ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 355 ถ้ำใต้ดินหนานเจียงอุบัติ (1)
ตอนที่ 355 ถ้ำใต้ดินหนานเจียงอุบัติ (1)
ด้านล่างเวที
“ดาบฉัน!”
ฉินเฟิ่งชิงแทบจะพูดเสียงปนร้องไห้
เสี้ยวนาทีที่ฟางผิงเดินลงจากเวที ฉินเฟิ่งชิงก็ถลาเข้ามาทันที จับตัวฟางผิงได้ก็เตรียมต่อว่า
“อึก!”
ฟางผิงกระอักเลือดออกมา ประคองหน้าอกเอาไว้ ชี้ไปที่ฉินเฟิ่งชิง ก่อนจะล้มไปหาถังเฟิงที่เพิ่งมาถึงพอดี
ฉินเฟิ่งชิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย กระอึกกระอักว่า “อย่าทำแบบนี้สิ พวกเราคนกันเองทั้งนั้น…”
แม่งเห็นชัดๆ ว่าจะตบทรัพย์ฉัน!
ถังเฟิงจนใจอยู่บ้าง เอ่ยอย่างปวดหัวว่า “อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บหนัก”
“ไม่ใช่ฝีมือผม!”
ฉินเฟิ่งชิงเสียงแหลมขึ้นมาทันที นี่จะมาโทษฉันไม่ได้!
ฉันแค่จะมาเอาดาบคืนเท่านั้น!
ถังเฟิงเผยสีหน้าหมดคำพูด เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นายยังไม่มีความสามารถนั้น!”
คิดจะทำให้ฟางผิงบาดเจ็บหนัก ฉินเฟิ่งชิงยังทำถึงขั้นนั้นไม่ได้
ฉินเฟิ่งชิงถอนหายใจอย่างโล่งอก พยักหน้างึกงักว่า “ใช่ ผมเอาชนะเขาไม่ได้ ทุกคนเห็นกันหมดแล้ว ไอ้บ้าหวังจินหยางเป็นคนซ้อมเขา ไม่เกี่ยวกับผม…”
ตอนนี้ฟางผิงไม่ได้ถึงกับหมดสติไปเช่นกัน เอ่ยอย่างอ่อนแรงว่า “นายโจมตีฉันครั้งสุดท้าย…”
“ไอ้สารเลว ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย!”
ตีฉินเฟิ่งชิงให้ตายเขาก็ไม่ยอมรับหรอก หากยอมรับ ดาบของเขาอาจจะไม่เหลือแล้วก็ได้
ฟางผิงกลอกตา ตอนนี้เหล่าฉินไม่ได้หลอกง่ายๆ แล้ว
ฟางผิงถอนหายใจ ไม่สนใจเขาอีก ควักขวดยาบำรุงในกระเป๋าด้านข้างออกมา ฟางผิงกินยาฟื้นคืนชีวิตไปสามเม็ดราวกับกินลูกอม
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
คนขี้เหนียวอย่างฟางผิง กินยาฟื้นคืนชีวิตครั้งเดียวถึงสามเม็ด เห็นได้ชัดว่าอวัยวะภายในบาดเจ็บร้ายแรงขนาดไหน
อีกด้านหนึ่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานเจียงก็ควักยาฟื้นคืนชีวิตออกมาหลายเม็ดให้หวังจินหยางกินลงไปเช่นกัน ถอนหายใจเล็กน้อย
ฟางผิงเห็นฉากนั้นพอดี อดมองไปทางถังเฟิงไม่ได้ เอ่ยอย่างจนใจว่า “อาจารย์ ดูมหาวิทยาลัยหนานเจียงสิครับ จนขนาดนั้น…”
อธิการบดีของเขายังให้ยาบำรุงเลย!
ฉันน่าอนาถจริงๆ ต้องมากินยาของตัวเอง!
ถังเฟิงคล้ายกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง แต่ยังคงเอ่ยว่า “มหาวิทยาลัยหนานเจียงเข้าร่วมแข่งขันโดยไม่มีรางวัลเป็นคะแนนให้”
นี่เป็นเรื่องจริง มหาวิทยาลัยหนานเจียงไม่มีคะแนนเป็นรางวัลให้จริงๆ
หวังจินหยางไม่ต้องการ คนอื่นๆ ไม่กล้าเช่นกัน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่แทบไม่ได้ลงสนามเช่นนี้
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ให้ทีมหลักคนละตั้งสองพันคะแนน ยาฟื้นคืนชีวิตอีกสิบเม็ด
ฟางผิงจนใจอยู่บ้าง ชำเลืองมองฉินเฟิ่งชิงว่า “นายแทบไม่ได้ลงมือ สองพันคะแนนเยอะเกินไปแล้ว…”
ฉินเฟิ่งชิงหน้าดำเป็นก้นหม้อ กัดฟันว่า “นายไม่ให้ฉันลงสนามเอง ไม่ใช่ฉันอิดออดไม่ลงสนามสักหน่อย!”
จะเอายังไง?
ยังคิดจะหักคะแนนฉันอีก?
นายกล้าหัก ฉันก็กล้าเดิมพันชีวิตกับนาย!
ฟางผิงเห็นว่าเขาต่อกรยากจึงมองไปทางพวกเซี่ยเหล่ย ถอนหายใจว่า “ตอนนี้สถานการณ์ในมหาวิทยาลัยก็ยากลำบาก เอาอย่างนี้ดีหรือเปล่า ทุกคนเหลือแค่หนึ่งพันคะแนนพอ ประหยัดให้มหาวิทยาลัยหน่อย…”
ตอนนี้เฉินเหวินหลงขึ้นไปบนเวทีแล้ว จางอวี่ได้ฟังก็เอ่ยว่า “ฉันไม่คัดค้าน ไม่ให้คะแนนก็ไม่เป็นไร”
ฟางผิงยกนิ้วโป้งให้ในใจ บุคคลตัวอย่าง ดูไว้ นี่ถึงจะเป็นวิถีของสุภาพชน
จะเหมือนฉินเฟิ่งชิงได้ยังไง เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้!
จางอวี่เพิ่งจะพูดจบ ถังเฟิ่งก็เอ่ยว่า “เอาเถอะ ทุกคนควรจะได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นแหละ มหาวิทยาลัยยังไม่ได้วิกฤตถึงขั้นนั้น”
ฉินเฟิ่งชิงพยักหน้าระรัว ก่อนจะฉวยดาบมาจากมือฟางผิง เห็นดาบเเหว่งเป็นใบเลื่อย ฉินเฟิ่งชิงคล้ายถูกทิ่มแทงใจ กัดฟันว่า “อย่างน้อยต้องชดใช้ให้ฉันแปดสิบล้าน!”
ฟางผิงกลอกตา คร้านจะสนใจ
ฉินเฟิ่งชิงเห็นแบบนั้นก็เอ่ยอีกครั้ง “หกสิบล้าน…ห้ามยกสี่สิบล้านอะไรนั่นของนายมาพูดแล้ว ไม่งั้นฉันจะไม่ขอมีชีวิตอยู่ จะไปแก้ผ้าล่อนจ้อนวิ่งรอบสนามกีฬาตอนนี้ บอกว่านายเป็นคนบังคับฉัน!”
ทุกคนต่างพากันเผยสีหน้าตกใจ!
คำพูดนี้ของฉินเฟิ่งชิงจะเจ๋งเกินไปแล้ว
ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียงว่า “มองฉันทำไม ฉันขายหน้า มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ขายหน้า ทั้งยังอับอายไปถึงวงศ์ตระกูล ฟางผิงไม่ชดใช้ฉัน ฉันจะพังพินาศไปพร้อมกับเขา!”
ฟางผิงหมดคำจะพูด ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยอย่างเหนื่อยใจว่า “อวิ๋นซี เอาลูกธนูสามดอกมาให้ฉัน”
เฉินอวิ๋นซีรีบส่งลูกธนูให้ฟางผิง ฟางผิงรออยู่สักพัก ยังไงค่าทรัพย์สินก็ไม่ยอมเพิ่มขึ้นมา!
ฟางผิงจนใจอยู่บ้าง แบบนี้มหาวิทยาลัยหนานเจียงยังคิดจะเอาคืนสินะ?
จะเป็นไปได้ยังไง!
ครั้งนี้สู้กับเหล่าหวัง เขาใช้ปราณไปไม่น้อย สิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินกว่าห้าล้าน รวมถึงยาฟื้นคืนชีวิตสามเม็ด เขาเข้าเนื้อขนาดนี้ไม่พูดถึงแล้ว
ไม่อาจจะขาดทุนไปกว่านี้ได้ ลูกธนูสามดอกนี้ ตัวเองต้องเอาไว้ให้ได้
ยังไงครั้งนี้มหาวิทยาลัยหนานเจียงก็เข้าสู่สี่อันดับแรก ได้เงินจัดสรรเพิ่มกว่าหมื่นล้าน คงไม่สนใจความเสียหายเล็กน้อยแค่นี้
รวมทั้งครั้งก่อนที่เหล่าหวังติดเงินเขาเกือบหกสิบล้าน ลูกธนูโลหะผสมระดับ A สามดอกอย่างมากก็ไม่กี่ล้านเท่านั้น
นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็ไม่สนใจเขา โยนลูกธนูให้ฉินเฟิ่งชิง เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “แค่นี้ก็พอแล้ว อย่ามาเล่นไม้นี้กับฉัน แหว่งไปนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้แหลกจนเป็นผุยผงสักหน่อย”
เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิ่งชิงไม่พอใจเท่าไหร่ พึมพำว่า “นายยังมีดาบกวนอูระดับ B ไม่ใช่หรือไง?”
“ชดใช้ให้รุ่นพี่เหลียงไปแล้ว”
“เขาแค่ดาบระดับ C ของฉันระดับ B เอาดาบให้ฉันแทน แล้วฉันจะเอาลูกธนูให้เขา?”
“ฮ่าๆ!”
“ฟางผิง นี่นายจะทำเกินไปแล้ว นายสู้จนดาบฉันเป็นแบบนี้…”
ฟางผิงปวดหัว โบกไม้โบกมือว่า “ถือว่านายค้างฉันอีกสามสิบล้าน หักไปอีกสิบล้าน พอแล้วสินะ?”
“นาย…”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าขุ่นเคือง แต่ลูกธนูสามดอก ทั้งเพลาธนูก็เป็นโลหะผสมระดับ A พอจะฝืนชดใช้ค่าเสียหายเขาไปได้
ตอนนี้ฟางผิงหักไปอีกสิบล้าน…แม้ว่าเงินนี้เขาจะไม่ได้คิดใช้คืน แต่ลดไปสิบล้าน เหมือนจะได้เปรียบไม่น้อย
นึกมาถึงตรงนี้ แม้จะยังไม่พอใจอยู่บ้าง ฉินเฟิ่งชิงก็ไม่ยุ่งย่ามอีก พยักหน้าว่า “งั้นให้นายได้กำไรบ้างละกัน”
“สามสิบล้านอย่าลืมคืนฉันด้วย”
“ฉัน…”
ฉินเฟิ่งชิงลอบด่าในใจ คืนปู่แกสิ!
ในระหว่างที่ทุกคนพูดคุยกัน เฉินเหวินหลงก็เอาชนะหลานอู๋เฟิงอย่างสบายๆ แล้ว
สู้มาจนถึงตอนนี้ อันที่จริงฟางผิงคร้านจะดูแล้วเหมือนกัน ยังเหลือขั้นสามอีกสามคน มีอะไรให้สู้อีก
มองออกไปไกลๆ หวังจินหยางยังรักษาบาดแผลอยู่ ฟางผิงถอนหายใจว่า “การแข่งขันอันดับสามและอันดับสี่หลังจากนี้ เขาน่าจะไม่ลงสนามแล้ว ฝีมือของหวังจินหยางด้อยกว่าฉันไปเล็กน้อยเท่านั้น สู้กับเหยาเฉิงจวินยังมีหวังอยู่เช่นกัน”
ถังเฟิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง เธอล้ำหน้าเขาไปช่วงหนึ่ง?
แต่จะพูดแบบนี้ก็ได้
ฟางผิงอึดกว่าหวังจินหยางจริงๆ หากทั้งสองคนแข่งเดิมพันชีวิตจนถึงช่วงสุดท้าย หวังจินหยางมีโอกาสตายมากกว่า ฟางผิงอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป
ตรวจสอบอวัยวะภายในของฟางผิงเล็กน้อย เห็นว่าอาการเริ่มปรับเปลี่ยนดีขึ้น ถังเฟิงก็ถอนหายใจเบาๆ “ค่อยยังชั่ว แต่ว่า..เธอมุทะลุเกินไปแล้ว สะพานฟ้าดินของเธอเกือบจะพังทลายลงจริงๆ แล้ว!”
หากพังทลาย ฟางผิงต้องตกลงไปอีกหนึ่งขั้น เข้าสู่ขั้นสาม
แน่นอนว่าการหลอมกระดูกและร่างกายยังเหมือนเดิม แค่สะพานฟ้าดินพังทลาย อวัยวะภายในของเขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก คิดทะลวงขั้นสี่อีกครั้งก็เป็นเรื่องยากแล้ว
“ผมไม่ได้วางแผนจะใช้วิธีนี้”
ฟางผิงส่ายหัว เอ่ยอย่างจนใจว่า “เขาจะรังแกผมให้ได้ ตอนที่สู้กับหลี่หานซงไม่เห็นเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าเป็นเหมือนตอนนั้น ผมก็คงพร่ากำลังเขาต่อไปเรื่อยๆ ได้ ผลปรากฏว่าพอสู้กับผม ทำอย่างกับกินยาโด๊ปเข้าไป ไม่อัดเขาแล้วจะให้อัดใครอีก!”
เหล่าหวังรังแกกันเกินไป!
ตอนที่สู้กับเขา ระเบิดปราณแข็งแกร่งจนถึงขีดสุด ยังใช้การโจมตีระยะไกลอีก ท้ายที่สุดปล่อยไขกระดูกซึมออกจากร่าง ซ้อมเขาอย่างไม่สนใจอาการบาดเจ็บตัวเองด้วยซ้ำ
ภายใต้สภาวะไร้ทางเลือก ฟางผิงทำได้แค่โต้คืน
ส่วนใครเป็นคนใช้กระบวนท่าใหญ่ก่อน ฟางผิงลืมไปแล้ว
—
อีกด้านหนึ่ง
บาดแผลบนร่างของหวังจินหยางค่อยๆ เริ่มประสานกัน
ผ่านไปสักพัก หวังจินหยางก็ลืมตาขึ้น อธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานเจียงถอนหายใจเล็กน้อย อาจารย์ที่อยู่ด้านข้างอยากจะพูดอะไรสักอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “บุ่มบ่ามไปอยู่บ้าง”
หวังจินหยางไม่ปฏิเสธเช่นกัน พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ความอยากเอาชนะผุดขึ้นมาแล้วห้ามไม่อยู่จริงๆ”
ปกติเขาเป็นคนสุขุมนิ่งลึก
แต่ครั้งนี้ควบคุมไม่อยู่จริงๆ
————————