอาจจะไม่อะไร แต่ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะยิ่งมีแรงกดดันขึ้นไปอีก
ตั้งแต่อธิการเฒ่าตายในสนามรบ ราวกับว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้นั้นนอกจากไม่ถดถอยแล้ว ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับทุกการกระทำของฟางผิง
เขาพยายามสร้างภาพจำลองอย่างหนึ่งขึ้นมา มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้นั้นแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน อธิการเฒ่าตายแล้วก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร
มหาวิทยาลัยได้รับทรัพยากรมากกว่าเมื่อก่อน พวกนักศึกษามีความสามารถขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้หากเกิดความล้มเหลวขึ้นมา บางทีอาจจะสร้างผลกระทบที่ร้ายแรง เรื่องราวที่อธิการเฒ่าและอาจารย์จำนวนมากตายในสงครามจะทยอยเกิดผลสะท้อนขึ้นมา ถังเหวินที่มีแรงกระตุ้นและแรงกดดัน ยิ่งต่อสู้จึงยิ่งกล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ สู้จนได้ฉายาราชสีห์คลั่งน้อยออกมา
—
วันที่ 15 พฤศจิกายน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงลงสนามเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้เจอกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเป่ยเหอ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเป่ยเหอเป็นแค่มหาวิทยาลัยรวมแห่งหนึ่ง รับทั้งสายสังคมและสายศิลปะการต่อสู้ ทั้งมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาสายศิลปะการต่อสู้ไม่ถึงหนึ่งพันคน
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเพิ่งจะเข้าสู่ขั้นสามตอนปลายเท่านั้น
ต่อสู้กับมหาวิทยาลัยเช่นนี้ มหาวิทยาลัยหนานเจียงจึงให้ทีมสำรองลงสนาม ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางสี่คนและทีมหลักอีกหนึ่งคนรั้งท้ายทัพ
แค่นี้ก็สามารถเอาชนะได้สบายๆ ต่อสู้โดยไร้อุปสรรค
ในเวลาเดียวกัน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้บางส่วนก็ค่อยๆ แสดงฝีมือออกมา
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ตงหลิน สู้สองครั้งชนะสองครั้ง ทีมหลักแทบไม่ได้ลงมือ ถึงจะเป็นเพราะว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาอ่อนแอก็ตาม
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เป่ยเจียง สู้สองครั้งชนะสองครั้ง ตั้งแต่ต้นจนจบมีคนลงสนามแค่คนเดียว ขั้นสามสูงสุดเอาชนะห้าคนรวดทั้งสองครั้ง
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ซีซาน ลงสนามสองครั้งชนะสองครั้ง ใช้ทีมสำรองทั้งหมด ทีมหลักไม่ได้ลงสนามแม้แต่คนเดียว
วิทยาลัยสตรีเซี่ยงไฮ้ที่รับแค่นักศึกษาหญิง จากที่ไม่มีชื่อเสียงครั้งนี้ก็ระเบิดความสามารถที่แข็งแกร่งออกมา
ผู้ฝึกยุทธ์หญิงขั้นสี่สามคนแสดงฝีมืออย่างโดดเด่น ไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย เอาชนะอย่างถือไพ่เหนือคู่ต่อสู้
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนาน ลุกยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์คนก่อนตายในสงคราม ผู้ที่รับช่วงต่อทะลวงขั้นสี่ตอนกลาง เอาชนะยอดฝีมือขั้นสี่สองคนจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ซีเป่ยได้
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แต่ละแห่งค่อยๆ แสดงศักยภาพออกมา ดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน
แม้ครั้งนี้จะเป็นแค่การแข่งขันของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไป ทั้งยังต่อสู้กันภายใน ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ก็ไม่ได้ห้ามสื่อนักข่าวบางส่วนเข้าชม
โควตาเจ็ดอันดับแรกค่อยๆ ถูกวางตำแหน่งลง
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เป่ยเจียง มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ตงหลิน…มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้พวกนี้ต่างถูกวางในเจ็ดอันดับแรกแล้ว
ในเวลาเดียวกัน
จงโจว
หลี่หานซงและเหยาเฉิงจวินไม่ได้เจอกัน เหยาเฉิงจวินเอาชนะจ้าวฉวนอู่ ถูกแทนที่ในอันดับเก้าของขั้นสี่
ส่วนหลี่หานซงมีชัยเหนือเจ้าสำนักชิงสุ่ยกวน ถูกจัดในอันดับที่สิบเอ็ด
ทั้งสองคนท้าประลองสิ้นสุดต่างก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้ประมือกันที่จงโจวอย่างที่ทุกคนคาดเดาไว้
หลี่หานซงลงไปทางใต้ต่อ อ้อมหนานเจียงเข้าสู่มณฑลซีซาน วางแผนท้าประลองกับภิกษุผู่กวงของวัดกวงเซิ่ง
เหยาเฉินจวินไปทางเหนือ เข้าสู่เป่ยเจียง ท้าประลองกับยอดฝีมือของที่นั่น
ยอดฝีมือขั้นสี่สองคน ก่อนหน้านี้เคยมีวิดีโอการประลองเผยแพร่ออกมา ยอดฝีมือของโลกผู้ฝึกยุทธ์บางคนเห็น ผู้ที่มีอายุหลายคนถึงกับถอนหายใจ กาลเวลาเร่งเร้าคนให้แก่ลง คนรุ่นใหม่กลายเป็นกำลังหลักแล้ว
ยอดฝีมือขั้นสี่สองคนนี้ ในสายตาของผู้ฝึกยุทธ์รุ่นก่อนหลายคน เอาชนะขั้นห้าคงไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน
แต่สองคนนี้ ปีนี้หลี่หานซงอายุยี่สิบสองปี เหยาเฉิงจวินอายุเท่ากัน
หนานเจียงที่ถูกทั้งสองคนหลบหลีก หวังจินหยางอายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น!
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ แม้ช่วงนี้จะไม่เผยหน้าค่าตาออกมา แต่อีกฝ่ายก็เพิ่งจะอายุสิบเก้าปี!
ในชั่วขณะนั้นจึงไม่ได้มีแค่คนธรรมดาที่จับตามองกับการแข่งขันแลกเปลี่ยนแล้ว แต่ยังรวมถึงยอดฝีมือผู้ฝึกยุทธ์บางส่วนด้วยเช่นกัน