ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 348 คิดว่าฉันความจำเสื่อมหรือไง (1)
ตอนที่ 348 คิดว่าฉันความจำเสื่อมหรือไง (1)
ฟางผิงเอาชนะมหาวิทยาลัยหวากั๋วอย่างสบายๆ พวกยอดฝีมือเข้าใจ แต่คนทั่วไปกลับไม่รู้เรื่องเท่าไหร่
ทุกคนรู้แค่ว่าฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แข็งแกร่งจริงๆ!
หลิวซื่อเจี๋ยจากมหาวิทยาลัยหวากั๋วถูกจัดในอันดับสูงกว่าเซียวอวี้หมิงจากโรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวซะอีก
แต่แม้จะเป็นแบบนี้ ยอดฝีมืออย่างเขากลับต้านฟางผิงได้ไม่ถึงสามสิบวินาที
ช่วงเวลานั้นฟางผิงจึงเข้าไปยึดครองในตำแหน่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในขั้นสี่ทันที
—
หยางเฉิง
ฟางหยวนยิ้มหน้าระรื่น พี่ชายของตัวเองเก่งจริงๆ!
ก่อนหน้านี้ยังกังวลว่าฟางผิงจะสู้คนอื่นไม่ได้ ใครจะรู้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ในร้อยอันดับอะไรนั่นจะอ่อนแอขนาดนี้ แค่เวลาสั้นๆ ก็ถูกพี่ชายจัดการอย่างราบคาบแล้ว!
“พรสวรรค์หกร้อยเก้าสิบเก้า เก่งมากจริงๆ!”
ฟางหยวนอิจฉาอยู่บ้าง ฟางผิงแข็งแกร่งขนาดนี้เพราะมีพรสวรรค์สูง
เขาเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่ถึงสองปี คนที่อยู่ปีสามปีสี่พวกนี้กลับยังสู้เขาไม่ได้ ได้ยินว่าผู้บัญชาการรุ่ยหยางก็เทียบเคียงพี่ชายเธอไม่ได้เหมือนกัน การฝึกวิชาที่ก้าวหน้ารวดเร็วเช่นนี้ ยังไม่ใช่เพราะพรสวรรค์สูงอีกหรือไง
นึกมาถึงตรงนี้เธอก็ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต กลับไม่เห็นมีใครพูดเรื่องพรสวรรค์สูงต่ำ พรสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์ต้องมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ปรากฏออกมาเป็นหน่วยตัวเลขที่ชัดเจนเท่านั้น
ฟางหยวนไม่สนใจ คนอื่นจะรู้อะไร เรื่องของผู้ฝึกยุทธ์ คนที่ไม่อยู่ในวงการย่อมไม่เข้าใจ
“เฮ้อ ไม่สนแล้ว พยายามเพิ่มพรสวรรค์ขึ้นสักหน่อยเถอะ แม้จะเทียบกับฟางผิงไม่ได้ ก็ไม่ควรจะแย่กว่าคนอื่นมากเกินไป”
ฟางหยวนถอนหายใจ หลายวันมานี้เธอไม่กล้าคุยเรื่องนี้กับคนอื่นด้วยซ้ำ กลัวว่าจะถูกคนของสมาคมหยวนผิงรู้ว่าประธานสมาคมของพวกเธอมีพรสวรรค์ต่ำมาก
ไม่นึกถึงเรื่องพวกนี้อีก ฟางหยวนส่งข้อความไปในกลุ่มต่อ พี่ชายของเธอชนะแล้ว ควรต้องปั่นกระแสสักหน่อย
สมาคมผิงหยวนถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเป็นหยวนผิงกรุ๊ปเช่นกัน
—
วันที่ 16 ธันวาคม
วันนี้มหาวิทยาลัยหวากั๋วแข่งขันกับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยปักกิ่งแข่งขันกับโรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจว
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่มีการแข่งขัน มหาวิทยาลัยหนานเจียงปะทะกับครุศาสตร์หวาตง
ฟางผิงเลยตัดสินใจไม่ไปดู!
เมื่อวานหลิวซื่อเจี๋ยได้รับบาดเจ็บหนักจากเขา แม้จะไม่ได้บาดเจ็บถึงอวัยวะภายใน แต่หน้าอกโดนระเบิด ทั้งยังไม่ใช่ยอดฝีมือร่างทอง จะฟื้นฟูเร็วขนาดนั้นได้ยังไง
หากเหยาเฉิงจวินยังจัดการมหาวิทยาลัยอย่างหวากั๋วไม่ได้ งั้นก็คงเป็นตัวไร้ประโยชน์แล้ว
การแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยปักกิ่งและโรงเรียมเตรียมทหารจิ่วโจวยิ่งไม่ต้องพูดถึง
มหาวิทยาลัยหนานเจียงกับครุศาสตร์หวาตง…ฟางผิงคิดว่ามีแต่คนโง่ที่ไปดู น่าจะจบแค่ห้าดาบเท่านั้น
—
ข่าวใหญ่ของวันที่สิบหก ไม่ใช่ข่าวชัยชนะของทั้งสามมหาวิทยาลัย
ทั้งไม่ใช่ข่าวที่หวังจินหยางเอาชนะครุศาสตร์หวาตงด้วยห้าดาบจริงๆ
แต่ข่าวใหญ่ของวันนี้คือหลังจากการแข่งครั้งสุดท้ายที่ครุศาสตร์หวาตงแพ้ให้กับมหาวิทยาลัยหนานเจียง ตอนที่หูหย่งกลับโรงแรม ได้มีคนเข้ามาลอบโจมตี!
กลางวันแสกๆ อาจารย์ของครุศาสตร์หวาตงเพิ่งแยกตัวออกไปได้ไม่นาน หูหย่งก็ถูกคนลอบโจมตีแล้ว!
บุคคลปริศนาสวมหมวกคลุมหัวเข้ามาอัดระเบิดเสื้อผ้าของหูหย่งในโรงแรม
จากคำพูดที่โมโหหลังเกิดเรื่องของหูหย่ง คนๆ นั้นแข็งแกร่งมาก ทั้งต่ำช้าด้วยเช่นกัน ตั้งใจเล็งเสื้อผ้าของเขาโดยเฉพาะ อาจจะมีความแค้นอยู่ในใจ!
อีกฝ่ายระเบิดชุดของเขา ทั้งยังเตรียมจะถ่ายรูป โชคดีที่อาจารย์ครุศาสตร์หวาตงไล่ตามมาซะก่อน บุคคลปริศนาจึงรีบหนีออกไป ตอนนั้นไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่หรือขั้นห้า เพราะคนๆ นั้นเคลื่อนไหวเร็วอย่างมาก
ส่วนตกลงเป็นใคร…
ในโรงแรมวันนั้นมีปรมาจารย์ยอดฝีมืออยู่ด้วย แต่อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือขัดขวาง อธิการของครุศาสตร์หวาตงไปถาม อีกฝ่ายก็ไม่บอกว่าเป็นใคร สรุปแล้วกระตุ้นความสงสัยอย่างยิ่ง
ช่วงเวลานั้นครุศาสตร์หวาตงก็ไม่รู้ว่าใครทำเรื่องดีไว้กันแน่
ตามหลักแล้ว คนที่ทำเรื่องนี้ได้ มีแค่วิทยาลัยสตรีเซี่ยงไฮ้เท่านั้น ยังไงก่อนหน้านี้สถาบันทั้งสองแห่งก็เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
แต่วิทยาลัยสตรีเซี่ยงไฮ้มีแต่ผู้ฝึกยุทธ์หญิง ทั้งพูดตามตรง เรื่องแก้แค้นโดยการระเบิดชุดทั้งหมดของหูหย่ง ยังต่ำช้าเกินไป
ปรมาจารย์ในโรงแรมคนนั้นไม่ยอมพูดว่าใคร ทั้งหูหย่งไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรร้ายแรง ครุศาสตร์หวาตงเดาว่าคนๆ นั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายมากมาย หากสุดท้ายจับมือใครดมไม่ได้ คงทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทนไปเท่านั้น
—
เรื่องราวแพร่กระจายอย่างโกลหลอลม่าน
ดีที่ทีมของครุศาสตร์หวาตงไม่มีการแข่งในกลุ่มเล็กอีกแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องแข่งขัน หูหย่งไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกอีก ไม่งั้นจะขายหน้าขายตายิ่งกว่านี้
—
โรงแรมรับรองของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
ห้องอาหาร
ฟางผิงจ้องมองฉินเฟิ่งชิงอยู่นาน!
เอาเรื่องจริงๆ!
นึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะข่มกลั้นมาจนถึงตอนนี้ เสียทีที่ฉันคิดว่าเขาไม่สนใจจริงๆ
เคลื่อนไหวรวดเร็ว ระเบิดชุดของหูหย่ง สวมหมวกคลุมหัวทำเรื่องหน้าอายแบบนี้…นอกจากฉินเฟิ่งชิงแล้ว ยังจะเป็นใครได้อีก?
ฉินเฟิ่งชิงทำราวกับไม่รู้เรื่อง เห็นฟางผิงมองตัวเองก็ขมวดคิ้วว่า “มองฉันทำไม พรุ่งนี้สู้กับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง นายมั่นใจหรือเปล่า?”
“เหล่าฉิน!”
ฟางผิงยิ้มตาหยี “เรื่องนี้จะให้ฉันแสดงความชื่นชมนายอย่างอ้อมๆ ดีหรือเปล่า?”
“อะไร?”
“เฮ้อ พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ยังจะตีหน้าซื่ออีก?”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียง “อย่ามาใส่ร้ายฉันให้ยาก ไม่ใช่ฝีมือฉัน”
“นายคิดว่าฉันเชื่อหรือเปล่าล่ะ?”
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่”
“งั้นฉันจะไปบอกอธิการครุศาสตร์หวาตง…”
“นายไปก็ดี ไปแล้วฉันจะบอกเขาว่านายเป็นคนให้ฉันทำ นายเป็นประธาน ถ้าฉันไม่ทำ นายจะให้ฉันออกจากมหาวิทยาลัย”
ฟางผิง “…”
ฟางผิงมองเขาด้วยแววตาแตกต่างออกไปทันที!
เอาเรื่องจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะดึงคนติดหล่มไปด้วยกัน!
เรื่องนี้หากฉินเฟิ่งชิงพูดออกไป อธิการครุศาสตร์หวาตงต้องเชื่ออย่างแน่นอนว่าฟางผิงสั่งให้เขาทำ ไม่ใช่อะไรหรอก เป็นเรื่องของชื่อเสียงล้วนๆ
ฟางผิงหมดคำจะพูด เบะปากว่า “งั้นทางโจวฉีเยวี่ย…”
“นายไม่ต้องมายุ่ง” ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียง “ฉันส่งข้อความให้เธอแล้ว ช่วยเหลือเกื้อกูลกันยังดีกว่าหลีกหนีไปคนเดียว! ชั่วชีวิตผู้ฝึกยุทธ์ของฉัน ถ้ำใต้ดินยังไม่สงบ จะคิดเพื่อตัวเองได้ยังไง! ฉันเชื่อว่าเธอสามารถเข้าใจได้! แบบนี้นอกจากไม่ทำร้ายเธอแล้ว ฉันยังประหยัดปัญหาไปได้เยอะ”
ฟางผิงกลืนน้ำลาย เอ่ยว่า “หลังจากนั้นล่ะ?”
“อะไรหลังจากนั้น?”
“โจวฉีเยวี่ยไม่ได้ตอบกลับข้อความนายหรือไง?”
ฉินเฟิ่งชิงเงียบไปพักหนึ่ง “ตอบกลับแล้ว ไม่เข้าใจเท่าไหร่”
“ตอบกลับว่าอะไร?”
“เธอบอกว่าชั่วชีวิตนี้ของเธอคงไม่สามารถลืมได้ นายว่าเธอตอแยฉันหรือเปล่าล่ะ?” ฉินเฟิ่งชิงเห็นได้ชัดว่าปวดหัวอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์หญิงวุ่นวายจริงๆ!
ฟางผิงมึนงงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อยดึงสติได้ โจวฉีเยวี่ยเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?
หรือคิดว่าฉินเฟิ่งชิงหมายถึงเรื่องของถ้ำใต้ดิน ให้เธอลืมความแค้นไปซะ?
ฟางผิงหัวเราะแห้งๆ ไม่ถามต่ออีก เรื่องนี้เปิดเผยออกมาวันไหน เขาคงจะถูกสองคนนี้ทุบตาย
ไมสิ ยังมีหูหย่งอีกคน
บางที…อาจมีปรมาจารย์ของครุศาสตร์หวาตงด้วย?
ไม่พูดเรื่องนี้อีก รอพวกเฉินเหวินหลงมาแล้ว ฟางผิงก็เบี่ยงเข้าประเด็นสำคัญ “พรุ่งนี้เจอกับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง ฉันลงสนามคนแรก เฉินเหวินหลงคนที่สอง จางอวี่คนที่สาม…ทางโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง เหยาเฉิงจวินคงไม่ส่งใครมาตาย เขาต้องลงสนามเป็นคนแรก ไป๋ซวี่น่าจะคนที่สอง ฉันจะสู้กับเหยาเฉิงจวิน…พูดตามตรง เอาชนะได้อยู่แล้ว แต่ต้องดูสถานการณ์ฉันอีกที ถ้าฉันได้รับบาดเจ็บ ฉันอาจไม่ลงสนามรอบสองเสมอไป เพราะวันมะรืนถ้าไม่ได้สู้กับหวังจินหยางก็คงเป็นหลี่หานซง บาดเจ็บหนักคงถ่วงรั้งอีก”
เฉินเหวินหลงเอ่ยอย่างหนักแน่น “วางใจเถอะ ไป๋ซวี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ขอแค่นายเอาชนะเหยาเฉิงจวิน งั้นพวกเราก็ชนะแล้ว แม้ว่าจะนายจะชนะเหยาเฉิงจวินไม่ได้ ฉันก็มีความมั่นใจว่าจะชนะเขาได้เหมือนกัน!”
“งั้นก็ดี”
ฟางผิงพยักหน้า เฉินเหวินหลงเงียบไปพักหนึ่ง “ถ้านายชนะเหยาเฉิงจวิน พวกเขาอาจจะเลือกทะลวงด่าน…หรือ…ฉันควรทะลวงด่านด้วย?”
“นาย?”
ฟางผิงส่ายหน้า “นายเข้าสู่ขั้นสูงสุดในเวลาสั้นกว่าพวกเขา ไม่ได้หลอมเร็วกว่าพวกเขา อวัยวะภายในก็ไม่ได้หลอมจนถึงขีดจำกัด หลังเข้าสู่ขั้นห้าการหลอมอวัยวะภายในอาจจะถูกต่อต้าน รออีกหน่อยทะลวงขั้นห้าก็ไม่เป็นไร ฉันมีอะไรต้องกลัวพวกเขา?”
เฉินเหวินหลงไม่พูดอะไรอีก เขาทะลวงด่านตอนนี้ ถึงขั้นห้าแล้วการหลอมอวัยวะอาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง
—
วันที่ 17 ธันวาคม การแข่งขันวันสุดท้ายในกลุ่มเล็ก
ช่วงเช้าสองรอบ โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวและมหาวิทยาลัยตงหนาน มหาวิทยาลัยจิงหนานและมหาวิทยาลัยหวากั๋ว
สองสนามนี้ไม่มีอะไรให้ดูเท่าไหร่ ทีมที่เข้ารอบล้วนถูกกำหนดไว้หมดแล้ว
การแข่งขันช่วงบ่ายถึงจะเป็นนัดสำคัญ
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กับโรงเรียมเตรียมทหารอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยหนานเจียงและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
—
การแข่งของช่วงเช้าไม่ได้มีคนเยอะเท่าไหร่
ไม่เหนือความคาดหมาย โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวเอาชนะมหาวิทยาลัยตงหนาน
การแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยจิงหนานและมหาวิทยาลัยหวากั๋วกลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม หลิวซื่อเจี๋ยไม่ใช่ยอดฝีมือร่างทอง บาดเจ็บหนักจากฟางผิงจนถึงตอนนี้ยังไม่หายดี ปัจจุบันหมดหวังเข้ารอบแล้ว มหาวิทยาลัยหวากั๋วจึงไม่ให้หลิวซื่อเจี๋ยลงสนามพร้อมบาดแผล
สถานการณ์เช่นนี้มหาวิทยาลัยจิงหนานและหวากั๋วกลับสู้กันอย่างออกรสออกชาติ สู้กันจนไปถึงคนสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายทุ่มเทอย่างสุดกำลัง เกิดผลต่อสู้แบบเสมอกันขึ้นมาเป็นครั้งแรก
นี่ทำให้มหาวิทยาลัยจิงหนานดีใจอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าเวลานี้จะยังได้รับผลตอบแทนกลับมาเล็กน้อย
ช่วงบ่ายตอนที่ฟางผิงนำทีมลงสนาม เจอกับเฉินเย่าถิงก็พยายามเดินเข้าไปหาเขา ท่าทีราวกับว่าเป็นความดีความชอบของฉัน อยากให้เฉินเย่าถิงหลุดปากพูดว่าไม่ต้องการแก่นหัวใจออกมา
เขานั้นไม่ใช่คนที่ติดหนี้ใคร เฉินเย่าถิงค้างแก่นหัวใจไว้ที่เขาครึ่งหนึ่ง เขาเก็บไว้ในใจมานานแล้ว
แต่เฉินเย่าถิงไม่สนใจเขา มองข้ามเขาไปอย่างสิ้นเชิง
ฟางผิงจึงไม่เป็นผลสำเร็จ
ด้านฉินเฟิ่งชิง วันนี้หูหย่งปิดบังหน้าตามาดูการแข่งขัน เจอกับฉินเฟิ่งชิงพอดี มองอยู่พักหนึ่งกลับรู้สึกคุ้นเคยยังไงไม่รู้
————————