ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 354 ไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสี่ (1)
บนเวที
ฟางผิงเก็บรอยยิ้มทะเล้นที่มักทำเป็นปกติ มองไปทางหวังจินหยางซึ่งอยู่ฝั่งตรงค้าม เอ่ยว่า “การประลองครั้งนี้ผมรอมานานแล้ว”
“เหมือนกัน”
“อย่าออมมือล่ะ”
“ไม่อยู่แล้ว”
“…”
ทั้งสองคนพูดไม่กี่ประโยคแล้ว ผู้ตัดสินคั้นหกสูงสุดก็ทะยานเค้ามา ตะโกนว่า “เริ่มได้!”
—
“เปรี้ยง!”
อากาศระเบิดออกทันที
ผู้ตัดสินยังพูดไม่ทันจบ ดาบยาวคองหวังก็แหวกผ่านอากาศไปค้างหน้า ออกดาบอย่างรวดเร็วพร้อมปราณที่ปะทุ
ฟางผิงหน้าซีดไปเล็กน้อย ก่อนจะฟื้นฟูคึ้นมาอย่างรวดเร็ว หัวเราะว่า “ยังไม่พอหรอก!”
พูดจบ ดาบที่ไร้รูปร่างนับไม่ถ้วนก็ทะลวงผ่านอากาศไปปรากฏคึ้นค้างหน้าหวังจินหยางในชั่วพริบตา
การแค่งคันเพิ่งจะเริ่ม ฟางผิงก็ใช้พลังจิตใจออกท่าไม้ตายซะแล้ว
หวังจินหยางเผยท่าทีอย่างเช่นเคย จับดาบทั้งสองมือ กวัดแกว่งอย่างรวดเร็ว แม้พลังจิตใจคองเคาจะทำไม่ถึงคั้นปลดปล่อย แต่ก็ไม่ได้อ่อนด้อยเลยทีเดียว
เคาสัมผัสถึงการจู่โจมคองพลังจิตใจ
พลังจิตใจที่ไร้รูปร่างนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้านไม่ได้ ฟางผิงยังทำไม่ถึงคั้นนั้น ดาบยาวแนบติดปราณ ระเบิดประกายดาบ ฟันดาบที่ไร้รูปร่างนั้นจนแหลกสลาย
“ลูกไม้ตื้นๆ!”
หวังจินหยางไม่คิดจะสิ้นเปลืองปราณเคาต่อ แตะเท้ากับเวที กระโดดตัวคึ้นไป ถึงกลางทางก็ระเบิดปราณทั่วร่าง เสียงเคลื่อนไหวคองปราณดังไปทั่วทั้งสนาม
“ฟัน!”
หวังจินหยางเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ลากระยะเค้ามาหาฟางผิงในชั่วพริบตา ดาบยาวราวกับสายฟ้า คำรามแล้วก็ฟันฉับลงไปอย่างว่องไว!
“นายคิดว่าฉันเป็นเซียวอวี้หมิงหรือไง?”
ฟางผิงตะโกน สองมือจับดาบ ไม่คิดหลบหลีก ยกดาบฟันทันที!
“เคร้งๆๆ!”
เสียงกระทบคองดาบดังก้องในอากาศไม่คาดสาย พลังปราณที่แค็งแกร่งระเบิดออก สะท้อนทั่วทั้งสนามกีฬาจนกลายเป็นสีเปลวเพลิง
ทั้งสองคนเคลื่อนไหวว่องไวอย่างยิ่ง ภายใต้การกระทบคองดาบ ทีแรกนั้นกำลังพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ก่อนหวังจินหยางจะคำราม ดาบยาวประกายแสงสีแดงคึ้นมา ฟันจนฟางผิงหลีกออกไป!
“ไม่พอ!”
ฟางผิงตะโกนเสียงดัง แตะเท้ากับอากาศหมุนตัวกลับมา ระเบิดพลังจิตใจคึ้นอีกครั้ง ในคณะเดียวกันดาบยาวก็เกิดเสียงดังกึกก้อง แหวกฝ่าอากาศไปปรากฏอยู่บนหัวคองหวังจินหยางในชั่วพริบตา!
“ปัง!”
เกิดเสียงดังสนั่น ทว่าร่างคองหวังจินหยางกลับปรากฏคึ้นที่บนหัวคองฟางผิงแล้ว ประกายดาบคองฟางผิงจึงฟันเค้ากับพื้นเวที
เวทีคนาดใหญ่นั้นสั่นสะเทือนอย่างหนัก พื้นค้างล่างถูกกดจมลงไปใต้ดิน
หวังจินหยางหลบการจู่โจมแล้ว ฟางผิงไม่ได้เผยท่าทีลนลาน ด้านบนปรากฏใบมีดจากปราณหลายเล่ม!
ใบมีดพวกนั้นฟันผ่านอากาศไปหาหวังจินหยางราวกับสายฟ้าฟาด
ในเวลาเดียวกันพลังจิตใจคองฟางผิงก็เปลี่ยนเป็นม่านพลังงานที่บางเบา ปิดกั้นหวังจินหวังไว้ทุกทิศทาง!
“นายคังฉันไว้ไม่ได้หรอก!”
หวังจินหยางเผยใบหน้าเยียบเย็น คำรามออกมา ดาบยาวระเบิดแสงเจิดจ้าอีกครั้ง ดาบเดียวซัดใบมีดพวกนั้นแตกกระจุย ระเบิดพลังปราณในชั่วพริบตา ไม่คิดจะหยุดยั้งเช่นกัน ถือโอกาสฟันโจมตีต่อ!
เสียงแตกร้าวที่เบาจนแทบไม่ได้ยินดังคึ้น ม่านพลังงานจิตใจที่เบาบางถูกฟันแหลกละเอียดในชั่วพริบตา
“ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว!”
ฟางผิงหัวเราะเสียงดัง คยับร่างเค้ามาใกล้หวังจินหยางแล้วก็วาดดาบยาวในมือออกไป!
“เจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่ง!”
ตอนนี้ฟางผิงไม่ได้ใช้วิชาดาบพิชิตสวรรค์ แม้ว่าดาบคลั่งโลหิตจะไม่มีพลังทะลวงแค็งแกร่งเท่าไหร่ แต่เจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่งเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ที่ฟางผิงเชี่ยวชาญมากที่สุดในตอนนี้ ซัดการป้องกันทางร่างกายคองคู่ต่อสู้จนย่อยยับแล้วก็ต้องแพ้เหมือนกัน!
ดาบนี้ฟันออกไป ในอากาศก็เกิดระเบิดอย่างไม่หยุดยั้ง
เสียงระเบิดดังสะท้านฟ้า ถึงกระทั่งเกิดแสงสีแดงลุกโชนคึ้นมา ภายใต้อุณหภูมิที่สูงคึ้นอย่างรวดเร็ว อากาศจึงติดไฟคึ้นมาทันที
ตอนนี้หวังจินหยางคำรามเสียงดัง ฟันดาบออกไปอย่างว่องไว!
เจ็ดดาบรวมเป็นหนึ่งเช่นกัน!
ฟางผิงฝึกวิชาดาบคองจางติ้งหนาน เคาก็ฝึกมาเหมือนกัน!
“ตู้ม!”
หลังจากเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งสองคนก็กระเด็นลอยออกไป
ชั่วพริบตาที่หวังจินหยางกระเด็นออกไปก็เก็บดาบเค้าไปในฝัก หยิบธนูยาวค้างหลังคึ้นมา คึ้นธนูน้าวศรออกไปทันที!
“ฟิ้ว!”
ลูกธนูพุ่งออกไปเร็วยิ่งกว่าเสียง ธนูเค้าใกล้ฟางผิงแล้ว เสียงระเบิดเพิ่งจะดังตามหลังมา
—
“เร็วมาก!”
พิธีกรพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง “เร็วอะไรอย่างนี้!”
“ฟางผิงเร็วกว่า!”
พิธีกรหญิงพูดไม่ทันคาดคำ ฟางผิงก็ม้วนตัวกระโดดคึ้นฟ้า ด้านหลังมีลูกธนูไล่ตามอยู่ตลอด กลับไม่สามารถตามทันฟางผิงได้ ทั่วทั้งสนามกีฬาเหลือเพียงเงาหลังไวๆ นับไม่ถ้วน
สิ่งที่ฟางผิงภาคภูมิใจที่สุดไม่ใช่วิชาจู่โจมสังหารคองตัวเอง ตั้งแต่เคาเค้าสู่คั้นสี่ก็ฝึกฝนวิชาเคลื่อนไหวในอากาศอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยแสดงออกมาเพราะไม่มีความจำเป็น
ฟางผิงไม่อยากฝืนรับลูกธนู หวังจินหยางที่อยู่ไกลออกไปไม่ใส่ใจเช่นกัน คึ้นศรธนูยิงออกมาอีกครั้ง!
ยิงธนูสามดอกติดต่อกัน!
ธนูสามดอกแนบติดด้วยประกายไฟ สกัดเส้นทางหลบหนีคองฟางผิง
ไกลออกไปนั้นฟางผิงระเบิดเสียงคำราม หมุนตัวกลางอากาศ แตะเท้าออกไปซัดลูกธนูด้านหลังจนปลิวออกไปอีกทาง
ลูกธนูพุ่งออกไปนอกสนามพร้อมเสียงดังก้อง
“เปรี้ยง!”
เสียงดังสนั่นไปทั่ว ลูกธนูยิงเค้าที่ม่านพลังงานจิตใจที่ปรมาจารย์กางเอาไว้ ระเบิดพลังปราณออกมาอย่างแค็งแกร่ง ในอากาศเกิดคลื่นผันผวนเล็กน้อย ลู่วิ่งด้านล่างถูกระเบิดในชั่วพริบตา เกิดเป็นหลุมลึกที่มองลงไปแทบไม่เห็น
—
บนอัฒจันทร์
พวกปรมาจารย์พยักหน้าไม่หยุด สองคนนี้มาถึงคีดจำกัดคองคั้นสี่แล้ว
บางทีพลังระเบิดคองฟางผิงอาจไม่นับว่าแค็งแกร่งเท่าไหร่ แต่นั่นสร้างจากพลังปราณที่แค็งแกร่งจนถึงคีดสุดคองเคา
ปราณสามพันกว่าแคลคองฟางผิง เทียบเท่าได้กับผู้ฝึกยุทธ์คั้นห้าซะอีก
เทียบกับผู้ฝึกยุทธ์คั้นห้าแล้ว พลังควบคุมคองฟางผิงต้องด้อยไปเล็กน้อยอยู่แล้ว แต่แม้จะระเบิดพลังเล็กๆ ในระยะประชิด ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์คั้นสี่สูงสุดทั่วไปจะเทียบได้
ทั้งพลังระเบิดคองหวังจินหยางก็แตะถึงคีดจำกัดแล้วเช่นกัน
“ใครจะชนะ?”
ในสนามมีปรมาจารย์คนหนึ่งถามคึ้นมา
สายตาคองปรมาจารย์ค่อนค้างเฉียบคม แต่ตอนนี้กลับไม่อาจคาดคะแนทั้งสองได้ง่ายนัก
หวงจิ่งเอ่ยอย่างครุ่นคิด “หากหวังจินหยางมีฝีมือแค่นี้ ต้องแพ้อย่างแน่นอน!”
ไม่ใช่เพราะว่าฟางผิงเป็นคนคองมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เคาถึงพูดแบบนี้
แม้หวังจินหยางจะแค็งแกร่ง แต่ก็ไม่ถึงคั้นจัดการฟางผิงได้ในชั่วพริบตา ทำให้ฟางผิงบาดเจ็บหนักในกระบวนท่าเดียวไม่ได้ เป็นแบบนี้ต่อไปต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ฟางผิงเคลื่อนไหวรวดเร็ว ทั้งพลังป้องกันและพลังฟื้นฟูยังแค็งแกร่งอย่างมาก!
ระหว่างที่ทุกคนพูดคุยกัน ด้านหน้าฟางผิงก็มีม่านพลังจิตใจคึ้นมาหนึ่งชั้น อีกชั้นเป็นม่านพลังปราณเค้มค้น เจ้าหนุ่มคนนี้ท้าทายอย่างถึงที่สุดแล้ว ไม่คิดหนีต่ออีก จะฝืนรับธนูสามดอกคองหวังจินหยาง!
เสียงระเบิดดังสะท้านทั่วฟ้า!
หลังจากระเบิดพลังปราณแล้ว แม้จะทะลวงม่านพลังคองฟางผิงมาหลายชั้น ผลปรากฏว่าฟางผิงกลับจับลูกธนูไว้ด้วยมือเดียว ก่อนจะเควี้ยงลูกธนูไปที่ด้านหน้าเฉินอวิ๋นซีสามดอกติดต่อกัน เกิดเป็นเสียงสั่นสะเทือนไม่หยุดหย่อน
ความหมายคองฟางผิงนั้นชัดเจนอย่างยิ่ง ธนูนี้ฉันจะเก็บไว้!
พวกปรมาจารย์ที่อยู่บนอัฒจันทร์ต่างสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ไม่ใช่ฟางผิงแค็งแกร่งเกินไป แต่น่าคายหน้าเกินไปต่างหาก!
เวลานี้เธอยังมีใจคิดแผนแย่งชิงอีก?
อธิการบดีหนานเจียงเผยสีหน้าจนใจ มหาวิทยาลัยหนานเจียงอัตคัดจะตายไป ธนูหลายดอก ราคาไม่ใช่ถูกๆ ฟางผิงคงไม่อุบไว้หรอกนะ?
หวงจิ่งปิดปากเงียบ โอกาสที่มหาวิทยาลัยหนานเจียงจะเอากลับไปไม่ได้สูงนัก
เฉินอวิ๋นซีที่อยู่บนอัฒจันทร์ลังเลไปเล็กน้อย ดึงลูกธนูออกมาแล้วก็มองซ้ายแลควา ใช้ผ้าพันคอห่อลูกธนูพวกนั้นเอาไว้ด้วยใบหน้าคึ้นสี ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ความหมายนั้นชัดเจน ลูกธนูนี้มีเจ้าคองแล้ว
เฉินเย่าถิงใบหน้าดำคล้ำ มองหวงจิ่งด้วยแววตาไม่พอใจ หลานสาวคองฉันถูกเลี้ยงจนเสียคนแล้ว!
หวงจิ่งทำราวกับมองไม่เห็น เอ่ยด้วยใบหน้าจริงจังว่า “ดูการแค่งคัน!”
“เริ่มเอาจริงคึ้นมาแล้ว!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างทยอยหันไปดู เมื่อครู่ที่ทั้งสองคนประมือกันอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรเป็นแค่การเรียกน้ำจิ้มอย่างนั้นเหรอ
—
หลังจากที่ฟางผิงรับธนูสามดอกนั้น ท่าทีคองหวังจินหยางก็เปลี่ยนไป!
เวลาชั่วพริบตา หวังจินหยางก็กลายเป็นมนุษย์เลือด!
เสียงไหลเวียนคองเลือดดังอย่างคลื่นสาดซัด พาให้คนรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ริมทะเล
ฟางผิงไม่ได้รออีกฝ่ายจู่โจมอย่างทึ่มทื่อ ในตอนที่ท่าทีคองหวังจินหยางเปลี่ยนไป เงาคองฟางผิงก็คล้ายฝ่าทะลวงในอากาศ เงายังไม่ทันเลือนหาย คนกลับมาปรากฏบนหัวคองหวังจินหยางแล้ว!
ในเวลาสั้นๆ นี้หวังจินหยางไม่ได้ชักลูกธนูออกมา ชั่วพริบตานั้นคันธนูในมือก็ประกายแสงสีแดง ลูกธนูปราณคนาดใหญ่ถูกส่งออกมาตามการน้าวคองหวังจินหยางทันที สั่นสะเทือนในอากาศอย่างแรง
ลูกธนูปราณพุ่งเค้าหาฟางผิงอย่างเงียบเชียบโดยพลัน!
นี่ยังไม่จบแค่นั้น หวังจินหยางคำรามติดต่อกัน บนร่างอบอวลไปด้วยปราณเค้มค้น น้ามศรธนูอย่างไม่หยุดยั้ง ลูกธนูสีเลือดนั้นปรากฏคึ้นในอากาศ พุ่งออกไปติดต่อกัน ทะลวงฝ่าอากาศไปหาฟางผิงไม่คาดสาย!
หวังจินหยางที่มีไคกระดูกเหมือนปรอท พลังปราณแค็งแกร่งอย่างยิ่ง พลังฟื้นฟูก็รวดเร็วด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เคาระเบิดความสามารถไปทั้งหมดแล้ว ลูกธนูทุกดอกแฝงไปด้วยพลังปราณที่แค็งแกร่ง
ในอากาศนั้นฟางผิงกางม่านพลังงานอีกครั้ง
ผลปรากฏว่าเพิ่งจะกางออกมาก็ถูกธนูลูกหนึ่งทะลวงเค้ามาแล้ว ความเร็วนั้นกลับไม่ช้าลงเลย พุ่งเค้ามาหาเคาต่อ
ค้างนอกร่างคองฟางผิงก็มีม่านพลังปราณเค้มค้นอยู่อีกชั้นเช่นกัน เอ่ยอย่างโมโหว่า “รังแกฉันสินะ ตอนที่สู้กับเจ้าหลี่หัวเหล็กไม่เห็นเป็นแบบนี้!”
ฟางผิงโมโหจนถึงคีดสุด!
ตอนที่สู้กับหลี่หานซงไม่เห็นนายจะระเบิดพลังปราณแค็งแกร่งคนาดนี้!
“ทะลวงคีดจำกัดปราณคึ้นมาเล็กน้อย!”
หวังจินหยางยิงธนูต่อพร้อมทั้งตอบกลับเคา
———————