ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 361-2 เข้าถ้ำใต้ดิน (2)
ตอนที่ 361 เข้าถ้ำใต้ดิน (2)
ฟางผิงหุบปากลงทันที มองฉินเฟิ่งชิงที่ยังอ้ำอึ้ง กัดฟันว่า “หนึ่งร้อยสิบล้านแล้ว!”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าขุ่นเคือง แพ้ติดต่อกันจนจะไม่เหลือกางเกงให้สวมแล้ว
“นายขี้โกง!”
ฉินเฟิ่งชิงไม่พอใจ ชี้นิ้วใส่ฟางผิงอย่างโมโห “นายต้องใช้พลังจิตใจแอบดูไพ่ฉันแน่!”
“ไอ้เวร จำเป็นด้วยหรือไง?”
“งั้นทำไมฉันถึงแพ้ตลอดล่ะ!”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง นายดวงซวยเอง มาโทษฉัน?”
“…”
พวกเขาเอะอะโวยวายเสียงดัง ดึงดูดสายตาคนไม่น้อย
—
ชายชราหลายคนที่อยู่ด้านข้างหัวเราะขึ้นมาเช่นกัน พวกเด็กรุ่นใหม่เทียบกับรุ่นพวกเขานั้นกลับแข็งแกร่งกว่าสามส่วน
แค่ความกล้าและความสุขุมนี้ก็เอาชนะผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วนแล้ว
ตาเฒ่าหลี่ชำเลืองมองฟางผิงแวบหนึ่ง จนใจอยู่บ้าง ไอ้หนูนี่จะเข้าไปเป็นกลุ่มแรกให้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้นสักหน่อย
น่าเสียดายที่พวกฟางผิงตัดสินใจกันแล้ว ทั้งอู๋ชวนก็ตอบรับเช่นกัน เขาพูดอะไรไปเกรงว่าคงไม่มีประโยชน์แล้ว
—
“ฟางผิง!”
ฟางผิงยังกำลังถกเถียงกับฉินเฟิ่งชิงเรื่องที่ตัวเองไม่ได้โกง ด้านข้างก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
ฟางผิงหันไปมอง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไป
“ฟางผิง นายจะเข้าไปจริงๆ เหรอ?”
เฉินอวิ๋นซีเผยสีหน้าร้อนใจ เมื่อกี้เธอเพิ่งรู้มาว่าฟางผิงจะลงถ้ำใต้ดินเป็นกลุ่มแรก
เดิมทีจะเข้าไปเป็นกลุ่มที่สอง ตอนนี้มาเปลี่ยนเป็นกลุ่มแรกซะงั้น
ทั้งกลุ่มแรกที่เข้าไป เป็นกลุ่มที่มีโอกาสตายสูงที่สุดเมื่อมีถ้ำใต้ดินอุบัติใหม่
ฟางผิงพยักหน้าว่า “จะไปเร็วหรือช้าก็เหมือนกัน มีอะไรแตกต่าง? เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้วเธอกลับไปก่อนเถอะ…”
“ฟางผิง…”
เฉินอวิ๋นซีเรียกเขาไว้ ก่อนจะควักขวดยาบำรุงออกมายัดใส่มือฟางผิง เอ่ยเสียงเบาว่า “งั้นนายรับอันนี้ไว้เถอะ”
เฉินอวิ๋นซีไม่ได้เกลี้ยกล่อมอะไรอีก ผู้ฝึกยุทธ์ โดยเฉพาะระดับขั้นอย่างพวกฟางผิง น่าจะชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอย่างชัดเจนตั้งนานแล้ว
ในเมื่อเขาตัดสินใจจะไป เกลี้ยกล่อมไปก็ไร้ประโยชน์
ตอนนี้เธอทำได้เพียงช่วยเตรียมยาบำรุงที่ช่วยชีวิตฟางผิงให้มากขึ้นเท่านั้น
“ไม่ต้องหรอก”
ฟางผิงส่งขวดยาคืนให้เธอ ขมวดคิ้วว่า “ฉันมีแล้ว เธอไม่ต้องกังวลทางฉันหรอก ดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ ฉันจะไปทำธุระต่อแล้ว”
ระหว่างที่พูด เขาก็กลับมาที่เดิม เล่นไพ่กันต่อ
เฉินอวิ๋นซีอยากจะพูดอะไรสักอย่าง เดินวนไปเวียนมา สุดท้ายก็ไม่กล้าเข้าไปรบกวนอีก
คนอื่นๆ ทำเป็นหูทวนลมราวกับมองไม่เห็นเธอซะอย่างนั้น ฉินเฟิ่งชิงที่ปากมากก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
เวลานี้หยอกล้อไป คนอื่นเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หากฟางผิงตายในถ้ำใต้ดินขึ้นมา จะเป็นการทำร้ายคนอื่นซะเปล่า
เฉินอวิ๋นซีขัดแย้งในใจอยู่พักใหญ่ ทำได้เพียงสาวเท้าจากไป
เธอไปแล้ว ฉินเฟิ่งชิงค่อยเอ่ยหยอกว่า “จุๆ ฟางผิง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นายปฏิเสธผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้า? นายไม่เอาก็ให้ฉันสิ ฉันขาดแคลนยาบำรุง”
“นายคืนหนึ่งร้อยสิบล้านมาให้ฉันก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ!”
ฟางผิงแค่นเสียงว่า “ฉันเตือนนายไว้ก่อน ครั้งนี้นายไม่คืนเงิน ออกมาจากถ้ำแล้ว ฉันจะสับนายซะ!”
“คืน คืนอยู่แล้ว!”
ฉินเฟิ่งชิงตอบอย่างฉับไว ยังไงก็ไม่ได้กำหนดวันเวลา คืนวันไหนดูอารมณ์อีกที
หนี้พนันออกจากโต๊ะแล้วใครจะจำได้
เห็นเขาวางท่าไม่รู้ไม่ชี้ ฟางผิงก็กัดฟันแน่น ครั้งนี้เป็นการติดเงินจริงๆ ฉินเฟิ่งชิงกล้าไม่คืน เขาไม่ปล่อยให้รอดแน่!
หนี้พนันก็คือเงิน แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็ได้มาแปดสิบล้านแล้ว ผลปรากฏว่ามีแต่ไอ้เวรฉินเฟิ่งชิงที่แพ้อยู่คนเดียว!
ระหว่างที่ทุกคนคุยเล่นกัน จู่ๆ ก็มีคนเอ่ยว่า “เสถียรแล้ว!”
ครู่ต่อมาพวกฟางผิงก็รับรู้ได้อย่างแจ่มแจ้ง กระแสน้ำวนไม่พ่นพลังงานออกมาอีกแล้ว เริ่มสงบลงเรื่อยๆ
“คนกลุ่มแรกมารวมตัว!”
ในเวลาเดียวกันอู๋ชวนก็ตะโกนขึ้น สมาชิกกลุ่มแรกทยอยมารวมตัวกันทันที
พวกฟางผิงทิ้งไพ่ไว้ รีบเข้าไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
—
ยอดฝีมือที่เข้าไปกลุ่มแรกมีปรมาจารย์เจ็ดคน ขั้นหกสิบแปดคน พวกฟางผิงอีกสี่คน
ปรมาจารย์ของหนานเจียงมีทั้งหมดห้าคน ครั้งนี้มาสามคน!
จางติ้งหนานผู้ว่าการมณฑล เฉินจินจงอธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานเจียง โจวเจิ้งหยางหัวหน้าสำนักศิลปะการต่อสู้เจิ้งหยาง
คนที่เหลือคืออู๋ชวนขั้นเก้า โจวติ้งกั๋วหน่วยทหารขั้นแปด หลิวพั่วหลู่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ขั้นเจ็ด รวมกับรองผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนขั้นเจ็ดอีกหนึ่งคน
ฟางผิงชำเลืองมองแวบหนึ่งก็ไม่มองต่ออีก
หลิวพั่วหลู่เป็นผู้ถูกเลือกในกลุ่มนี้ เขาไม่แปลกใจ
หลิวพั่วหลู่และจางติ้งหนานมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกัน ทั้งก่อนหน้านี้หลิวพั่วหลู่ยังได้แสดงท่าทีกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ว่าเขาเป็นตัวแทนสนับสนุนช่วยเหลือหนานเจียงแค่คนเดียว ไม่เกี่ยวกับจุดยืนของเซี่ยงไฮ้
อู๋ชวนมองไปรอบๆ เอ่ยทุ้มลึกว่า “ทุกคนยังมีอะไรอยากพูดหรือเปล่า?”
จางติ้งหนานแค่นยิ้มว่า “สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว”
“พูดไร้สาระให้น้อยๆ หน่อย จะเข้าถ้ำใต้ดินแล้วไม่ใช่หรือไง? ทำอย่างกับไม่มีใครเคยเข้าไป ไปกันเถอะ”
“เวลาไม่คอยท่า ทางเดินเสถียรแล้ว ควรออกเดินทางได้แล้ว!”
“…”
พวกชายชราเผยท่าทีสุขุมเยือกเย็น พากันพูดคุยหยอกล้อ ราวกับจะไปทัศนศึกษานอกชานเมือง
ฟางผิงถึงกระทั่งเห็นชายชราข้างตาเฒ่าหลี่คนหนึ่ง ดึงผมที่ตาเฒ่าหลี่เพิ่งต่อมา เหมือนอยากดึงให้ขาดหลายเส้นเพื่อยั่วโทสะให้ตาเฒ่าหลี่ไม่พอใจ
ไม่มีท่าทีตึงเครียดจริงจังอะไร มีเพียงหยอกล้อพูดคุยกันไปตามเรื่องตามราวเท่านั้น
อู๋ชวนคลี่ยิ้ม มองไปทางพวกฟางผิง เอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “ตอนนี้พวกเธอยังเปลี่ยนใจทัน แต่หากเข้าไปในทางเดิน ไม่อนุญาตให้ถอนตัวแล้ว!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผู้บังคับการอู๋ เป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่าร่ำรี้ร่ำไรเลย ออกเดินทางเถอะครับ”
อู๋ชวนเห็นแบบนั้นจึงไม่พูดมากอีก “ออกเดินทางได้!”
ครู่ต่อมายี่สิบห้าคนก็พากันทยอยลอยไปยังทางเดินที่อยู่ข้างล่าง
รอจนมาถึงข้างกระแสน้ำวน จู่ๆ จางติ้งหนานก็ค้อมตัวลง คว้าดินกำหนึ่งยัดใส่เข้าไปในอก
ตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้างเอ็ดว่า “เฮงซวย ปัญญาอ่อนสิ้นดี!”
พกดินไป มีโอกาสสูงที่จะทำสูญหายอยู่แล้ว
จางติ้งหนานไม่โกรธเช่นกัน คลี่ยิ้มว่า “ฉันกลัวว่าตายไปแล้วจะไม่ได้ดมกลิ่นที่คุ้นเคย”
ทุกคนพากันหัวเราะ
พวกฟางผิงสบสายตากัน ฉินเฟิ่งชิงพึมพำว่า “บรรยากาศไม่ดีแล้ว พวกเราควรจะชิงอาณาเขตอย่างองอาจกล้าหาญไม่ใช่หรือไง? จะมาเศร้าโศกอะไรกัน!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา อู๋ชวนก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พูดได้ดี! พวกเราจะไปชิงอาณาเขต! คนรุ่นใหม่ควรจะเข้าใจแบบนี้ พวกเราไปช่วงชิง ไม่ใช่ถูกคนจู่โจมถึงหน้าประตูบ้าน!”
“ใช่ ไปชิงอาณาเขต ชิงทรัพยากร ชิงหญิงสาว…”
“หญิงสาวช่างเถอะ ผู้หญิงในถ้ำดุร้ายเกินไป!”
“มีเหตุผล งั้นฆ่าผู้หญิงไปเถอะ!”
“ฮ่าๆๆ…”
ตาเฒ่ายายเฒ่ากลุ่มหนึ่งพูดราวกับเป็นเรื่องตลก ร่องรอยความเศร้าโศกจากจางติ้งหนานที่กำดินเมื่อครู่หายไปแล้วเช่นกัน
ผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้ง ยังมีอะไรไม่ทะลุปรุโปร่งอีก
“งั้นออกเดินทางกันเถอะ!”
สิ้นเสียง อู๋ชวนก็ก้าวเข้าไปในกระแสน้ำวน หายวับไปในชั่วพริบตา
คนอื่นๆ ทยอยตามเข้าไป
ด้านบนกระแสน้ำวน ตอนนี้ยังมีอีกหลายคน ทว่ากลับไร้สุ้มเสียง ยืนส่งทุกคนด้วยความเงียบ
เฉินอวิ๋นซีที่ออกไปก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นว่าฟางผิงจะไปแล้ว จู่ๆ ก็ตะโกนว่า “ฟางผิง มีชีวิตรอดกลับมาล่ะ!”
ฟางผิงแทบไม่หันหน้ากลับไป โบกไม้โบกมือแล้วก็สาวเท้าเข้าไปในกระแสน้ำวน หายไปจากที่เดิม
ทุกคนหายแวบกันไปหมด กลุ่มคนที่อยู่ใกล้ๆ หลุมลึกยังนิ่งค้างราวกับรูปปั้น
ครั้งนี้จะมีสักกี่คนที่กลับมาได้?
———————