ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 349-2 สู้อย่างสบายๆ (2)
ตอนที่ 349 สู้อย่างสบายๆ (2)
“เหลวไหล!”
ในเวลานี้ชายวัยกลางคนในชุดทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา แววตาวาบผ่านความกังวล
พวกหวงจิ่งเผยสีหน้าจริงจังอย่างยิ่ง
สองคนนี้ โดยเฉพาะฟางผิง ดูเหมือนใช้วิธีต่อสู้ง่ายๆ ความจริงกลับเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก
อย่างเมื่อครู่ที่ฟางผิงเพิ่งจะระเบิดพลังจิตใจของตัวเอง แทบจะฉีกพลังจิตใจของเหยาเฉิงจวินแล้ว
พลังจิตใจปะทะกัน เป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด ฟางผิงระเบิดพลังจิตใจของตัวเอง หากไม่ระวังอาจทำให้สมองตัวเองตายได้
วิธีต่อสู้เช่นนี้ โดยทั่วไปปรมาจารย์หรือยอดฝีมือขั้นหกสูงสุดจะใช้ในช่วงเวลาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ที่ถ้ำใต้ดิน พวกอธิการเฒ่าและคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เสี่ยงชีวิตใช้วิธีนี้เช่นกัน รวบรวมพลังภายในร่างกาย หลอมรวมพลังจิตใจและปราณเป็นหนึ่งเดียวระเบิดออกไปตรงๆ ทำลายพลังจิตใจของศัตรู เป็นวิชาต่อสู้ที่พังพินาศไปด้วยกัน!
มองอยู่พักหนึ่ง หวงจิ่งค่อยถอนหายใจเบาๆ “ไม่ได้ระเบิดทั้งหมด ค่อยยังชั่วหน่อย”
ฟางผิงไม่ได้ระเบิดพลังจิตใจของตัวเองทั้งหมด เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังสามารถฟื้นฟูได้ ทั้งเพราะไม่ใช่ทั้งหมด แม้จะสร้างความเสียหายให้เหยาเฉิงจวินกลับไม่ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต
แม้จะเป็นแบบนี้ ปรมาจารย์ยอดฝีมือจากโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งยังคงกังวลอย่างหนัก
พลังจิตใจเสียหาย นี่เป็นการสร้างบาดแผลอย่างร้ายแรง!
—
บนเวที
ตอนนี้ฟางผิงหยุดจู่โจมแล้ว หอบหายใจเล็กน้อย “คงต้องพูดว่านายแข็งแกร่งมาก แต่นายพลาดที่ใช้พลังจิตใจปะทะกับฉัน ฉันไม่อยากทำให้นายบาดเจ็บหนักจริงๆ เหยาเฉิงจวิน ยอมแพ้ซะเถอะ!”
เหยาเฉิงจวินใบหน้าซีดขาว กลับไม่พูดพร่ำอะไร เก็บพลังจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเข้าสู่ร่างกาย เริ่มถือหอกถลาเข้าไปหาฟางผิงอีกครั้ง
ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงไม่พูดมากอีก บนดาบปะทุปราณอันเข้มข้นขึ้นมา
ครู่ต่อมาดาบและหอกก็ปะทะกัน เหยาเฉิงจวินถอยหลังไปหลายก้าว ฟางผิงกลับกระเด็นลอยออกไป กระอักเลือดออกมาอย่างหนัก
—
“วิชามังกรทะยานเก้าขั้นของเหยาเฉิงจวินฝึกถึงขั้นสูงสุดแล้ว เทียบกันเรื่องเคล็ดวิชา ฟางผิงด้อยไปอยู่บ้าง”
ผู้เฒ่าฟู่อธิบาย พิธีกรที่อยู่ด้านข้างเอ่ยถามไปด้วย “ในสายตาท่านฟู่ ผลการต่อสู้ของทั้งสองคนจะเป็นยังไง?”
“เกรงว่าเหยาเฉิงจวินจะแพ้แล้ว”
ผู้เฒ่าฟู่ส่ายหน้าเบาๆ เอ่ยอย่างเสียดาย “ฟางผิง…นอกจากเคล็ดวิชาที่เป็นรองอยู่บ้าง อย่างอื่นแทบจะเอาชนะเขาได้ทั้งหมด เหยาเฉิงจวินมีประสบการณ์การรบมากกว่าฟางผิง แต่ตอนนี้การแสดงฝีมือถูกจำกัดอยู่บ้าง วิธีต่อสู้ของฟางผิงเป็นการบดขยี้มาโดยตลอด ประสบการณ์กลับไม่มีประโยชน์มากนัก…”
เหยาเฉิงจวินแข็งแกร่งมาก แต่พลังจิตใจของฟางผิงแข็งแกร่งกว่าเขา พื้นฐานร่างกายและปราณด้วยเช่นกัน ประเด็นสำคัญยังอยู่ที่ฟื้นฟูได้ไวอีก
เจอกับคู่ต่อสู้แบบนี้ หนึ่งหอกไม่สามารถซัดเขาให้พินาศได้ ไม่นานฟางผิงก็สามารถฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว
ถ้าจะให้คำนิยามคำหนึ่งกับฟางผิง ก็คงจะเป็น…ขนมหนิวผี[1]
รับมือยากเกินไปแล้ว!
ทั้งนี่ยังไม่ใช่การต่อสู้เดิมพันชีวิตอย่างแท้จริง หากเป็นการต่อสู้เดิมพันชีวิต จากสถานการณ์เมื่อสักครู่ บางทีฟางผิงอาจจะสังหารเหยาเฉิงจวินได้อย่างรวดเร็วด้วยซ้ำ
อันดับแรกฟางผิงต้องฟื้นฟูพลังจิตใจได้อย่างไม่ขาดสายเสียก่อน
แน่นอนว่าหากเหยาเฉิงจวินไม่ใช้พลังจิตใจโรมรันกับฟางผิง ฟางผิงอาจไม่สามารถหาโอกาสได้ง่ายๆ แบบนี้เช่นกัน
—
กลางอากาศ
เหยาเฉิงจวินไม่ใช่คนที่ละทิ้งอะไรง่ายๆ ปล่อยวางจากการใช้พลังจิตใจแล้ว เขาก็ใช้วิชาหอกอย่างเชี่ยวชาญ แทบจะจัดการฟางผิงอยู่ฝ่ายเดียว
จากสถานการณ์เหมือนฟางผิงจะเป็นรอง
แต่คนที่มองทะลุปรุโปร่งต่างรู้ว่าตอนนี้เหยาเฉิงจวินเป็นธนูปลายไม้ที่ใกล้หมดแรงแล้ว แม้เคล็ดวิชาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่ได้แข็งแกร่งถึงขั้นบดขยี้ฟางผิงในชั่วพริบตาได้ ฟางผิงกระอักเลือดไม่หยุด ความอึดยังมีเหลือเฟือ ทั้งหาโอกาสโต้คืนไม่ขาดสายเช่นกัน
ทุกดาบของฟางผิงระเบิดเต็มกำลัง ไม่เหมือนกันเหยาเฉิงจวินที่จู่โจมไม่สำเร็จหลายครั้ง พลังกลับค่อยๆ เสื่อมลง
ภายใต้สถานการณ์ต่อเนื่องเช่นนี้ ตั้งแต่แรกที่ฟางผิงเป็นฝ่ายถูกควบคุมจนถึงช่วงหลังค่อยพลิกกลับมาได้ ฟางผิงเริ่มเป็นฝ่ายรุกคืบจัดการเหยาเฉิงจวินแทน
ร่างกายของทั้งสองคนเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดชุ่มทั่วร่าง ฟางผิงกลับสู้อย่างกล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เหยาเฉิงจวินมีสัญญาณเสื่อมถอยโผล่มาให้เห็นแล้ว
เสียงปะทะกันดังลั่น จากกลางอากาศร่วงสู่พื้นดิน จากพื้นดินถลาไปในอากาศ
แม้ว่าคนส่วนมากจะมองเงาของทั้งสองคนได้ไม่ชัด แต่ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคน
แข็งแกร่งหรือไม่ พวกเขาไม่รู้หรอก ดูแค่ควันหลงจากการต่อสู้เท่านั้น
ตอนนี้พื้นเวทีสี่ทิศทางถูกสองคนต่อสู้จนเกิดหลุมยุบไปทั่ว บนเวทีนั้นเกิดประกายไฟลุกโชนเป็นครั้งคราว ทั้งเวทีสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา
—
หลังจากนั้นสิบกว่านาที
เงาของใครคนหนึ่งก็ร่วงจากอากาศตกลงไปนอกเวที เหยาเฉิงจวินแทงหอกเข้าไปในพื้นดิน พื้นสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว
ฝืนพยุงร่างกายให้มั่นคง เหยาเฉิงจวินหอบหายใจอย่างหนัก เผยใบหน้าไร้สีเลือด ชุดทหารบนร่างขาดวิ่นแทบดูไม่ได้ เลือดเหนียวหยดลงบนพื้นดินไม่หยุดหย่อน
หลังจากนั้นไม่นานฟางผิงก็กระโดดลงมาจากอากาศ แม้บนร่างจะเต็มไปด้วยบาดแผล แววตากลับกระจ่างใส เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ยังจะต่อหรือเปล่า?”
เหยาเฉิงจวินไม่พูดอะไร ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “รับหอกสุดท้ายของฉันซะ!”
“ได้!”
สิ้นเสียงนั้น หอกยาวที่ปักบนพื้นดิน จู่ๆ ก็ระเบิดดินรอบบริเวณ กลายเป็นประกายแสงเจิดจ้าพุ่งเข้าหาฟางผิงในชั่วพริบตา
ฟางผิงคำรามในลำคอ ฟันดาบยาวลงไปราวกับสายฟ้าฟาด!
ปัง!
ปัง!
—
ฟันออกไปดาบแล้วดาบเล่า เดิมทีคนนอกก็มองไม่ชัดว่าฟางผิงฟันไปกี่ดาบแล้ว ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาชั่วพริบตา ฟางผิงเก็บดาบกลับไป ยืนตรงอย่างหยิ่งผยอง
เหยาเฉิงจวินส่ายหัวเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก
มาจนถึงตอนนี้ ฟางผิงยังระเบิดพลังอย่างเต็มที่ แม้หอกสุดท้ายของเขาจะมีพลังทำลายล้างสูง แต่สำหรับฟางผิง ฟันสิบกว่าดาบลงไป ยังคงฟาดไอหอกปลิดปลิว
ในเวลานี้เหยาเฉิงจวินยังคงประคองพลังต่อสู้เอาไว้ แม้ว่าจะสิ้นเปลืองปราณอย่างหนัก แต่วิชาเสริมสร้างร่างกายฝึกจนถึงขั้นสูงสุดแล้ว เพียงพอให้ฉีกทึ้งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ทั่วไปเช่นกัน
แต่สำหรับฟางผิง หากเหยาเฉิงจวินต่อสู้ไปแบบนี้ จะเป็นการขายหน้าตัวเองเท่านั้น
“ฉันแพ้แล้ว”
เหยาเฉิงจวินถอนหายใจเบาๆ หมุนตัวเดินเข้าไปหาทีม เขาแพ้แล้ว
เสี้ยวนาทีที่เขาหมุนตัวไป ฟางผิงก็ฝืนกลืนเลือดในปากลงลำคอ ต้องชนะหล่อๆ หน่อย เหยาเฉิงจวินระเบิดพลังหลายครั้ง ทำให้อวัยวะภายในเขาบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน
ตอนนี้แม้ว่าฟางผิงจะยังสู้ต่อได้ แต่อวัยวะภายในบาดเจ็บเกินไป ถึงจะอัดยาก็ไม่ได้ฟื้นฟูไวขนาดนั้น
สำสักไอออกมาเบาๆ ฉวยโอกาสที่คนอื่นไม่ทันได้สนใจ ฟางผิงใช้มือป้องปากกลืนยาฟื้นคืนชีวิตเข้าไปหนึ่งเม็ด ผ่านไปสักพักจึงรู้สึกว่าอวัยวะภายในไม่เจ็บปวดอีกแล้ว
“ฟางผิงชนะ!”
ผู้ตัดสินประกาศผลการต่อสู้ กระโดดลงสู่พื้นดิน มองไปทางฟางผิงว่า “จะต่อหรือเปล่า?”
“แน่นอนครับ!”
ฟางผิงยิ้มอย่างสบายๆ ราวกับไม่มีอาการบาดเจ็บเลยสักนิด บาดแผลบนร่างเหมือนจะไม่ได้เป็นของเขาเสียอย่างนั้น
ผู้ตัดสินมองเขาอย่างลึกล้ำ เจ้าเด็กนี้เพิ่งจะอัดยาฟื้นคืนชีวิตไป ยังจะแกล้งตีหน้าซื่ออีก
แต่ฟางผิงจะสู้ต่อ เขาจึงไม่พูดอะไร ไม่นานก็ประกาศการแข่งขันรอบสอง
รอบที่สองโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งส่งไป๋ซวี่ลงสนาม
เจอกับไป๋ซวี่ ฟางผิงคล้ายกับต่อสู้อย่างดุดันกว่าก่อนหน้านี้ซะอีก ทุกดาบระเบิดปราณอย่างกล้าแกร่ง นี่ทำให้คนของโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งเผยสีหน้าจนใจ เหมือนว่าเหยาเฉิงจวินแทบไม่ได้ทำให้ฟางผิงบาดเจ็บเลยสักนิด
ต่อให้วิชาดาบพิชิตสวรรค์ของฟางผิงจะแย่แค่ไหน ก็ไม่อาจแย่ไปกว่าไป๋ซวี่ได้ รวมกับพลังปราณที่แข็งแกร่งแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้จึงแทบจะถูกอีกฝ่ายอัดอยู่ฝ่ายเดียว ฟันติดต่อกันนับสิบดาบ ไป๋ซวี่หนีจนไม่อาจหนีได้อีก ถูกฟางผิงฟันจนกระเด็นลอยออกไป เลือดไหลไม่หยุด
“ต่อเลย!”
คนที่สามคนที่สี่เจอกับฟางผิงแทบจะตัดสินผลการต่อสู้ได้ภายในสามดาบเท่านั้น
หลังจากคนที่ห้าขึ้นเวที ฟางผิงที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ใช้พลังจิตใจ จู่ๆ ก็ระเบิดออกมาสั่นสะเทือนอีกฝ่ายจนสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ ก่อนจะถูกดาบของฟางผิงฟันตัวลอยออกไปตกกับพื้น ไม่อาจยืนขึ้นมาได้อีก
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นฝ่ายชนะ!”
ผู้ตัดสินประกาศเสียงดัง การแข่งขันครั้งนี้ นอกจากฟางผิงและเหยาเฉิงจวินที่ต่อสู้กันนานแล้ว ช่วงหลังแทบจะสิ้นสุดในเวลาชั่วพริบตา
ฟางผิงพยักหน้าส่งรอยยิ้มให้ทั่วทิศทาง เดินอาดๆ ลงจากเวทีไป
ต่อสู้กับโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งรวดเดียว เอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ในอันดับสามของขั้นสี่ ตอนนี้ยังจะมีใครสงสัยฝีมือของฟางผิงว่าไม่คู่ควรกับอันดับหนึ่งของขั้นสี่อีก?
—
บนอัฒจันทร์
พวกหวังจินหยางและหลี่หานซงเผยสีหน้าจริงจังขึ้นมา เจอกับฟางผิง เกรงว่าจะงานหนักแล้ว
เจ้าหมอนี่…อึดมากจริงๆ!
———————–
[1]ขนมหนิวผี เป็นขนมท้องถิ่นของหยางโจว เนื้อค่อนข้างหนึบหนับและยืดหยุ่น