ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 335-2 ขบวนรบที่สมบูรณ์แบบ (2)

ตอนที่ 335 ขบวนรบที่สมบูรณ์แบบ (2)

ฟางผิงหัวเราะ “ไม่รีบ ฉันไม่รีบเลยสักนิด ฉันกลัวว่าพวกนายจะอยู่ไม่ถึงการแข่งรอบชิงชนะเลิศเท่านั้น ปีนี้จะสู้กับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งหรือมหาวิทยาลัยหนานเจียง สำหรับฉันแล้วไม่ต่างกัน ฉันไม่ได้รีบเพราะเรื่องนี้ ทั้งไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่อง แต่หยามเกียรติของเซี่ยงไฮ้ นั่นคือรนหาที่ตาย! ตัวเองไม่มีความสามารถก็อย่าอิจฉาคนอื่น ตอนที่เซี่ยงไฮ้ตามหลังปักกิ่ง ฉันไม่เคยอิจฉาเหมือนกัน ฉันเอาแต่คิดจะก้าวข้าม ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นสี่ เรื่องแค่นี้มองไม่ออก ยังจะฝึกวิชาต่ออีก? กลับบ้านไปพักดีกว่า!”

คนกลุ่มนั้นโดนว่าจนใบหน้าขึ้นสี คนของมหาวิทยาลัยซีซานมีโทสะอย่างยิ่ง กลับเงียบไม่ปริปากอีก

โลกของผู้ฝึกยุทธ์ให้ความสำคัญกับผู้แข็งแกร่ง

ตัวเองสู้เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ นินทาลับหลังคนอื่นถูกจับได้ ตอนนี้พูดอะไรก็ขายหน้าทั้งนั้น

ตอนนี้หวังจินหยางที่เงียบมาโดยตลอดค่อยเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฟางผิง เอาแค่หอมปากหอมคอเถอะ คิดจะต่อสู้ก่อนแข่งขันจริงๆ หรือไง?”

ฟางผิงเผยยิ้ม “ฉันต้องไว้หน้าพี่หวัง ครั้งนี้แล้วไปละกัน ถ้ามีครั้งหน้า อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

ด้านหลังเวทีเงียบเป็นเป่าสากทันที

จนถึงตอนนี้เพิ่งจะมีอาจารย์บางส่วนทยอยเข้ามา

ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ถังเฟิงเข้ามาเช่นกัน มองฟางผิงแวบหนึ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรอีก

อาจารย์ของมหาวิทยาลัยซีซานเป็นยอดฝีมือขั้นหก ตอนนี้สีหน้ามืดครื้มอย่างเห็นได้ชัด ยังคงมองไปทางถังเฟิง ไม่ได้พูดอะไร

ฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องแข่งขันอะไร

นักศึกษาของตัวเองไม่มีความสามารถเท่าฟางผิง ฝีมือเขาก็สู้ถังเฟิงไม่ได้ แค่ฟางผิงแค่นเสียงกลับสั่นสะเทือนจนหูนักศึกษาตัวเองเลือดไหล พวกเขาต่างเป็นผู้เข้าแข่งขันเหมือนกันจึงคับแค้นใจอย่างเห็นได้ชัด

ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่ง คนที่เข้ามาคือปู่ของฟู่ชางติ่ง

ท่านผู้เฒ่าไม่ได้มองคนของปักกิ่ง แต่มองไปทางฟางผิง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฟางผิง การแข่งยังไม่เริ่ม ครั้งแรกก็แล้วไป หากมีครั้งหน้า อย่าโทษว่าพวกเราถอนตัวเธอไม่ให้เข้าแข่งขันแล้วกัน!”

ทำร้ายคนก่อนการแข่งขัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้รับอนุญาต

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ฟู่วางใจเถอะครับ พวกนักศึกษาแค่หุนหันพลันแล่นไปชั่ววูบเท่านั้น ผมชดใช้ให้ทุกคนก็คงพอแล้ว แต่ชื่อเสียงของเซี่ยงไฮ้แลกมาด้วยเลือดเนื้อของผู้อาวุโสรุ่นก่อนทับถมกันขึ้นมานับไม่ถ้วน! เหยียดหยามผมคนเดียวไม่เป็นไร แต่เหยียดหยามเซี่ยงไฮ้ นั่นคงไม่ได้”

อาจารย์ของมหาวิทยาลัยซีซานเอ่ยอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง “ฟางผิง อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จางเหว่ยแค่พูดแสดงความเห็นเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายเหยียดหยามเซี่ยงไฮ้!”

เรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก ถูกฟางผิงจับไม่ปล่อยแบบนี้ หากทำให้เซี่ยงไฮ้ไม่พอใจจริงๆ ต่อไปมหาวิทยาลัยซีซานคงต้องปวดหัวแล้ว

ประโยคที่ว่า ‘ถอยหลังลงคลอง’ ถูกฟางผิงยกมาถึงขั้นหยามเกียรติผู้อาวุโสรุ่นก่อนของเซี่ยงไฮ้ อาจารย์ของซีซานจึงเหนื่อยใจอยู่บ้าง

พวกฉินเฟิ่งชิงต่างพากันเงยหน้าจ้องเพดาน คำพูดของฟางผิงนั้นต้องฟังกลับกัน บอกว่าเซี่ยงไฮ้ไม่ดี เขาอาจจะไม่อะไรกับนายเสมอไป

แต่หากเหยียดหยามเขาจริงๆ เขาสามารถตีนายตายได้ ไม่เชื่อก็ลองดู

เวลานี้ในที่สุดถังเฟิงก็เอ่ยขึ้น “เอาล่ะ ให้เรื่องจบแค่นี้แหละ ฟางผิง อย่าก่อเรื่องอีก มีอะไรไปคุยบนสนามเถอะ!”

ฟางผิงจ้องมองคนของซีซานอย่างประสงค์ร้าย เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เข้าใจแล้วครับ ผมจะให้พวกเขารู้เอง ชื่อเสียงของเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่ได้มาลอยๆ!”

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งอื่นต่างเห็นใจอยู่บ้าง มหาวิทยาลัยซีซานอย่าจับฉลากได้เซี่ยงไฮ้จะดีที่สุด ไม่งั้นเกรงว่ารอบนี้จะผ่านไปได้ยากแล้ว

ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ดูเหมือนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นซะด้วยสิ

คนของมหาวิทยาลัยซีซานสีหน้าดูไม่ได้เช่นกัน ปากบอกว่าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ในใจกลับลอบด่า ครั้งนี้จับฉลากได้เซี่ยงไฮ้ คงต้องปะทะจริงๆ แล้ว

มหาวิทยาลัยหนานเจียง พวกหลานอู๋เฟิงก็ปิดปากเงียบเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ยังคิดจะเจอกับเซี่ยงไฮ้ แต่เซี่ยงไฮ้แข็งแกร่งขนาดนี้ ยั่วโทสะปักกิ่ง ยั่วโทสะโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง วางท่าราวกับไม่เห็นใครในสายตา คำพูดไม่กี่คำของมหาวิทยาลัยซีซานยังถูกโต้กลับจนตกตะลึง หากพวกเขาเจอกับเซี่ยงไฮ้จริงๆ อาจจบไม่ดีเสมอไป

ด้านหลังเวทีเหลือเพียงแต่ความเงียบ

—

ด้านหน้าเวที

อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งยอดฝีมือขั้นแปดสูงสุด ตอนนี้ขึ้นเวทีกล่าวเปิดพิธีอย่างเป็นทางการ ไม่ได้พรรณนาให้มากความ พูดง่ายๆ ไม่กี่ประโยคแล้ว อธิการปักกิ่งก็หมุนตัวเดินขึ้นไปชั้นสอง รอพิธีจับฉลากหลังจากนี้

เมื่ออธิการปักกิ่งกล่าวสุนทรพจน์เสร็จแล้ว พิธีกรชายก็พูดเสริมขึ้นมา “งั้นต่อไป ขอเชิญยี่สิบทีมผู้เข้าแข่งขันศึกชิงสิบอันดับมหาวิทยาลัยชื่อดังขึ้นเวที…อันดับแรกขอเชิญทีมผู้เข้าแข่งขันจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง!”

“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง ครั้งนี้มีทีมหลักห้าคน ทีมสำรองห้าคน หัวหน้าทีมหลี่หานซง นักศึกษาปีสี่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ ความสามารถขั้นสี่สูงสุด ถูกจัดในอันดับเจ็ดของขั้นสี่ สมาชิกทีมหลักฉินเจ๋อ นักศึกษาปีสี่ ความสามารถขั้นสี่สูงสุด ถูกจัดในอันดับเก้าสิบสี่ของขั้นสี่ สมาชิกทีมหลักหลี่เหยียน นักศึกษาปีสี่ ความสามารถขั้นสี่สูงสุด…”

—

“สมาชิกทีมสำรองหลิงอีอี นักศึกษาปีสาม ความสามารถขั้นสี่ตอนกลาง…”

เมื่อความสามารถของทีมมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งถูกเปิดเผยออกมา ด้านล่างเวทีก็ร้องอย่างตกใจทันที

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ทีมหลักอยู่ขั้นสี่ตอนปลายขึ้นไปทั้งหมด ทีมสำรองก็อยู่ในขั้นสี่ตอนกลางทุกคนเช่นกัน

ในสิบสามมหาวิทยาลัยนี้ ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งไม่ได้ลงสนาม ทุกคนรู้จักแค่หลี่หานซงจากปักกิ่ง แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนอื่นเลย

แน่นอนว่าชื่อของหลิงอีอี ทุกคนจำได้อยู่แล้ว ไม่นานก่อนหน้านี้ฟางผิงจากเซี่ยงไฮ้เอาชนะเธอได้ แต่อีกฝ่ายเป็นแค่ทีมสำรอง ทุกคนไม่ได้สนใจเท่าไหร่

แต่ในการจัดร้อยอันดับของขั้นสี่กลับมีคนจากทีมมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งถึงสองคนแล้ว เห็นได้ชัดว่าฝีมือแข็งแกร่งขนาดไหน

เดือนก่อนในเวลาเดียวกับที่พวกหลี่หานซงดำเนินการท้าประลองของตัวเอง ยอดฝีมือจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้บางส่วนก็เริ่มทยอยต่อสู้ช่วงชิงอันดับเช่นกัน ฉินเจ๋อก็เข้าสู่ร้อยอันดับในช่วงเวลานั้น

คล้อยหลังจากที่พิธีพูด ทีมของมหาวิทยาลัยปักกิ่งทั้งสิบคนก็เดินขึ้นมาจากด้านหลังเวที

ด้านล่างมีเสียงปรบมือดังเกรียวกราว

คนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งขึ้นเวทีแล้ว ทีมต่อไปก็คือมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้

“ทีมที่สองเป็นทีมชนะเลิศจากการแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งก่อน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ หัวหน้าทีมยังคงเป็นฟางผิงจากการแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งที่หนึ่ง สำหรับฟางผิง ผมคิดว่าหลายคนคงคุ้นเคยดีแล้ว ฟางผิงเป็นนักศึกษาปีสองมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ อยู่ในตำแหน่งประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ ความสามารถขั้นสี่สูงสุด ตอนนี้ยังไม่เข้าสู่การจัดอันดับ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าสู่การจัดอันดับ แต่นักศึกษาฟางผิงอาศัยฐานะไร้ศัตรูในขั้นสามก้าวเข้าสู่ขั้นสี่ ผมคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะซ่อนความสามารถเอาไว้ ไม่อ่อนแออย่างแน่นอน”

“การแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของอัจฉริยะดังคาด นอกจากนี้นักศึกษาฟางผิงยังก้าวหน้าค่อนข้างไว เดือนกรกฏาคมท้าประลองผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม ตอนนี้กลับก้าวสู่ขั้นสี่สูงสุดแล้ว เหลือเชื่อจริงๆ! สมาชิกทีมหลักเฉินเหวินหลง นักศึกษาปีสี่ขั้นสี่สูงสุด ถูกจัดในอันดับหกสิบแปดของขั้นสี่ สมาชิกทีมหลักจางอวี่ นักศึกษาปีสี่ ขั้นสี่ตอนปลาย…”

“เหมือนกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง ทีมหลักและทีมสำรองของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ทั้งหมด ขบวนทัพที่สมบูรณ์แบบ! สองมหาวิทยาลัยชื่อดังมีชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ!”

พิธีกรชายพูดจบแล้ว พิธีกรหญิงก็เอ่ยอย่างตกตะลึง “สมบูรณ์แบบจริงๆ ขบวนรบแบบนี้เกิดขึ้นกับนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างมาก เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์รนับวันก็ยากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนเสียเวลาเกือบทั้งชีวิต ทะลวงระดับกลางยังเป็นเรื่องยาก สองมหาวิทยาลัยชื่อดังกลับจัดขบวนรบระดับกลางออกมาได้สิบคน อายุมากที่สุดยี่สิบสาม อายุน้อยที่สุด ฟางผิงนั้นเพิ่งจะสิบเก้าปี! ฉันกล้ารับรองได้ว่าในอนาคตท่ามกลางคนพวกนี้ต้องมีปรมาจารย์ยอดฝีมือไม่น้อยแน่!”

พิธีกรขั้นหกทั้งสองคนให้คำประเมินค่อนข้างสูงทีเดียว!

คนพวกนี้มีโอกาสจะเป็นปรมาจารย์สูง ทั้งไมใช่แค่คนสองคนด้วย!

—

ตอนนี้ฟางผิงนำทีมขึ้นเวทีแล้ว

พอขึ้นไป ด้านล่างก็มีเสียงเชียร์ดังก้องทันที

“เซี่ยงไฮ้ไร้ศัตรู!”

“เซี่ยงไฮ้เป็นอันดับหนึ่ง!”

“…”

เทียบกับทีมเจ้าภาพที่ขึ้นเวทีเมื่อสักครู่ บรรยากาศคึกคักมากกว่า

อาจารย์บางส่วนของปักกิ่งชั้นสองไม่ส่งเสียงอะไร เกิดสถานการณ์แบบนี้ บอกว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ลอบเล่นลูกไม้อะไร ตีให้ตายยังไงพวกเขาก็ไม่เชื่อหรอก!

หวงจิ่งเผยท่าทีสบายๆ ไม่สนใจว่าฟางผิงจะทำอะไร แต่ความเกรงขามนั้นก่อตัวขึ้นมาแล้ว

ดูสิ ทีมเยือนลงสนามเทียบกับเจ้าภาพยังทรงอำนาจมากกว่า ทำเอากลุ่มคนจากปักกิ่งพวกนี้เลือดขึ้นหน้าแล้ว

—

ทีมหลังจากนั้นก็เรียกได้ว่าขบวนรบเกรียงไกรเช่นกัน

โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง ยอดฝีมือขั้นสี่แปดคน

โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจว ยอดฝีมือขั้นสี่หกคน

ทีมหลักของโรงเรียนเตรียมทหารอวิ๋นเมิ่งอยู่ขั้นสี่ทั้งหมด ทีมหลักของพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยก็อยู่ขั้นสี่เหมือนกัน แต่ส่วนมากจะอยู่ขั้นสี่ตอนต้น

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปกลับด้อยกว่าไม่น้อย

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สองคน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เป่ยเจียงสามคน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ซีซานสามคน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ตงหลินสามคน วิทยาลัยสตรีเซี่ยงไฮ้สามคน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนานและจงโจวมีสองคนเหมือนกัน

สองร้อยคนจากในทีม มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่เก้าสิบเจ็ดคน!

เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางเกือบครึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์สังคมบางส่วนถึงกับอ้าปากค้าง!

นี่ก็คือมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้?

โลกข้างนอก ยอดฝีมือระดับกลางมักจะเป็นผู้มีอำนาจในพื้นที่ ผู้ว่าการมณฑล ผู้บัญชาการกองหน่วยทหาร นักธุรกิจชั้นนำ…

แต่ตรงนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งกลับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางแล้ว!

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างหลายคนถึงกับรู้สึกต่ำต้อย เทียบกับคนบนเวทีแล้ว สิบกว่าปีที่ผ่านมาของพวกเขาช่างใช้ชีวิตเสียเปล่าจริงๆ

ช่วงเวลาสั้นๆ ทุกคนก็อารมณ์สับสนปนเปไปหมด พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ แต่ลูกๆ ต้องเข้าได้อย่างแน่นอน มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่อาจเทียบกับคลาสฝึกศิลปะการต่อสู้โลกข้างนอกได้จริงๆ ในคลาสฝึกศิลปะการต่อสู้ล้วนมีเจ้าของเป็นผู้ฝึกยุทธ์แค่ขั้นสี่เท่านั้น