ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 359 มาถึงหนานเจียง (1)
ตอนที่ 359 มาถึงหนานเจียง (1)
วันที่ 20 ธันวาคม
ใต้ตึกสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
นักศึกษาที่เตรียมจะออกเดินทางทยอยมาถึงแล้ว
ฉินเฟิ่งชิงพกดาบยาวที่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ ไม่มีชีวิตชีวาอยู่บ้าง ช่วงนี้ใช้ชีวิตได้อย่างน่าสมเพชเหลือเกิน นี่ทำให้ฉินเฟิ่งชิงรู้สึกว่าได้รับแรงโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตแล้ว
ตอนที่เห็นฟางผิง ฉินเฟิ่งชิงห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด นี่ไม่ใช่ฟางผิงตัวจริง
เขาไม่สนใจฟางผิง ฟางผิงกลับเดินมาหาเขา ตบไหล่เขาด้วยรอยยิ้มว่า “รุ่นพี่ฉิน ไม่เป็นไรสินะ ยังโกรธเรื่องเมื่อวาน?”
ฉินเฟิ่งชิงรับรู้ถึงเจตนาร้ายอันเข้มข้น!
“เปล่า เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว แค่หนึ่งพันคะแนนเท่านั้น ไม่นับเป็นเรื่องใหญ่อะไร!”
ฉินเฟิ่งชิงตอบอย่างว่องไว ฉันไม่แค้นเคืองหรอก ตอนนี้กระทั่งนายยังกลายเป็นนักบุญแล้ว ฉันแค้นนายอีกก็กลายเป็นคนใจแคบน่ะสิ
ฟางผิงหัวเราะ พยักหน้าแล้วกดเสียงเบาว่า “การเดินทางครั้งนี้ให้ความร่วมมือฉันด้วยล่ะ ไม่งั้นครึ่งปีที่เหลือฉันจะกดขี่นายต่อแน่!”
“หา?”
ฉินเฟิ่งชิงไม่เข้าใจเท่าไหร่ ร่วมมืออะไรกับนาย?
“อย่ามาแกล้งโง่ คนอื่นไม่เหมาะ แต่นายไม่มีปัญหา ถึงหนานเจียงแล้วอย่าลืมบอกผู้ว่าการมณฑลรวมถึงผู้ฝึกยุทธ์ของหนานเจียงว่าครั้งนี้ฉันยังควักเงินส่วนตัวหลายร้อยล้านเพื่อช่วยเหลือหนานเจียง! อย่าทำให้ดูจงใจเกินไป เป็นธรรมชาติหน่อย อีกอย่างเจอกับคนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งแล้วก็ประโคมข่าวให้ฉันสักหน่อย”
ฉินเฟิ่งชิงอ้าปากค้าง นายกำลังรอแบบนี้อยู่สินะ!
นี่คือซื้อใจคนของเซี่ยงไฮ้ไม่พอ ยังจะซื้อใจผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียงอีก? กระทั่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นายก็คิดจะวางแผนด้วย!
ไอ้สารเลวฟางผิง ตกลงคิดจะทำอะไรกันแน่?
ปกครองโลกของผู้ฝึกยุทธ์?
ประเด็นอยู่ที่ว่าแม่งจะให้ฉันร่วมมือกับนาย ยังมาทำท่าว่าคนอื่นไม่เหมาะจะทำเรื่องนี้ หมายความว่ายังไง?
ฉันเหมาะสมตรงไหน?
“ฉันไม่ทำ!”
ฉินเฟิ่งชิงปฏิเสธทันที ฉันใกล้จะเรียนจบแล้ว พอเรียนจบก็ไม่กลัวนายอีกต่อไป!
“ไม่ทำ? ไม่ทำงั้นก็คืนยาฟื้นคืนชีวิตและยาบำรุงเลือดและปราณที่เอาไปเมื่อวานให้ฉัน!”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างโมโหว่า “นั่นนายเป็นคนแจกเอง ไม่เกี่ยวกับฉัน คนอื่นยังเอาไปได้ ทำไมฉันเอาไม่ได้!”
“เบาๆ หน่อย!”
ฟางผิงเห็นคนรอบๆ เริ่มมองเข้ามาก็กระซิบเสียงเบา ก่อนจะค่อยตะโกนว่า “รุ่นพี่ฉิน ไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนี้ ทุกคนรับไปหมดแล้ว นี่ก็ไม่ใช่ของส่วนตัวของฉัน หนานเจียงก็ให้การจุนเจือเช่นกัน นายจะคืนให้ฉัน นี่จะไม่ให้ฉันลำบากใจได้ยังไง?”
“…”
ฉินเฟิ่งชิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นายเล่นละครอยู่คนเดียว เหมาะสมจริงๆ หรือไง?
จางอวี่ที่กำลังส่งพวกเขาออกจากประตู แปลกใจอยู่บ้าง รีบเอ่ยว่า “ฉินเฟิ่งชิง รับไว้เถอะ นี่ถือเป็นความปรารถนาดีจากฟางผิง เมื่อวานหักนายไปหนึ่งพันคะแนนก็เพื่อรักษาความยุติธรรมให้สมาคม นายอย่าแค้นเคืองฟางผิงเลย…”
ฉินเฟิ่งชิงไม่ใช่คนที่จะปฏิเสธผลประโยชน์ที่มาถึงมือแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่คิดจะเอาผลประโยชน์ เห็นได้ชัดว่าเกลียดฟางผิงเข้าไส้จริงๆ
เวลานี้หลายคนต่างเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อม
ฉินเฟิ่งชิงเห็นฟางผิงเผยสีหน้าไร้เดียงสา ผ่านไปพักหนึ่งจึงกัดฟันพยักหน้าว่า “ได้!”
คำว่า ‘ได้’ นั้น ไม่ใช่ ‘ได้’ อย่างที่ทุกคนเข้าใจ เขากำลังบอกฟางผิงว่านับว่านายยอดเยี่ยม รับปากก็ได้!
ฟางผิงหัวเราะขึ้นมาทันที “ทุกคนเป็นนักศึกษาเซี่ยงไฮ้เหมือนกัน ต่างทำเพื่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ รุ่นพี่ฉินเข้าใจก็ดีแล้ว”
ระหว่างที่พูด เฉินอวิ๋นซีก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน ตะโกนว่า “ประธาน แลกของมาแล้ว!”
ฟางผิงเดินเข้าไปหาทันที รับดาบยาวรูปแบบธรรมดาเล่มหนึ่งส่งให้เหลียงเฟิงหวา “ดาบรุ่นพี่เหลียงก่อนหน้านี้ถูกฉันทำพังแล้ว ดาบกวนอูเล่มนั้นของฉันไม่ค่อยเหมาะกับรุ่นพี่เหลียงเท่าไหร่ ฉันให้อวิ๋นซีไปแลกเปลี่ยนที่ฝ่ายบริการมา ครั้งนี้รุ่นพี่เหลียงต้องนั่งรักษาการณ์ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ แม้มหาวิทยาลัยจะมีพวกอธิการอยู่ แต่สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ถึงเวลาที่ต้องใช้ประโยชน์ก็ต้องใช้ประโยชน์เช่นกัน ดาบเล่มนี้รุ่นพี่เหลียงรับไว้เถอะ หวังว่าตอนที่พวกเราเสร็จภารกิจกลับมา มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะดีขึ้นกว่าเดิม”
“ฟางผิง นี่…”
เหลียงเฟิงหวาเกรงใจอยู่บ้าง ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ด้านข้างเบะปาก จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัว ความรู้สึกนี้…คุ้นเกินไปแล้ว!
พลังจิตใจ!
ฉินเฟิ่งชิงโมโหจนใบหน้าเขียวคล้ำ ผ่านไปสักพักจึงพึมพำว่า “รับไว้เถอะ ดาบระดับ C เปลี่ยนเป็นระดับ B ฉันอยากได้ยังไม่ได้เลย ไม่เอาก็เสียของเปล่า ฟางผิงหันไปใช้อาวุธระดับ A นู้นแล้ว”
ฟางผิงหันไปถลึงตาใส่เขา ไม่ได้พูดอีก ยัดดาบใส่มือเหลียงเฟิงหวา เอ่ยเสียงดังว่า “ขึ้นรถ ออกเดินทาง!”
“ฟางผิง…”
เหลียงเฟิงหวายังอยากพูดอะไรสักอย่าง ฟางผิงกลับสาวเท้าขึ้นรถไปแล้ว
คนอื่นๆ ต่างมองเหลียงเฟิงหวาอย่างอิจฉาอยู่บ้าง ก่อนจะอดมองไปทางฟางผิงอีกทีไม่ได้ ใจกว้างจริงๆ!
ท่ามกลางคนพวกนั้นมีเพียงฉินเฟิ่งชิงที่คร่ำครวญอยู่ในใจ
จบแล้ว!
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จบเห่แล้ว!
ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ใกล้จะตกสู่มือเจ้าฟางผิงคนต่ำช้าคนนี้แล้ว
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่คนหนึ่ง…แม่งคิดจะกุมอำนาจของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ลำพังตอนนี้ก็เกือบทำสำเร็จแล้ว
เจ้าสารเลวฟางผิง หากกลายเป็นปรมาจารย์จริงๆ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟางแล้ว
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังจะซื้อใจคนของหนานเจียงอีก!
หรือคิดอยากจะคว้าตำแหน่งผู้ว่าและอธิการบดีในคราวเดียว?
ฟางผิงพาผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายขึ้นไปนับสิบคนไปช่วยสนับสนุนหนานเจียง ควักเงินส่วนตัวจุนเจือนับร้อยล้าน แม่งพ่อพระมาโปรดโลกมนุษย์ชัดๆ!
อย่างอื่นไม่พูดถึง แต่เวลานี้เบื้องบนของหนานเจียงต้องซาบซึ้งในตัวฟางผิงแน่
“เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเงียบๆ
มีเพียงฉันที่ได้สติท่ามกลางผู้คนที่เมามาย คนฉลาดที่คลุกตัวอยู่ในกลุ่มคนโง่ เห็นได้ชัดว่าฉันไม่เข้าพวก
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อยู่ไม่ได้แล้ว!”
พึมพำในใจขึ้นอีกครั้ง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ใกล้จะกลายเป็นอาณาเขตของฟางผิงแล้ว ยังจะอยู่ต่ออีกทำไม เรียนจบแล้วฉันก็จะไสหัวออกไปเดินตามทางของตัวเอง!
—
หนานเจียง
รุ่ยอัน
พวกปรมาจารย์คนอื่นๆ ตอนนี้กำลังพักฟื้นร่างกาย เตรียมพร้อมเข้าถ้ำใต้ดินทุกเมื่อ
ผู้ว่าการหนานเจียงกลับไม่อาจพักผ่อนได้
ตอนนี้จางติ้งหนานนำคนมาต้อนรับทางเขตแดนของรุ่ยอัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญ!
ฟางผิง อัจฉริยะที่เดินออกไปจากหนานเจียง นำคนมาสนับสนุนจริงๆ
เขาและหลิวพั่วหลู่ปรึกษาหารือกันหลายครั้ง หลิวพั่วหลู่กลับบอกปัดว่าตัวเองไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ ไม่อาจแทรกแซงการตัดสินใจของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้
เดิมทีจางติ้งหนานนั้นไม่มีความหวังแล้ว ผลปรากฏว่าเขากลับต้องตกใจและดีใจอย่างคาดไม่ถึง
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มาช่วยสนับสนุน!
ไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ฟางผิงยังเกลี้ยกล่อมมหาวิทยาลัยปักกิ่งด้วย ครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายเคลื่อนไหวขั้นหกเจ็ดคน ขั้นห้ายี่สิบคน ขั้นสี่สามสิบห้าคน ขั้นสามตอนปลายและสูงสุดอีกสี่สิบคน
รวมแล้วเกินกว่าหนึ่งร้อยคน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางเกินกว่าครึ่ง!
ดูเหมือนคนไม่เยอะ แต่พลังเช่นนี้ในความเป็นจริงกลับแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ครั้งนี้หนานเจียงเรียกรวมผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางยังไม่ถึงสามร้อยคนด้วยซ้ำ
ยังไงก็ไม่ใช่ทุกคนที่ปลีกตัวมาได้ หนานเจียงยังต้องรักษาระเบียบสังคมให้เป็นปกติ ระดับกลางสามร้อยคนถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว
ทางหน่วยทหารส่งระดับกลางมาสามสี่ร้อยคนเช่นกัน
กองตั้งมั่นเฝ้าระวังส่งมาอีกกว่าร้อยคน
รวมกับแต่ละพื้นที่ส่งกำลังสนับสนุนเข้ามาบางส่วน ตอนนี้หนานเจียงมียอดฝีมือระดับกลางเกือบหนึ่งพันคนแล้ว รวมมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็เกินหนึ่งพันคนอย่างเป็นทางการ
ระดับกลางหกสิบคนขึ้นไปถือว่าไม่อ่อนด้อยแล้วจริงๆ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้สองแห่งนี้ก็เทียบเท่ากับกำลังสนับสนุนรอบๆ มณฑลแล้ว
จางติ้งหนานกำลังรอคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยปักกิ่งมาถึง ถอนหายใจว่า “นึกไม่ถึงว่าเขาจะพาคนมาจริงๆ”
หวังจินหยางที่รออยู่เหมือนกัน พยักหน้าเบาๆ “เหนือความคาดหมายของผมเหมือนกัน”
ทั้งสองมหาวิทยาลัยชื่อดังยังแข็งแกร่งจนห่างไกลความจริงอยู่บ้าง
มหาวิทยาลัยหนานเจียง แค่ขั้นสามก็เป็นอาจารย์ได้แล้ว ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยหนานเจียงมีอาจารย์ประมาณสี่ร้อยคน ระดับกลาง…มีประมาณหนึ่งร้อยคน
มหาวิทยาลัยหนานเจียงไม่อาจทุ่มหมดหน้าตัก ครั้งนี้อาจารย์ระดับกลางของมหาวิทยาลัยหนานเจียงมาเพียงห้าสิบคนเท่านั้น ยังไงมหาวิทยาลัยก็ต้องดำเนินการเรียนการสอนต่อไป
ผลปรากฏว่ามหาวิทยาลัยหนานเจียงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ประชากรเยอะที่สุด และฝีมือแข็งแกร่งที่สุดในหนานเจียง ยังแข็งแกร่งสู้กำลังสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยภายนอกไม่ได้ นี่ทำให้คนเศร้าสลดอยู่บ้าง
———————