ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 331-2 เส้นทางแห่งการปกป้องตำแหน่ง (2)
ตอนที่ 331 เส้นทางแห่งการปกป้องตำแหน่ง (2)
นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกเหมือนการแข่งขันขั้นหนึ่งปีก่อนแล้ว ต่อให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็แข็งแกร่งอย่างจำกัด
ยอดฝีมือหนุ่มสาวที่ทะลวงขั้นสี่สูงสุดแทบไม่ด้อยไปกว่ายอดฝีมือขั้นห้าทั่วไป ยอดฝีมือขั้นห้าแม้จะอยู่ในท้องที่ก็เป็นใหญ่ได้แค่บางท้องที่เท่านั้น
มณฑลที่อ่อนแอบางส่วน ก่อนหน้านี้ผู้ว่าก็อยู่แค่ขั้นห้าขั้นหกเช่นกัน
เทียบกับยอดฝีมือรุ่นใหม่พวกนี้ ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นก่อนได้แต่ถอนหายใจเท่านั้น
—
“การแข่งขันแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศครั้งที่สองเปิดฉากแล้ว ยอดฝีมือละลานตา อัจฉริยะมาบรรจบกัน!”
“หลี่หานซงจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งและเหยาเฉิงจวินจากโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งเดินสายท้าประลองเหนือใต้จนไร้คู่ต่อสู้!”
“หวังจินหยางจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง ผู้ที่อายุน้อยที่สุดในร้อยอันดับแรก ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้จะส่งใครออกมาต้าน?”
“เจ้าแห่งวงการเมื่อครั้งก่อนอยู่ที่ไหน? เซี่ยงไฮ้อ่อนกำลังลง ขั้นสี่ไร้คนต่อต้าน!”
“ข่าววงในบอกว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อาจจะให้ฟางผิงนำทีมต่อสู้ ฟางผิงที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นสี่จะสามารถพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ได้หรือไม่ ต้องจับตามองกันต่อไป!”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่มีคนแล้ว? ฟางผิงที่นำทีมขั้นหนึ่งลงสนามเมื่อต้นปี ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กลับฝากความหวังให้ฟางผิงพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ เส้นทางปกป้องตำแหน่งนี้ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรแล้ว!”
—
โลกภายนอก ทุกสื่อต่างกำลังแย่งกันรายงาน
ผู้ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดไม่ใช่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง ไม่ใช่โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง กลับเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้
ทีมชนะเลิศครั้งก่อน เวลาห่างกันไม่ถึงปีเท่านั้น ครั้งก่อนฟางผิงเป็นหัวหน้าทีมของขั้นหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะนำทีมลงสนามอีกครั้ง มีหวังจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?
แม้ว่าฟางผิงจะเป็นอันดับหนึ่งของขั้นสาม แต่เข้าสู่ขั้นสี่ในเวลากระชั้นชิดเกินไป!
เดือนสิงหาคมฟางผิงยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม
จวบจนเดือนกันยายน ชื่อของเขาค่อยหายไปจากการจัดอันดับของขั้นสาม
นี่หมายความว่าฟางผิงทะลวงขั้นสี่แล้ว จนถึงตอนนี้คำนวณออกมา น่าจะประมาณสามเดือนพอดี
หวังให้ฟางผิงพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ได้จริงๆ งั้นเหรอ?
เหยาเฉิงจวินและหลี่หานซงเข้าสู่สิบอันดับแรกของขั้นสี่แล้ว หลิวซื่อเจี๋ยจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หวากั๋ว วันก่อนเพิ่งจะเอาชนะยอดฝีมืออันดับที่แปดสิบเจ็ดของขั้นสี่ ทะลวงเข้าสู่ร้อยอันดับแรก
หวังจินหยางไม่ได้ลงมือมาโดยตลอด แต่ก็ถูกจัดอยู่ในร้อยอันดับแรกเช่นกัน
หลายวันนี้ยอดฝีมือจากพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย รวมถึงยอดฝีมือบางส่วนจากโรงเรียนเตรียมทหารอื่นๆ ต่างทยอยเปิดตัวท้าประลองกับยอดฝีมือในร้อยอันดับแรก
มีเพียงมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ที่ยังไม่เห็นเงาใครอยู่ในร้อยอันดับ
หนึ่งในสองมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทีมชนะเลิศของครั้งก่อน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีแรงกดดันมากขนาดไหน
—
วันที่ 18 พฤศจิกายน เฉินเหวินหลงออกมาจากหน่วยทหาร ท้าประลองอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหวาหนานซึ่งถูกจัดในอันดับที่หกสิบแปดของขั้นสี่ เอาชนะได้ในสามหมัด!
จนถึงตอนนี้ เสียงที่ครหาต่อมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้จึงค่อยๆ หายไป
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็มียอดฝีมือเช่นกัน
เฉินเหวินหลงเปิดตัวเข้าสู่ร้อยอันดับแรก ชั่วขณะนั้นชื่อเสียงของเฉินเหวินหลงก็กลบฟางผิงทันที กลายเป็นเสาหลักที่สำคัญของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
—
วันที่ 19 พฤศจิกายน
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงเจอกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานหู คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานหูเข้าสู่ขั้นสี่ตอนกลาง ทั้งยังเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในหมู่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไป
หวังจินหยางลงมือเป็นครั้งแรก เอาชนะได้ในดาบเดียว เป็นที่ตกตะลึงของทุกคน!
—
วันที่ 20 พฤศจิกายน เหยาเฉิงจวินเอาชนะกู้เฉิงต้ง รองผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนของปักกิ่ง ยอดฝีมือขั้นสี่ที่ถูกจัดในอันดับสาม!
นี่เป็นรองผู้อำนวยการขั้นสี่เพียงคนเดียวของปักกิ่ง!
หน่วยสืบสวนของปักกิ่งมีฝีมือแข็งแกร่ง ผู้อำนวยการนั้นอยู่ถึงขั้นปรมาจารย์!
รองผู้อำนวยการมีทั้งยอดฝีมือขั้นหกและขั้นห้า
ในหมู่รองผู้อำนวยการเจ็ดคน กู้เฉิงต้งเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ขั้นสี่ ถูกจัดอยู่ในอันดับที่สามของขั้นสี่ แม้พวกรองผู้อำนวยขั้นห้าประมือกับเขาก็อาจสู้เขาไม่ได้เสมอไป
แต่ปะทะกับเหยาเฉิงจวิน กู้เฉิงต้งยังคงพ่ายแพ้
เหยาเฉิงจวินจึงกระโดดขึ้นเป็นอันดับสามของขั้นสี่ ก่อให้เกิดคลื่นลมอีกครั้ง
ตอนนี้หลี่หานซงเอาชนะภิกษุผู่กวงจากวัดกวงเซิ่ง ขึ้นไปเป็นอันดับเจ็ดได้เช่นกัน
คนหนึ่งอันดับสาม อีกคนอันดับเจ็ด ทั้งสองคนไม่ได้เลือกท้าประลองต่อ
เพราะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของขั้นสี่ ตอนนี้ไม่อยู่บนพื้นโลก
ผู้ที่อยู่ในอันดับสองเป็นอาจารย์คนหนึ่งของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
หลี่หานซงไม่อยากท้าประลองต่อ เหยาเฉิงจวินยังไม่อยากไปมหาวิทยาลัยปักกิ่งตอนนี้ ดังนั้นจึงเลิกล้มความคิดไป
แม้จะเป็นเช่นนี้ การต่อสู้ชนะติดต่อกันของทั้งสองคนก็ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา!
โลกภายนอกคาดเดาว่าฝีมือของทั้งสองคนไม่อาจด้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารที่จัดอยู่ในอันดับหนึ่งเท่าไหร่
มีผู้ฝึกยุทธ์รุ่นก่อนคาดคะเนออกมา ฝีมือทั้งสองคนสามารถเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าตอนกลางทั่วไปได้ ปะทะกับขั้นห้าตอนปลาย ใครแพ้ใครชนะ ตอนนี้ยังยากจะลงความเห็น
นักศึกษาในมหาวิทยาลัยแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้ ยังคงเหนือความคาดหมายของใครหลายคน
ศึกชิงอันดับหนึ่งมหาวิทยาลัยชื่อดัง บางทีอาจตกเป็นของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งไม่ก็โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง
ส่วนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ แม้เฉินเหวินหลงจะแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ถูกจัดในอันดับที่หกสิบกว่า ยังสู้พวกเหยาเฉิงจวินที่อยู่ในอันดับต้นๆ ไม่ได้
—
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้
ตอนที่เหยาเฉิงจวินและหลี่หานซงทยอยกลับมหาวิทยาลัย ฟางผิงนั้นกำลังมอบรางวัลในการแข่งขันของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่ง
“ยินดีด้วย ขอให้เก่งยิ่งๆ ขึ้นไปอีก หวังว่าการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองของปีหน้าจะได้เจอกันใหม่!”
ฟางผิงมอบยาบำรุง อาวุธและหนังสือเคล็ดวิชาต่อสู้พร้อมกับกล่าวคำยินดีให้กับผู้ฝึกยุทธ์ที่คว้าอันดับหนึ่งได้ คนผู้นี้ไม่ใช่ถังเหวิน แต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมคนหนึ่ง เรียนจากคลาสสอนศิลปะการต่อสู้ อายุไม่น้อยแล้วประมาณสี่สิบปี
แม้ว่าอายุมากแล้ว แต่ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับฟางผิง ผู้ฝึกยุทธ์วัยกลางคนผู้นี้ยังคงตื่นเต้นและกระวนกระวายอยู่บ้าง
“ประธานฟางวางใจ ปีหน้าฉันต้องมาอีกแน่!”
ฟางผิงเผยรอยยิ้ม พยักหน้าเล็กน้อย มองไปทางถังเหวินที่อยู่ด้านข้าง ครั้งนี้ถังเหวินแพ้ให้กับอันดับหนึ่ง ได้แค่อันดับสอง
อันที่จริงถือว่าคะแนนไม่เลวแล้ว แต่ถังเหวินยังคงเสียใจ
หลายวันมานี้โลกข้างนอกเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อย่างดุเดือด สงครามปกป้องตำแหน่งที่ยากลำบาก อุปสรรคขวางทุกทิศทาง
เฉินเหวินหลงลงมือ นอกจากไม่อาจพลิกเปลี่ยนสถานการณ์แล้ว กลับจะทำให้หลายคนมองภาพลวงตาของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนนี้กระทั่งภายในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังหดหู่กันไม่น้อย
เหยาเฉิงจวินและหลี่หานซงแข็งแกร่งเกินไป ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ช่วงนี้ฟางผิงก็โผล่หน้าออกมานับครั้งได้
ทั้งฟางผิงเพิ่งจะทะลวงด่านได้ไม่นาน เฉินเหวินหลงถึงจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเซี่ยงไฮ้ในตอนนี้ ผลปรากฏว่ากลับอยู่ในอันดับหกสิบกว่า นี่ทำให้พวกนักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต่างหมดกำลังใจ
ถังเหวินคิดจะคว้าอันดับหนึ่งเพื่อมอบความมั่นใจให้กับทุกคนขึ้นได้บ้าง
ใครจะรู้ว่ากลับแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ทำได้แค่คว้าอันดับสอง นี่ทำให้ถังเหวินรับไม่ได้ อันดับสองและอันดับหนึ่งไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
“ประธาน…”
ถังเหวินก้มหน้า ไม่กล้ามองฟางผิงอยู่บ้าง
ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แพ้แล้วค่อยมาชนะอีกทีก็ได้ ขั้นหนึ่งสู้ไม่ไหว งั้นก็ขั้นสอง เซี่ยงไฮ้ของเราแพ้ได้ เธอแพ้ได้เหมือนกัน ฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้ งั้นต้องพยายามต่อไป!”
“เข้าใจแล้ว” ถังเหวินก้มหน้า ตอบรับเสียงเบา
ฟางผิงไม่สนใจเธออีก มองรางวัลให้อันดับที่สามต่อ
มอบรางวัลเสร็จแล้ว ฟางผิงก็กลับมาที่ตรงกลางเวที “การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งทั่วประเทศสิ้นสุดอย่างเป็นทางการ! ยอดฝีมือร้อยอันดับแรกของขั้นหนึ่งออกมาอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน! หวังว่าทุกคนจะเก่งกล้าสามารถยิ่งขึ้นไปอีก ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์! ครั้งนี้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ไม่อาจคว้าอันดับหนึ่งได้ ยังคงเสียดายอยู่บ้าง แต่เหนือฟ้ายังคงมีฟ้า ขอแค่ไม่ยอมแพ้ย่อมไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!”
“การแข่งขันแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศเริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ก็จะเริ่มสงครามปกป้องตำแหน่งเช่นกัน รางวัลชนะเลิศจะเป็นของเซี่ยงไฮ้เท่านั้น! ฉันเชื่อว่าพวกคุณต้องได้เห็นภาพนั้น! มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ต้องชนะ!”
“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ต้องชนะ!”
ด้านบนและล่างเวทีมีนักศึกษาของเซี่ยงไฮ้พากันตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
ฟางผิงที่ไม่ได้ตะโกนมาหลายวัน ในที่สุดก็ส่งเสียงออกมา
หลายวันนี้ทุกคนต่างอัดอั้นตันใจ กระวนกระวาย และเป็นกังวล…
ตอนนี้ทุกคนจึงระบายความรู้สึกพวกนี้ออกมาพร้อมๆ กัน
ยังไม่ได้ปะทะกัน ใครพูดได้ว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเป็นฝ่ายแพ้!
ฟางผิงไม่พูดมากเช่นกัน เดินลงจากเวทีอย่างรวดเร็ว สาวเท้าออกจากสนามกีฬา
ผู้ชนะตอนสุดท้ายถึงจะหัวเราะได้ดังที่สุด!
พวกหลี่หานซง ตอนนี้สร้างชื่อเสียงจนถึงจุดสูงสุด สั่งสมอำนาจจนถึงจุดสูงสุด เป็นแค่การทำชุดแต่งงาน[1]ให้ฟางผิงเท่านั้น!
———————-
[1]ทำชุดแต่งงาน มาจากสำนวนทำชุดแต่งงานให้คนอื่น อุปมาว่าตัวเองทำเรื่องด้วยความยากลำบาก ผลปรากฏว่าผู้อื่นกลับได้ผลประโยชน์ไปแทน