ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 340 เซี่ยงไฮ้ปักกิ่งครอบครัวเดียวกัน (1)
ตอนที่ 340 เซี่ยงไฮ้ปักกิ่งครอบครัวเดียวกัน (1)
ข่งหยวนหรงพาความรู้สึกอัดอั้นตันใจ น้อยใจ โมโห โกรธแค้นและตำหนิตัวเอง…ลอยลงจากสังเวียนไป เพราะไม่สามารถเดินไปได้แล้ว
ความรู้สึกทั้งหมดระเบิดจนถึงขีดสุด!
นี่เขาจะรังแกคนเกินไปแล้ว!
ตั้งแต่ต้นจนจบแทบไม่ได้ออกกระบวนท่าใส่เขา แม้ว่านายจะออกหมัดทำให้ฉันเจ็บหนัก ฉันก็พร้อมจะรับไว้
แต่นายกลับชกพื้นเวทีอย่างเอาจริงเอาจังอยู่ตลอด ฉันก็แพ้ไปแบบนี้แล้ว น่าอัปยศอดสูยิ่งกว่าถูกฟางผิงตีจนพิการซะอีก
ลำพังแค่นั้นไม่พอฟางผิงยังไม่ลืมแทงเขาซ้ำอีกครั้ง เตือนความจำว่า “อย่าลืมที่พนันกันไว้”
ข่งหยวนหรง “…”
ข่งหยวนหรงปิดปากเงียบ ไม่แม้แต่จะหันหน้ามา ลงไปข้างหลังเวทีเลยทันที
—
ด้านหลังเวที
สมาชิกทีมของมหาวิทยาลัยซีซานมองกันไปมา ผ่านไปสักพัก ผู้ฝึกยุทธ์ที่กำลังจะลงสนามก็เอ่ยว่า “ต้องสู้หรือเปล่า?”
ทุกคนสบสายตากัน เรื่องนี้…ตัดสินใจยากอยู่บ้าง
ในตอนที่พวกเขาลังเล อาจารย์คนหนึ่งของมหาวิทยาลัยซีซานก็เดินเข้ามา “ขึ้นเวที พยายามรักษาพลังเอาไว้ แต่ห้ามยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเด็ดขาด!”
แพ้นั้นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
แต่ไม่ทันขึ้นเวทีก็ยอมแพ้ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่มีธรรมเนียมนี้
ต่อให้ลำบากยังไงก็ต้องขึ้นเวที ถึงจะรู้ว่าต้องแพ้ก็ตาม
รอคนที่สองเดินออกมาจากหลังเวที ข่งหยวนหรงก็ถอนหายใจทันที ก่อนจะเอ่ยอย่างรวดเร็ว “เตรียมความพร้อมในการแข่งแก้ตัวสักหน่อย!”
ครั้งนี้ช่างมันเถอะ นับว่าพวกเขาดวงซวยที่มาเจอกับเซี่ยงไฮ้
ตอนนี้เขาไม่ได้บาดเจ็บหนัก มีแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น ไม่ได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ เทียบกับมหาวิทยาลัยเทียนหนานยังแข็งแกร่งมากกว่า ซวนจี้เย่จากเทียนหนานนั้นบาดเจ็บไม่น้อย การแข่งขันของทีมผู้แพ้ ตอนนี้เป็นของพวกเขาทั้งสองทีมแล้ว สู้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ แต่สู้เทียนหนานน่าจะไม่มีปัญหา
—
ด้านหน้าเวที
สมาชิกทีมมหาวิทยาลัยซีซานมองสังเวียนที่เละตุ้มเป้ะอยู่พักหนึ่ง ครุ่นคิดแล้วก็เลือกทะยานขึ้นไปในอากาศ
ตอนนี้ฟางผิงลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างสง่างาม เขาเดินอยู่เหนือเวทีที่ผุผัง ความเกรงขามจึงลดหลั่นลงเล็กน้อย
ฟางผิงไม่ได้มองเขา เอ่ยไปทางผู้ตัดสินว่า “อาจารย์ ไม่ซ่อมเวทีสักหน่อยเหรอครับ?”
ผู้ตัดสินทำหน้าหมดคำพูด ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “ไม่ทันแล้ว สู้แบบนี้แหละ”
ยังจะซ่อมอีก?
ซ่อมให้นายมาชกต่อหรือไง?
ฟางได้ฟังก็ลอบประชดอยู่ในใจ ขี้เหนียว!
มหาวิทยาลัยปักกิ่งขี้เหนียวจริงๆ
—
ชั้นสอง
จู่ๆ อธิการมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็หัวเราะ “พรุ่งนี้เปลี่ยนเวทีเป็นโลหะผสมระดับ A”
ปรมาจารย์อีกคนเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ถ้าเขายังทะลวงได้อีก ครั้งหน้าปักกิ่งจะไม่จัดการแข่งขันแลกเปลี่ยนและการแข่งขันบนสังเวียนอีกแล้ว!”
ครั้งนี้ฟางผิงชกเวทีจนพัง ทุกคนมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่าเพราะอะไร
ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมชนะเลิศของครั้งก่อน เดิมทีการแข่งขันปีนี้ควรจะจัดที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
ผลปรากฏว่ามหาวิทยาลัยปักกิ่งใช้อิทธิพลคว้าโอกาสนี้มา ฟางผิงนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ
พวกหวงจิ่งไม่อาจพูดอะไร ฟางผิงก็ไม่อาจพูดคัดค้านต่อสาธารณะ เพราะนั่นเป็นความคิดของรัฐบาล
แต่ระหว่างการแข่งขัน ต่อสู้จนเวทีถล่มเสียหาย พิสูจน์ให้เห็นว่าการจัดการแข่งขันของมหาวิทยาลัยปักกิ่งมีช่องโหว่มากเกินไป เตรียมพร้อมไม่พอ ทั้งนับว่าเป็นตบหน้าอย่างเงียบๆ ด้วยเช่นกัน
เวทีโลหะผสมระดับ A!
ปรมาจารย์บางส่วนยังลอบตกใจ สมแล้วที่ปักกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่ง
เบื้องลึกเบื้องหลังยังพอมีอยู่จริงๆ
แม้ว่าเวทีโลหะผสมระดับ A จะเป็นแค่การเคลือบพื้นผิวชั้นนอก แต่เวทีนั้นมีขนาดใหญ่ อย่างต่ำคงต้องใช้โลหะระดับ A มากกว่าหนึ่งหรือสองตัน
ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กำหนดมูลค่าโลหะระดับ A ไว้ที่สองร้อยคะแนนต่อหนึ่งกิโลกรัม หนึ่งตันนั่นก็เท่ากับสองแสนคะแนน!
หลายตัน…นี่หากนำมาทำอาวุธ คงจะสร้างอาวุธระดับ A ได้หลายชิ้น?
แน่นอนว่าเวทีใช้โลหะผสมระดับ A ปกติมักจะไม่ใช่ของดีมาก บอกว่าโลหะผสมระดับ A อาจไม่ได้แตะถึงคุณภาพนั้นจริงๆ
ปรมาจารย์ของปักกิ่ง ตอนนี้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
ปล่อยให้เธอทุบไป!
หากเธอทำพังได้จริงๆ นับว่าเธอเก่งกาจ ครั้งหน้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งจะไม่จัดการแข่งขันแล้ว คงพอใจแล้วสินะ?
หากทุบไม่สำเร็จ…สะเทือนให้กระดูกเจ้าเด็กนี้แตกได้จะดีที่สุด จะทุบก็ทุบไป!
พวกปรมาจารย์ยังไม่ได้คิดมากขนาดนั้น อาจารย์ที่อยู่ด้านข้างส่วนหนึ่งกลับครุ่นคิดว่าควรจะชุบพื้นผิวข้างนอกด้วยโลหะระดับ C สักหน่อย ลึกลงไปกว่านั้นค่อยเป็นระดับ A จะดีหรือเปล่า?
ปล่อยให้เจ้าฟางผิงบ้าคลั่งไป!
หากทำเหมือนตอนนี้จริงๆ ชกพื้นผิวโลหะผสมระดับ A ด้วยมือเปล่า อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เขาคงจะทำกระดูกมือตัวเองหักด้วยซ้ำ!
—
กลางอากาศเหนือเวที
ฟางผิงไม่รู้ถึงความคิดของมหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่แล้ว
รู้ว่าไม่อาจซ่อมแซมเวทีอีก ฟางผิงก็หมดความกระตือรือร้นไปอยู่บ้าง มองไปยังคนที่อยู่ตรงข้ามว่า “จางเหว่ยคนนั้นลงสนามหรือเปล่า?”
เมื่อกี้เขาอยู่ด้านหลังเวทีจึงไม่เห็นลำดับการลงสนามของทั้งสองฝ่าย นั่นเพราะไม่ได้สนใจจริงๆ
ท่าทีดูแคลนของฟางผิงเด่นชัดขึ้นมาทันที!
ผู้ฝึกยุทธ์จากมหาวิทยาลัยซีซานโมโหอยู่ในใจ ปรากฏว่ายังไม่ทันเปิดปาก ฟางผิงก็เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ช่างเถอะ สู้เสร็จก็คงรู้เอง”
“เริ่มได้!”
“วิชาสะกดร่าง!”
ฟางผิงตะโกนขึ้นมา ในเวลาเดียวกันหมัดขวาก็ประกายแสงสีแดง พลังปราณเข้มข้นพุ่งไปหาฝั่งตรงข้ามในชั่วพริบตา!
ร่างของอีกฝ่ายหยุดนิ่งไปทันที แทบจะร่วงจากอากาศ
ไม่รอให้เขาออกมาจากการสะกดพลังจิตใจ พลังหมัดหมัวเหอของฟางผิงก็ฝ่าออกมาแล้ว ปราณล่วงล้ำเข้าสู่ภายในร่างกายทันที
“ปัง!”
อีกฝ่ายนั้นรู้สึกแค่ว่าอวัยวะภายในสั่นสะเทือน สะพานที่สามในร่างกายที่เพิ่งเชื่อมต่อสำเร็จ สั่นคลอนอย่างรุนแรง ภายใต้การเสียพลังควบคุมก็รักษาสภาวะยืนกลางอากาศไม่ได้อีกแล้ว ร่วงตกลงไป!
ทั้งสนามตกสู่ความเงียบอีกครั้ง เงียบราวกับเกิดเรื่องผิดแปลกไป!
—
“นี่คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่?”
“เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะขั้นสี่ของมหาวิทยาลัยซีซาน ก่อนหน้านี้ในการแข่งขันแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ เคยเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ฝีมือแข็งแกร่ง…เหมือนจะแข็งแกร่ง…”
ผู้ที่ตอบ ไม่รู้ควรจะตอบยังไงดี
แข็งแกร่งงั้นเหรอ?
สมาชิกคนที่สองของมหาวิทยาลัยซีซาน อันที่จริงก่อนหน้านี้ยังนับว่าโดดเด่นในการแข่งขันแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้
หรือจะพูดว่ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่เข้าสู่ศึกชิงสิบอันดับ ทีมผู้เข้าแข่งขันพวกนี้ล้วนเป็นอัจฉริยะ เป็นผู้แข็งแกร่งทั้งนั้น!
แต่ตอนนี้ล่ะ?
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ตีพวกเขาราวกับเป็นเด็กน้อย ตะโกนไม่กี่ประโยค อีกฝ่ายก็ทึ่มทื่อถูกชกร่วงลงไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ปีนออกมาจากโลหะผสมที่ผุพังนั้นอีก
ขายหน้าเกินไปแล้ว!
ผู้ชมบางส่วนที่มาจากซีซานแทบอยากจะด่ากราดออกมา เกียรติยศของซีซานล่ะ!
ถูกคนชกร่วงไม่รู้เป็นรู้ตายง่ายๆ แบบนี้เนี่ยนะ?
ในเวลาเดียวกัน
แต่ละมุมของสนามกีฬาล้วนมีสมาชิกทีมผู้เข้าแข่งขันกำลังชมการต่อสู้อยู่
เหยาเฉิงจวินเห็นฉากนั้นก็ไม่แปลกใจ ส่ายหน้าเล็กน้อย “ทางซีซานบีบให้เขาแสดงฝีมือไม่ได้หรอก”
อีกมุมหนึ่ง
หลี่หานซงเอ่ยอย่างจนใจ “มองไม่ออก ห่างชั้นกันเกินไป มหาวิทยาลัยซีซานแทบไม่สามารถบีบให้เขาทุ่มสุดกำลังได้”
—
หวังจินหยางชำเลืองมองหลานอู๋เฟิงที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นายเทียบกับโจวอู๋จี๋แล้ว ใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”
หลานอู๋เฟิงเงียบไป น่าจะไม่แตกต่างกันมาก
“เรื่องน้องสาวของนาย ฉันเป็นคนบงการเอง อย่าจดจำหนี้แค้นนั้นอีก นายเจอเขาคงต้านได้ไม่เกินหนึ่งกระบวนท่า”
“ฉัน…ฉันเข้าใจแล้ว”
หวังจินหยางไม่พูดมากอีก ฟางผิงเจ้าหมอนี่เจอกับคนที่ฝีมือสู้เขาไม่ได้หรือระดับต่ำกว่าก็แทบจะเอาชนะได้ในชั่วพริบตา
อยากจะอาศัยความสามารถของมหาวิทยาลัยซีซานหยั่งเชิงเขา ไม่มีหวังซะแล้ว
มหาวิทยาลัยอื่นๆ หากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สูงสุดลงมือ บางทีอาจจะพอมองเห็นอะไรบางอย่างได้
—
ภายในสนามกีฬามีการซุบซิบกันไปทั่ว
ด้านนอกนั้นผู้ชมบางส่วนกำลังดูการถ่ายทอดสด โกลาหลวุ่นวายอยู่บ้างเช่นกัน!
“นี่มันอะไรกัน? จัดการในชั่วพริบตางั้นเหรอ?”
“อีกฝ่ายเล่นตลกหรือไง ฉันยังไม่เห็นฟางผิงลงมือด้วยซ้ำ ตัวเองก็ลอยร่วงไปซะแล้ว?”
“ฉันเห็นเหมือนจะเป็นไอดาบ!”
“ไอดาบกับผีน่ะสิ ปลดปล่อยพลังต่างหาก กระบวนท่าเดียวก็จัดการอีกฝ่ายจนไม่รู้เป็นหรือตายแล้ว มหาวิทยาลัยซีซานอ่อนเกินไปจริงๆ!”
“ฉันว่ามหาวิทยาลัยซีซานไม่ได้อ่อน หากอ่อนจริงๆ จะฝ่ามาถึงยี่สิบอันดับแรกได้ยังไง เป็นฟางผิงที่แข็งแกร่งเกินไปต่างหาก ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าฟางผิงปลดปล่อยพลังจิตใจได้…อันที่จริงฉันไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน สรุปแล้วน่าจะเก่งมากๆ นั่นแหละ เจอกับคนที่พลังจิตใจสู้เขาไม่ได้เลยจัดการโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันโต้กลับด้วยซ้ำ”
“วิชาสะกดร่างที่เขาพูดถึงน่ะเหรอ?”
“มีวิชาสะกดร่างอยู่จริงๆ?”
“…”
ประเด็นสนทนาของคนนอกสนามค่อยๆ ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ
————————-